“เหนื่อยชะมัด” ฉันบ่น ก่อนจะหอบน้อย ๆ“หึหึ อะไร แค่นี้บ่น” พี่มาร์ทก็หัวเราะทันทีที่ฉันพูดจบ แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อรู้สึกว่าน้องชายเขามันขยายในความอ่อนนุ่มของฉัน“นะนี่ พะพี่มาร์ท” ฉันมองเขาตาโต“หึ สงครามยังไม่จบที่รัก พี่จะทำโทษ ว่าไม่ควรริลองดีกับปีศาจอย่างพี่ นางมารยังไงก็แพ้ปีศาจอยู่วันยังค่ำ”พูดจบเขาก็จูบปากฉันพร้อมขยับช่วงล่างไปด้วย แล้วเขาก็เปลี่ยนให้ฉันอยู่ด้านล่าง เขาอยู่ด้านบน เปลี่ยนให้ฉันยืนหันหลังให้บ้าง ทั้งในห้องน้ำ โซฟา ทุกที่ที่อยู่ในห้องเขาพาฉันไปหมด จนในที่สุดสงครามรักของเราก็จบลง แต่ก็เกือบเช้า ร่างกายฉันไม่ต้องพูดถึงมันแทบจะเดินไม่ไหวด้วยซ้ำ แล้วเราสองคนก็นอนกอดกันหลับใหลไป“โว้ย ยัยลินไปไหนโว้ย ทำไมไม่มาจัดการสักที” ผมได้แต่พูดว่าถึงยัยโหดคนเดียวในห้อง ก็มันบอกให้ผมช่วยมาเป็นเลขา ช่วยตามสืบนายดนัยให้ผมก็ช่วย เพราะคิดว่าบางทีการมาอยู่เมืองไทยผมจะลืมเธอคนนั้น คนที่ทิ้งผมไป แต่ผมก็ไม่เคยลืมหรอก จนเจอเธอคนนี้สายธาร สาวหน้าหวาน ดูบอบบางแต่ก็เข้มแข็ง ผมชอบไปตอแยกับเธอ แปลกผมไม่เคยตอแยใครแบบนี้มาก่อน แค่แกล้งก็สนุกละ เรื่องนี้เอาไว้ก่อนตอนนี้ผมต้องการตัวยัยลิน ไม่ร
หลังจากที่ผมได้รับข่าวจากลูกน้องคนสนิท และได้นอนเอาแรงจนหายง่วง ผมก็ลุกและไปอาบน้ำ ออกมาอีกทีก็เห็นลินอาบน้ำเสร็จแล้วเหมือนกัน โอ๊ย นุ่งกระโจมอก อยากได้ว่ะ“ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยนะ เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอน เกือบเช้า” ลินพูดหน้างอ ผมจึงรีบเข้าไปกอดทางด้านหลังฟอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างชื่นใจ จากตอนแรกแค่หอม ผมก็เริ่มไซร้คอร่างบาง มือของผมก็โลมลูบไปยังหน้าอกทั้งสองข้างของร่างเล็กทันที“อื้อ อย่าสิคะ” ลินร้องห้ามแต่ผมไม่ฟังหรอกจัดการอุ้มคนตัวเล็กไปที่เตียง แล้วปลดปมผ้าขนหนูออกเคลื่อนตัวขึ้นไปจูบซับเรียวปากงาม ที่ผมรู้สึกว่ามันหวานหอมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของผมไปตามซอกคอหอมกรุ่น ก่อนจะขบเม้มจนเกิดรอยแดง และแวะไปหยอกเอินที่ติ่งหูเล็ก ลินสั่นสะท้านเขินอายทั้งเนื้อทั้งตัวแดงก่ำไปหมด ผมเลื่อนใบหน้ามาที่หน้าอกหน้าใจของคนตัวเล็ก ก่อนจะหยุดมองในขณะที่มือทั้งสองข้างของผมบีบขยำมันอยู่“สวยจัง” ผมพูดออกไปก่อนจะก้มลงดูดไซ้หน้าอกของเธอ ใช้นิ้วสะกิดจนจุกของเธอแข็งเป็นไตต้อนรับผม ยอดอกสีชมพูระเรื่อทำให้ผมอยากลิ้มลอง และผมก็อดใจไม่ไหว ต้องรีบครอบริมฝีปากลงบนยอดอกนั่นและดูดอย่างเมามันจ
หลังจากที่ฉันฟังพวกพี่มาร์ทตกลงกันได้ ฉันก็เริ่มจะเปิดประเด็นของฉันบ้าง ฉันห่วงเขานะแต่ทำไงได้ เรามีหน้าที่ของเราเช่นเดียวกัน ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไร“ไง ดีกันแล้วเหรอ” ก่อนจะเข้าประเด็น ฉันก็หันไปถามยัยปรางค์ แต่มันกลับถลึงตาใส่ฉัน จนฉันหลุดขำออกมา“เป็นไง ได้ข้อมูลไหมแพรว” ฉันหันไปหาแพรวที่กำลังแฮกข้อความของนายสมภพคนของพี่มาร์ทว่ามีส่วนรู้เห็นการเป็นหนอนบ่อนไส้เอาความลับไปให้นายโทมัสหรือเปล่า“สักครู่นะคะพี่ลิน แพรวข้อแก้รหัสก่อน นายสมภพนี่ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะคะ ที่จัดการสร้างรหัสไว้ด้วย ถ้าปลดล็อกไม่ได้ภายในห้านาที มันจะรู้ทันทีว่ามีคนแฮกระบบข้อความมันอยู่ค่ะ”หลังจากที่แพรวพูดจบทุกคนก็จ้องไปที่แพรวที่มือรัวคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงสามนาทีแพรวก็ยิ้มออกมา“นึกว่าจะแน่ ชิ ได้เรื่องแล้วค่ะพี่ลิน” แพรวพูด“ว่าไง” ฉันถามกลับ“นายสมภพเป็นคนเอาข้อมูลของบริษัททั้งหมดของพี่มาร์ทไปบอกนายโทมัสตามที่พี่ลินสงสัยจริง ๆ ค่ะ” แพรวพูด พี่มาร์ทสงสัย“แล้วทำไม พี่ให้วินสืบดูถึงไม่ได้หลักฐานสักทีล่ะ”พี่มาร์ทพูดขึ้นพร้อมหันหน้าไปถามน้องแพรว“อ๋อ คืองี้ค่ะ นายสมภพน่าจะเก่งเรื่องคอมพอตัว นายสมภ
“น้ำ ท่านรองเรียกเธอไปพบทำไมเหรอ” น้ำผึ้งถามฉัน “อ๋อ บอกให้ฉันไปเป็นผู้ช่วยเลขาของเธอน่ะจ้ะ แล้วก็ต้องไปทำงานตั้งแต่ตอนนี้ด้วย ฉันลงมาบอกน่ะ” ฉันพูดกับน้ำผึ้ง เพื่อนร่วมงานที่ดีของฉัน“จริงเหรอ ดีใจด้วยนะ” น้ำผึ้งบอกอย่างดีใจแต่ทำไมฉันรู้สึกดีใจไม่เต็มร้อยนะ ไอ้ดีมันก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ดีตรงที่ต้องทำงานกับไอ้ชอบบงการนั่นตั้งหากล่ะ ไม่รู้จะหาเรื่องอะไรฉันอีกหรือเปล่า รู้สึกหวิว ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ให้ตายสิ สวัสดีฉันชื่อสารธาร หรือน้ำ เป็นพนักงานของที่นี่ ฉันไม่กล้าสู้คนหรอก แต่ที่ทำเหมือนไม่กลัวใคร เพราะไม่ต้องการให้ใครมาแกล้งเท่านั้นเอง “ฉันต้องไปแล้วล่ะ”“เธอ ที่ฉันบอกเนี่ยเข้าใจหรือเปล่า บ้าชะมัด เหม่ออยู่ได้” ผมว่าร่างบางที่นั่งเหม่ออยู่“ขอโทษค่ะ ดิฉันจะตั้งใจกว่านี้” เธอบอกผม โอ๊ย หงุดหงิดชะมัด“อะนี่แปลเอกสารแล้วกัน แล้วเอามาให้ฉันดูด้วย” ผมพูดพร้อมบอกให้เธอไปนั่งทำงานที่โต๊ะจริง ๆ ผมก็รู้สึกดีที่มีเธออยู่ใกล้ ๆ นะ ผมรู้ว่าลินต้องการอะไร ผมรู้สึกดีมากกว่าอยู่กับคนนั้นที่ทิ้งผมไปซะอีก แต่ผมแค่ยังไม่กล้าเปิดใจ เดี๋ยวนี้มันไว้ใจกันได้ที่ไหนล่ะผู้หญิงน่ะ แค่เห็นเงินก็วิ่งเข้าใส่ละ
“ปีเตอร์ ชุดตำรวจที่นายเตรียมไว้ฉันไม่อยากได้ เพราะมีคนที่คิดจะหักหลังพวกนั้นเหมือนกันมันชื่อแจ็คคนที่นำหรือคุมตำรวจ เพราะฉะนั้นแกต้องหาทางสกัดกั้นพวกมันไว้ ส่วนชุดตำรวจที่นายต้องไปนำมาก็คือแพททริค งานนี้นอกจากจะให้แพททริคล้างอายให้ตัวเองที่เคยถูกแจ็คหลอกแล้ว ยังสามารถเล่นงานแจ็คได้และที่สำคัญจะสามารถจับตัวนายโทมัสได้อย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ นายต้องหาทางติดต่อเขาให้ได้ และนายก็ต้องเป็นคนนำเขามาจะวิธีใดก็ตาม ในขณะเดียวกัน นายต้องไม่ทำให้แจ็คสันสงสัยใด ๆ ไม่อย่างนั้นแผนเราจะพังทันที ระวังตัวด้วย เพราะคนหน่วยนี้ฝีมือดีทุกคน ต้องไม่มีคำว่าพลาด”“รับทราบครับ ผมจะระวังตัว” ฉันพยักหน้าให้มัน ก่อนจะหันไปมองหน้าแพรว“อุปกรณ์ที่ติดตามตัวนายโทมัสเป็นหน้าที่ของแพรว ที่ต้องรายงานให้ทราบว่า อยู่ที่ไหนจุดไหนพิกัดใด และหาทางทำลายระบบวงจรของมันให้ได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เราสามารถพาแพททริคมาได้แต่เจาะเข้าข้อมูลมันไม่ได้ ก็ถือว่าเรื่องทุกอย่างเป็นศูนย์ ดูเหมือนจะไม่อันตรายแต่แท้จริงแล้วกลับอันตราย ระบบของมันฉันจำไม่ได้ว่าอะไรแต่ความหมายคือ เมื่อไหร่ที่เราเจาะผิดเกินสองครั้งทางนั้นจะรู้ตัวและหันมาเล่นงานเธอ ม
“ฮัลโหลยัยมีน” ฉันโทรศัพท์หายัยมีนเพื่อจะคุยเรื่องงานกับมันต่อ รอไม่นานปลายสายก็รับ“ว่าไงแก”“เมื่อถึงวันปฏิบัติการ ฉันไม่ต้องการให้แกมาช่วย”“แต่...”“อย่าลืมสิยัยมีน แกยังมีเรื่องต้องจัดการอยู่นะ ศัตรูของแกไง ถ้าให้ดีปิดวันนั้นเลย แล้วถ้าแกปิดเสร็จแกจะมาฉันจะไม่ว่าแกเลย” ฉันร่ายยาว“แกรู้เหรอ”“ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรอกมีน อยู่ที่ว่าฉันจะพูดหรือเปล่า สนามนั้นแกรักมากฉันรู้ เพราะฉะนั้นอย่าให้ปัญหาที่มาจากคนเลว ๆ มาทำให้สิ่งที่แกรักพัง จัดการซะให้เรียบร้อย ฉันห่วงแกนะ ระวังตัวด้วยล่ะ”“ขอบใจมากนะลิน แกก็เหมือนกัน ระวังตัวด้วย”“อืม งั้นแค่นี้นะ บาย” วางสายจากยัยมีนไม่ทันไร ฉันก็ต้องรีบกดรับสายเมื่อคนที่ฉันรักเคารพและนับถือโทรมาอีกครั้ง“Hi, Daddy”“ว่าไงลูกรัก”“รู้แล้วใช่ไหม ลินเพิ่งคุยกับสมิธไปเมื่อสักครู่นี่เอง”“555 ไม่ได้หรอกเดี๋ยวแด๊ดจะไม่ทันสมิธมัน”“หึหึ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง แต่ลินคิดว่า ไหวค่ะแด๊ด”“เอาเป็นว่าแด๊ดจะดูห่าง ๆ แล้วกัน แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดี แด๊ดจะเข้าช่วยทันที ตามนี้นะ”“ก็ได้ค่ะแด๊ด แค่นี้ก่อนนะคะ บาย” ฉันพูดกับทอมสันจบท่านก็วางสายไปเฮ้อฉันคงขัดเขาทั้งสองไม่ได้
“คุณพ่อคะ เรื่องของนายดนัยที่ยักยอกเงินบริษัทกับเรื่องที่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้นายโทมัสได้รับรู้ ลินต้องการให้คุณพ่อปิดเอาไว้ห้ามคณะกรรมการคนอื่นรู้เด็ดขาด เพราะลินจะไม่ไล่นายดนัยออก เขาถูกบังคับให้ทำ” ฉันไม่ตอบคนเป็นแม่แต่หันไปคุยกับพ่อแทน“โทมัส ลูกรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโทมัส แล้วถ้านายดนัยทำผิดจริงเขาก็สมควรได้รับโทษ”“ถึงแม่จะไม่รู้ แต่แม่คิดว่าคุณพ่อพูดถูก”“ลินรู้ค่ะ ลินก็มีวิธีการจัดการของลินเหมือนกัน คนเราทำผิดได้และเมื่อสำนึกผิดก็สมควรได้รับการให้อภัยไม่ใช่เหรอคะ ลินอยากจะให้โอกาสนายดนัยอีกสักครั้ง ลินว่าลินดูคนไม่ผิด”“แล้วลูกจะจัดการยังไง” คุณพ่อถาม ซึ่งคุณแม่ก็ถามฉันทางสายตาเหมือนกัน“ปิดบัญชีนายโทมัสไงคะ เบื้องหลังที่คนอื่นไม่รู้ กำลังจะถูกเปิดเผย”“เปิดเผย นี่ลูกไปรู้อะไรมาเหรอ” คุณพ่อพูด“นายโทมัสทำการค้าประเวณี รวมไปถึงยาเสพติดแทบจะทุกชนิด และสิ่งผิดกฎหมายอีกมากมาย ลินจะปิดตำนานนายโทมัสค่ะพ่อ”“ไม่ได้ แม่ไม่ยอมหรอกมันอันตราย และอีกอย่างลินเป็นผู้หญิงทำไมไม่ให้ตำรวจจัดการล่ะลูก ไม่รู้แหละแม่ไม่ยอม” แม่ฉันพูดออกมา“คุณแม่คะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ลินดูแลตัวเองได้ อีกอ
"สวัสดีโทมัส อยากเจอเรามากจนต้องส่งคนมาล้วงความลับเลยเหรอ ได้อะไรไปบ้างละ หึหึ อีกไม่นานเราจะได้เจอกัน นายอยากรู้จักเรา เราก็จะไปหานาย เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะเมื่อเจอกันแล้วนายอาจคาดไม่ถึง แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือ เมื่อเจอกันแล้วเราจะไม่ออมมือเลย โชคดีนะ...มัจจุราช"“โธ่เว้ย นี่มันบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย หงุดหงิดโว้ย"ไม่ต้องตกใจหรอกครับ ผมเองแหละโทมัส หลังจากที่ได้รับข้อความซึ่งไม้รู้ว่ามันมาจากไหน แต่รู้ว่าใครส่งมันมามัจจุราช! ไม่ต้องคิดให้ปวดหัว มีแค่คนเดียวเท่านั้น ก็นายใหญ่ขององค์กรนั่นไง มันส่งมาให้ผมแบบนี้ บอกให้ผมเตรียมตัวรับมือ แสดงว่ามันจะเปิดศึกกับผมแน่นอน โอ๊ย ปวดหัวผมได้แต่หงุดหงิดกับอารมณ์ของตัวเอง แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อเจอแล้วอาจคาดไม่ถึงอย่างงั้นเหรอ แสดงว่านายใหญ่ขององค์กรจะต้องเป็นคนที่ผมรู้จักอย่างนั้นสิ ใครกัน แต่ถ้ามันบอกผมอย่างนี้ เห็นทีว่าต้องเตรียมตัวให้ถึงที่สุดซะแล้ว หึ อยากจะรู้เหมือนกันแหละ ว่าคนที่ทุกคนต่างให้ความเกรงกลัวกันนักหนา แท้จริงแล้วมีหน้าตาอย่างไร"ได้ในเมื่อแกบอกให้ฉันเตรียมตัว ฉันก็จะเตรียม แล้วเรามาดูกัน ว่าแกกับฉันใครมันจะแน่กว่ากัน หึ" ผมพูดคนเ
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา
"จะหนีไปไหน""นั่นสิอย่าหนีให้เหนื่อยเลยเพราะยังไงก็ไม่มีทางรอด""อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่า""ยอมไปกับพวกเราดี ๆ ดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว"เสียงชายที่ล้อมรอบต่างพากันพูดด้วยรอยยิ้มของนักฆ่า"หึ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน" นายริชาร์ดพูด"เป็นใครไม่สำคัญ รู้แค่ว่าแกต้องไปกับพวกเราก็พอ" หนึ่งในสิบพูดขึ้น"ไม่มีวัน" นายริชาร์ดพูดก่อนจะเข้าไปต่อยหนึ่งในสิบตุบ ผละ ผัวะทั้งหมัดเข่าศอกถูกกระแทกจนเกิดเสียงดังเป็นการปะทะที่รุนแรงในสายตาคนธรรมดา แต่มันไม่ใช่สำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกฝึกมาจากแดนนรก!อ๊ากกกกกกเสียงของนายริชาร์ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกจับแขนไพล่หลังตุบเพล้งมือขวาคนสนิทกระโดดถีบชายที่ทำร้ายเจ้านายของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งตุบ ผละ ผัวะหมัดแลกหมัด ต่างฝ่ายต่างแลกการปล่อยหมัดใส่กันและกัน รวมถึงชั้นเชิงในการหลบหลีกตุบ ผัวะ"หนีไปครับนายเดี๋ยวผมถ่วงเวลาไว้ให้"ตุบ ผัวะ อ๊ากกกก"แต่ว่า""ไม่มีแต่ครับนายไปสิครับ"ตุบ ผละ ผัวะอ๊ากกกถึงแม้นายริชาร์ดไม่อยากทิ้งลูกน้องคนสนิทไว้ที่นี่ แต่เขาจำเป็นต้องออกไป"หึ นายแกหนีเอาตัวรอดไปแล้ว คิดว่าแกจะรอดเหรอ" ชายหน
"ฮัลโหลแพรว ฉันเอาเกมให้พวกนั้นเล่นแล้ว""หึ เห็นแล้วค่ะไวจริง ๆ" ยัยแพรว"รีบเจาะเอาฐานข้อมูลมาซะ""รับทราบค่ะนายใหญ่" แพรวพูด"เปิดระบบตัวสัญญาณการติดต่อติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ หลังจากนี้แพรวจะพูดผ่านสายเดียวแต่รับรู้ร่วมกันและเราสามารถติดต่อกันได้ทุกคน""อืม" พูดจบฉันก็วางสายทันทีฉันตัดสินใจขับรถมาแถว ๆ เขตปลอดคนเพราะฉันสังเกตได้ว่ามีคนตามมา แต่พอมองดี ๆ ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถ้าคนพวกนี้เป็นคนของทอมสันติ๊ดติ๊ดติ๊ด"ทดสอบ ๆ ได้ยินกันไหมคะ" แพรว"ได้ยิน" ฉันปรางค์มีนและปีเตอร์"เย่ นายใหญ่คะ เจาะฐานข้อมูลได้แล้วค่ะ ถล่มได้เลย" ยัยแพรว"บอกพิกัดมา" ฉัน"ไปที่โกดังร้างเขตชานเมืองนะคะ นายโทมัสอยู่ที่นั่นระวังตัวด้วยนะคะ มันเอาคนไปเยอะเหมือนกัน" แพรวพูด"อืม" ฉัน"ฉันกำลังไปสมทบนะ" ยัยมีน"แกจัดการเรื่องของแกเสร็จแล้วเหรอ""ค่ะนายใหญ่ พอดีมีคนเก็บกวาดไว้แล้วน่ะค่ะ ฉันไปก็ปิดบัญชีกับมันเลย" ยัยมีนพูด"ส่วนฉันก็กำลังไปเหมือนกัน คาดว่าไม่เกินสิบนาทีถึงตัวนายใหญ่แน่นอนค่ะ" ยัยปรางค์"ฉันกำลังไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงพิกัดแน่นอน" ปีเตอร์"แกสองคนแพรวนาวหลังจากเจาะฐานข้อมูลและทำลายข้อมูลของมันเรี
"จบสิ้นกันสักทีนะเสี่ยบรรจง" ผมมองตามเสี่ยบรรจงที่เดินออกไปจากเกาะของผมอย่างช้า ๆ ภาพการตายของนายสินยังติดตาของผมอยู่ว่าแล้วผมว่าเสี่ยบรรจงก็น่าสงสารเช่นกัน แต่ทำไงได้อะ เรื่องก็ต้องดำเนินต่อไป ต่อให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม"ไอ้มาร์ทครับ กระผมเรียนเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับรวมถึงพวกคุณมึงและเอ่อคุณลุงด้วยนะครับ" ไอ้ภูมินทร์พูดผมมองหน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตอบมันไป"เออ""ผมว่าพี่มาร์ทคงได้ปฏิวัติเกาะครั้งใหญ่เลยล่ะครับ สภาพเกาะตอนนี้นึกว่าเขตชายแดนไทยพม่าซะอีก" ไอ้มาร์คัสพูด"คงงั้น" ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่สายตาผมจะมองหาคุณลุงคนนั้นผมคิดว่าท่านคงไม่ธรรมดา"เฮ้ยไอ้มาร์ท ลุงคนนั้นอยู่ไหนวะ" ไอ้คิมถามผมมองตามันก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างที่ดูสมบูรณ์ยืนหันหลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาทันที"เอ่อขอโทษนะครับ""อ้าวมาพอดีเลย หึ" ชายตรงหน้าพูดยิ้ม ๆ ทำให้พวกผมหันมองหน้ากันอย่างสงสัย"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วย" ผมพูด"ใช่ครับ การยิงนี่เด็ดขาดและก็แม่นสุด ๆ เลย" ไอ้คิมพูด"นั่นสิครับ คุณลุงดูเหมือนพ