แชร์

บทที่ 497

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“ช่วย… ช่วยด้วย...” ท่านอาฉินพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง นางยกขาขึ้นแล้วเตะประตูห้องขังเพื่อดิ้นรน แต่มือของลั่วชิงยวนกลับบีบคอนางไว้แน่น มือนั้นซีดขาวจากการออกแรง ทำให้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

ท้ายที่สุด ผู้คุมขังก็รีบเข้ามาช่วยท่านอาฉินจากลั่วชิงยวนได้ทัน

ท่านอาฉินที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วล้มลงกับพื้น นางหอบหายใจแรง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองคนที่ประตูห้องขัง จิตใจของนางก็เต็มไปด้วยชื่อลี่เซียงและร่างของลิ่นฝูเสวี่ย

นางพยายามตั้งสติเพื่อสงบอารมณ์ ปกปิดความกลัว และจ้องมองไปยังลั่วชิงยวน

“ดูเหมือนเจ้าจะเป็นพวกมิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตากระมัง?! โม่เซียนอวี้ได้ร้องทุกข์กับองค์จักรพรรดิแล้วว่าเจ้าเข้าหาองค์ชายเจ็ดและได้รับทรัพย์สมบัติของราชวงศ์ไปมากกว่าสามแสนตำลึงอย่างมิชอบ เรื่องนั้นเล่าลือไปทั่วทั้งศาล!”

“อ๋องผู้สำเร็จราชการกังวลใจอย่างยิ่งหวังเพียงจะปกป้ององค์ชายเจ็ดให้ได้ เจ้าคิดว่าเขาจะยังห่วงใยชีวิตและความตายของเจ้าอีกหรือ?”

“จะไม่มีผู้ได้มาช่วยเจ้าได้แน่!”

“หากเจ้าละทิ้งโอกาสที่ข้ามอบให้ เช่นนั้นก็นอนรอความตายอยู่ที่นี่เถอะ!”

หลังจากที่ท่านอาฉินพูดจบ นางก็สวมเสื้อคลุมกับหมวกแล้วจาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 498

    ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ใต้เท้า ท่านกล้าลงไม้ลงมือรุนแรงกับข้าอย่างนั้นหรือ?”“ใต้เท้าเหอ ท่านเองก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายเจ็ดกับท่างอ๋องผู้สำเร็จราชการที่มีต่อข้า เช่นนั้นท่านมิกลัวว่าพวกเขาจะซักถามเรื่องนี้กับข้าในภายหลังหรือ?!”ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ผู้นี้จะมีอำนาจบาตรใหญ่เพียงใด เขาก็มิกล้าละเมิดต่อองค์ชายแน่ มิต้องพูดถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการองค์ปัจจุบันเลยในขณะนั้น นางเห็นสีหน้าสับสนของใต้เท้าเหอ ก่อนที่เขาจะพูดอย่างอาจหาญว่า "ลงนามในหลักฐานคำให้การนี้เสีย แล้วค่อยมาว่ากัน! มิฉะนั้นหาอย่าได้มีการต่อรองใดทั้งนั้น!”ผู้คุมเข้ามาหานางอีกครั้งพร้อมกับแผ่นเหล็กร้อนสีแดงแต่ในขณะนั้น ลั่วชิงยวนมองเห็นไอสีเขียวปนดำจาง ๆ ปรากฏกลางหว่างคิ้วของใต้เท้าเหอ และพลังงานนั้นก็ค่อย ๆ หมุนวนออกมาลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ดวงตาของนางเย็นลงครู่หนึ่ง และนางก็เอ่ยขึ้นทันทีว่า “ใต้เท้า ไม่นานมานี้คงเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในจวนของท่าน นั่นคงเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลท่านเสียด้วย”ทันทีที่ลั่วชิงยวนพูด สีหน้าของใต้เท้าเหอก็เปลี่ยนไป‘นางรู้ได้อย่างไร?’ลั่วชิงยวนมองไปที่พลังงานสีเขียวปนดำที่จู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 499

    หากมิได้รับยาถอนพิษภายในสามชั่วโมง นางจะต้องตายอย่างแน่นอน!แต่อาการอาเจียนนี้มิได้เกิดจากพิษลั่วชิงยวนมองไปรอบห้อง ในห้องนี้นางเห็นวิญญาณที่ร้ายกาจมากที่สุดอยู่ที่นี้ใต้เท้าเหอมองนางด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามีทักษะทางการแพทย์ด้วยรึ?”ลั่วชิงยวนเดินไปที่โต๊ะแล้วนั่งลง นางหยิบพู่กันป้ายหมึกแล้วเขียนใบเทียบยา พลางพูดขึ้นว่า “ฮูหยินถูกวางยาพิษ”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ใต้เท้าเหอที่ได้ฟังก็ตกใจอย่างมากเขาเหลือบมองนางรับใช้และขอให้นางรับใช้ทั้งหมดออกไปหลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว ใต้เท้าเหอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะ สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาว “สาวน้อย เจ้าเป็นเพียงนางรำเหตุใดจึงมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้?”ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปากขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการเขียนใบเทียบยา นางยิ้มและพูดว่า “พิษของฮูหยินเหอน่าจะมาจากข้า”“ไม่ว่าผู้สนับสนุนผู้ว่าราชการมณฑลสักจักมีอำนาจเท่าใด ไม่ว่าเขาจะกล้าหาญเพียงใด ก็มิอาจรุกรานอ๋องผู้สำเร็จราชการอย่างเปิดเผยได้”“แม้ใต้เท้าเหอรีบร้อนบีบบังคับให้ข้าลงนามในบันทึกหลักฐานคำให้การด้วยวิธีทรมาน แต่ด้วยความรีบร้อนเช่นนี้ เป็นเพราะถูกผู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 500

    ผู้ที่สามารถบีบบังคับใต้เท้าเหอได้จะต้องมีตัวตนลึกลับซับซ้อน และน่าจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังท่านอาฉินด้วยตราบใดที่นางสามารถสืบหาได้ว่าคนผู้นี้คือใคร บางทีนางอาจพบสาเหตุที่ทำให้คนมากมายในหอสมุทรมรกตตายลงก็เป็นได้ใต้เท้าเหอตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ นี่เป็นการข่มขู่ให้เขาเปิดเผยผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างชัดเจนฝูเสวี่ยผู้นี้กล้าไม่เบา นางต้องการสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริง ๆ “แม่นาง เรื่องนี้ไม่มีนัยสำคัญอะไร เจ้าอย่ารู้เสียดีกว่า”ลั่วชิงยวนยิ้ม “คนผู้นี้อยากให้ข้าตาย แล้วเหตุไฉนข้าจึงมิควรรู้เล่า?”“ใต้เท้าเหอเชื่อเรื่องนี้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”สีหน้าของใต้เท้าเหอเปลี่ยนไปอย่างดูไม่ได้ลั่วชิงยวนพูดต่อ “ข้ากำจัดพิษให้ฮูหยินของท่านแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มิปล่อยท่านไว้แน่ หากท่านบอกข้า ข้าอาจช่วยท่านคิดหาวิธีแก้ปัญหาได้”“เจ้าน่ะหรือ? เจ้าเป็นเพียงนางรำ เจ้าจักทำกระไรได้?” ใต้เท้าเหอไม่เชื่อลั่วชิงยวนตอบว่า “ข้าไม่มีอำนาจ บางทีคงทำกระไรมิได้ แต่ข้ารู้จักองค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการ”“ท่านลองจะพิจารณาดูได้หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใต้เท้าเหอก็ส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 501

    องครักษ์รีบมารายงานว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการและองค์ชายเจ็ดบุกเข้ามาแล้วใต้เท้าเหอรีบเข้าไปต้อนรับทันทีอย่างไรก็ตาม องค์ชายเจ็ดโกรธมาก เขาผลักใต้เท้าเหอเข้ากับกำแพง “ฝูเสวี่ยอยู่ที่ไหน?!”ใต้เท้าเหอชี้นิ้ว“ข้าบอกแล้วไงว่าเครื่องประดับทองคำพวกนั้นล้วนแต่เป็นเงินของข้า องค์จักรพรรดิยังมิทรงว่ากระไร แล้วเกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย?!”“ฝูเสวี่ยเป็นผู้บริสุทธิ์ ปล่อยนางเดี๋ยวนี้!”ฟู่จิ่งหลีมิเคยโกรธมากเช่นนี้มาก่อน เขาแทบไม่เคยปรากฏตัวที่นี่เลย เขามักจะมีชีวิตอิสระและมีความสุข นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเหยียดหยามเช่นนี้ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว เขารีบวิ่งเข้าไปในส่วนลึกของคุกอย่างรวดเร็วเขาเพ่งมองห้องขังแต่ละห้องเมื่อฟู่เฉินหวนเห็นร่างของคนที่เต็มไปด้วยเลือด ขมับของเขาก็ปรากฏเส้นเลือดปูดขึ้นทันที เขารีบเข้าไปในห้องขัง ถอดเสื้อคลุมออกแล้วพันรอบตัวนางไว้ลั่วชิงยวนตกตะลึง นางมองดูท่าทางสงบแต่มีความโกรธแฝงอยู่ของเขา นางจึงกำฝ่ามือแน่นเล็กน้อยฟู่เฉินหวนช้อนร่างนางขึ้น แล้วอุ้มออกไปฟู่จิ่งหลีปล่อยตัวใต้เท้าเหอแล้วจึงติดตามฟู่เฉินหวนออกจากที่ว่าการไปตอนที่เขาเดินออกไป เขาก็บังเอิญเจอเข้ากับค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 502

    ฟู่อวิ๋นโจว!เหตุใดฟู่อวิ๋นโจวจึงอยู่ที่นี่?นางถูกฟู่เฉินหวนพาออกมา เขาคอยเฝ้าดูนางอยู่ตลอดหรือเปล่า?นางจ้องมองที่ตรอกต่อไป และฟู่เฉินหวนก็มองตามด้วยอยากรู้อยากเห็นเช่นเดียวกันเขาเห็นร่างของฟู่อวิ๋นโจวแต่เขาก็มิได้พูดอะไร แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่พอใจก็ตาม“ข้าหนาว"น้ำเสียงของเขาเย็นชาลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปิดม่านลงเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของฟู่เฉินหวนแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่แปลกใจเลยว่าเหตุไฉนฟู่อวิ๋นโจวจึงมาที่นี่รถม้าหยุดลงที่หอฝูเสวี่ยลั่วชิงยวนเอ่ยว่า “สำหรับวันนี้ต้องขอบพระทัยท่านทั้งสองอย่างมาก ฟ้าใกล้สางแล้ว ท่านทั้งสองควรกลับไปพักผ่อนเพคะ”นางมิได้วางแผนที่จะเชิญพวกเขาเข้าไปด้านในแม่เล้าเฉินและคนอื่น ๆ ช่วยพยุงลั่วชิงยวนลงจากรถม้าอย่างรวดเร็วฟู่เฉินหวนพยักหน้าเบา ๆ เขาขอให้คนขับเลี้ยวรถม้ากลับก่อนที่ฟู่จิ่งหลีจะจากไป เขาเตือนนางว่า “แม่นางฝูเสวี่ย รีบเชิญหมอมาเร็ว ๆ เถอะ เรื่องอื่นหาอย่าได้ต้องกังวล ข้าจัดการให้เอง!”รถม้าเลี้ยวกลับและจากไป ลั่วชิงยวนเดินตามแม่เล้าเฉินเข้าหอฝูเสวี่ยไป“เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา” แม่เล้าเฉินประคองนางอย่างระม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 503

    ใต้เท้าเหอ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตกปากรับคำ แต่เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้ายังมีหน้าที่ทางราชการต้องดูแล เช่นนั้นข้าจึงมิอาจดื่มเหล้าได้ ข้าจักดื่มเพียงชาถ้วยเดียวแล้วออกไป!”“ตกลง เอาเถอะ ดื่มชาสักถ้วยก็พอแล้ว!”ใต้เท้าเหอขึ้นไปชั้นบน ลั่วชิงยวนและแม่เล้าเฉินทั้งคู่เข้ามาในห้องแล้วปิดประตู“แม่นาง เจ้ามีแผนหรือไม่?” ใต้เท้าเหอถาม“ข้าอยากเห็นฝูจ้าว” ลั่วชิงยวนตอบอย่างตรงไปตรงมาเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใต้เท้าเหอก็ประหลาดใจเล็กน้อยลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “ผู้อาวุโสเหอ ท่านต้องอธิบายต่อหน้าฝูจ้าวว่าข้าเป็นคนพิเศษเพียงใด วิธีที่ดีที่สุดคือดึงดูดความสนใจของฝูจ้าว และปล่อยให้เขามาหาข้าด้วยตัวเขาเอง”“ใต้เท้าเหอ โปรดบอกข้าเกี่ยวกับบุคลิกและนิสัยของฝูจ้าวด้วยเถิด”ใต้เท้าเหอพยักหน้าแล้วบอกทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับฝูจ้าวให้นางฟังลั่วชิงยวนฟังและจดบันทึกอย่างเงียบ ๆ จากนั้นนางก็พูดต่อว่า “นอกจากนี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง”“ข้าวางแผนที่จะแปลงเครื่องประดับทองเหล่านี้ให้เป็นเงินและใช้จ่ายออกไป เมื่อถึงยามนั้น ข้าต้องการให้ใต้เท้าเหอให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกเมื่อถึงเวลา”ใต้เท้าเหอรู้ส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 504

    หัวใจของฟู่เฉินหวนเต้นรัวเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขามองฟู่จิ่งหลีด้วยสายตาจริงจังทันทีก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง “ภรรยาสหายมิอาจยุ่ง!”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินจากไปเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่จิ่งหลีก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “อะไรกัน? ท่านอยากตบแต่งกับนางในฐานะชายาจริง ๆ หรือ พวกตาแก่ในที่ว่าการพวกนั้นพูดอะไรอีก?”……ฝูเสวี่ยเปิดโรงทานและร่วมมือกับโรงหมอแห่งใหญ่หลายสิบแห่งในเมืองหลวง เพื่อจัดให้มีการรักษาเป็นเวลาเจ็ดวัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาลและค่ายาข่าวนี้ยังสร้างความฮือฮาในที่ว่าการด้วยไม่มีผู้ใดกล้าพูดถึงทรัพย์สินเหล่านั้นอีกเนื่องจากเงินถูกใช้ไปหมดแล้ว และใช้ไปในลักษณะที่เที่ยงตรงยุติธรรม สมควรได้รับการยกย่อง!หากฝูเสวี่ยมีเจตนาแอบแฝง สิ่งที่แขวนอยู่คือชื่อของอ๋องผู้สำเร็จราชการและองค์ชายเจ็ด หากเกิดอะไรขึ้น จะมีผลกระทบต่ออ๋องผู้สำเร็จราชการและองค์ชายเจ็ดฝูเสวี่ยจะมิได้รับผลประโยชน์ใดเลย ทางการก็มิอาจหาเหตุผลใด ๆ มากล่าวหานางได้แต่นางไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจริง ๆ หรือ? นั่นมิเป็นความจริงเช่นกันอย่างน้อยชื่อเสียงของหอฝูเสวี่ย ก็เป็นไปในทิศทางที่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 505

    เสียงของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้นลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว “รูปงามหรือ? มิงามเท่าฟู่เฉินหวนหรอก”“รูปลักษณ์ของอ๋องผู้สำเร็จราชการนั้นมิธรรมดาจริง ๆ แต่เขาเย็นชาเกินกว่าที่ข้าจักเข้าถึงได้”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “เจ้าหมายความเยี่ยงไร คุณชายท่านนี้เข้าถึงได้ง่ายงั้นรึ? แต่เจ้าเห็นหรือไม่ หลังจากที่เขาเข้ามา เขามิยอมให้สตรีนางใดแตะต้องเขาเลย”ลิ่นฝูเสวี่ยหัวเราะเสียงดัง “เมื่อท่านมองบุรุษ ท่านมิอาจมองแค่รูปร่างหน้าตาของเขาเท่านั้น ท่านต้องมองตาของเขาด้วย เมื่ออ๋องผู้สำเร็จราชการมาที่หอฝูเสวี่ย แม้ว่าหอจะเต็มไปด้วยสตรีงดงามก็ตาม แต่สายตาของเขากลับว่างเปล่านัก”“เหมือนพระภิกษุผู้ไกลจากกิเลสและมิเห็นสตรีอยู่ในสายตาเลย”“ทว่าบุรุษผู้นี้อาจดูเหมือนเข้าถึงได้ยาก แต่สายตาที่เขาจ้องมองนางทั้งหลายมิอาจหลอกลวงผู้ใดได้ แม้เป็นพระภิกษุก็ยังเป็นภิกษุปลอมที่มิอาจหลุดพ้นกิเลสได้”ลั่วชิงยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนบุรุษทั้งในใต้หล้าจักมีความคิดเช่นเดียวกันนี้!”“มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว ที่จะต้องพยายามดึงดูดความสนใจของคุณชายผู้นี้”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลิ่นฝูเสวี่ยก็ตกใจ “ข้าหรือ?

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1217

    “พ่ะย่ะค่ะ!”ศพถูกนำออกจากตำหนักอ๋องเฉินชีที่กำลังรีบมาที่ตำหนักอ๋องบังเอิญเห็นเข้า จึงรีบเข้าไปในตำหนักอ๋อง แล้วตรงไปยังเรือนที่ลั่วชิงยวนพักอาศัยก็เห็นเรือนที่ถูกไฟไหม้จนหมดสิ้นเฉินชีตกใจมาก รีบคว้าคอเสื้อคนรับใช้คนหนึ่งมาถามเสียงดัง “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”ท่าทางดุร้ายนั้นทำให้ทุกคนหวาดกลัว“พระชายา... ถูกไฟคลอกสิ้นไปแล้ว!”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเฉินชีก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันทีก่อนจะรีบไปที่เรือนด้านหน้า ปรากฏตัวต่อหน้าฟู่เฉินหวน จิตสังหารแผ่ซ่านจนทำให้องครักษ์ในเรือนชักดาบขึ้นมาด้วยความระมัดระวังแล้วเข้าล้อมเฉินชีไว้“ฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”ฟู่เฉินหวนที่มีสีหน้าเย็นชากล่าวอย่างใจเย็น “ตายแล้ว”เฉินชีโกรธจัด กระโจนเข้าใส่ฟู่เฉินหวน “ไฟไหม้เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?!”ถึงแม้จะมิใช่เขาที่จุดไฟ ก็ต้องเป็นเขาที่สั่งให้คนจุด!มิเช่นนั้นทั้งตำหนักอ๋อง เหตุใดจึงมีเพียงเรือนของลั่วชิงยวนที่ถูกไฟไหม้!คนในตำหนักมากมาย เหตุใดจึงมีเพียงลั่วชิงยวนคนเดียวที่ตาย!แต่ฟู่เฉินหวนหาได้ปฏิเสธไม่ เขามองเฉินชีด้วยแววตาดุดัน เต็มไปด้วยความเป็นศัตรู“นางทรยศข้า ต่อให้ข้าต้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1216

    สุดท้ายเหลือเพียงช่องเล็ก ๆ ที่มีแผ่นไม้ตอกปิดไว้ กลายเป็นหน้าต่างที่เปิดปิดได้ในตอนนั้นลั่วชิงยวนยังรู้สึกโชคดีที่เขามิได้ปิดตายนางไว้หลังกำแพงแต่หลังจากที่ปิดหน้าต่างนั้นแล้วก็ถูกลงกลอนจากด้านนอก บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความมืดมิดได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปห่างไกลออกไปเรื่อย ๆลั่วชิงยวนพิงกำแพงพลางทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรงเมื่อมองค่ายกลขนาดใหญ่แล้วก็รู้สึกหดหู่ใจครั้งนั้นนางช่างรู้เท่ามิถึงการณ์ กลับเป็นผู้สร้างกรงขังตนเองเสียได้เมื่อนานมาแล้ว เพื่อแลกชีวิตของลั่วหลางหลางคืนมานางจึงได้ตั้งค่ายกลผนึกห้องนี้เอาไว้เดิมทีที่นี่ควรจะเป็นเรือนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ตอนนั้นนางมิเคยคิดเลยว่าสุดท้ายตนเองจะถูกขังไว้ที่นี่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกมึนหัวและล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง......จือเฉาซื้อของมากมายและกลับมายังตำหนักอ๋องนางถือสมุนไพรเดินไปที่เรือนครั้งนี้ซื้อสมุนไพรมามากมาย ต้องทำให้แผลของพระชายาหายดีได้อย่างแน่นอนแต่เมื่อเข้าไปในเรือนด้านในก็ได้ยินเสียงดังโวยวายมีแต่ความวุ่นวายสับสนจือเฉาตกใจเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นแสงไฟลุกไหม้มาจากทางเรือนพระช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1215

    และสองคือช่วยจือเฉาขนของสิ่งที่ทำให้จือเฉาตกใจคือ เดิมทีนางคิดว่าจะไปที่หอฝูเสวี่ยเพื่อเบิกเงิน แต่กลับพบว่าองครักษ์ช่วยจ่ายเงินให้นางจือเฉางุนงงตลอดทาง มิเข้าใจว่าท่านอ๋องต้องการทำอะไรกันแน่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ร้านค้าที่เปิดมีมิมาก ดังนั้นจือเฉาจึงต้องวิ่งไปหลายที่โดยเฉพาะการหาสมุนไพร นางแทบจะต้องเคาะประตูโรงหมอและร้านขายยาทั่วเมืองหลวง......ในคืนนั้นลั่วชิงยวนนอนซมอยู่บนเตียง ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออกลมหนาวพัดโชยเข้ามา ทำให้ลั่วชิงยวนไอออกมา“แค่กแค่กแค่ก... จือเฉา ดูสิว่าหน้าต่างถูกลมพัดเปิดออกหรือไม่... แค่กแค่กแค่กแค่กแค่ก...”ลั่วชิงยวนไอมิหยุด ได้แต่มุดเข้าไปในผ้าห่มแต่ทันใดนั้น ผ้าห่มก็ถูกกระชากออกลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่น เงยหน้าขึ้นจึงเห็นฟู่เฉินหวนนางพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง “ท่านจะทำอะไร?”นางอ่อนแอจนแม้แต่การถามในตอนนี้ก็ยังไร้เรี่ยวแรงแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิพูดอะไรสักคำจากนั้นองครักษ์ก็กรูกันเข้ามาในห้อง จับแขนของลั่วชิงยวนและลากนางออกจากห้องความหนาวเหน็บถาโถมเข้ามา ลั่วชิงยวนอ้าปากจะพูด แต่กลับถูกองครักษ์ปิดปากไว้แน่นลั่วชิงยวนที่บาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1214

    “หากต้องการแก้ไข มีเพียงการที่หม่อมฉันต้องไปซีหลิงด้วยตัวเอง”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างหนักแน่นนี่เป็นหนทางรอดเดียวของนางเมื่อฟู่เฉินหวนได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขามองนางด้วยความสงสัย “นี่เป็นผลลัพธ์เดียวหรือ?”“เพคะ”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิค่อยเชื่อ มองนางด้วยแววตาดุดัน “ไม่มีเข็มทิศอาณัติสวรรค์ จะทำนายได้แม่นยำหรือ?”“แม่นยำเพคะ”“เข็มทิศอาณัติสวรรค์เป็นเพียงตัวช่วย มิใช่สิ่งจำเป็น”“ทิศทางหลักจะมิผิดพลาด”แท้จริงแล้วนางทำนายหนทางรอดของตัวเองการทำนายโชคชะตาบ้านเมือง มีเพียงเข็มทิศอาณัติสวรรค์เท่านั้นที่ทำนายได้กองทัพแคว้นหลีบุกประชิด เป็นนางเองที่บอกให้เฉินชีทำ สิ่งที่นางต้องการทำนายคือเส้นทางของตัวเองหลังจากที่ฟู่เฉินหวนฟังแล้วก็มิได้ตอบ เพียงแค่หันหลังเดินจากไป......ลั่วฉิงกำลังรอข่าวจากฟู่เฉินหวนอย่างกระวนกระวาย เดินวนไปมาด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนมาแล้ว จึงรีบเข้าไปถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? ผลลัพธ์คืออะไร?”ฟู่เฉินหวนตอบ “เป็นภัยพิบัติของซีหลิง”ได้ยินดังนั้น ลั่วฉิงก็ตกใจเล็กน้อย “ภัยพิบัติของซีหลิงหรือ? หมายความว่าอย่างไร? แคว้นหลีต้องการยึดครองซีหลิงงั้นหรื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1213

    สายลมหนาวพัดผ่านมา ปอยผมของลั่วชิงยวนปลิวไสวตัดกับผ้าคลุมสีขาว ทำให้ร่างบางของนางดูราวกับจะปลิวหายไปกับสายลมในตอนนั้นก็มีขบวนคนเดินมาเมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ข้างหน้าในชั่วขณะที่สบตากันก็เกิดอารมณ์ที่ซับซ้อนเมื่อเฉินชีเห็นฟู่เฉินหวน เขายกยิ้มอย่างเย็นชา โอบนางไว้แน่นขึ้นลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน“เฉินชี! เจ้ายังกล้ามาอีกรึ!” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง โทสะปะทุในใจองครักษ์รีบเข้ามาล้อมเฉินชีและลั่วชิงยวนไว้เฉินชีจำใจปล่อยลั่วชิงยวนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาเหลา ข้าจะรอเจ้า”กล่าวจบ เขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหนีไปองครักษ์รีบไล่ตามส่วนลั่วชิงยวนยืนนิ่งอยู่กับที่ มองฟู่เฉินหวนที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง แววตาซับซ้อนนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ“บทเรียนเมื่อวานคงยังมิเพียงพอ เจ้ายังกล้าแอบออกจากตำหนักมาพบเฉินชีอีกรึ?!”ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะอธิบาย ได้แต่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “หากท่านคิดเช่นนั้น หม่อมฉันก็มิมีทางเลือก”“เหตุใดหม่อมฉันจึงมาอยู่ที่นี่ ในใจของท่านน่าจะรู้ดีกว่าหม่อมฉัน”เมื่อคืนฟู่เฉินหวนมิสามารถเค้นวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์จากนางได้ จึงส่งนา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1212

    ทั้งสองหันไปมองจึงเห็นเฉินชีที่แผ่รังสีอำมหิตเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าเฉินชีมองลั่วฉิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วฉิงถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก “ข้าสิต้องถามเจ้า เหตุใดจึงส่งกองทัพมากะทันหัน? นี่มิได้อยู่ในแผนของเรา และเจ้าก็มิได้บอกข้าล่วงหน้า”เฉินชีหรี่ตาลง “ข้าจะทำอะไรต้องรายงานเจ้าด้วยรึ? เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาขัดขวางข้า?”ลั่วฉิงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย นางรีบคว้าเข็มทิศอาณัติสวรรค์มาถือไว้ เพราะกลัวว่าของล้ำค่าที่ได้มาจะหายไป“เฉินชี! ข้าแค่ต้องการสิ่งที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก!”เฉินชีมองลั่วชิงยวน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ก่อนจะพุ่งเข้าไปบีบคอของลั่วฉิงแล้วต่อยเข้าที่หน้าอกของลั่วฉิงลั่วฉิงกระอักเลือด ร่างกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างลั่วชิงยวนได้ยินเสียงร่างตกกระทบพื้นจากที่สูง จึงรู้ว่าที่นี่คือชั้นสองน่าจะเป็นโรงเตี๊ยมเฉินชีเดินไปที่หน้าต่าง มองลงไป เห็นเพียงร่างของลั่วฉิงวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหายไปในฝูงชนเดิมทีเฉินชีอยากจะตามไป แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็มิได้ตามไปหากลั่วฉิงตาย ลั่วชิงยวนก็จะไม่มีภัยคุกคาม นางอาจจะมิยอมไปแคว้นหลีกับเขาเช่นนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status