Share

บทที่ 80

Author: ซูเหยียน
รถม้าหลายคันนั้นที่อยู่ด้านหลัง มีพลังวิญญาณเต็มเปี่ยมปกคลุมอยู่

ผ้าม่านของรถม้าจงใจพับขึ้นไว้ ทำให้มองเห็นขวดและโถเหล่านั้นได้อย่างเหมาะเจาะ

มันเหมือนกับโถที่ใช้เป็นของขวัญตอบแทนให้กับองค์ชายเก้าในวันนั้น เกรงว่าด้านในจะเป็นของเพิ่มพลังวิญญาณเช่นกันกระมัง

ถ้าอย่างนั้นรถม้าเหล่านั้นที่บรรทุกของมาเต็มคันรถ ทั้งหมดคือของที่พระชายาองค์ชายเก้ามอบให้ฮ่องเต้ใช่หรือไม่?

ทั้งเมืองหลวงโจษจันกันเซ็งแซ่อีกครั้ง!

ฮ่องเต้ทรงลากจูงรถม้าสองสามคันที่บรรทุกของเพิ่มพลังวิญญาณมาจากจวนขององค์ชายเก้า

ของเพิ่มพลังวิญญาณนั้น ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานอย่างมาก

ในช่วงเวลานั้น ผู้คนในเมืองหลวงยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอร้านค้าของพระชายา

โจวหวันฉี่บังเอิญมองเห็นรถม้าของจวินฉงจากหน้าต่างของสถานที่พักแรม

เพลิงแห่งความริษยาในดวงตาแทบจะมอดไหม้ตนเอง

โจวหลิงซางแตะไหล่ของน้องสาวเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

“หวันฉี่ ไป๋ซวงผู้นั้นดูท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว”

นางนำสิ่งของที่เพิ่มพลังวิญญาณออกมาได้ อีกทั้งยังมีของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้นอีก

จะเป็นหญิงสาวชาวชนบทได้หรือ?

แม้แต่พวกเขา เกรงว่าก็ยังหาสิ่งของที่ล้ำค่าเช่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (11)
goodnovel comment avatar
Nichaphat
รอตอน 81 ด้วยความหวัง
goodnovel comment avatar
Nichaphat
เรื่องนี้สนุกมาก ไรท์อย่าเท น้าาา
goodnovel comment avatar
มานัสรินทร์ อำมฤคขจร
ใช่ผู้เขียนอัพช้ามาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 81

    ร่างกายของไป๋หงหย่วนได้รับการฟื้นฟูเกือบจะสมบูรณ์แล้ว บาดแผลบนร่างกายแต่เดิมก็หายดีแล้วไป๋ซวงตัดสินใจจะเริ่มรักษาหัวเข่าของไป๋หงหย่วนให้หายดีก่อนตอนนี้ไป๋หงหย่วนหมดสติเพราะถูกยาสลบ ไป๋ซวงยืนอยู่เบื้องหน้าเขาโดยที่ถือมีดผ่าตัดไว้ในมือนางหลับตารวบรวมสมาธิ กลั้นลมหายใจสงบสติอารมณ์ชั่วพริบตาที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ในดวงตาทั้งคู่ของนางฉายแววสงบนิ่งมั่นคงดุจเขาไท่ซานภาระหน้าที่ก่อนจะข้ามมิติมา นางเคยมีฐานะเป็นหมอเทวดาผู้ล้ำเลิศ เป็นที่กล่าวขานไปทั่วครั้งนี้ข้ามมิติมา หนึ่งในทักษะที่ติดตัวมาของนางก็คือวิชาฝังเข็มสิบสามวิญญาณดังนั้น สำหรับหัวเข่าของบิดา นางจึงมีความมั่นใจอย่างมากขณะที่นิ้วมือเคลื่อนไหวอย่างว่องไวนั้น เข็มเงินสิบสามเล่มก็แทงลงไปบนตัวไป๋หงหย่วนตามจุดฝังเข็มจากนั้น สองมือก็ขยับเล็กน้อย โดยกรีดตรงตำแหน่งหัวเข่าให้เปิดออกนำกระดูกสะบ้าเข่าที่แตกเป็นชิ้นมาจัดให้เข้าที่ใหม่อีกครั้งจากนั้น นำยาปลูกกระดูกที่บดละเอียดใช้พลังวิญญาณประสานกันตรงบริเวณกระดูกแตกหลังทำความสะอาดเศษที่หลงเหลือ ก็เย็บปิดปากแผลรอจนไป๋ซวงผลักประตูออกมา ไป๋เฉินก็รีบเข้าไปห้อมล้อมทันที“พี่ห

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 82

    นางใช้ป้ายไม้แผ่นนั้นมาแกะสลักเป็นป้ายหมายเลขหนึ่งถึงห้าสิบลงไปตั้งนานแล้วจากนั้นให้พนักงานร้านนำป้ายหมายเลขยัดใส่มือชาวบ้านเหล่านั้นตามลำดับการต่อแถวอีกทั้งยังกำชับพวกนางอย่างเคร่งครัดว่าเจ้านี่ก็คือป้ายหมายเลขของพวกเขาโดยจะยึดตามป้ายหมายเลขเพื่อเข้าไปเลือกซื้อของภายในร้านตามลำดับทีละคนป้ายหมายเลขนี้ ห้ามส่งต่อ และห้ามจำหน่ายมิเช่นนั้นจะถูกขึ้นบัญชีดำกับทางร้านตลอดไป ไม่สามารถซื้อของใด ๆ จากร้านได้อีกทุกคนได้ยินเช่นนั้น ก็รีบกำป้ายหมายเลขของตนเองเอาไว้แน่นท้องฟ้าสว่างแล้ว ร้านทั้งสองแห่งก็ประกาศเปิดทำการพร้อมกันผ้าไหมสีแดงผืนใหญ่ก็ถูกดึงลงมาจากแผ่นป้ายที่อยู่สูง ๆ แผ่นป้ายขนาดใหญ่สองแผ่นที่เขียนว่า ‘ร้านฟู่หลิงซวน’ กับ‘ร้านเจินเฉ่าเก๋อ’ ก็ปรากฏต่อสายตาทุกคนในตอนนี้เองคณะเชิดสิงโตดูครึกครื้น พลุประทัดดังกึกก้องทำให้หน้าประตูร้านที่เดิมทีคึกคักอยู่แล้ว ผู้คนก็ยิ่งคับคั่งกว่าเดิม ทุกคนปฏิบัติตามกฎ ถือป้ายหมายเลขของตนเองแล้วเดินเข้าไปในร้านการตกแต่งของร้านฟู่หลิงซวนนั้นดูหรูหรางดงาม ทำให้ผู้คนเห็นแล้วตาลุกวาวขึ้นมาทันทีร้านฟู่หลิงซวนแบ่งออกเป็นสามชั้น ชั้นที่หนึ่

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 83

    โจวหวันฉี่ถือกล่องของขวัญสีแดงสดอยู่ในมือ ส่วนโจวหลิงซางเดินตามหลังมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ขออวยพรให้พระชายาองค์ชายเก้าโชคดีวันเปิดกิจการ การค้ารุ่งเรือง มั่งคั่งร่ำรวย”โจวหวันฉี่ยิ้มระรื่นพลางเข้าไปใกล้ไป๋ซวง ยื่นมือไปหวังจะคล้องแขนของไป๋ซวง“ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่และองค์ชายสามจากแคว้นโจวอู้เพคะ”นางมิอาจใจร้ายกับคนที่สำนึกผิดได้!โดยเฉพาะวันนี้เป็นวันที่นางเปิดร้านไป๋ซวงยิ้มพร้อมรับของขวัญจากมือโจวหวันฉี่ ทั้งแอบหลบเลี่ยงแขนของนาง ก่อนจะตอบอย่างสุภาพ“พระชายาองค์ชายเก้าเกรงใจแล้ว พวกเราสองพี่น้องได้ยินว่าของที่พระชายาองค์ชายเก้านำมาขายนั้นมีความพิเศษมาก ดังนั้นถึงได้รีบมาดู”“ที่จริงก็มิได้พิเศษถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ แค่ถูกเสริมพลังวิญญาณเท่านั้น แต่ร้านของหม่อมฉันจะต้องยึดตามหมายเลขเพื่อเข้าไปซื้อของด้านใน ในเมื่อองค์ชายสามไม่มีป้ายหมายเลข เกรงว่าคงจะซื้อของไม่ได้แล้วเพคะ”“ไม่เป็นไร ซื้อไม่ได้ก็ซื้อไม่ได้ พวกเราแค่เข้าไปชมสักหน่อย พระชายาองค์ชายเก้าคงไม่ถือสากระมัง”โจวหลิงซางยิ้มอย่างอ่อนโยน ไป๋ซวงย่อมไม่มีทางปฏิเสธนางทำท่าทางเชื้อเชิญ จากนั้นก็ไปจัดการกิจธุระต่อทันทีโจวหล

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 84

    “ท่านลุงมิต้องกังวล ข้าได้ส่งเทียบเชิญไปให้องค์หญิงใหญ่หวันฉี่แล้ว นัดหมายกับนางจะไปท่องเที่ยวช่วงสาทรฤดูในวันพรุ่งนี้”เจียงเจิงยังคิดได้ แล้วจวินหงคังจะคิดไม่ได้เชียวหรือเพื่อจะนัดหมายองค์หญิงใหญ่หวันฉี่ เขาถึงกับต้องใช้ความพยายามอย่างมากเจียงเจิงดูจากสถานการณ์แล้วก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ“เช่นนั้นก็ดี สำหรับพวกคนตระกูลไป๋ ระยะนี้อย่าติดต่ออีก สวะไร้น้ำยา พวกเขาไม่มีทางต่อกรกับไป๋ซวงได้หรอก”ก่อนหน้านี้เป็นคนตระกูลไป๋ที่มาหาพวกเขา บอกว่าสามารถช่วยเหลือพวกเขาจัดการกับไป๋ซวงได้ดังนั้น เขาถึงส่งสัญญาณให้คนตระกูลไป๋ไปตีกลองร้องทุกข์จากนั้น เขาจึงค่อยให้หวังหยวนเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของไป๋ซวงออกมาแต่นึกไม่ถึงว่าจวินฉงจะเอนเอียงไปทางไป๋ซวงถึงขั้นนั้นทว่าลองคิดดูก็สมควรแล้ว นางสามารถให้กำเนิดบุตรชายที่มีพรสวรรค์เช่นนั้นออกมาได้อีกทั้งยังมอบของเพิ่มพลังวิญญาณให้กับจวินฉงหลายคันรถ ใต้หล้านี้จะมีผู้ใดต้านทานสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้สิ่งที่จวินหงคังไม่มีในตอนนี้ก็คือสตรีที่พอจะช่วยเหลือเขาได้เช่นนี้จวินหงคังพยักหน้า รู้สึกผิดหวังกับคนตระกูลไป๋อย่างยิ่ง“ท่านลุง นางกำนัลท

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 85

    นางกำนัลผู้นั้นไม่กล้าปิดบังสิ่งใดอีก กลัวว่าวินาทีต่อไป ร่างของตนจะถูกแยกออกจากกัน“ขนมหวานที่มีพิษนั้น ฮองเฮาให้นำมาให้องค์ชายน้อย ในนั้นใส่ผงถอดวิญญาณไว้”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้จวินหงคังกำลังตามหาเจ้าไปทั่ว?”นางกำนัลผู้นั้นมีสีหน้าตื่นตระหนก แววตาพลันมืดมนลง“ในคืนเกิดเหตุ จวินหงคังสั่งให้คนมาฆ่าเจ้าปิดปาก แต่คนผู้นั้นที่เขาส่งไปก็คือคนของข้า ดังนั้นเจ้าถึงมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้ หากเจ้าต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป เจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าต้องการสิ่งใด!”จวินจิ๋วอิ่นมองนางกำนัลผู้นั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ความน่าเกรงขามบนตัวเขาทำให้นางกำนัลผู้นั้นไม่กล้าสบตาเขาโดยตรงนางกำนัลผู้นั้นย่อมเข้าใจสถานการณ์ของตนเป็นธรรมดา เมื่อได้รับคำสั่งในคืนนั้น นางก็คาดเดาผลลัพธ์ของตนเองได้แล้วไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ นางยากจะหลีกหนีความตายได้หากถูกสังหารจบในครั้งเดียวก็แล้วไป แต่จนปัญญาที่นางตายไม่สำเร็จการทรมานหลายวันมานี้ แทบจะลบล้างความคิดของนางว่าต้องตายอย่างแน่แท้ไปจนหมดแล้วการทรมานทุกชั่วยาม ทำให้นางมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น“ข้าพูดในสิ่งที่ข้ารู้ทั้งหมดแล้ว ข้าสารภาพทุกอย่างแล้ว!

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 86

    “ส่วนสำคัญที่ควรบอกก็บอกไปแล้ว จวินหงคังเป็นคนถวายผงถอดวิญญาณให้กับฮองเฮา และฮองเฮาก็สั่งนางว่าต้องให้ซวี่เป่ากินให้ได้ ภายหลังเพราะเกิดเรื่องขึ้นในงานเลี้ยง ถึงได้ล้มเลิกไปก่อนชั่วคราว”“ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวที่ข้าไปชายแดนก็เป็นฮองเฮาที่จงใจเปิดเผยให้พระสนมหวารู้ ด้วยการจงใจเตือนของพระสนมหวาถึงได้มีเหตุการณ์ที่บรรดาองค์ชายจ้างนักฆ่ามาสังหารข้า นอกจากนี้ นางก็ยังส่งนักฆ่ามาไม่น้อยเช่นกัน มีเจตนาเดียวก็คืออยากจะสังหารข้า!”ดวงตาเยือกเย็นของไป๋ซวงหรี่ลงเล็กน้อย แววตาดูล้ำลึก“มีหลักฐานเพียงพอหรือไม่?”จวินจิ๋วอิ่นส่ายหัว “นางเป็นจิ้งจอกเฒ่ามาหลายปี ลงมือทำสิ่งใดจะหลงเหลือจุดอ่อนไว้ได้อย่างไร?”“ท่านคิดจะทำอย่างไร?”“เรื่องบางอย่างไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน! นางกล้าวางแผนเล่นงานข้าเช่นนี้ เหตุใดข้าจะเอาคืนบ้างไม่ได้” ไป๋ซวงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า และไม่เอ่ยสิ่งใดอีก“วันนี้ร้านฟู่หลิงซวนกับร้านเจินเฉ่าเก๋อเปิดทำการ มีคนมากันไม่น้อยเลย!”จวินจิ๋วอิ่นรู้ว่าคนที่ไป๋ซวงพูดถึงมิใช่คนธรรมดาทั่วไป“โดยปกติแล้ว ร้านที่สะดุดตาผู้คนเช่นนี้ ก็ย่ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มาก แต่ฮูหยินวางใจได้ ข้าแอบ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 87

    ซวี่เป่าสวมชุดเครื่องแบบสีขาวที่สั่งตัดโดยเฉพาะของสำนักศึกษาหลวง โดยมีจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวงจูงทั้งซ้ายขวา เดินเข้าไปในสำนักศึกษาหลวงอย่างช้า ๆซวี่เป่ายิ้มน้อย ๆ ให้ท่านพ่อท่านแม่ จากนั้นก็เดินเข้าไปในลานประลองยุทธ์อย่างสงบนิ่งและมั่นใจจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวงนั่งอยู่บนอัฒจันทร์สูงซึ่งเป็นที่นั่งอัฒจันทร์ชมการประลองยุทธ์จวินฉงกับจีหรงรออยู่ที่นี่นานแล้ว!คาบแรกของศิษย์ใหม่สำนักศึกษาหลวงก็คือการทดสอบวัดระดับของตนเองโดยจะพิจารณาจากความสามารถในการฝึกปรือพลังของตนเองว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อกำหนดว่าอันดับลูกศิษย์ในสำนักศึกษาหลวงของคุณทันทีที่จวินฉงกับจีหรงเห็นซวี่เป่าก็ทักทายเขาด้วยความตื่นเต้นซวี่เป่ายิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้ท่านปู่ท่านย่า และแอบยื่นมือออกมาชูนิ้วโป้งจวินฉงกับจีหรงเห็นเด็กน้อยตัวเล็กในลานประลองยุทธ์ก็อดน้ำตาคลอไม่ได้หลานชายของเขาเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในสำนักศึกษาหลวงก่อนหน้านี้ ศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดมีอายุสิบขวบจ้างอู๋จี้อาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาหลวงนั่งอยู่บนแท่นประลองยุทธ์เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว เขาก็เอ่ยอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยกำลัง

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 88

    “ศิษย์น้องคิดดีแล้วหรือ!”“เลิกพูดไร้สาระ ข้าต้องการเป็นลูกพี่ของสำนักศึกษาหลวง!”ซวี่เป่าพูดอย่างหนักแน่น ส่วนด้านล่างเวทีก็หัวเราะกันเกรียวกราว“ศิษย์น้องเล็ก อย่าโอ้อวดไปหน่อยเลย!”“ถูกต้อง ขวานพิชิตขุนเขาของศิษย์พี่หนักถึงร้อยจินเต็ม ๆ กลัวว่าศิษย์น้องเล็กจะรับไม่ไหวกระมัง!”“ศิษย์พี่ใหญ่ นำขวานพิชิตขุนเขาของท่านออกมาให้ศิษย์น้องเล็กดูสักหน่อยเถิด!”“ใช่แล้ว ทำให้เขาตกใจจนร้องไห้ไปเลย!”จ้างอู๋จี้เห็นสีหน้าของฮ่องเต้ดำทะมึนขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบกระแอมไอเบา ๆ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เริ่มกันเถิด”ความสามารถของซวี่เป่า เขาก็พอรู้บ้างแม้จะเทียบกับถังเซ่อไม่ได้ แต่น่าจะพอรับมือได้บ้างในเมื่อเขามีความสนใจแบบนี้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้เขาได้เห็นพลังของผู้ที่แข็งแกร่งสักหน่อย“อาจารย์ใหญ่ ข้ากลัวจะพลาดพลั้งทำให้ศิษย์น้องเล็กได้รับบาดเจ็บขอรับ”ตั้งแต่ต้นจนจบถังเซ่อยังคงไม่ลงมือ แววตาแฝงไปด้วยความกังวลราง ๆ“สู้ก็สู้สิ ไม่ต้องพูดไร้สาระ ไม่จำเป็นต้องออมมือ!”จวินจิ๋วอิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาแฝงไปด้วยความโกรธที่ยากจะข่มไว้ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถังเซ่อจึงไม่ลังเลอีกต่อไปพลังวิ

Latest chapter

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 100

    ไป๋ซวงยิ้มหวาน แต่สำหรับนักพรตชราแล้ว กลับเหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษนักพรตชราเห็นแล้ว ขนลุกซู่ไปทั่วทั้งแผ่นหลัง“มีคนชวนท่านอ๋องของข้าออกไปล่าสัตว์เป็นเรื่องโกหก วางยาพิษท่านอ๋องกลางทางต่างหากคือเรื่องจริง!”ไป๋ซวงพูดจบ รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันหายไปแทนที่ด้วยแววตาที่ดุดันและเย็นเยียบโจวหลิงซางและโจวหวันฉี่ที่ยืนตกตะลึงอยู่ข้าง ๆ รวมถึงฮองเฮาเจียงเถียนและจวินหงคังตอนนี้ทุกคนต่างหน้าซีดเผือด!โจวหลิงซางกลืนน้ำลายลงคออย่างประหม่า ฝืนทำท่าทางสงบพลางก้าวไปข้างหน้าสองก้าว“พระชายาองค์ชายเก้า นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”“หรือว่าข้ายังพูดไม่ชัดเจนพอ?”ไป๋ซวงลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้โจวหลิงซาง“ท่านอ๋อง สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริงหรือไม่?”จวินจิ๋วอิ่นยังคงจมดิ่งอยู่ในคำว่า ‘ท่านอ๋องของข้า’ จนถอนตัวจากความหวานนั้นไม่ได้เมื่อได้ยินดังนั้น ก็พลันยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้ไป๋ซวง“ฮูหยินพูดถูกที่สุด”“เหลวไหล จวินจิ๋วอิ่น พวกเราก็แค่แข่งขันล่าสัตว์เท่านั้น เหตุใดข้าถึงต้องวางยาพิษท่านด้วย? ข้าเป็นถึงองค์ชายสามแห่งแคว้นโจวอู้ ไม่ใช่คนที่ใครจะใส่ร้ายป้ายสีได้ง่าย ๆ ”

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 99

    เวลานี้ สวีเหว่ยถือกระบี่แสงพุทธ ฟาดฟันกระบี่ไปที่ต้นไม้ใหญ่อายุร้อยปีที่เพิ่งจะหักโค่นลงเบา ๆ ภายในชั่วพริบตา ต้นไม้ใหญ่อายุร้อยปีต้นนั้น ก็ถูกตัดจนถึงโคนต้นสวีเหว่ยรู้สึกราวกับได้สมบัติล้ำค่า หันไปทางไป๋ซวงแล้วโขกศีรษะคำนับอย่างแรงสามครั้ง“ขอบพระทัยพระชายาองค์ชายเก้า ข้าน้อยจะตั้งใจฝึกฝนอย่างเต็มที่ ไม่ทำให้พระชายาผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ซวงพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับทำสีหน้าราวกับจะบอกว่า ‘เจ้าเชื่อฟังดีมาก’นักพรตชราชุดขาวมองไป๋ซวงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“เมื่อครู่เจ้าทำอะไรลงไป?”แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเชื่อว่า สวีเหว่ยไอ้ขยะไร้ค่านั่น จะสามารถครอบครองกระบี่แสงพุทธของเขาได้“เจ้าก็เดาออกอยู่แล้วมิใช่หรือ?”ไป๋ซวงยิ้มแต่ไม่ตอบ พลางเหลือบมองไปที่เส้นเลือดบริเวณจุดชีพจรของเขาทันใดนั้น นักพรตชราชุดขาวก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยท่าทางสิ้นหวังใช่แล้ว หากต้องการให้กระบี่แสงพุทธที่เลือกนายแล้ว เชื่อฟังคำสั่งของผู้อื่นเช่นนั้น มีเพียงทางเดียวคือต้องเปลี่ยนนายของกระบี่แสงพุทธ ลวดลายกระบี่อันงดงามเมื่อครู่นั้น แท้จริงแล้วแฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 98

    ทุกคนสำลักจนต้องโบกมือไปมา ใช้แขนเสื้อปิดปากและจมูกทว่ามนุษย์ยักษ์นั้น ก็ไม่ได้ปล่อยนักพรตชราไปเพราะเหตุนี้นักพรตชราเห็นดังนั้นจึงรีบเก็บพลังวิญญาณของตนกลับคืน อาศัยช่วงที่ควันฝุ่นฟุ้งกระจาย หายตัวไปแล้วปรากฏตัวต่อหน้าไป๋ซวงคมกระบี่อันแหลมคม จ่อตรงไปที่คอของไป๋ซวง“อย่าขยับ มิฉะนั้นข้าจะฆ่านางเดี๋ยวนี้!”จวินจิ๋วอิ่นเห็นดังนั้น ก็รีบเก็บพลังวิญญาณของตนเองในทันที“เจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?”สายตาอันคมกริบของจวินจิ๋วอิ่น จ้องมองไปที่นักพรตชราผู้นั้นอย่างเต็มไปด้วยคำเตือนนักพรตชราหัวเราะอย่างลำพองใจ สายตามองสำรวจไป๋ซวงไม่หยุด“เจ้าคือศิษย์ของตาเฒ่าเฮยฉีนั่น?”“ตาเฒ่าเฮยฉีอะไรกัน ข้าไม่รู้จัก!”ไป๋ซวงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เป็นไปไม่ได้ ของในร้านฟู่หลิงซวนนั้น รวมถึงสมุนไพรในร้านเจินเฉ่าเก๋อ หากมิใช่ของตาเฒ่าเฮยฉี แล้วเด็กน้อยอย่างเจ้าจะไปหามาจากไหนได้?”สีหน้าของนักพรตชราชุดขาวเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แถมยังรู้สึกโกรธขึ้นมาเพราะคำพูดของไป๋ซวงไป๋ซวงยกยิ้มมุมปาก ไม่แม้แต่จะมองนักพรตชราชุดขาว“ของของข้า เหตุใดต้องบอกเจ้าด้วย?”“มีอย่างที่ไหนกั

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 97

    ไป๋ซวงรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจากนักพรตชราชุดขาวผู้นั้นทว่านางเพิ่งคิดจะลงมือ ก็เห็นจวินจิ๋วอิ่นยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองแล้วสะบัดแขนเสื้อกว้างเบา ๆ พลังวิญญาณสายหนึ่งก็พุ่งออกไปเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ราวกับว่าอากาศสั่นสะเทือนไปหลายครั้งสีหน้าของจวินจิ๋วอิ่นเต็มไปด้วยความเย็นชา ดวงตาคมกริบราวกับมีดมองไปยังนักพรตชราชุดขาวนักพรตชราชุดขาวผู้นั้นยืนอยู่กลางอากาศ มือทั้งสองข้างไขว้หลังชุดคลุมยาวตัวใหญ่ พลิ้วไสวอยู่กลางอากาศ และในขณะนี้ ทหารองครักษ์ก็กรูกันเข้ามา ล้อมรอบนักพรตชราชุดขาวผู้นั้นอย่างช้า ๆ “บังอาจนักเจ้ามือสังหาร ยังไม่ยอมจำนนอีก!”สวีเหว่ย หัวหน้าทหารองครักษ์ถือกระบี่วิเศษ ปลายกระบี่ชี้ตรงไปที่นักพรตชราชุดขาวนักพรตชราชุดขาวหัวเราะลั่น มองสวีเหว่ยด้วยสายตาเหยียดหยามยิ่งไปกว่านั้น สายตายังมองกวาดมองทุกคนอย่างไม่เกรงกลัวราวกับกำลังกวาดมองฝูงมดปลวก“แค่ระดับจอมปราชญ์ยุทธ์ ก็กล้ามาอวดดีต่อหน้าข้า!”พูดจบ ก็ปล่อยแรงกดดันลงมาสวีเหว่ยขมวดคิ้วแน่น คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุบปากยังถูกบังคับให้กระอักเลือดออกมาหนึ่งคำจากนั้น แรงกดดันยังไม่จบสิ้นแรงกดดันที่ต่อเนื่อง

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 96

    น่าเสียดายที่โจวหลิงซางกลับเชิญจวินจิ๋วอิ่นไปเข้าร่วมการล่าสัตว์ด้วยกันอย่างกระตือรือร้นท่ามกลางเสียงเรียกของผู้คน ทั้งสองคนไม่เพียงแต่รับคำท้า แต่ยังตั้งรางวัลอีกด้วยผู้ชนะสามารถสั่งให้ผู้แพ้ทำอะไรก็ได้หนึ่งอย่างดังนั้น สงครามระหว่างบุรุษสองคนจึงเริ่มขึ้นเมื่อจุดธูปขึ้น ทั้งสองคนก็ควบม้าออกไปอย่างบ้าคลั่งการแข่งขันครั้งนี้ ใครล่าได้จำนวนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะเมื่อธูปเผาไหม้จนหมด ทั้งสองคนก็ควบม้ากลับมาพร้อมกันเหยื่อที่อยู่บนหลังม้าของทั้งสอง ดูเหมือนจะพอ ๆ กันเมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา ทันใดนั้นก็มีองครักษ์เข้ามาตรวจนับจำนวนเหยื่อที่ล่าได้ภายในเวลาธูปหนึ่งดอก โจวหลิงซางล่าสัตว์ได้สี่สิบสองตัวส่วนบนหลังม้าของจวินจิ๋วอิ่น มีสัตว์อยู่สี่สิบสามตัวยังดีที่ต่างกันแค่ตัวเดียว!โจวหลิงซางครุ่นคิดในใจ เมื่อครู่ เขาแอบมองจวินจิ๋วอิ่นจากระยะไกลความสามารถในการขี่ม้าและยิงธนูของเขานั้น ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ เนื่องจากผู้คนในดินแดนฮุ่นตุ้นล้วนเป็นผู้ฝึกตน เพื่อสัมผัสกับความสนุกสนานในการล่าสัตว์ของคนธรรมดา จึงได้มีการจัดงานล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงขึ้นและกฎข้อแรกของงานล่าสัตว์ฤดูใบ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 95

    หลายวันมานี้ นางพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้าใกล้ไป๋ซวงแต่ก็จนปัญญา ไป๋ซวงไม่เคยให้โอกาสนางเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อยหากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางจะสืบหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังไป๋ซวงได้อย่างไรโจวหลิงซางมองผิวน้ำอันเงียบสงบด้วยแววตาเย็นเยียบใช้นิ้วชี้ หมุนแหวนหยกขาวที่อยู่บนนิ้วหัวแม่มือเบา ๆ “หวันฉี่ เสด็จพ่อรอไม่ไหวแล้ว งานล่าสัตว์ครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเรา”“แต่เสด็จพี่ ท่านก็เห็นแล้วนี่ว่าพวกเขาไม่ให้โอกาสข้าเข้าใกล้เลย”โจวหวันฉี่จะไม่ร้อนใจได้อย่างไรจดหมายของเสด็จพ่อ นางก็เห็นแล้วเช่นกันถ้อยคำที่รุนแรงนั้น แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของเสด็จพ่อแล้วหากพวกเขายังไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เสด็จพ่อได้ เกรงว่าเสด็จพ่อจะต้องเปลี่ยนคนมาแทนและฐานะของพวกเขาพี่น้องสองคนก็จะสั่นคลอนแล้ว“ดังนั้น พี่จึงให้ฮ่องเต้จัดงานล่าสัตว์นี้ขึ้นมา ที่นี่เป็นสถานที่ที่สามารถเข้าใกล้ไป๋ซวงได้ง่ายที่สุด”โจวหลิงซางกล่าวจบก็ส่งสายตาที่มั่นใจให้กับโจวหวันฉี่จากนั้น ก็เดินตรงไปยังกระโจมของจวินหงคังเวลานี้ แม้ว่าจวินหงคังจะยังไม่สามารถเดินได้ แต่บาดแผลอื่น ๆ ตามร่างกาย ก็ได้รับการรักษาจนเกือบหายด

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 94

    งานล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงครั้งนี้ เนื่องจากมีองค์หญิงและองค์ชายสามแห่งแคว้นโจวอู้เข้าร่วมด้วย พื้นที่จึงใหญ่กว่าครั้งก่อน ๆ เล็กน้อยขุนนางทุกคนสามารถพาคนในครอบครัวเข้าไปด้านในได้สองคนดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว ขุนนางหนึ่งคนจะพาภรรยาและลูกมาด้วยหนึ่งคนและเด็กคนนั้นต้องเป็นคนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนเป็นพิเศษจากครอบครัวอย่างแน่นอนเดิมทีจีหรงก็ควรจะมาด้วย แต่นางทุ่มเทใจให้กับซวี่เป่า จึงไม่สนใจการล่าสัตว์แม้แต่น้อยดังนั้น นางจึงอยู่ที่เมืองหลวงเป็นเพื่อนซวี่เป่าขบวนเดินทางมาถึงภูเขาเจี้ยงเหลียง ทุกคนต่างปฏิบัติตามคำแนะนำ ไปพักผ่อนในกระโจมของตนเองไป๋ซวงนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะด้วยความเบื่อหน่าย จิตใจรู้สึกหนักอึ้งใบหน้าของจวินจิ๋วอิ่นเผยรอยยิ้มเอ็นดู แล้วค่อย ๆ นั่งลงตรงหน้านาง“เป็นอะไรไป?”ไป๋ซวงเงยหน้าขึ้น สายตาแฝงไปด้วยความสงสัย“ทรัพย์สินของท่านเยอะหรือไม่?”จวินจิ๋วอิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะคาดไม่ถึงเลยว่าไป๋ซวงจะถามเช่นนี้เขายิ้มสดใสมากขึ้น แล้วยื่นมือไปกุมมือเล็ก ๆ ของนาง“ก็พอได้ น่าจะมากพอให้ฮูหยินใช้อย่างสบาย ๆ ”ไป๋ซวงปัดมือของเขาออก สายตาหม่นหมองยิ่งกว่าเดิม“ข

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 93

    จวินจิ๋วอิ่นไม่ได้หยุดฝีเท้า เพียงแต่ตอบกลับอย่างเย็นชา“วันนั้นถ้าไม่มีซวี่เป่าช่วยไว้ เกรงว่าเสด็จพ่อคงไม่ได้เจอหน้าลูกตลอดกาลแล้ว”จวินหงคังต้องการเอาชีวิตของเขา แต่เขาแค่เอาขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไปเท่านั้นจวินฉงได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกทันทีความรักในครอบครัวราชวงศ์นั้น บางเบาราวกับปีกจักจั่นเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจสูงสุด การห้ำหั่นกันเองในครอบครัว การฆ่าฟันกันเองระหว่างพี่น้องก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาก็ผ่านการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเช่นนี้มาแล้วเช่นกันแล้วเขาจะมีสิทธิ์อะไรที่จะเรียกร้องให้ลูก ๆ รักใคร่ปรองดองกันกันเล่า?เขาหวังเพียงแค่ว่า ลูกของตนจะสามารถเอาชีวิตรอดจากเกมการต่อสู้แย่งชิงนี้ไปได้ไม่ว่าอย่างไร ขอแค่มีชีวิตรอดก็พอส่วนเขาก็ควรจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อตัดความคิดที่ไม่ควรมีของผู้อื่นเสียจวินจิ๋วอิ่นออกมาจากวังหลวง ไม่ได้กลับไปที่จวนอ๋องด้วยซ้ำเขาพาองครักษ์ลับสิบคน มุ่งหน้าไปยังจวนองค์ชายสามโดยตรงเป็นเวลากลางวันแสก ๆ แต่กลับพังประตูเข้าไปองครักษ์ของจวนองค์ชายสาม ยังไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็ถูกซัดจนกระเจิง ใบหน้าปูดบวมกันทุกคน

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 92

    มือสังหารถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุสิบคน จับเป็นได้สามคนและหลังจากการสอบสวน พบว่าทั้งสามคนนั้นเป็นคนของท่านอ๋องเก้าด้วยเหตุนี้ เจียงเถียนจึงไปร้องไห้ฟูมฟายกับจวินฉงในคืนนั้นจวินฉงจึงจำต้องเรียกตัวจวินจิ๋วอิ่นเข้าวังในคืนนั้นจวินฉงนำหลักฐานที่ส่งมาจากจวนองค์ชายสาม โยนใส่มือของจวินจิ๋วอิ่น“ว่าอย่างไร?”จวินจิ๋วอิ่นถือหนังสือรับสารภาพที่เปื้อนเลือดเหล่านั้น มุมปากอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา“ไม่มีอะไร!”จากนั้น ก็วางหลักฐานความผิดลงในมือของจวินฉงอีกครั้ง“คนพวกนั้นเป็นคนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”จวินฉงไม่สนใจหลักฐานความผิดเหล่านั้น และมองเขาด้วยสายตาล้ำลึก“หากข้าต้องการเอาชีวิตของเขา ตอนนั้นข้าคงไม่ทำแค่หักขาของเขาเท่านั้น”จวินจิ๋วอิ่นไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย นั่งลงหน้าโต๊ะที่อยู่ทางด้านข้างอย่างไม่เกรงกลัว“ก็จริง พ่อก็เดาว่าไม่ใช่ฝีมือของเจ้า”เรื่องนี้ จวินฉงยังคงมั่นใจในตัวเองมากเรื่องที่จวินจิ๋วอิ่นลอบสังหารจวินหงคัง เขารู้มาตั้งนานแล้วแม้กระทั่งในวินาทีที่ข่าวเข้ามาถึงวังหลวง เขาก็เดาได้แล้วว่าเป็นฝีมือของจวินจิ๋วอิ่นเพราะว่าก่อนหน้านี้ คนเหล่านั้นลอบสังหารจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status