แชร์

บทที่ 829

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วเยวี่ยอิงผลักเขาออกไปอย่างเย็นชา “ท่านยังต้องการอะไรจากข้าอีก?”

“อันที่จริง ข้าก็ไม่มีทางเลือก ไทเฮามิต้องการให้เจ้าแต่งเข้าตระกูลเหยียน เพราะ…”

เหยียนผิงเซียวเข้ามาใกล้ลั่วเยวี่ยอิงและกระซิบข้างหูของลั่วเยวี่ยอิง “ข้ามียอดฝีมือจากแคว้นหลีอยู่ข้างกายข้า ไทเฮาสัญญากับนางจะให้นางเป็นฮูหยินของข้าในภายหน้า ดังนั้นข้าจึงมิสามารถแต่งงานกับเจ้าก่อนที่จะแต่งงานกับนางได้"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตกใจมาก “ยอดฝีมือจากแคว้นหลี? นั่นคือสตรีที่ข้าเห็นคราวก่อนหรือ?”

เหยียนผิงเซียวพยักหน้า

“แต่นี่คือการเตรียมการของไทเฮา เจ้าก็รู้ว่าข้ามิสามารถต่อต้านไทเฮาได้ ดังนั้น... ข้าจึงปิดบังเรื่องนี้ไว้จากเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะให้อภัย”

“เจ้าวางใจเถอะ เมื่อข้าควบคุมอำนาจทั้งหมดได้ และมิต้องรับคำสั่งจากไทเฮาอีกต่อไป ข้าก็จะแต่งงานกับเจ้าได้”

“อีกอย่าง ตราบใดที่หัวใจของเราทั้งสองอยู่ด้วยกัน ก็ไม่มีสิ่งใดในใต้หล้านี้ที่จะขัดขวางเราได้”

เหยียนผิงเซียวเกลี้ยกล่อมอย่างจริงจัง

ลั่วเยวี่ยอิงมองเขาด้วยความสงสัย “แล้วสตรีนางนั้นเล่า?”

“ตอนนี้นางยังมีประโยชน์มาก ดังนั้น...” เหยียนผิงเซียวกล่าวอย่างเสี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 830

    นางรีบหยิบกล่องใบเล็กนั้นมาแต่แสงในดวงตาก็จางหายไปในพริบตา เพราะกล่องได้ถูกเปิดแล้วในขณะนี้ไม่มีอะไรอยู่ภายในลั่วอวิ๋นสี่ขมวดคิ้ว "ข้าติดตามลั่วเยวี่ยอิงตลอดเวลา นางถูกเหยียนผิงเซียวหลอกไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งแล้ว"“สตรีที่อาศัยอยู่ข้างในเป็นคนเปิดกล่องนี้ออก”“ลั่วเยวี่ยอิงแอบฟังอยู่ข้างนอก เมื่อเช้านี้ตอนที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน นางจึงฉวยเข้าไปขโมยสิ่งนี้มา”“แต่สิ่งที่ข้ามิคาดคิดก็คือ นางกินของในนั้นเข้าไปทันที!”“ข้าชิงมามิทัน... ได้แต่เก็บกล่องที่นางโยนทิ้งนี้ขึ้นมา”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็กำหมัดแน่นจากนั้นนางก็ถามด้วยความตกใจ "นางกินของในกล่องนี้ด้วยหรือ มันคืออะไร?"ลั่วอวิ๋นสี่ตอบ "มันดูเหมือนโอสถบางชนิด มันเล็กมากและมีสีน้ำตาลเข้ม"ลั่วชิงยวนดมกล่อง และจริง ๆ ก็ได้กลิ่นยาหอมเข้มข้น แต่กลิ่นยาผสมกันมากเกินไปจนมิสามารถบอกได้ว่าเป็นยาอะไรลั่วเยวี่ยอิงผู้นี้บ้าไปแล้วจริง ๆ นางมิกลัวถูกพิษหรือไร"ข้าขอโทษ ข้ามิได้จับตาดูให้ดีเอง” ลั่วอวิ๋นสี่ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดเดิมทีนางสัญญากับลั่วชิงยวนว่าจะหาโอกาสขโมยสิ่งนี้คืนมาให้ตอนนี้ลั่วเยวี่ยอิงกินของสิ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 831

    จากนั้นทั้งสองก็ปลอมตัวและมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังนั้นบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล แม้ว่าลานจะกว้างใหญ่ แต่ดูธรรมดามิเหมือนบ้านของตระกูลร่ำรวยก่อนเข้าไป ลั่วชิงยวนยืนยันกับทาสใบ้แล้วว่าไม่มีใครอาศัยอยู่ข้างในทาสใบ้พยักหน้าเป็นผลให้ลั่วชิงยวนเข้าไปในลานและเห็นสมุนไพรตากแห้งอยู่ในลานนั้นนางมองไปที่ทาสใบ้ด้วยความสับสน และทาสใบ้ก็ได้แต่ส่ายหัวเพื่อแสดงให้เห็นว่านางมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเข้ามาถึงลานด้านใน ก็ได้ยินเสียงซักผ้าจากลานหลังบ้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น ลั่วชิงยวนจึงเดินไปที่ประตูหลังบ้านและมองเข้าไปข้างในมีสตรีนางหนึ่งหนึ่งนั่งอยู่ที่ลานบ้าน และข้าง ๆ นางยังมีเด็กคนหนึ่งอายุประมาณสองขวบกำลังเล่นอยู่บนขั้นบันไดสตรีนางนั้นกำลังซักผ้า และมีอาภรณ์แขวนอยู่ในลานในบรรดอาภรณ์เหล่านั้น มีบางชิ้นที่ชัดเจนว่าเป็นอาภรณ์ของบุรุษและลั่วชิงยวนมิแปลกใจเลย นั่นคืออาภรณ์ของลั่วไห่ผิง!ลั่วชิงยวนตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างทันทีนี่คือบ้านเล็กของลั่วไห่ผิงสตรีนางนั้นดูเหมือนอายุยี่สิบ แต่ยังเด็กอยู่มากลั่วไห่ผิงเป็นพวกวัวกินหญ้าอ่อน น่าขยะแขยงจริง ๆลั่วชิงยวนจากไปอย่างรว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 832

    “นั่นประตูอะไร? นั่นมิใช่ช่องสุนัขลอดหรอกหรือ?”คนที่เดินผ่านไปมาพูดด้วยความตกใจคนข้างนอกต่างก็ตกตะลึงลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียงจึงเปิดม่านรถม้าออกเมื่อนางเห็นว่าประตูเล็ก ๆ ที่อยู่ถัดจากประตูหลักเปิดอยู่ ลั่วเยวี่ยอิงก็โกรธมากจนเล็บของนางจิกในฝ่ามือช่องสุนัขลอด!ลั่วชิงยวนต้องการให้นางคลานเข้าไปในช่องสุนัขลอดเช่นนั้นหรือ?สาวใช้ก้าวไปเรียกที่ประตูด้วยความมิพอใจ “พวกเจ้าหมายความว่าเยี่ยงไร! อย่างไรคุณหนูของเราก็เป็นบุตรีของอัครเสนาบดี เหตุใดเจ้าถึงทำให้นางขายหน้าเช่นนี้! เจ้าพวกขี้ข้า!”ในประตูเล็กมีเด็กรับใช้อยู่คนหนึ่งตอบว่า “เมื่อมิใช่ภรรยาหลวง ก็มิสมควรได้รับการต้อนรับที่ประตูใหญ่”“ยิ่งกว่านั้น ชายารองก็มิใช่สตรีบริสุทธิ์ หากนางต้องการเข้าตำหนัก นางก็ทำได้เพียงผ่านประตูนี้เท่านั้นแล”เมื่อได้ยินดังนั้น สาวใช้ก็โกรธ “หมายความเยี่ยงไร! ใครเป็นคนออกคำสั่ง? ท่านอ๋องอยู่ที่ใด!”“ข้ามิเชื่อว่าท่านอ๋องจะปฏิบัติต่อคุณหนูของเราเช่นนี้!”ชายหนุ่มตอบอย่างเย็นชา “พระชายาของเราบอกว่ามีประตูนี้ประตูเดียว จะเข้ามิเข้าก็ตามใจ”หลังจากพูดจบ เด็กชายก็จากไปมีเสียงฮือฮาหน้าประตูผู้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 833

    เว่ยอวิ๋นเซี๋ยถูกองครักษ์ของตำหนักอ๋องจับกุมไปต่อหน้าทุกคน และโยนเข้าไปในตรอกร้างข้าง ๆจากนั้น คนอีกกลุ่มก็กระโดดลงมาจากฟ้าพร้อมกระสอบ คลุมหัวเว่ยอวิ๋นเซี๋ยและอุ้มนางออกไปหลังจากที่ปัญหาของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยได้รับการแก้ไขแล้ว ลั่วชิงยวนก็กลับเข้าไปในลานบ้านและปิดประตูในระหว่างกระบวนการทั้งหมด นางมิได้เหลือบมองขบวนเจ้าสาวเลยด้วยซ้ำ และนางก็มิได้ตั้งใจที่จะให้ลั่วเยวี่ยอิงเข้ามาขบวนยังคงรออยู่นอกประตูใหญ่แบบนั้นผู้คนที่มามุงดูเปลี่ยนไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าลั่วเยวี่ยอิงมีความกังวล นางจึงเรียกสาวใช้อย่างร้อนใจ “ซือเยวี่ย”“คุณหนู”“นำสิ่งนี้ไปให้ลั่วชิงยวน”ลั่วเยวี่ยอิงหยิบกล่องเล็ก ๆ ที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาเมื่อนางได้รับกล่องเล็กเดิมในวันนั้น นางก็หยิบยาข้างในกินเข้าไปแล้วโยนกล่องนั้นทิ้งหลังจากที่กลับบ้าน ก็นึกขึ้นได้ว่ายังต้องมอบมันให้กับลั่วชิงยวนนางมิกล้ากลับไปหาใหม่ จึงให้คนทำกล่องเล็กอีกอัน ใส่เม็ดหอมไว้ข้างในอย่างไรลั่วชิงยวนก็มิเคยเห็นของข้างในถุงหอมอยู่แล้วหลังจากนั้นมินาน คนรับใช้ก็นำกล่องเล็กมา “พระชายา สาวใช้ของคุณหนูรองลั่วส่งมาเจ้าค่ะ”เมื่อลั่วชิงยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 834

    “ช้าก่อน!”ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียงนั้น แต่ยังคงคลานเข้าไปในช่องสุนัขลอดต่อไปครู่ต่อมา จู่ ๆ ก็มีมือมาคว้าแขนของนางแล้วดึงนางกลับไปลั่วเยวี่ยอิงเกือบล้มลงไปกองกับพื้นในตอนที่นางถูกฟู่เฉินหวนดึงตัวขึ้นมา นางก็เหวี่ยงตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวนลั่วเยวี่ยอิงมองไปที่คนตรงหน้านางด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง…”ฟู่เฉินหวนดูโกรธและดึงลั่วเยวี่ยอิงไปที่ประตูใหญ่แล้วถีบมันให้เปิดออกภายใต้แสงจันทร์ ลั่วชิงยวนซึ่งกำลังนั่งอยู่ในศาลา เห็นฟู่เฉินหวนดึงลั่วเยวี่ยอิงเข้ามาท่าทางของเขาโกรธจัด“ท่านอ๋อง...” จือเฉาหยุดอยู่ข้างหน้าและกำลังจะอธิบายแต่ฟู่เฉินหวนผลักนางออกไปด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว จือเฉาล้มลงไปกับพื้นลั่วชิงยวนตกใจและลุกขึ้นยืนทันที “ฟู่เฉินหวน นี่ท่านคิดจะทำอะไร?!”นางกำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงจือเฉาขึ้นมาเยี่ยงไรก็ตาม เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็มิทันระวัง พลันโดนตบอย่างแรงเมื่อแรงกระทบแก้ม ก็แผดเผาด้วยความเจ็บปวดเมื่อรู้สึกแสบร้อนขึ้น ลั่วชิงยวนก็เงยหน้าขึ้นมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาเย็นชาใบหน้าของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความโกรธ กำมือแน่น ความรู้สึกเสียใจแวบเข้ามา แต่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 835

    กลิ่นอายของเขาไร้มลทิน แต่สายตาของเขามิสงบมั่นคงเหมือนก่อนหน้านี้ดูแปลกมากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่หมอกู้ยังอยู่แต่หมอกู้ตายไปแล้วตำหนักอ๋องนี้ได้ตรวจสอบจนสะอาดหมดจด ไม่มีใครสามารถทำอะไรฟู่เฉินหวนได้ฟู่จิ่งหลีตกใจ “ท่านสงสัยว่าลั่วเยวี่ยอิงทำอะไรกับพี่สามเช่นนั้นหรือ?”ฟู่จิ่งหลียืนขึ้นทันที “ข้าจะจับตาดูเขาเอง!”......ฟู่เฉินหวนส่งลั่วเยวี่ยอิงไปที่ห้องแล้วพูดว่า “วันนี้ข้ามีธุระบางอย่างจึงกลับมาช้าหน่อย ทำให้เจ้าลำบากแล้ว”ดวงตาของลั่วเยวี่ยอิงแดง แนบชิดเข้าไปในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวนอย่างเข้าใจ “การที่เยวี่ยอิงสามารถแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องได้ ถือเป็นบุญสามชาติของหม่อมฉันแล้วเพคะ”เมื่อพูดอย่างนั้น มือของลั่วเยวี่ยอิงก็ตกบนเข็มขัดของฟู่เฉินหวน “เพราะความเมตตาของท่านอ๋อง เยวี่ยอิงจะดูแลท่านอ๋องอย่างดีแน่นอน”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วในเวลานี้มีเสียงเคาะประตูอย่างกังวล“พี่สาม! พี่สาม!”ฟู่เฉินหวนก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อเปิดประตูและเห็นฟู่จิ่งหลียืนรออยู่“พี่สาม ข้ามีเรื่องจะถามท่าน” หลังจากพูดอย่างนั้น ฟู่จิ่งหลีก็พาฟู่เฉินหวนจากไปก่อนที่ลั่วเยวี่ยอิงจะทันได้พ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 836

    เว่ยอวิ๋นเซี๋ยล้มเหลวในการตกลงประเด็นเรื่องการยืมเงินและมิจ่ายคืน ยืมเงินแล้วมิคืนมิได้รับการไกล่เกลี่ย กลับทำให้เรื่องทุจริตรับสินบนของตระกูลเว่ยถูกเปิดโปงขึ้นมาแทนท้ายที่สุด โฉนดทรัพย์สินมีมูลค่ามากกว่าสองแสนตำลึง ใต้เท้าเว่ยเป็นเพียงข้าราชการระดับห้าเท่านั้น จะจัดหาทรัพย์สินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไรเมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลเว่ยก็ตระหนักได้ว่า ศัตรูที่อยู่ข้างหลังพวกเขามิเพียงมุ่งเป้าไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตระกูลเว่ยทั้งตระกูลด้วยหลักฐานการทุจริตได้ถูกรวบรวมไว้นานแล้ว ทำให้ตระกูลเว่ยมิทันได้ตั้งตัวเรื่องนี้ทำให้องค์จักรพรรดิตื่นตกใจ และผลลัพธ์ก็คลี่คลายในมิช้าตระกูลของใต้เท้าเว่ยถูกเนรเทศไปทั้งหมดเนื่องจากเว่ยอวิ๋นเซี๋ยยังคงติดหนี้หอฝูเสวี่ย และลงนามในสัญญาไว้ นางจึงต้องขายตัวเองให้กับหอฝูเสวี่ยไว้เป็นหลักประกันในวันที่ตระกูลเว่ยถูกเนรเทศออกจากเมือง เว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็คลุ้มคลั่งและวิ่งไปอาละวาดที่ประตูตำหนักอ๋อง“ลั่วชิงยวน เจ้าคนเลวทราม! เจ้าหลอกข้า เจ้าวางกับดักข้า! เจ้าทำลายตระกูลของข้า!”“ใต้หล้านี้มิยุติธรรม! เมืองหลวงยิ่งใหญ่เพียงนี้ ลั่วชิงยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 837

    จนกระทั่งใต้เท้าเหอนำเงินสองแสนตำลึงและลั่วไห่ผิงเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิจากนั้นลั่วไห่ผิงก็ตระหนักได้ว่านี่เป็นกับดักที่ถูกคนขุดไว้เขายังติดในร่างแหนั้นด้วย!ข่าวใหญ่เยี่ยงนี้เผยออกไปแล้ว ตำแหน่งของอัครเสนาบดีสูงขนาดนี้แม้ว่าลั่วไห่ผิงจะบอกว่าเขาถูกใส่ร้าย แต่เขามิสามารถให้คำอธิบายแก่ราษฎรได้ องค์จักรพรรดิจึงให้ฟู่เฉินหวนตรวจสอบเหตุการณ์นี้ให้ละเอียดจากการสืบสวนพ่อตาของตนทำให้ฟู่เฉินหวนตกอยู่ในภาวะที่กลืนมิเข้าคายมิออกหลังจากที่ฟู่เฉินหวนสื่อสารกับลั่วไห่ผิงเขาก็นึกถึงหอฝูเสวี่ย และเถ้าแก่ของหอฝูเสวี่ยก็คือลั่วชิงยวนในลานบ้าน หลังจากที่ลั่วชิงยวนได้ยินข่าวที่จือเฉารายงาน ฟู่เฉินหวนก็ปรากฏตัวที่ประตูลานบ้านลั่วชิงยวนหลับตาอาบแดด มิสนใจเขาจนกระทั่งร่างนั้นบดบังแสงแดดของนางเสียงเย็นชาดังขึ้น “เรื่องเงินสองแสนตำลึงฝีมือเจ้าใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนตอบอย่างใจเย็น “ท่านอ๋องมีหลักฐานหรือ?”ฟู่เฉินหวนเกือบจะแน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลั่วชิงยวน! เขารู้ว่านางช่วยทาสใบ้เอาไว้ และคงมิน่าแปลกใจเลยหากทาสใบ้จะเปิดเผยการมีอยู่ของทางลับนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลั่วไห่ผ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1304

    ลั่วชิงยวนมิแปลกใจ นี่คือวิถีของเฉินชีต่อให้เวินซินถงมิให้นางไป เฉินชีก็จะบังคับพานางไปให้ได้ในเมื่อประสบปัญหาที่ต้องเชิญนักบวชระดับสูงมาแก้ไข หากทำเรื่องนี้สำเร็จก็จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ลั่วชิงยวน ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการทวงคืนตำแหน่งนักบวชระดับสูงในภายภาคหน้านี่เป็นสิ่งที่เฉินชีกำลังคิดอยู่......เช้าวันรุ่งขึ้นเวินซินถงมาถึงหน้าเรือนของลั่วชิงยวนนางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตามข้าไปตระกูลมู่”“นำสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ไปด้วย”กล่าวจบ เวินซินถงก็หันหลังเดินจากไปลั่วชิงยวนยังมิทันได้ถามว่านางควรนำสิ่งใดไป?เพราะสถานการณ์ของตระกูลมู่เป็นเช่นไรนางก็ยังมิรู้อีกทั้งเมื่อก่อนตอนที่นางเป็นนักบวชระดับสูงก็ไม่มีธรรมเนียมเช่นนี้ด้วย จึงมิรู้ว่าควรนำสิ่งใดไปเซี่ยหลิงที่ติดตามอยู่ข้าง ๆ เตือนลั่วชิงยวน “เจ้ามิเคยออกไปกับนักบวชระดับสูง ต้องเตรียมสิ่งใดก็ไปถามจั๋วฉ่างตงเถิด”ลั่วชิงยวนตกตะลึงไปครู่หนึ่งนางหรี่ตาลง นี่จงใจให้นางไปหาจั๋วฉ่างตงให้จั๋วฉ่างตงกลั่นแกล้งนางเพื่อระบายความแค้นให้จั๋วฉ่างตงหรือำร?ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วก็ไปหาจั๋วฉ่างตงที่เรือนเมื่อไปถึง จั๋ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1303

    ฝ่ามือที่ตบลงบนใบหน้าทำให้หลานจีล้มลงกับพื้น โลหิตไหลออกจากมุมปาก“ท่านแม่ทัพ!” หลานจีเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจมิรู้เลยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เฉินชีจิกผมของนางอย่างรุนแรง กระชากนางให้ลุกขึ้นจากพื้น แล้วบีบใบหน้าของนางด้วยพละกำลังมหาศาลพลางเค้นถามด้วยเสียงดุดัน “เจ้าทำกระไรลงไป?!”“ผู้ใดใช้ให้เจ้าให้ยาแก่นางแล้วปล่อยนางไป?!”หลานจีสับสน หยาดน้ำตาไหลรินด้วยความรู้สึกเสียใจมาก “ท่านแม่ทัพ ข้ามิรู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องใด”“มิใช่ข้าจงใจปล่อยนางไป นางไปเองต่างหากเจ้าค่ะ”“ข้ามิได้ทำอะไรเลย”เฉินชียังคงเต็มไปด้วยโทสะ “เจ้าคิดว่าข้ามิรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้ารึ!”“ข้าขอเตือนเจ้า หากเจ้ากล้าทำอะไรลับหลังอีกก็ไสหัวไป!”กล่าวจบ เฉินชีก็ปล่อยนางเขาไว้ชีวิตนางอีกครั้งเดิมทีเขาตั้งใจจะมาสังหารหลานจี แต่เมื่อเห็นน้ำตาของนางแล้วกลับรู้สึกราวกับได้เห็นลั่วเหลา จึงยอมไว้ชีวิตนางหลานจีทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง มองแผ่นหลังของเฉินชีที่จากไปด้วยความโกรธพลางร่ำไห้สะอึกสะอื้นนางมิรู้ว่าตนทำสิ่งใดผิดและมิรู้ว่าเหตุใดท่านแม่ทัพจึงมีท่าทีต่อนางเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ทั้งท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1302

    เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปในทันที“กระหม่อมเป็นองครักษ์ข้างกายองค์ชายใหญ่ โปรดอภัยให้กระหม่อมที่มิสามารถทำตามพระบัญชาได้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงผู้นี้ชอบเฉินชี หากเขาติดตามองค์หญิงไปก็คงจะได้พบกับเฉินชีเป็นแน่ มิหนำซ้ำ เกาเหมียวเหมี่ยวก็ช่วยเขาฆ่าเฉินชีมิได้เมื่อถูกเขาปฏิเสธอีกครั้ง สีหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวจึงดูมิดีนักฉินอี้จึงต้องก้าวออกมา “เหมียวเหมี่ยว คนที่คอยคุ้มครองเจ้ายังมิพออีกหรือ?”“ข้างกายพี่ใหญ่มีองครักษ์คนนี้อยู่เพียงคนเดียว เจ้าอย่าแย่งเขาไปเลย”สีหน้าของฉินอี้ดูเหมือนคนจนใจน้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสารเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวก็มิกล้าที่จะบังคับอีก นางตอบอย่างมิพอใจว่า “ก็ได้”“รอจนกว่าท่านจะมิต้องการเขาแล้ว ค่อยให้หม่อมฉันก็แล้วกัน”“หม่อมฉันค่อนข้างชอบเขา”เกาเหมียวเหมี่ยวพูดพลางมองฟู่เฉินหวน บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้มยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคล้ายกับเฉินชีมิใช่หน้าตาที่เหมือน แต่เป็นอารมณ์เย็นชาหยิ่งผยองและความกล้าหาญที่จะปฏิเสธนางโดยมิแม้แต่จะเสียงสั่นในเมื่อยังมิสามารถทำให้เฉินชีสยบต่อนางได้ในเร็ววัน การ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1301

    “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไปทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดีฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”“เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกายน้ำแกงโสมมังกรหรือ?เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สองแต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวนฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1300

    ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างใจเย็น “องค์ชายใหญ่ใส่ใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วมุ่น มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “แน่นอน! แท้จริงแล้วเจ้ารู้อะไรกันแน่!”วันนั้นในคุกใต้ดิน เกือบจะได้ฟังคำพูดต่อจากนั้นของลั่วชิงยวนแล้วแต่กลับถูกเฉินชีขัดจังหวะเสียก่อนหลังจากกลับไป เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาอาจมิใส่ใจเรื่องราวในอดีตได้ แต่นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา! เขาจะมิใส่ใจคงมิได้!ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้ม “องค์ชายใหญ่เชื่อจริงจังเลยหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการเอาชีวิตรอด จึงพูดจาเหลวไหลไปเท่านั้น”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฉินอี้ก็ตกตะลึงไปทั้งร่างมองนางด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้าว่ากระไรนะ?!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมฉันมิอยากพูดซ้ำสอง”ฉินอี้โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ก็อดกลั้นไว้ เขาไม่มีทางต่อกรกับลั่วชิงยวนได้สุดท้ายก็ได้แต่จากไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นฉินอี้จากไป เงาร่างที่แอบฟังอยู่ก็รีบจากไปเช่นกันอาการของฉินอี้นั้นมีสาเหตุจริง แต่เรื่องนี้ยังมิอาจบอกให้ฉินอี้รู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่หากพูดออกไป ปัญหาที่นางจะต้องเผชิญจะมิใช่เพียงเรื่องรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1299

    อวี๋โหรวพยักหน้า รีบเช็ดน้ำตา “ขอบคุณ”ลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบโยนเมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสถามอวี๋โหรว “อันที่จริงข้าสงสัยเรื่องนักบวชระดับสูงคนก่อน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่านางตายอย่างไร?”อวี๋โหรวตกใจเล็กน้อยคาดเดาในใจว่าลั่วชิงยวนคงสอบถามเรื่องนี้เพราะเฉินชีเพราะว่าเฉินชีก็มีใจให้ลั่วเหลาเช่นเดียวกันนางอธิบาย “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางตายอย่างไร”“วันนั้นนางบำเพ็ญเพียรอยู่ที่หอเทียนฉี วันรุ่งขึ้นเมื่อมีคนมาพบก็เหลือเพียงโลหิตกองเต็มพื้น”“บนพื้นยังมีร่องรอยการลากศพด้วย”“แต่ส่งคนออกไปตามหาศพตั้งมากมายก็หามิพบ”“เฉินชีแทบจะพลิกทั่วทั้งวัง แทบจะคลุ้มคลั่งสังหารคนในสำนักนักบวชไปเสียสิ้น”“ยังดีที่จักรพรรดิทรงนำราชองครักษ์เกราะเหล็กมาด้วยพระองค์เอง จึงสามารถควบคุมตัวเฉินชีไว้ได้”“เรื่องการตายของนักบวชระดับสูงนั้นมีการสืบสวนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเบาะแสใด ๆ เบาะแสทั้งหมดหยุดอยู่ที่หอเทียนฉี”“นอกหอเทียนฉีไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ”“นานวันเข้า เรื่องนี้ก็เงียบหายไป”ตามคำบอกเล่าของอวี๋โหรว ลั่วชิงยวนก็หวนนึกถึงคืนนั้นหอเทียนฉีเป็นสถานที่ที่นักบวชระดับสูงจะท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status