แชร์

บทที่ 964

ผู้แต่ง: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
กองทัพพวกนอกด่านกำลังโจมตี ทุกคนเตรียมการป้องกันด้วยความตึงเครียด

กองทัพศัตรูประชิดเมืองในพริบตา การต่อสู้พร้อมปะทุ และพวกนอกด่านเริ่มโจมตีเมืองทันที

“ยิงธนู!”

ลั่วชิงยวนออกคำสั่ง ลูกธนูนับพันถูกยิงออกไป

ลั่วชิงยวนยกธนูและลูกธนูขึ้น แต่มิพบผู้นำของพวกนอกด่าน มีบางคนที่สั่งการอยู่ แต่ดูมิเหมือนเป็นผู้สั่งการ

ช่างมัน ฆ่าก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

ลั่วชิงยวนเล็งทิศทาง ลูกธนูพุ่งออกไปด้วยเสียงแหวกอากาศ ทะลุผ่านร่างของศัตรู

ลูกธนูอีกหนึ่งดอก คร่าชีวิตคนไปหนึ่งคน

ลั่วชิงยวนยิงมิพลาดแม้แต่นัดเดียว ด้วยความสามารถในการสังเกตที่แม่นยำ นางสังหารหัวหน้าศัตรูได้หลายคน ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่พวกนอกด่าน

ในมิช้า ศัตรูก็ค้นพบตัวนาง

“ทุกคน ฆ่าสตรีนางนั้นเสีย!”

พวกนอกด่านฟังคำสั่งและโจมตีประตูเมืองที่ลั่วชิงยวนอยู่ทันที พวกเขาปีนไปบนกำแพงเมืองเหมือนฝูงมด กรงเล็บเหล็กของพวกมันทิ้งรอยไว้บนกำแพงเบื้องหน้ามากมาย

รองแม่ทัพหลิวเฝ้าดูจากระยะไกลและเยาะเย้ย ‘สตรีมิรู้จักที่ต่ำที่สูง รนหาความตายจริง ๆ’

ทหารเข้ามาขัดขวางพวกนอกด่านที่ปีนกำแพงเมืองขึ้นมา

“แม่นางลั่ว เหตุใดท่านมิลงไปซ่อนตัวก่อน พวกนอกด่านกำลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
แม่หม่อม กะน้องเกม่อน
ชอบหยุดไปเฉยๆ กำลังสนุกเลย ไม่เคยอ่านได้จบซักเรื่อง
goodnovel comment avatar
Nira Ho
น้อยมาก อุบเดตเยอะๆหน่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 965

    มีเสียงระเบิดดังขึ้นในหูเศษหินระเบิดไปทั่วท้องฟ้าลั่วชิงยวนยืนขึ้นจากกองฝุ่น ฝุ่นกรวดบาดที่แก้มจนมีรอยเลือดนางยืนขึ้นและมองการโจมตีจากเครื่องกระทุ้งหินอย่างต่อเนื่อง หอประตูเมืองทุกแห่งในเมืองถูกโจมตีอย่างรุนแรง ศพปลิวว่อน เลือดกระจายทั่วท้องฟ้าในช่วงเวลานี้ พวกเขาประสบกับความสูญเสียอย่างหนักเดิมทีกำลังคนของพวกเขาก็น้อยกว่าพวกนอกด่านอยู่แล้ว และด้วยพลังของเครื่องกระทุ้งหินในยามนี้ คราวล่มสลายของเมืองนี้ก็เป็นเรื่องของเวลาแล้วรองแม่ทัพหลิวรีบวิ่งไปข้างหน้าทันที และตะโกนว่า "ทุกคน รีบซ่อนตัวเร็วเข้า!"“เครื่องกระทุ้งหินนี้มีพลังมหาศาล กำแพงเมืองของเรามิสามารถต้านทานได้เกินครึ่งชั่วยาวแน่!”“เราเอาชนะพวกนอกด่านมิได้หรอก!”“ยามนี้แล้ว เราก็ทำได้เพียงรีบไปซ่อนตัวอยู่ในเมือง และรอการสนับสนุนเท่านั้น!”เมื่อคำพูดของรองแม่ทัพหลิวออกมา ผู้คนก็รู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งขึ้น“เข้าไปหลบในเมือง เหตุใดมิยอมแพ้ไปเลยเล่า?!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเฉียบคมรองแม่ทัพหลิวดุด้วยความโกรธ "สตรีอย่างเจ้ามิรู้อะไรเลย เป็นเจ้าแท้ ๆ ที่ทำให้ศัตรูโกรธจนพวกเขาเลือกใช้เครื่องกระทุ้งหินเช่นนี้!"“คืนนี้ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 966

    “ตายซะ!” สตรีจากเผ่านอกด่านผู้นี้แข็งแกร่งมาก จนสามารถบีบให้ลั่วชิงยวนล่าถอยไปจนกับหอกยาวได้ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองสตรีซึ่งเต็มไปความเกลียดชังอย่างบ้าคลั่งตรงหน้า ไร้ซึ่งสติโดยสิ้นเชิงแววตาของนางเป็นประกายวาบนางแสร้งทำเป็นสู้มิไหว แต่เมื่อรู้สึกว่าหอกยาวใกล้เข้ามา นางจึงเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้ายหอกยาวที่อยู่ข้างหลังถากผ่านเอวของนาง ทิ้งรอยแผลได้เลือดไว้หอกยาวพุ่งทะลวงอย่างรวดเร็ว แทงเข้าที่หน้าท้องของสตรีจากเผ่านอกด่านที่อยู่ตรงหน้า“อั่ก!” ความเจ็บปวดสาหัสทำให้สตรีจากเผ่านอกด่านอ่อนแรงลงลั่วชิงยวนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว หมุนตัวเตะสตรีนางนั้นให้กระเด็นออกไป สตรีจากเผ่านอกด่านล้มลงกับพื้นอย่างแรง“องค์หญิงชิงหวย!” เสียงร้องดังมาจากสนามรบที่วุ่นวายลั่วชิงยวนเหลือบมองไปด้านข้าง ‘องค์หญิงชิงหวย?’กองทัพวิญญาณนับล้านเอาชนะพวกนอกด่านอย่างไร้หนทางโต้กลับแม้ว่าอาวุธที่อยู่ในมือของวิญญาณเหล่านั้นจะมิสามารถทะลวงผ่านร่างกายของศัตรูได้โดยตรงแต่ในสนามรบนี้ไม่มีสิ่งใดขาดแคลนศัตรูมากมายที่ถูกพัดลอยขึ้นไปในอากาศต่างกระแทกเข้ากับคมดาบและตายทันทีสิ่งนี้ทำให้ทัพเผ่านอกด้านที่มีร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 967

    ลั่วอวิ๋นสี่นี่เอง!ข้างหลังนางคือฉินเชียนหลี่ ชายที่ร่างทั้งร่างอาบไปด้วยเลือดที่ถูกพาตัวลงมาทุกคนตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้“ท่านแม่ทัพฉิน!”ลั่วเยวี่ยอิงมองไปที่ฉินเชียนหลี่ ดูราวกับว่าเขาทนทุกข์ทรมานอย่างมากดูอ่อนล้าใกล้ตายเต็มที“รองแม่ทัพหลิวอยู่ที่ใด?” ฉินเชียนหลี่มองไปรอบ ๆ หลังลงจากม้า คนแรกที่เขาถามหาคือรองแม่ทัพหลิวลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความสงสัย "เจ้าถามถึงเขาด้วยเหตุใด?"“เขาสำคัญมากหรือ?”ฉินเชียนหลี่พูดอย่างจริงจัง "แน่นอนว่าสำคัญมาก ข้ายังต้องปรึกษาเรื่องสำคัญกับเขา"คำตอบนี้ทำให้ลั่วชิงยวนประหลาดใจ นางเลิกคิ้วแล้วถามว่า "เจ้ามิใช่ว่าต้องเอาเรื่องรองแม่ทัพหลิว หรอกหรือ? ชายผู้นี้มิน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย เขาทำลายขวัญกำลังใจของทหารในยามศึกสงคราม ข้าจึงสังหารเขาไปแล้ว"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินเชียนหลี่ก็ตกใจ "ว่ากระไรนะ? เจ้าสังหารเขาไปแล้วหรือ?"“เจ้าเป็นใคร? มาฆ่ารองแม่ทัพของข้าด้วยเหตุใด?!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสายตาที่มิคุ้นเคยของฉินเชียนหลี่ลั่วอวิ๋นสี่ที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วเช่นกันลั่วชิงยวนมองฉินเชียนหลี่ด้วยความสงสัย "เจ้าจำข้ามิได้หรือ?"

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 968

    “แม่ทัพสวี่ ท่านยังมิตายหรอกหรือ?!”แม่ทัพสวี่?ลั่วชิงยวนคว้าเขาขึ้นมาแล้วถามว่า "เจ้ามิใช่พวกนอกด่านรึ?!"แม่ทัพสวี่หลังจากถูกเปิดโปง แสดงสีหน้าลนลาน มิรู้จะหาข้อแก้ตัวอย่างไรไปชั่วขณะดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วบีบคอเขาอย่างแรง "ฉินเชียนหลี่อยู่ที่ใด?!"สวี่อี้พูดด้วยความยากลำบาก "ข้ามิรู้""ข้ามิรู้จริง ๆ"ลั่วชิงยวนโยนเขาลงบนพื้นอย่างแรง แล้วใช้ดาบยาวในมือแทงเข้าที่ข้อเท้าของเขาอย่างไร้ความปรานี แล้วสะบัดดาบขึ้น"อ๊าก… "เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นออกมาสวี่อี้กุมเท้าและกลิ้งไปมากับพื้นลั่วชิงยวนขู่ด้วยน้ำเสียงเฉียบคม "หากเจ้ายังมิพูด ข้าจะตัดเส้นเอ็นที่มือของเจ้า ถ้ายังมิพูดอีก ข้าจะตัดขาทั้งสองข้างและมือทั้งสองของเจ้า เปลี่ยนให้กลายเป็นคนพิการเสีย!"“ถ้าเจ้ามิอยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ข้าแนะนำให้เจ้าบอกความจริง”ใบหน้าของสวี่อี้ซีดลงด้วยความเจ็บปวด และมีเม็ดเหงื่อหนาผุดพรายไหลออกมาจากหน้าผากของเขา“ฉินเชียนหลี่ อยู่ในมือของพวกนอกด่าน”ลั่วชิงยวนถามอย่างเย็นชา "เขาถูกขังไว้ที่ใด?"สวี่อี้ส่ายหน้า "เรื่องนี้ข้ามิรู้จริง ๆ"“หนึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 969

    และตระกูลฉินก็จะถูกหางเลขไปด้วย และทั้งตระกูลจะต้องถูกประหาร!“ตระกูลเหยียนสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้รึ? ในเมืองผิงหนิงนี้ยังมีสายของตระกูลเหยียนอีกกี่คน?”สวี่อี้มองนางด้วยความตกใจมิคิดเลยว่านางจะรู้เรื่องนี้ด้วยสวี่อี้กัดฟัน "ยังมีรองแม่ทัพหลิวที่ถูกเจ้าฆ่าไปอีกคน"“และซือซิงแห่งกองทัพอู่จิ้น”“ข้ารู้จักแค่สองคนนี้ ส่วนอีกคนข้ามิรู้แล้ว”ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น "สองคนนี้ข้ารู้แล้ว สิ่งที่เจ้าให้การมาไม่มีค่าอันใดสำหรับข้าเลย"“เอ็นร้อยหวายที่เท้าอีกข้างของเจ้า มิรู้ว่าจะรักษาไว้ได้หรือไม่”จู่ ๆ สวี่อี้เหงื่อแตกพลั่ก รู้สึกตื่นกลัวอย่างมากเขาพูดอย่างเร่งรีบว่า "ฉินเชียนหลี่น่าจะยังมีชีวิตอยู่! ยามที่องค์หญิงหล่างชิ่นจับกุมเขามา คำพูดนางช่างคลุมเครือนัก ดูเหมือนนางจะมิอยากฆ่าฉินเชียนหลี่เท่าไหร่เลย"ลั่วชิงยวนตกตะลึงหล่างชิ่น?!“ข้ารู้แผนการของพวกนอกด่านมาบ้างเล็กน้อย พวกเขาจงใจจับข้าและทรมานข้า พวกเขาแค่หวังว่าพวกเจ้าจะมาช่วยข้า จากนั้นก็ให้ข้าสมคบกับรองแม่ทัพหลิวเปิดประตูเมืองให้พวกเจ้ายอมจำนน”“เมื่อฟ้าสาง พวกเขาต้องการเห็นธงขาวโบกสะบัดบนประตูเมือง”“จากนั้นพวกเขาก็จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 970

    เมื่อฟ้าเริ่มสาง ธงขาวก็ถูกชักขึ้นหอประตูเมืองมินานกองทัพพวกนอกด่านก็มาถึงลั่วชิงยวนซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ มองไปยังผู้นำกองทัพ ที่นำมามิใช่ใครอื่นนอกจากหล่างชิ่นและหล่างมู่“ผู้นำเมืองผิงหนิงของพวกเจ้าอยู่ที่ใด เมื่อยอมจำนนแล้วไฉนมิเปิดประตูเมืองมาแสดงความเคารพ?”เสียงของหล่างมู่หนักแน่น ท่าทางหยิ่งผยองทหารบนหอประตูเมืองตะโกนว่า "รองแม่ทัพหลิวของเราเสียชีวิตในการสู้รบไปแล้ว"“หากเราเปิดประตูเมือง พวกเจ้าจะรับประกันได้หรือไม่ว่าหลังปลดอาวุธแล้วมิฆ่าใคร?”หล่างมู่ยิ้มและพูดว่า "ย่อมเป็นเช่นนั้น ขอเพียงเปิดประตูเมือง วางอาวุธลงแล้วเราจะมิฆ่าใคร!"ทหารจึงสั่ง "เปิดประตูเมืองได้!"ประตูเมืองเปิดออกอย่างช้า ๆหล่างมู่ยิ้มอย่างเย็นชา ชักม้าเฆี่ยนแส้ นำกองทัพพุ่งเข้าไปยังประตูเมืองด้วยความยโสชาวเผ่านอกด่านตะโกนอย่างตื่นเต้นพวกเขาโบกธงสะบัด เดินหน้าบุกเข้าเมืองผิงหนิงอย่างไร้สิ่งขัดขวางขณะที่พวกเขารีบเข้าไปในเมือง ทุกคนต่างชักดาบออกมาเตรียมสังหารล้างบางเมืองผิงหนิงแต่ทว่า หลังจากที่พวกเขากรูกันเข้าไปก็พบว่าบนท้องถนนกลับว่างเปล่าหล่างมู่ชะลอม้า หัวใจเต็มไปด้วยความสงสัยว่า "ผู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 971

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย ‘ถอยทัพงั้นหรือ?’มีคนตะโกนว่า "แต่องค์ชายหล่างมู่ยังอยู่ข้างใน"แต่หล่างชิ่นเพิกเฉยต่อคำทักท้วง และถอยกลับไปพร้อมกับคนของนางการถอยทัพหล่างชิ่น ทำให้คนในเมืองมีเวลาในการกวาดล้างศัตรูทั้งหมดอย่างรวดเร็ว“แม่นางลั่ว กลอุบายของท่านในการแกล้งยอมแพ้นั้นนับว่าฉลาดจริง ๆ!”“คราวนี้เราสามารถยึดอาวุธมาได้มิน้อยเลย”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองไปยังทิศทางที่พวกนอกด่านล่าถอยไป ในใจยังคงมิสบายใจ“ไม่มีทางที่พวกนอกด่านจะล่าถอยไปง่าย ๆ ถูกลวงเช่นนี้ พวกเขาต้องโกรธมากแน่”“ส่งคำสั่งไป เก็บอาวุธทันที แล้วไปประจำการที่หอประตูเมือง”"ขอรับ!"ในมิช้า ลั่วอวิ๋นสี่ก็กระโดดขึ้นมาหอประตูเมืองแล้วพูดว่า "มิพบหล่างมู่"“บางทีเขาอาจตายอยู่ข้างในแล้ว มีศพมากเกินไป”ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น "มิเป็นไร ค่อยตรวจสอบทีหลังก็ได้"“ในทางตรงกันข้าม หล่างชิ่นผู้นี้ดูเหมือนจะ... จงใจปล่อยให้หล่างมู่เข้ามาตาย”ในระหว่างการบุกโจมตี หล่างมู่ได้นำกองกำลังของเขาเข้ามาในเมืองทันที แต่หล่างชิ่นกลับมิได้เข้ามาด้วยนางคงจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ กลัวว่าเป็นกับดัก เลยมิเข้ามาแต่นางมิได้ห้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 972

    ฉินเชียนหลี่!นั่นคือฉินเชียนหลี่!ฉินเชียนหลี่ถูกลากมาไกลเพียงใดมิอาจรู้ได้ ด้วยความเร็วเพียงนั้น บางครั้งร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และบางครั้งก็กระแทกลงอย่างหนักเหมือนใบไม้ใบหนึ่งที่ปลิวไปปลิวมาอย่างไร้ทิศทางคนที่เห็นนั้นใจแทบสลายเหล่าทหารบนหอประตูเมืองต่างตกตะลึง "นั่นคือแม่ทัพฉินใช่หรือไม่?!"คนที่ควบม้ามาหยุดลงตรงหน้าหล่างชิ่น ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้าแล้วคว้าตัวฉินเชียนหลี่ที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมาเขายั่วเย้าอีกฝ่ายว่า "เห็นหรือไม่? นี่แหละ แม่ทัพของพวกเจ้า!"“ยังมิรีบเปิดประตูเมืองยอมแพ้อีก มิเช่นนั้นเมื่อเราตีเมืองแตก ชีวิตของพวกเจ้าจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก!”หล่างชิ่นยกยิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจและมองไปที่ลั่วชิงยวน "เป็นอย่างไร จะยอมแพ้หรือยัง?"ลั่วชิงยวนกัดฟัน ในใจเต็มไปด้วยความโกรธที่หล่างชิ่นยังเก็บฉินเชียนหลี่ไว้ ก็เพื่อช่วงเวลานี้เมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนมิตอบสนอง หล่างชิ่นก็พลิกตัวลงจากหลังม้า เตะฉินเชียนหลี่ที่ด้านหลัง ทำให้เขาล้มลงนอนคว่ำกับพื้น ก่อนจะเหยียบไหล่ของเขาไว้นางถือมีดยาวในมือ กรีดลงบนนิ้วของฉินเชียนหลี่ แล้วหัวเราะเบา ๆ "เจ้าเป็นแม

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1090

    เพียงครึ่งเดือนเศษที่มิได้พบกัน มหาราชาจารย์เหยียนกลับเปลี่ยนไปราวกับคนละคนมหาราชาจารย์เหยียนจ้องมองนางอย่างมิพอใจ “พระชายาอ๋องจงดูแลตนเองเถิด!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง ฟังเสียงมหาราชาจารย์เหยียนที่อ่อนแรง ดูเหมือนจะสูญเสียพลังงานมาก ถึงแม้ว่าจะถูกกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์ล่าสุด แต่ก็มิควรจะสูญเสียมากถึงเพียงนี้ย่อมมีสาเหตุอื่น “ข้าหวังดี ท่านมหาราชาจารย์เหยียนมิจำเป็นต้องตอบโต้เช่นนี้”“ข้าเห็นท่านมหาราชาจารย์เหยียนดูเหมือนจะสูญเสียกำลังภายในไปมาก และมีอาการเป็นพิษ ท่านมหาราชาจารย์เหยียนควรหาหมอที่มีฝีมือดีมารักษาเถิด”“อย่าปล่อยให้ตัวเองล้มไปทั้ง ๆ ที่ยังมิได้ชนะแล้วกัน” ลั่วชิงยวนยิ้มเยาะมหาราชาจารย์เหยียนหน้าซีด จ้องมองนางอย่างเย็นชา “มิต้องมายุ่งเรื่องของข้า!” กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้ออย่างเย็นชาแล้วจากไปลั่วชิงยวนมองดูเงาของมหาราชาจารย์เหยียนที่รีบจากไป ในใจรู้สึกสับสน อาการป่วยของมหาราชาจารย์เหยียนดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันกลับไปแล้วนางก็ใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์คำนวณอีกครั้ง และไปดูที่บริเวณบ้านตระกูลเหยียนอีกครั้งถึงแม้ว่ามหาราชาจารย์เหยียนจะมีอาการป่วยหนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1089

    ซูโหยวพยักหน้า “ท่านอ๋องตามใจนางทุกอย่างแล้วขอรับ” “ถึงกระนั้นนางกลับยังขอให้ท่านอ๋องหย่ากับพระชายาและลงทัณฑ์พระชายาอย่างหนัก” “ท่านอ๋องมิได้ยินยอมและพิโรธยิ่งนัก จึงกลับเข้าห้องไป”ลั่วชิงยวนถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ฟังดังนั้น “ลั่วเยวี่ยอิงต้องการให้ท่านอ๋องหย่ากับข้าหรือ? จะให้ลงทัณฑ์ข้าด้วยหรือ?” ซูโหยวพยักหน้ารับอีกครั้งลั่วชิงยวนรู้สึกถึงความผิดปกติ ลั่วเยวี่ยอิงอาจจะรู้แล้วหรือไม่ว่าฟู่เฉินหวนถูกควบคุมจิตใจอยู่? “เจ้าไปเถิด ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเขาเอง ข้าจะมิเข้าไป” ซูโหยวพยักหน้าแล้วถอยออกไปลั่วชิงยวนเดินไปยังชายคาบ้าน มิได้ผลักประตูเข้าไป นางยืนอยู่ข้างกำแพง ฟังเสียงครวญครางอันแสนเจ็บปวดที่เล็ดลอดออกมาจากห้อง หัวใจของนางแทบจะขาดสะบั้นดวงตาแดงก่ำ ขณะนั่งคุกเข่าลงข้างกำแพง มีเพียงกำแพงกั้นไว้ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงครวญครางอันเจ็บปวดของฟู่เฉินหวนดังก้องเข้ามาในหูอย่างชัดเจนลั่วชิงยวนกำมือแน่น มิกล้าส่งเสียงใด ฟู่เฉินหวนซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง ดิ้นรนทรมาน เลือดไหลออกมาจากปากความทรมานเช่นนั้นกินเวลายาวนานถึงหนึ่งชั่วยามเศษ แต่ฟู่เฉินหวนมิได้ออกมาจากห้อง ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1088

    เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ใจของลั่วชิงยวนก็ยังคงเจ็บปวดแต่จะทำอย่างไรได้ ต้องเป็นเช่นนี้เท่านั้น ฟู่เฉินหวนจึงจะมิถูกทรมานจนถึงตายในที่สุดลั่วเยวี่ยอิงที่ถูกอุ้มไปก็มีความสุขมากนางกอดฟู่เฉินหวน ร้องไห้คร่ำครวญน้ำตาไหลพราก “ท่านอ๋อง ในที่สุดหม่อมฉันก็ได้พบท่านแล้ว”“ท่านมิรู้หรอกเพคะว่าหม่อมฉันต้องใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา”“พระชายาเอาเลือดของหม่อมฉันไปทุกวัน หม่อมฉันคิดว่าชาตินี้จะมิได้พบกับท่านแล้ว…”ฟู่เฉินหวนได้ยินเสียงคร่ำครวญก็หงุดหงิด ยิ่งปวดหัวหนักขึ้น“ท่านอ๋อง ท่านต้องช่วยหม่อมฉันให้พ้นจากภัยนี้ด้วยเถิดเพคะ” ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้มิหยุด“ข้าจะให้หมอมาตรวจอาการเจ้า” ฟู่เฉินหวนพยายามควบคุมตนเองมิให้ต่อต้านพลังที่ควบคุมอยู่พยายามตามใจลั่วเยวี่ยอิง“เพคะ” ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มอย่างพอใจ ในใจมีความสุขสิ่งที่เหยียนหน่ายซินพูดนั้นเป็นความจริง......ลั่วชิงยวนนั่งอยู่ที่ห้อง จือเฉาใช้ยาบรรเทาอาการบวมช้ำที่ใบหน้าของลั่วชิงยวนพลางกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ท่านอ๋องกับพระชายาได้คืนดีกันแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดจู่ ๆ จึงลงมือหนักเช่นนี้”“เขาก็มีเหตุผลของเขา” ลั่วชิงยวนถ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1087

    ยามเที่ยงวัน ลั่วชิงยวนกลับถึงตำหนักอ๋อง ทันทีที่กลับมาถึง ซูโหยวก็รีบมารายงานเรื่องราวมากมาย ฟู่เฉินหวนจึงไปยังห้องตำราลั่วชิงยวนกลับห้องตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์ แล้วตั้งใจจะงีบหลับแต่ปรากฏว่าทันทีที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วออกมา จือเฉาก็วิ่งมาอย่างเร่งรีบ“มิดีแล้วเจ้าค่ะพระชายา ลั่วเยวี่ยอิงผูกคอตายแล้วเจ้าค่ะ”เมื่อได้ฟังดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“นางผูกคอฆ่าตัวตายช่วงที่พวกข้ามิอยู่หรือ?”จือเฉาได้แต่ส่ายหน้าสายตาของลั่วชิงยวนเย็นชาลง นั่นหมายความว่านางตั้งใจรอให้พวกนางกลับมาก่อน จึงมาทำเป็นผูกคอตายเช่นนี้“ข้าจะไปดู”ลั่วชิงยวนเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อไปถึง ลั่วเยวี่ยอิงถูกช่วยไว้ได้แล้ว แต่ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนตายแม้จะอ่อนแอ แต่ก็ยังจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธแค้น “ถึงข้าจะตาย! ข้าก็จะมิยอมให้เจ้าใช้ประโยชน์จากข้าอีก!”กล่าวจบ ลั่วเยวี่ยอิงกัดฟันพยุงร่างกายลุกขึ้น แล้วกระแทกตัวเข้ากับกำแพงอย่างแรงลั่วชิงยวนยืนนิ่งอยู่กับที่ พูดอย่างเรียบเฉยว่า “แสร้งทำให้ใครดูเล่า!”“ข้ามิเชื่อหรอกว่าเจ้าจะกล้าตายจริง ๆ!”ลั่วเยวี่ยอิงมิได้กระแทกตัวเข้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1086

    ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นโอบกอดเขา แล้วแนบแก้มกับอกเขา “กลัวท่านจะหนีไปน่ะสิเพคะ”ฟู่เฉินหวนยิ้ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าจะหนีไปที่ใดได้?”ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นยิ้มจาง “ก็จริงเพคะ พระหนีได้ แต่วิหารหนีมิพ้น!”เมื่อเห็นรอยยิ้มอันงดงามนั้น ฟู่เฉินหวนก็ลูบจมูกนางด้วยความรักแต่ในใจกลับนึกถึงประโยคที่ว่าลูกสาวของศัตรูที่ฆ่าแม่ของเขาโดยมิรู้ตัว“อยากอยู่ที่ซีหยางอีกสักกี่วัน?”ลั่วชิงยวนตอบ “ท่านคงมีเรื่องต้องทำมากมาย เสียเวลาไปหลายวันแล้ว หรือว่าวันพรุ่งเราจะเดินทางกลับกันดีเพคะ?”ฟู่เฉินหวนเลิกคิ้วถาม “อุตส่าห์เดินทางไกลมาชมงานเทศกาลโคมไฟ จะรีบกลับไปเช่นนั้นหรือ?”แต่ลั่วชิงยวนกลับยิ้มมุมปาก “ที่สวยงามมิใช่งานเทศกาลโคมไฟ แต่เป็นทิวทัศน์ระหว่างทางเพคะ”“เช่นนั้นก็ดี วันพรุ่งเราจะเดินทางกลับกันเลย” ฟู่เฉินหวนกล่าว แล้วโอบกอดลั่วชิงยวนไว้แน่นรุ่งเช้าวันต่อมา คณะเดินทางก็กล่าวคำลาลั่วหลางหลางแล้วเดินทางกลับเมืองหลวงระหว่างทางมีผู้คนมากมาย เที่ยวชมทิวทัศน์ภูเขาแม่น้ำขณะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงดังนั้นจึงเดินทางช้ามากลั่วชิงยวนหาโอกาสไปพบกับฉู่จิ้งเพียงลำพัง เขาแอบติดตามมาคนเดียว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1085

    ดวงตาของฟู่อวิ๋นโจวเย็นชาดุจน้ำแข็งขณะกล่าวเสียงเรียบ “ข้าขอเตือนเจ้า จงอยู่ห่างจากลั่วชิงยวนเสีย”เหยียนหน่ายซินอมยิ้ม จู่ ๆ ก็มีแผนการอื่นผุดขึ้นในใจ “องค์ชายห้าโปรดปรานลั่วชิงยวนมากเลยหรือ? น่าเสียดายนัก จิตใจของนางมุ่งมั่นอยู่กับอ๋องผู้สำเร็จราชการเพียงผู้เดียว”“องค์ชายห้าปกปิดตัวตนเช่นนี้ย่อมมีจุดประสงค์แอบแฝง เช่นนั้นแล้ว เรามาร่วมมือกันดีหรือไม่?”“เมื่อได้อำนาจมาครอบครองแล้ว หม่อมฉันจะได้สิ่งที่ปรารถนา องค์ชายห้าก็จะได้สิ่งที่ปรารถนาเช่นกัน เห็นพ้องต้องกันหรือไม่?”สิ่งที่นางปรารถนาก็คือตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมอำนาจอันสูงสุดนั่นเองชีวิตของนางถูกคนอื่นควบคุมมาตั้งแต่เยาว์วัย นับแต่กำเนิด นางก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของตระกูล นางมิเต็มใจยอมแพ้แม้จะอดทนจนถึงวันที่มารดาและบิดาสิ้นลม แต่ปีที่ดีที่สุดของนางก็โรยราไปแล้ว จะมีความหมายอะไรอีกนางเบื่อหน่ายกับวันเวลาแห่งการอดทน ในภายภาคหน้า นางมิเพียงแต่ต้องการควบคุมชีวิตของตนเองเท่านั้น แต่ยังต้องการควบคุมชีวิตของผู้อื่นด้วย! เพื่อลิ้มรสความสุขจากการได้ครอบครองชีวิตของผู้อื่นฟู่อวิ๋นโจวขมวดคิ้ว แล้วกล่าวเสียงเย็นชา “

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1084

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วตระหนักได้ว่าคนผู้นี้ตั้งใจล่อลวงเขามาที่นี่“ข้ามิสนใจ” ฟู่เฉินหวนหันหลังเตรียมจะเดินจากไปลั่วฉิงรีบพูดขึ้น “มิสนใจจริงหรือ?”“คืนนี้ท่านอ๋องเห็นว่าหล่างชิ่นมีอาการคล้ายใครหรือไม่เล่า?”ฟู่เฉินหวนหยุดฝีเท้าทันทีลั่วฉิงเห็นว่าเขาหยุดฝีเท้าก็รู้ว่าเขาคงทำเป็นมิสนใจเรื่องนี้มิได้“ลั่วชิงยวนไปที่เผ่านอกด่านแล้วกลับมา หล่างชิ่นก็กลายเป็นเช่นนี้ ข้าจึงไปสอบสวนที่เผ่านอกด่านโดยเฉพาะ ผลปรากฏว่าพบความลับที่ไม่มีใครรู้”“ข้าจำได้ว่าพระมารดาของท่านอ๋องเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นหลี แล้วท่านอ๋องทราบหรือไม่เล่าว่ามารดาของลั่วชิงยวน เป็นนักบวชหญิงแห่งแคว้นหลี?”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็สั่นสะท้านแล้วกำหมัดแน่นลั่วฉิงหัวเราะอย่างมีเลศนัย “ดูเหมือนลั่วชิงยวนจะมิได้บอกเรื่องนี้กับท่านอ๋อง”“ดูเหมือนพวกท่านทั้งสองจะรักใคร่กันดี แต่กลับมีความลับที่ปกปิดซึ่งกันและกันอยู่มิน้อย”“สิ่งที่สามารถควบคุมผู้คนได้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มารดาของลั่วชิงยวนคิดค้นขึ้น มารดาของนางยังมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่านด้วย จึงเก็บซ่อนความลับทั้งหมดไว้ในเผ่านอกด่าน”“ดั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1083

    ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ออกไปข้างนอกนานเช่นนี้คงต้องยุ่งมากเป็นแน่”“ว่าแต่ทิวทัศน์ที่พวกเราดูมาตลอดทางนั้น ใครเป็นผู้จัดหาหรือ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถามด้วยความสงสัยเซียวชูตอบว่า “ล้วนแต่เป็นฝีมือของท่านอ๋องทั้งสิ้นขอรับ”“แท้จริงแล้วก่อนที่พระชายาจะมาที่ซีหยาง ท่านอ๋องก็เตรียมการไว้แล้ว”“ช่วงเวลานั้น ท่านแทบจะมิว่างเลยทีเดียวขอรับ”เมื่อได้ฟังดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็สั่นสะท้านที่แท้เขาเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วทำเช่นนี้มากมายเพียงเพื่อให้แต่นางมีความสุขหรือขณะที่กำลังครุ่นคิด ซ่งเชียนฉู่ก็มาถึงหน้าห้อง“ชิงยวน ท่านยังมินอนหรือ”เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูตึงเครียดของซ่งเชียนฉู่ ลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อยแล้วรีบลุกขึ้นไปหา“มีเรื่องอันใดหรือ?” นางมองไปยังภายนอก สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของราชันย์อสรพิษ“เขามาอีกแล้วหรือ? ข้าจะไปไล่เขาให้เจ้าเอง!”แต่ซ่งเชียนฉู่กลับจับมือของนางไว้ “อย่าเลย”“เมื่อครู่พวกเรากินข้าวกันที่โรงเตี๊ยมคึกคักเช่นนั้น เขามิสามารถปรากฏตัวได้ ดูน่าสงสารอยู่มิน้อย” ซ่งเชียนฉู่เห็นฉู่จิ้งในตอนนั้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้า...”ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1082

    ลั่วชิงยวนใจหายวาบ ซ่งเชียนฉู่กลับมามีสติจึงรีบอธิบาย “หม่อมฉันเองนี่แหละเพคะ หม่อมฉันติดตามท่านเซียนฉู่มานานจึงได้เรียนรู้วิชาจากท่านมาบ้าง!”ว่าแล้วนางก็หันไปพูดกับลั่วหลางหลาง “แต่หากพวกเจ้ามิเชื่อข้า ข้าก็สามารถให้ท่านเซียนฉู่ลั่วคำนวณให้ได้ ท่านทำนายได้แม่นยำนัก!”คำพูดนี้ทำเอาทุกอย่างคลี่คลาย“พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน เรื่องของพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาตัดสินใจกันเอง อย่าไปกดดันเลย!”“ดื่มกันต่อเถิด” ลั่วชิงยวนรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาลั่วหลางหลางมองนางด้วยแววตาขอบคุณ ทุกคนกินอาหารร่วมกันอย่างสนุกสนานรื่นเริงเมื่ออิ่มหนำสำราญ ทุกคนก็ยังคงสนทนากันต่อ ลั่วชิงยวนเห็นร้านขายน้ำตาลปั้นข้างทางก็เกิดความสนใจ จึงเดินลงไปสูดอากาศด้านนอก ฟู่เฉินหวนลุกตามนางไปเวลาล่วงเลยจนดึกสงัด ผู้คนบนท้องถนนเบาบางลง แต่แสงไฟยังคงสว่างไสว งดงามตระการตา“แม่นาง ซื้อน้ำตาลปั้นหรือไม่? ข้ามีทุกรูปที่ท่านต้องการ”ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาพอดี ลั่วชิงยวนจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าอยากได้รูปเขา ปั้นได้หรือไม่?”ช่างปั้นน้ำตาลเงยหน้ามองฟู่เฉินหวน ก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า “แน่นอน ปั้นได้อยู่แล้ว”“ท่านทั้งสองช่างส

DMCA.com Protection Status