แชร์

บทที่ 964

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
กองทัพพวกนอกด่านกำลังโจมตี ทุกคนเตรียมการป้องกันด้วยความตึงเครียด

กองทัพศัตรูประชิดเมืองในพริบตา การต่อสู้พร้อมปะทุ และพวกนอกด่านเริ่มโจมตีเมืองทันที

“ยิงธนู!”

ลั่วชิงยวนออกคำสั่ง ลูกธนูนับพันถูกยิงออกไป

ลั่วชิงยวนยกธนูและลูกธนูขึ้น แต่มิพบผู้นำของพวกนอกด่าน มีบางคนที่สั่งการอยู่ แต่ดูมิเหมือนเป็นผู้สั่งการ

ช่างมัน ฆ่าก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

ลั่วชิงยวนเล็งทิศทาง ลูกธนูพุ่งออกไปด้วยเสียงแหวกอากาศ ทะลุผ่านร่างของศัตรู

ลูกธนูอีกหนึ่งดอก คร่าชีวิตคนไปหนึ่งคน

ลั่วชิงยวนยิงมิพลาดแม้แต่นัดเดียว ด้วยความสามารถในการสังเกตที่แม่นยำ นางสังหารหัวหน้าศัตรูได้หลายคน ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่พวกนอกด่าน

ในมิช้า ศัตรูก็ค้นพบตัวนาง

“ทุกคน ฆ่าสตรีนางนั้นเสีย!”

พวกนอกด่านฟังคำสั่งและโจมตีประตูเมืองที่ลั่วชิงยวนอยู่ทันที พวกเขาปีนไปบนกำแพงเมืองเหมือนฝูงมด กรงเล็บเหล็กของพวกมันทิ้งรอยไว้บนกำแพงเบื้องหน้ามากมาย

รองแม่ทัพหลิวเฝ้าดูจากระยะไกลและเยาะเย้ย ‘สตรีมิรู้จักที่ต่ำที่สูง รนหาความตายจริง ๆ’

ทหารเข้ามาขัดขวางพวกนอกด่านที่ปีนกำแพงเมืองขึ้นมา

“แม่นางลั่ว เหตุใดท่านมิลงไปซ่อนตัวก่อน พวกนอกด่านกำลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
แม่หม่อม กะน้องเกม่อน
ชอบหยุดไปเฉยๆ กำลังสนุกเลย ไม่เคยอ่านได้จบซักเรื่อง
goodnovel comment avatar
Nira Ho
น้อยมาก อุบเดตเยอะๆหน่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 965

    มีเสียงระเบิดดังขึ้นในหูเศษหินระเบิดไปทั่วท้องฟ้าลั่วชิงยวนยืนขึ้นจากกองฝุ่น ฝุ่นกรวดบาดที่แก้มจนมีรอยเลือดนางยืนขึ้นและมองการโจมตีจากเครื่องกระทุ้งหินอย่างต่อเนื่อง หอประตูเมืองทุกแห่งในเมืองถูกโจมตีอย่างรุนแรง ศพปลิวว่อน เลือดกระจายทั่วท้องฟ้าในช่วงเวลานี้ พวกเขาประสบกับความสูญเสียอย่างหนักเดิมทีกำลังคนของพวกเขาก็น้อยกว่าพวกนอกด่านอยู่แล้ว และด้วยพลังของเครื่องกระทุ้งหินในยามนี้ คราวล่มสลายของเมืองนี้ก็เป็นเรื่องของเวลาแล้วรองแม่ทัพหลิวรีบวิ่งไปข้างหน้าทันที และตะโกนว่า "ทุกคน รีบซ่อนตัวเร็วเข้า!"“เครื่องกระทุ้งหินนี้มีพลังมหาศาล กำแพงเมืองของเรามิสามารถต้านทานได้เกินครึ่งชั่วยาวแน่!”“เราเอาชนะพวกนอกด่านมิได้หรอก!”“ยามนี้แล้ว เราก็ทำได้เพียงรีบไปซ่อนตัวอยู่ในเมือง และรอการสนับสนุนเท่านั้น!”เมื่อคำพูดของรองแม่ทัพหลิวออกมา ผู้คนก็รู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งขึ้น“เข้าไปหลบในเมือง เหตุใดมิยอมแพ้ไปเลยเล่า?!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเฉียบคมรองแม่ทัพหลิวดุด้วยความโกรธ "สตรีอย่างเจ้ามิรู้อะไรเลย เป็นเจ้าแท้ ๆ ที่ทำให้ศัตรูโกรธจนพวกเขาเลือกใช้เครื่องกระทุ้งหินเช่นนี้!"“คืนนี้ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 966

    “ตายซะ!” สตรีจากเผ่านอกด่านผู้นี้แข็งแกร่งมาก จนสามารถบีบให้ลั่วชิงยวนล่าถอยไปจนกับหอกยาวได้ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองสตรีซึ่งเต็มไปความเกลียดชังอย่างบ้าคลั่งตรงหน้า ไร้ซึ่งสติโดยสิ้นเชิงแววตาของนางเป็นประกายวาบนางแสร้งทำเป็นสู้มิไหว แต่เมื่อรู้สึกว่าหอกยาวใกล้เข้ามา นางจึงเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้ายหอกยาวที่อยู่ข้างหลังถากผ่านเอวของนาง ทิ้งรอยแผลได้เลือดไว้หอกยาวพุ่งทะลวงอย่างรวดเร็ว แทงเข้าที่หน้าท้องของสตรีจากเผ่านอกด่านที่อยู่ตรงหน้า“อั่ก!” ความเจ็บปวดสาหัสทำให้สตรีจากเผ่านอกด่านอ่อนแรงลงลั่วชิงยวนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว หมุนตัวเตะสตรีนางนั้นให้กระเด็นออกไป สตรีจากเผ่านอกด่านล้มลงกับพื้นอย่างแรง“องค์หญิงชิงหวย!” เสียงร้องดังมาจากสนามรบที่วุ่นวายลั่วชิงยวนเหลือบมองไปด้านข้าง ‘องค์หญิงชิงหวย?’กองทัพวิญญาณนับล้านเอาชนะพวกนอกด่านอย่างไร้หนทางโต้กลับแม้ว่าอาวุธที่อยู่ในมือของวิญญาณเหล่านั้นจะมิสามารถทะลวงผ่านร่างกายของศัตรูได้โดยตรงแต่ในสนามรบนี้ไม่มีสิ่งใดขาดแคลนศัตรูมากมายที่ถูกพัดลอยขึ้นไปในอากาศต่างกระแทกเข้ากับคมดาบและตายทันทีสิ่งนี้ทำให้ทัพเผ่านอกด้านที่มีร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 967

    ลั่วอวิ๋นสี่นี่เอง!ข้างหลังนางคือฉินเชียนหลี่ ชายที่ร่างทั้งร่างอาบไปด้วยเลือดที่ถูกพาตัวลงมาทุกคนตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้“ท่านแม่ทัพฉิน!”ลั่วเยวี่ยอิงมองไปที่ฉินเชียนหลี่ ดูราวกับว่าเขาทนทุกข์ทรมานอย่างมากดูอ่อนล้าใกล้ตายเต็มที“รองแม่ทัพหลิวอยู่ที่ใด?” ฉินเชียนหลี่มองไปรอบ ๆ หลังลงจากม้า คนแรกที่เขาถามหาคือรองแม่ทัพหลิวลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความสงสัย "เจ้าถามถึงเขาด้วยเหตุใด?"“เขาสำคัญมากหรือ?”ฉินเชียนหลี่พูดอย่างจริงจัง "แน่นอนว่าสำคัญมาก ข้ายังต้องปรึกษาเรื่องสำคัญกับเขา"คำตอบนี้ทำให้ลั่วชิงยวนประหลาดใจ นางเลิกคิ้วแล้วถามว่า "เจ้ามิใช่ว่าต้องเอาเรื่องรองแม่ทัพหลิว หรอกหรือ? ชายผู้นี้มิน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย เขาทำลายขวัญกำลังใจของทหารในยามศึกสงคราม ข้าจึงสังหารเขาไปแล้ว"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินเชียนหลี่ก็ตกใจ "ว่ากระไรนะ? เจ้าสังหารเขาไปแล้วหรือ?"“เจ้าเป็นใคร? มาฆ่ารองแม่ทัพของข้าด้วยเหตุใด?!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสายตาที่มิคุ้นเคยของฉินเชียนหลี่ลั่วอวิ๋นสี่ที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วเช่นกันลั่วชิงยวนมองฉินเชียนหลี่ด้วยความสงสัย "เจ้าจำข้ามิได้หรือ?"

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 968

    “แม่ทัพสวี่ ท่านยังมิตายหรอกหรือ?!”แม่ทัพสวี่?ลั่วชิงยวนคว้าเขาขึ้นมาแล้วถามว่า "เจ้ามิใช่พวกนอกด่านรึ?!"แม่ทัพสวี่หลังจากถูกเปิดโปง แสดงสีหน้าลนลาน มิรู้จะหาข้อแก้ตัวอย่างไรไปชั่วขณะดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วบีบคอเขาอย่างแรง "ฉินเชียนหลี่อยู่ที่ใด?!"สวี่อี้พูดด้วยความยากลำบาก "ข้ามิรู้""ข้ามิรู้จริง ๆ"ลั่วชิงยวนโยนเขาลงบนพื้นอย่างแรง แล้วใช้ดาบยาวในมือแทงเข้าที่ข้อเท้าของเขาอย่างไร้ความปรานี แล้วสะบัดดาบขึ้น"อ๊าก… "เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นออกมาสวี่อี้กุมเท้าและกลิ้งไปมากับพื้นลั่วชิงยวนขู่ด้วยน้ำเสียงเฉียบคม "หากเจ้ายังมิพูด ข้าจะตัดเส้นเอ็นที่มือของเจ้า ถ้ายังมิพูดอีก ข้าจะตัดขาทั้งสองข้างและมือทั้งสองของเจ้า เปลี่ยนให้กลายเป็นคนพิการเสีย!"“ถ้าเจ้ามิอยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ข้าแนะนำให้เจ้าบอกความจริง”ใบหน้าของสวี่อี้ซีดลงด้วยความเจ็บปวด และมีเม็ดเหงื่อหนาผุดพรายไหลออกมาจากหน้าผากของเขา“ฉินเชียนหลี่ อยู่ในมือของพวกนอกด่าน”ลั่วชิงยวนถามอย่างเย็นชา "เขาถูกขังไว้ที่ใด?"สวี่อี้ส่ายหน้า "เรื่องนี้ข้ามิรู้จริง ๆ"“หนึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 969

    และตระกูลฉินก็จะถูกหางเลขไปด้วย และทั้งตระกูลจะต้องถูกประหาร!“ตระกูลเหยียนสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้รึ? ในเมืองผิงหนิงนี้ยังมีสายของตระกูลเหยียนอีกกี่คน?”สวี่อี้มองนางด้วยความตกใจมิคิดเลยว่านางจะรู้เรื่องนี้ด้วยสวี่อี้กัดฟัน "ยังมีรองแม่ทัพหลิวที่ถูกเจ้าฆ่าไปอีกคน"“และซือซิงแห่งกองทัพอู่จิ้น”“ข้ารู้จักแค่สองคนนี้ ส่วนอีกคนข้ามิรู้แล้ว”ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น "สองคนนี้ข้ารู้แล้ว สิ่งที่เจ้าให้การมาไม่มีค่าอันใดสำหรับข้าเลย"“เอ็นร้อยหวายที่เท้าอีกข้างของเจ้า มิรู้ว่าจะรักษาไว้ได้หรือไม่”จู่ ๆ สวี่อี้เหงื่อแตกพลั่ก รู้สึกตื่นกลัวอย่างมากเขาพูดอย่างเร่งรีบว่า "ฉินเชียนหลี่น่าจะยังมีชีวิตอยู่! ยามที่องค์หญิงหล่างชิ่นจับกุมเขามา คำพูดนางช่างคลุมเครือนัก ดูเหมือนนางจะมิอยากฆ่าฉินเชียนหลี่เท่าไหร่เลย"ลั่วชิงยวนตกตะลึงหล่างชิ่น?!“ข้ารู้แผนการของพวกนอกด่านมาบ้างเล็กน้อย พวกเขาจงใจจับข้าและทรมานข้า พวกเขาแค่หวังว่าพวกเจ้าจะมาช่วยข้า จากนั้นก็ให้ข้าสมคบกับรองแม่ทัพหลิวเปิดประตูเมืองให้พวกเจ้ายอมจำนน”“เมื่อฟ้าสาง พวกเขาต้องการเห็นธงขาวโบกสะบัดบนประตูเมือง”“จากนั้นพวกเขาก็จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 970

    เมื่อฟ้าเริ่มสาง ธงขาวก็ถูกชักขึ้นหอประตูเมืองมินานกองทัพพวกนอกด่านก็มาถึงลั่วชิงยวนซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ มองไปยังผู้นำกองทัพ ที่นำมามิใช่ใครอื่นนอกจากหล่างชิ่นและหล่างมู่“ผู้นำเมืองผิงหนิงของพวกเจ้าอยู่ที่ใด เมื่อยอมจำนนแล้วไฉนมิเปิดประตูเมืองมาแสดงความเคารพ?”เสียงของหล่างมู่หนักแน่น ท่าทางหยิ่งผยองทหารบนหอประตูเมืองตะโกนว่า "รองแม่ทัพหลิวของเราเสียชีวิตในการสู้รบไปแล้ว"“หากเราเปิดประตูเมือง พวกเจ้าจะรับประกันได้หรือไม่ว่าหลังปลดอาวุธแล้วมิฆ่าใคร?”หล่างมู่ยิ้มและพูดว่า "ย่อมเป็นเช่นนั้น ขอเพียงเปิดประตูเมือง วางอาวุธลงแล้วเราจะมิฆ่าใคร!"ทหารจึงสั่ง "เปิดประตูเมืองได้!"ประตูเมืองเปิดออกอย่างช้า ๆหล่างมู่ยิ้มอย่างเย็นชา ชักม้าเฆี่ยนแส้ นำกองทัพพุ่งเข้าไปยังประตูเมืองด้วยความยโสชาวเผ่านอกด่านตะโกนอย่างตื่นเต้นพวกเขาโบกธงสะบัด เดินหน้าบุกเข้าเมืองผิงหนิงอย่างไร้สิ่งขัดขวางขณะที่พวกเขารีบเข้าไปในเมือง ทุกคนต่างชักดาบออกมาเตรียมสังหารล้างบางเมืองผิงหนิงแต่ทว่า หลังจากที่พวกเขากรูกันเข้าไปก็พบว่าบนท้องถนนกลับว่างเปล่าหล่างมู่ชะลอม้า หัวใจเต็มไปด้วยความสงสัยว่า "ผู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 971

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย ‘ถอยทัพงั้นหรือ?’มีคนตะโกนว่า "แต่องค์ชายหล่างมู่ยังอยู่ข้างใน"แต่หล่างชิ่นเพิกเฉยต่อคำทักท้วง และถอยกลับไปพร้อมกับคนของนางการถอยทัพหล่างชิ่น ทำให้คนในเมืองมีเวลาในการกวาดล้างศัตรูทั้งหมดอย่างรวดเร็ว“แม่นางลั่ว กลอุบายของท่านในการแกล้งยอมแพ้นั้นนับว่าฉลาดจริง ๆ!”“คราวนี้เราสามารถยึดอาวุธมาได้มิน้อยเลย”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองไปยังทิศทางที่พวกนอกด่านล่าถอยไป ในใจยังคงมิสบายใจ“ไม่มีทางที่พวกนอกด่านจะล่าถอยไปง่าย ๆ ถูกลวงเช่นนี้ พวกเขาต้องโกรธมากแน่”“ส่งคำสั่งไป เก็บอาวุธทันที แล้วไปประจำการที่หอประตูเมือง”"ขอรับ!"ในมิช้า ลั่วอวิ๋นสี่ก็กระโดดขึ้นมาหอประตูเมืองแล้วพูดว่า "มิพบหล่างมู่"“บางทีเขาอาจตายอยู่ข้างในแล้ว มีศพมากเกินไป”ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น "มิเป็นไร ค่อยตรวจสอบทีหลังก็ได้"“ในทางตรงกันข้าม หล่างชิ่นผู้นี้ดูเหมือนจะ... จงใจปล่อยให้หล่างมู่เข้ามาตาย”ในระหว่างการบุกโจมตี หล่างมู่ได้นำกองกำลังของเขาเข้ามาในเมืองทันที แต่หล่างชิ่นกลับมิได้เข้ามาด้วยนางคงจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ กลัวว่าเป็นกับดัก เลยมิเข้ามาแต่นางมิได้ห้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 972

    ฉินเชียนหลี่!นั่นคือฉินเชียนหลี่!ฉินเชียนหลี่ถูกลากมาไกลเพียงใดมิอาจรู้ได้ ด้วยความเร็วเพียงนั้น บางครั้งร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และบางครั้งก็กระแทกลงอย่างหนักเหมือนใบไม้ใบหนึ่งที่ปลิวไปปลิวมาอย่างไร้ทิศทางคนที่เห็นนั้นใจแทบสลายเหล่าทหารบนหอประตูเมืองต่างตกตะลึง "นั่นคือแม่ทัพฉินใช่หรือไม่?!"คนที่ควบม้ามาหยุดลงตรงหน้าหล่างชิ่น ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้าแล้วคว้าตัวฉินเชียนหลี่ที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมาเขายั่วเย้าอีกฝ่ายว่า "เห็นหรือไม่? นี่แหละ แม่ทัพของพวกเจ้า!"“ยังมิรีบเปิดประตูเมืองยอมแพ้อีก มิเช่นนั้นเมื่อเราตีเมืองแตก ชีวิตของพวกเจ้าจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก!”หล่างชิ่นยกยิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจและมองไปที่ลั่วชิงยวน "เป็นอย่างไร จะยอมแพ้หรือยัง?"ลั่วชิงยวนกัดฟัน ในใจเต็มไปด้วยความโกรธที่หล่างชิ่นยังเก็บฉินเชียนหลี่ไว้ ก็เพื่อช่วงเวลานี้เมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนมิตอบสนอง หล่างชิ่นก็พลิกตัวลงจากหลังม้า เตะฉินเชียนหลี่ที่ด้านหลัง ทำให้เขาล้มลงนอนคว่ำกับพื้น ก่อนจะเหยียบไหล่ของเขาไว้นางถือมีดยาวในมือ กรีดลงบนนิ้วของฉินเชียนหลี่ แล้วหัวเราะเบา ๆ "เจ้าเป็นแม

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1275

    ฟู่เฉินหวนหาได้แปลกใจไม่ คนที่ปรากฏตัวที่นี่ได้ย่อมมิใช่คนธรรมดาเขามิได้ตอบ เพราะกำลังครุ่นคิดฉินอี้พูดต่อ “คนของเฉินชีล้อมภูเขาทั้งลูกไว้แล้ว เจ้าบาดเจ็บสาหัส ออกไปเองมิได้หรอก”“มีเพียงการไปกับข้าเท่านั้น ข้าจึงจะพาเจ้าออกจากที่นี่ได้”“อีกอย่าง เจ้าก็น่าจะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเฉินชี ถึงแม้ว่าเจ้าจะรอดชีวิตออกจากภูเขาลูกนี้ก็เข้าเมืองหลวงมิได้อยู่ดี และไม่มีทางได้พบลั่วชิงยวน”“ทั่วแผ่นดินแคว้นหลี มีเพียงข้าเท่านั้นที่ช่วยเจ้าได้”ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลง “เงื่อนไขคืออะไร?”“เจ้าอุตส่าห์มาช่วยข้า คงต้องมีเงื่อนไขกระมัง”ฉินอี้ยกยิ้ม “ข้าชอบคบหากับคนฉลาด!”“สิ่งเดียวที่ข้าอยากทำ ก็คือฆ่าเฉินชี!”แววตาของฉินอี้เต็มไปด้วยจิตสังหารเฉินชีควบคุมกองทัพ มักทำอะไรตามใจชอบถึงแม้ว่าภายนอกจะเชื่อฟังราชวงศ์ แต่ความจริงแล้วเขาแทบมิยอมรับข้อบังคับของราชวงศ์ มิเคยเห็นใครอยู่ในสายตายิ่งไปกว่านั้น เขามิเคยนับถือองค์ชายผู้นี้เลย คอยแต่จะเยาะเย้ยเสมอเมื่อมีโอกาสสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดในชีวิตคือ ฆ่าเฉินชี!ฟู่เฉินหวนดูออก ฉินอี้มิได้โกหกเรื่องนี้ ความเกลียดชังในดวงตาของเขาแทบจะพวยพุ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1274

    นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหลบ ทว่าหาได้มีทางหลบได้ไม่ เงาดำหลายร่างจับร่างจองนางเหวี่ยงไปมาร่างของนางราวกับใบไม้ที่ถูกลมพัดปลิวไปมา ชนกำแพง ชนประตู ชนต้นไม้จนเลือดไหลออกมาดูน่าเวทนายิ่งนักมีคนหลายคนยืนดูความเคลื่อนไหวในเรือนจากในที่มืดระยะไกล แล้วต่างหัวเราะอย่างพึงพอใจ“คิดว่าจะเก่งแค่ไหนกันเชียว กล้ามาท้าทายจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดารา สุดท้ายก็ได้แค่นี้”“ความจริงนางก็มิได้เก่งหรอก มิรู้ว่าปราบสิบวายร้ายได้อย่างไร”“ส่งไปอีกสองตัว! ทรมานอีกสักรอบ อีกสองวันข้างหน้าเมื่อไปหอรักษ์ดารา นางอาจจะยอมแพ้ไป!”พูดจบ พวกเขาก็เปิดกล่องที่ผนึกด้วยยันต์แปดทิศ และกระดาษยันต์หนึ่งแผ่นก็เริ่มควบคุมสิ่งของในกล่องให้บินออกมาทันใดนั้นก็มีเท้าข้างหนึ่งยื่นออกมาเตะกล่องคว่ำสิ่งที่พุ่งออกมาทันทีนั้นส่งเสียงคำรามอันน่าสยดสยอง ทำให้หลายคนตกใจพลันรีบถอยหลังหลบกันไป“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึไร!” หลายคนรีบลุกขึ้นตะโกนใส่อวี๋โหรวที่เตะกล่องคว่ำพวกเขาลุกขึ้นยืน ทุกคนตัวสูงกว่าอวี๋โหรวยิ่งทำให้อวี๋โหรวดูตัวเล็กดูน่ารังแกแต่อวี๋โหรวกลับมองพวกเขาด้วยแววตาเย็นชา “พอได้แล้ว!”“หากทำให้นางตาย ข้าจะดูว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status