Share

บทที่ 1947

Author: กานเฟย
หยางหงหนิงมิได้รู้สึกเลยสักนิดว่าตนได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว เวลานี้เมื่อถูกหลิงอวี๋เปิดเผยทุกอย่างออกมา นางก็ยิ้มอย่างมิรู้สึกละอายแล้วเอ่ยออกมา

“เจ้าแสดงความสามารถเกินตัวไปกระมัง! หากเจ้ามิยอมแพ้ คนที่ต้องอับอายก็คือเจ้า!”

“การทำสงครามนั้นย่อมมิกลัวกลอุบาย ข้าก็มิได้ขัดขวางมิให้เจ้านำเครื่องยาสมุนไพรออกมา เป็นเจ้าเองต่างหากที่มิฉลาดพอ!”

คำพูดนี้ของหยางหงหนิงมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นด้วยอยู่กึ่งหนึ่ง และรู้สึกว่าหยางหงหนิงพูดถูก

เดิมทีมันก็คือการแข่งขัน ใครกำหนดเล่าว่ามิสามารถนำเครื่องยาสมุนไพรที่แก้พิษออกมาได้ เป็นหลิงอวี๋เองเท่านั้นที่โง่เขลา

ส่วนคนอีกกึ่งหนึ่งรู้สึกดูถูกการกระทำของหยางหงหนิง ในมุมมองของพวกเขา การแข่งขันคือการเทียบความสามารถของกันและกัน และการแย่งชิงเครื่องยาสมุนไพรแก้พิษของอีกฝ่ายไปเช่นนี้ ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำช้าจริง ๆ

เย่หรงมองเหงื่อเย็นไหลลงมาตามหน้าผากของหลิงอวี๋มากขึ้นอย่างกังวล เหงื่อนั้นไหลหยดลงมา จนเปียกเส้นผมบริเวณข้างหูของนางจนหมด

แต่หยางหงหนิงกลับยังคงเอ่ยอย่างยินดี “สิงอวี๋ ฝืนทนไปก็หาได้มีประโยชน์ไม่ หากทนแล้วทนไหว เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดแล
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1948

    “ปวดยิ่งนัก!”หยางหงหนิงเอื้อมมือไปกดที่ท้อง พยายามจะยืนขึ้นปรุงยาแก้พิษต่อไป แต่นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะลุกยืนขึ้นเลยนางลองอยู่สองครั้ง แต่เมื่อฝืนลุกขึ้นมา ขากลับอ่อนแรงและล้มลงบนพื้นอีกครั้ง“เป็นไปมิได้!”หยางหงหนิงตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ “ยาที่ข้าเตรียมไว้ก็เป็นยาแก้พิษ เหตุใดุมิได้ผลเล่า! หรือเป็นเพราะปริมาณยาแก้พิษมิเพียงพอ?”หลิงอวี๋จ้องมองนางอย่างเย็นชา ที่มุมปากของนางมีความเยาะเย้ยเล็กน้อย "คุณหนูหยาง เจ้าเป็นคนบอกว่าการทำสงครามย่อมมิกลัวอุบาย ดังนั้น ข้าเองก็เล่นลูกไม้กับเจ้าไปอย่างหนึ่งเช่นกัน!”“หากเจ้ารู้จักลักษณะของเครื่องยาสมุนไพรอย่างลึกซึ้งจริง ๆ เจ้าก็ควรจะรู้ว่าเครื่องยาสมุนไพรบางชนิดมีประโยชน์หลายอย่าง และเครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันแบบกษัตริย์กับขุนนาง เมื่อนำมาทำเป็นยาพิษ ก็จะมีฤทธิ์เป็นพิษ!”“แต่หากใช้เป็นยาแก้พิษ ก็มีฤทธิ์เป็นยาแก้พิษได้!”“ตามหลักการนี้แล้ว หากยาแก้พิษที่เจ้าเตรียมไว้ไปกดยาพิษของข้า เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็นยาแก้พิษ แต่หากกดไว้มิได้ เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็นยาพิษที่เติมเข้าไปในยาพิษอีกที!”หยางหงหนิงรู้สึกเจ็บปวดจนขดตัวเป็นก้อนแล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1949

    คำพูดที่หนักแน่นของหลิงอวี๋ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มีความคิดแตกต่างกันไป คนที่ดูถูกหลิงอวี๋และช่วยหยางหงหนิงใส่ร้ายหลิงอวี๋เมื่อครู่ ก็มิกล้าพูดอะไรอีกแม้ว่าคำพูดนี้ของสิงอวี๋จะเป็นการพูดกับหยางหงหนิง แต่ก็เป็นการพูดกับคนที่ใส่ร้ายนางด้วยสิงอวี๋ใช้ความแข็งแกร่งของนางบอกทุกคนว่า อย่ายั่วยุยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญวิชาพิษ มิเช่นนั้นอาจจะตายมิรู้ตัว!การต่อสู้จนถึงที่สุด หากมิตายก็จะมิหยุดนั้นเป็นความตั้งใจของนาง!คนชั่วในใต้หล้านี้หาได้น่ากลัวไม่ ทว่าสิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ คือคนที่มิกลัวตายและทำสิ่งใดมิคิดชีวิตการประกาศที่มิกลัวตายนี้ของหลิงอวี๋ เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้แล้วทุกคนล้วนมองหลิงอวี๋อย่างประหลาด แต่หลิงอวี๋กลับเดินไปตรงหน้าหลงอิงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คุณหนูหลง ข้าขออภัยด้วย ที่ทำให้งานเลี้ยงชมบุปผาของเจ้าในวันนี้ต้องวุ่นวาย เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน!”ยังมิทันที่หลงอิงจะพูดอะไร เย่หรงก้าวไปข้างหน้า แล้วเอ่ยออกมา “เสี่ยวชี รอข้าด้วย ข้าคุยกับนางสักเล็กน้อยแล้วจะไปพร้อมกับเจ้า!”เย่หรงมองไปทางหยางหงหนิง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ต่อหน้าคนจำนวนมากถึงเพียงนี้ หยา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1950

    นี่เย่หรงไปยั่วยุสตรีที่บ้าคลั่งในเรื่องความรักเข้าแล้วสิ!หลิงอวี๋หันกลับไป ก็เห็นเย่หรงยังคงเดินต่อไปอย่างไร้หัวใจ นางจึงเตือนเขาอย่างเป็นห่วง “เย่หรง สิ่งที่นางพูดนั้นมิใช่คำพูดบ้า ๆ! ท่านต้องระวังตัวไว้ด้วย!”“มิใช่คำพูดบ้า ๆ แล้วคืออะไรเล่า? หรือว่านางจะถือมีดมาบังคับให้ข้าแต่งงานกับนาง?”เย่หรงยังคงมิได้ใส่ใจแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม้แต่ราษฎรที่ไม่มีการศึกษาก็ยังรู้ว่าแตงที่ถูกบังคับให้โตจะมิหวาน นางเรียนหนังสือมาตั้งหลายปีโดยเปล่าประโยชน์หรือไร? นางมิเข้าใจเหตุผลนี้หรือ?”“การบังคับให้ข้าแต่งงานกับนางจะมีประโยชน์อะไรต่อนาง ข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นกับนางหรอก!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกว่าหยางหงหนิงกำลังล้อเล่น นางจึงเอ่ยอย่างอดทน “เย่หรง ท่านจริงจังสักหน่อยเถิด! นี่มิใช่เรื่องล้อเล่น!”“ท่านมิรู้หรอกว่าหากสตรีบ้าคลั่งขึ้นมา มิว่าเรื่องใดนางก็ทำได้ทั้งนั้น! ตอนนี้นางกำลังโกรธ และถึงขนาดเกลียดเพราะรักแล้ว...”“การบังคับให้ท่านแต่งงานกับนาง มิแน่ว่าจะเป็นการทำให้ท่านกับนางกลายเป็นคู่สามีภรรยากันอย่างแท้จริง แต่เป็นการบังคับให้ท่านก้มหัวให้!”หลิงอวี๋มองว่าเย่หรงเป็นสหายของ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1950

    นี่เย่หรงไปยั่วยุสตรีที่บ้าคลั่งในเรื่องความรักเข้าแล้วสิ!หลิงอวี๋หันกลับไป ก็เห็นเย่หรงยังคงเดินต่อไปอย่างไร้หัวใจ นางจึงเตือนเขาอย่างเป็นห่วง “เย่หรง สิ่งที่นางพูดนั้นมิใช่คำพูดบ้า ๆ! ท่านต้องระวังตัวไว้ด้วย!”“มิใช่คำพูดบ้า ๆ แล้วคืออะไรเล่า? หรือว่านางจะถือมีดมาบังคับให้ข้าแต่งงานกับนาง?”เย่หรงยังคงมิได้ใส่ใจแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม้แต่ราษฎรที่ไม่มีการศึกษาก็ยังรู้ว่าแตงที่ถูกบังคับให้โตจะมิหวาน นางเรียนหนังสือมาตั้งหลายปีโดยเปล่าประโยชน์หรือไร? นางมิเข้าใจเหตุผลนี้หรือ?”“การบังคับให้ข้าแต่งงานกับนางจะมีประโยชน์อะไรต่อนาง ข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นกับนางหรอก!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกว่าหยางหงหนิงกำลังล้อเล่น นางจึงเอ่ยอย่างอดทน “เย่หรง ท่านจริงจังสักหน่อยเถิด! นี่มิใช่เรื่องล้อเล่น!”“ท่านมิรู้หรอกว่าหากสตรีบ้าคลั่งขึ้นมา มิว่าเรื่องใดนางก็ทำได้ทั้งนั้น! ตอนนี้นางกำลังโกรธ และถึงขนาดเกลียดเพราะรักแล้ว...”“การบังคับให้ท่านแต่งงานกับนาง มิแน่ว่าจะเป็นการทำให้ท่านกับนางกลายเป็นคู่สามีภรรยากันอย่างแท้จริง แต่เป็นการบังคับให้ท่านก้มหัวให้!”หลิงอวี๋มองว่าเย่หรงเป็นสหายของ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1949

    คำพูดที่หนักแน่นของหลิงอวี๋ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มีความคิดแตกต่างกันไป คนที่ดูถูกหลิงอวี๋และช่วยหยางหงหนิงใส่ร้ายหลิงอวี๋เมื่อครู่ ก็มิกล้าพูดอะไรอีกแม้ว่าคำพูดนี้ของสิงอวี๋จะเป็นการพูดกับหยางหงหนิง แต่ก็เป็นการพูดกับคนที่ใส่ร้ายนางด้วยสิงอวี๋ใช้ความแข็งแกร่งของนางบอกทุกคนว่า อย่ายั่วยุยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญวิชาพิษ มิเช่นนั้นอาจจะตายมิรู้ตัว!การต่อสู้จนถึงที่สุด หากมิตายก็จะมิหยุดนั้นเป็นความตั้งใจของนาง!คนชั่วในใต้หล้านี้หาได้น่ากลัวไม่ ทว่าสิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ คือคนที่มิกลัวตายและทำสิ่งใดมิคิดชีวิตการประกาศที่มิกลัวตายนี้ของหลิงอวี๋ เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้แล้วทุกคนล้วนมองหลิงอวี๋อย่างประหลาด แต่หลิงอวี๋กลับเดินไปตรงหน้าหลงอิงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คุณหนูหลง ข้าขออภัยด้วย ที่ทำให้งานเลี้ยงชมบุปผาของเจ้าในวันนี้ต้องวุ่นวาย เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน!”ยังมิทันที่หลงอิงจะพูดอะไร เย่หรงก้าวไปข้างหน้า แล้วเอ่ยออกมา “เสี่ยวชี รอข้าด้วย ข้าคุยกับนางสักเล็กน้อยแล้วจะไปพร้อมกับเจ้า!”เย่หรงมองไปทางหยางหงหนิง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ต่อหน้าคนจำนวนมากถึงเพียงนี้ หยา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1948

    “ปวดยิ่งนัก!”หยางหงหนิงเอื้อมมือไปกดที่ท้อง พยายามจะยืนขึ้นปรุงยาแก้พิษต่อไป แต่นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะลุกยืนขึ้นเลยนางลองอยู่สองครั้ง แต่เมื่อฝืนลุกขึ้นมา ขากลับอ่อนแรงและล้มลงบนพื้นอีกครั้ง“เป็นไปมิได้!”หยางหงหนิงตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ “ยาที่ข้าเตรียมไว้ก็เป็นยาแก้พิษ เหตุใดุมิได้ผลเล่า! หรือเป็นเพราะปริมาณยาแก้พิษมิเพียงพอ?”หลิงอวี๋จ้องมองนางอย่างเย็นชา ที่มุมปากของนางมีความเยาะเย้ยเล็กน้อย "คุณหนูหยาง เจ้าเป็นคนบอกว่าการทำสงครามย่อมมิกลัวอุบาย ดังนั้น ข้าเองก็เล่นลูกไม้กับเจ้าไปอย่างหนึ่งเช่นกัน!”“หากเจ้ารู้จักลักษณะของเครื่องยาสมุนไพรอย่างลึกซึ้งจริง ๆ เจ้าก็ควรจะรู้ว่าเครื่องยาสมุนไพรบางชนิดมีประโยชน์หลายอย่าง และเครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันแบบกษัตริย์กับขุนนาง เมื่อนำมาทำเป็นยาพิษ ก็จะมีฤทธิ์เป็นพิษ!”“แต่หากใช้เป็นยาแก้พิษ ก็มีฤทธิ์เป็นยาแก้พิษได้!”“ตามหลักการนี้แล้ว หากยาแก้พิษที่เจ้าเตรียมไว้ไปกดยาพิษของข้า เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็นยาแก้พิษ แต่หากกดไว้มิได้ เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็นยาพิษที่เติมเข้าไปในยาพิษอีกที!”หยางหงหนิงรู้สึกเจ็บปวดจนขดตัวเป็นก้อนแล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1947

    หยางหงหนิงมิได้รู้สึกเลยสักนิดว่าตนได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว เวลานี้เมื่อถูกหลิงอวี๋เปิดเผยทุกอย่างออกมา นางก็ยิ้มอย่างมิรู้สึกละอายแล้วเอ่ยออกมา“เจ้าแสดงความสามารถเกินตัวไปกระมัง! หากเจ้ามิยอมแพ้ คนที่ต้องอับอายก็คือเจ้า!”“การทำสงครามนั้นย่อมมิกลัวกลอุบาย ข้าก็มิได้ขัดขวางมิให้เจ้านำเครื่องยาสมุนไพรออกมา เป็นเจ้าเองต่างหากที่มิฉลาดพอ!”คำพูดนี้ของหยางหงหนิงมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นด้วยอยู่กึ่งหนึ่ง และรู้สึกว่าหยางหงหนิงพูดถูกเดิมทีมันก็คือการแข่งขัน ใครกำหนดเล่าว่ามิสามารถนำเครื่องยาสมุนไพรที่แก้พิษออกมาได้ เป็นหลิงอวี๋เองเท่านั้นที่โง่เขลาส่วนคนอีกกึ่งหนึ่งรู้สึกดูถูกการกระทำของหยางหงหนิง ในมุมมองของพวกเขา การแข่งขันคือการเทียบความสามารถของกันและกัน และการแย่งชิงเครื่องยาสมุนไพรแก้พิษของอีกฝ่ายไปเช่นนี้ ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำช้าจริง ๆเย่หรงมองเหงื่อเย็นไหลลงมาตามหน้าผากของหลิงอวี๋มากขึ้นอย่างกังวล เหงื่อนั้นไหลหยดลงมา จนเปียกเส้นผมบริเวณข้างหูของนางจนหมดแต่หยางหงหนิงกลับยังคงเอ่ยอย่างยินดี “สิงอวี๋ ฝืนทนไปก็หาได้มีประโยชน์ไม่ หากทนแล้วทนไหว เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดแล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1946

    บัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าและหอโอสถซ่างกู่ รวมถึงคนที่มาเฝ้าดูจำนวนมากนั้นต่างก็เข้าใจพื้นฐานของเครื่องยาสมุนไพร หลิงอวี๋จึงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา“คุณหนูหยางของพวกเราน่าจะชอบยาระบายและยาที่ทำให้เกิดอาการคันเป็นพิเศษนะ นางจึงใส่ยาเหล่านี้ลงไปในยาพิษของนางด้วย!”หา!เมื่อเหลยเหวินและคนอื่น ๆ ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็ตกตะลึงกันไปคุณหนูบางคนถอยหลังไปสองสามก้าวโดยมิรู้ตัว นี่ก็หมายความว่าหากพิษที่หลิงอวี๋ออกฤทธิ์ มันจะต้องไหลพรวดออกมาแน่ ๆเย่หรงมองหยางหงหนิงอย่างรังเกียจ และกำหมัดแน่นเสี่ยวชีพูดถูกจริง ๆ นิสัยในการปรุงยาพิษของหยางหงหนิงนั้นมิสามารถเปิดเผยต่อหน้าทุกคนได้จริง ๆฉินซานยืนอยู่ข้างเย่หรง เมื่อครู่เย่หรงเพิ่งจะเล่าเรื่องของเขากับหยางหงหนิงให้ฟังอยู่คร่าว ๆเมื่อฉินซานได้ยินหลิงอวี๋บอกว่า หยางหงหนิงใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในยาพิษ เขาก็มองไปทางเย่หรงด้วยสีหน้าเห็นใจ จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเหตุใดเจ้าจึงมิชอบนาง!”“สตรีประเภทนี้ หากเปลี่ยนเป็นข้า ข้าก็มิชอบเช่นกัน!”“นี่คือการแข่งขัน มิใช่การต่อสู้เอาเป็นเอาตายกันจริง ๆ เหตุใดต้องทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้ด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1945

    หลิงอวี๋มองปราดเดียวก็อ่านความคิดของหยางหงหนิงออกแล้ว นางจึงยิ้มมุมปาก “วิธีการเล่นเช่นนี้ก็สดใหม่ดี เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าบอกเถิด!”ทั้งสองจึงแลกเปลี่ยนยาพิษกันหยางหงหนิงหยิบผงยาใส่ปากอย่างมิใส่ใจ แล้วชิมส่วนผสมที่อยู่ในนั้น จากนั้นก็มองไปทางหลิงอวี๋และยิ้มอย่างดูถูก“ยาพิษง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าก็กล้านำมาใช้ในการแข่งขันหรือ สิงอวี๋ เจ้ารอไสหัวไปจากเมืองหลวงแดนเทพได้เลย!”หลิงอวี๋ก็ยิ้มบาง ๆ “พูดประโยคนี้ในตอนนี้มันยังเร็วเกินไป อีกสักครึ่งชั่วยามค่อยพูดเถิด!”“การเอาชนะเจ้า ข้ามิใช้เวลาถึงครึ่งชั่วยามหรอก แค่สิบห้านาทีก็พอแล้ว!”หยางหงหนิงเอ่ยขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่งทุกคนต่างมองผงยาพิษในมือของทั้งสองคน และอยากรู้ว่าทั้งสองคนปรุงยาพิษชนิดใดเอาไว้“เข้าไปเลือกเครื่องยาสมุนไพร!”หยางหงหนิงรีบชิงเข้าไปก่อน เมื่อเห็นขวดยาก็นำมาใส่ลงในตะกร้าทันทีหลิงอวี๋มองดูก็รู้ทันทีว่าผงยาที่นางใส่นั้นคือเครื่องยาสมุนไพรของยาแก้พิษที่นางทำไว้หยางหงหนิงต้องการจะแย่งชิงเครื่องยาสมุนไพรที่หลิงอวี๋ต้องนำไปปรุงยาแก้พิษ เพื่อทำให้หลิงอวี๋มิสามารถปรุงยาแก้พิษได้หลิงอวี๋ส่ายหัวอย่างหมดคำพูด แล้วหิ้วตะก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1944

    คำถามนี้ของหลิงอวี๋ทำเอาจงเจิ้งเฟยพูดมิออกไปทันทีทั้งสองเส้นทางล้วนเป็นทางตันทั้งสิ้น!หลิงอวี๋ใช้คำเปรียบเทียบนี้เพื่อบอกจงเจิ้งเฟยว่า มิว่านางจะยั่วยุหยางหงหนิงหรือไม่ หยางหงหนิงก็มิยอมปล่อยนางไปอยู่ดีในเมื่อล้วนเป็นทางตันทั้งหมด แล้วไฉนมิหยิบไม้ขึ้นมาสู้สักครั้งเล่า?หากวิชาพิษของหลิงอวี๋สามารถเอาชนะหยางหงหนิงได้ เช่นนั้นจะทำให้หยางหงหนิงรวมถึงเหมียวหยางที่คอยรังแกหลิงอวี๋อยู่เสมอนั้นรู้สึกหวาดกลัวได้!จะเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งกว่าตนอย่างไรก็ล้วนต้องก้มหัวให้!หากทักษะด้อยกว่าผู้อื่น เช่นนั้นตายไปก็ยังดีกว่าตายเพราะถูกข่มเหงรังแก เป็นการตายอย่างกล้าหาญ!จงเจิ้งเฟยเข้าใจสิ่งที่หลิงอวี๋บอกแล้วและนางก็มองหลิงอวี๋ด้วยความชื่นชมความเด็ดเดี่ยวและความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หญิงนั้นดูเป็นบุรุษยิ่งกว่าบุรุษเสียอีก!จงเจิ้งเฟยรู้สึกว่า นี่ต่างหากคือจุดเด่นภายใต้รูปลักษณ์ธรรมดาของศิษย์พี่หญิง นางเป็นสตรีก็ยังเคารพหลิงอวี๋ เช่นนั้นขอเพียงมิใช่บุรุษที่หยาบคายเช่นเหมียวหยาง จะมีใครบ้างที่มิชอบสตรีเช่นหลิงอวี๋?“หงหนิงออกมาแล้ว! สิงอวี๋ ถึงตาเจ้าแล้ว หาก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1943

    “ได้ ตกลงตามนี้!”หลิงอวี๋จ้องหยางหงหนิงอย่างกดดัน “ต้องยอมรับผลแพ้ชนะ ถึงเวลานั้นหากแพ้ เจ้าก็อย่าได้พูดอะไรที่มิเหมาะสมออกมา!”หยางหงหนิงเอ่ยอย่างแน่วแน่ “ต้องยอมรับผลแพ้ชนะ! หลงอิง พวกเราขอยืมห้องปรุงโอสถของเจ้าสักหน่อยนะ!"หลงอิงเป็นเจ้าภาพในวันนี้ นางมิชอบมาก ๆ ที่มีคนมาสร้างปัญหาขึ้นในงานเลี้ยงชมบุปผาของตน ทำให้รายการที่ตนเตรียมไว้มิได้นำออกมาแต่หยางหงหนิงพูดไปแล้ว ดังนั้นต่อให้นางมิชอบก็มิอาจปฏิเสธได้“เสี่ยวอวี๋ มิต้องพนันแล้วได้หรือไม่ เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของหงหนิงหรอก! เจ้ายอมแพ้ แล้วขอโทษหงหนิงเสียเถิด!”หลงอิงดูท่าทางเป็นห่วงหลิงอวี๋“คุณหนูหลง ข้ามิสามารถขอโทษคนที่ใส่ร้ายข้าในเรื่องที่ข้ามิได้ทำได้หรอก!”หลิงอวี๋รู้ว่าฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวอยู่ด้วย และตามหลักแล้วตนมิควรทำตัวโดดเด่นให้เป็นจุดสนใจแต่นางอดกลั้นความโกรธไว้มากแล้ว นางต้องระบายออกมาเหมียวหยางอาศัยอำนาจมาทำลายบ้านของตน และตอนนี้หยางหงหนิงก็อาศัยอำนาจกล้ามาใส่ร้ายตนโดยไม่มีหลักฐานอีก หากวันนี้ตนทนเงียบมิพูดอะไร เช่นนั้นต่อไปก็จะมีข่าวลือที่ยิ่งกว่านี้แพร่กระจายออกไปแม้ว่าหลิงอวี๋จะอยากเก็บตัวอยู่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1942

    บรรดาศิษย์น้องของเหมียวหยางจะกล้าปล่อยเหมียวหยางไปได้อย่างไร แม้ว่าเย่หรงจะเป็นศิษย์ที่มิประสบความสำเร็จของตระกูลเย่ แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพ และความโหดร้ายของเขาก็ราวกับหมาป่าหากเขาประกาศชัดเจนว่าจะยั่วยุใคร เช่นนั้นแล้วขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ ต่อให้ต้องสู้จนถึงที่สุดก็จะมิยอมรามือถึงแม้ว่าเหมียวหยางจะเกลียดเย่หรงที่ทำให้จมูกของตนหัก แต่ท่าทีที่จะสู้กับเย่หรงอย่างสุดชีวิตนั้น ก็เป็นเพียงการแกล้งทำไปเท่านั้นเนื่องจากด้วยพลังของเขาแล้ว เขามิใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรงอย่างแน่นอน มิฉะนั้นก็คงมิถึงกับถูกเย่หรงต่อยสองหมัด แล้วไม่มีแรงตอบโต้หรอก“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าไปสู้กับเขา… เย่หรง เจ้ารู้สึกผิดแล้วกระมัง จึงได้ใส่ร้ายข้า!”เหมียวหยางตะโกนออกไปอย่างโอ้อวด “ข้ามิได้ทำลายบ้านของสิงอวี๋ มิใช่ว่าเจ้าจงใจไปทำลายบ้านของนาง เพื่อให้นางยอมขึ้นเตียงกับเจ้า และใช้โอกาสนี้สนับสนุนนางเองรึ?”น้ำโคลนสาดเข้ามาหาเย่หรงในทันทีคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเหมียวหยางอาจจะเป็นเรื่องจริงได้ เพราะเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องที่เย่หรงสามารถทำได้!หลิงอวี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status