Share

บทที่ 1255

Author: หว่านชิงอิ๋น
ร่างผอมบางภายใต้ผ้าคลุมสีดำ ถึงแม้ว่าสีหน้าจะมิซีดเซียวเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังคงซีดขาวอยู่บ้าง

นางเดินไปที่ลาน

หรี่ตามองแสงแดดยามเช้า

ดวงตาของนางยังคงมิค่อยชินกับแสง

ทำให้แสบตาจนน้ำตาไหล

ดูเหมือนว่าหลังจากที่ออกมาจากห้องลับ ดวงตาของนางก็มิสามารถทนแสงที่สว่างจ้าได้ มิรู้ว่าต่อไปจะหายหรือไม่

โฉวสือชีพาคนอื่น ๆ เดินมา

“สีหน้าของเจ้าดูดีขึ้นมาก” โฉวสือชีมองลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “แก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้พวกเจ้าได้แล้ว”

ดังนั้น ลั่วชิงยวนจึงลงมือแก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้ทุกคน

เมื่อเห็นว่ารอยแผลเป็นจากยันต์ไม่มีแสงสีทองอีกต่อไป ทุกคนก็ดีใจมาก

นี่หมายความว่าพวกเขาเป็นอิสระแล้ว!

หงไห่ยิ่งโหดเหี้ยม เขาหยิบมีดมาปาดรอยแผลเป็นที่ไหล่ออก แล้วกล่าวว่า “นับจากนี้ข้ามิใช่ทาสอีกต่อไปแล้ว!”

“ชาตินี้จะมิเป็นทาสอีกแล้ว!”

“ใครก็อย่าหวังจะสลักสิ่งนี้ให้ข้าได้อีก!”

มันเป็นการกระทำที่โหดร้ายนองเลือด แต่ลั่วชิงยวนกลับเห็นความตื่นเต้นดีใจในแววตาของหงไห่

ราวกับมิรู้สึกเจ็บปวด

ทุกคนต่างตื่นเต้น

ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ข้าจะพาพวกเจ้าหนีออกไป”

กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็เดินไปที่ประตู หยิบเข็มทิศอาณัติ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1256

    โฉวสือชีตกตะลึงเป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอสตรีที่พูดจาโอหังเช่นนี้ตระกูลนักบวชหญิงมีสถานะเทียบเท่าราชวงศ์ แม้แต่จักรพรรดิยังต้องเกรงใจนักบวชหญิงสตรีผู้นี้กลับบอกว่าจะให้ตระกูลนักบวชหญิงมาอ้อนวอนให้นางเข้าร่วม มิรู้ว่านางเอาความมั่นใจมาจากไหน......ทุกคนเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมอย่างองอาจโฉวสือชีเป็นคนควบคุมเงินของกลุ่ม ตอนนี้จึงเลี้ยงอาหารอย่างมิสนราคา ถือเป็นการฉลองลั่วชิงยวนที่ไม่มีเงินติดตัวก็ได้กินอาหารโดยมิต้องจ่ายเงินนางนั่งข้างหน้าต่างโฉวสือชียกแก้วขึ้น “หวังว่าต่อไปจะร่วมมือกันอย่างมีความสุข”ลั่วชิงยวนคลี่ยิ้มจาง หยิบแก้วขึ้นมาด้วยนิ้วเรียวและชนกับเขาเบา ๆ “แน่นอน”“เพราะอย่างไรเสีย เจ้ากับข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น”ลั่วชิงยวนยกยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าซีดเซียวนั้นมีความหมายลึกซึ้ง แววตาลึกล้ำเย้ายวนในตอนนั้นหัวใจของโฉวสือชีเต้นรัวราวกับถูกนางมองทะลุโฉวสือชีพยายามปิดบังความตื่นตระหนกในใจหยิบตำราอาคมนักบวชหญิงออกมาวางไว้ข้างนาง“เจ้าอาจจะมิต้องการตำราเล่มนี้แล้ว แต่ข้าเก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์”โฉวสือชีน่าจะขโมยตำราอาคมนักบวชหญิงเล่มนี้มาต้องยอมรับว่า ตำราอาคมนักบวชหญิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1257

    หงไห่รีบเก็บมีด แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันใดคนอื่น ๆ ก็ทำเช่นเดียวกันลั่วชิงยวนนั่งพิงเก้าอี้ แสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าต่างส่องร่างของนางครึ่งหนึ่งใบหน้างดงามนั้นครึ่งหนึ่งบริสุทธิ์ราวกับเทพธิดา อีกครึ่งหนึ่งกลับมืดมนราวกับปีศาจนางเลิกคิ้ว มิเอ่ยคำใดสักคำแต่สำหรับฉินอี้แล้ว สีหน้าเช่นนี้กลับเต็มไปด้วยการท้าทายและดูถูกเหยียดหยามวายร้ายทั้งสิบคนยอมสยบ!ยอมสยบต่อสตรีผู้อ่อนแอชนิดที่ว่าต่อยทีเดียวก็ตาย!มิใช่แค่ฉินอี้ที่ตกตะลึงองครักษ์ชุดเกราะทั้งหมดต่างตกตะลึงคนชั่วร้ายทั้งสิบคนมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ วิธีการโหดร้าย โดยเฉพาะหงไห่ที่แทบจะฆ่าทุกคนที่เห็น!แต่ตอนนี้ พวกเขากลับคุกเข่าให้สตรีนางหนึ่งภาพที่น่าตกใจนี้ทำให้ทั้งชั้นสองเงียบสงัดท่ามกลางความเงียบที่น่าตกใจนี้ ลั่วชิงยวนก็หยิบตำราอาคมนักบวชหญิงขึ้นมา แล้วโยนไปให้ฉินอี้“คืนให้ท่าน”ฉินอี้รับไว้ เขากำตำราอาคมแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดขึ้นมาเขาพยายามอดกลั้นโทสะ กล่าวว่า “ถึงจะเป็นเช่นนี้ ข้าก็ยังปล่อยพวกเจ้าไปมิได้”“เจ้าทำให้วงเวทของค่ายทาสนักโทษวุ่นวาย วงเวทนั้นเป็นนักบวชหญิงคนก่อนที่ตั้งขึ้น ยากที่จะฟื้นฟู”“พว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1258

    แววตาเฉียบคมดุดัน น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง กลับทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกถึงความตื่นตระหนกของนางลั่วชิงยวนฟุบลงบนโต๊ะอย่างอ่อนแรง มองนางอย่างสะลึมสะลือพยายามถามอย่างมิยอมแพ้ “เหตุใด?”เวินซินถงมีแววตาเย็นชา “เพราะเจ้าแตะต้องสิ่งที่มิควรแตะต้อง”เวินซินถงชักมีดออกมา แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินเข้าหาลั่วชิงยวน“เจ้าเป็นคนของแคว้นเทียนเชวีย หากเจ้าสามารถใช้วงเวทนั้นได้ ตระกูลนักบวชหญิงจะมีหน้าไปพบใครได้?”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าพยายามอย่างหนักกว่าจะขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้ ข้าจะมิยอมให้เจ้าคุกคามตำแหน่งของข้า”“มิว่าเจ้าจะฟื้นฟูได้จริงหรือพูดโกหก ข้าก็จะมิไว้ชีวิตเจ้า!”เวินซินถงเห็นว่าสตรีผู้นี้อ่อนแอและตัดสินใจฆ่านางแล้ว จึงพูดความในใจออกมากล่าวจบ เวินซินถงก็ใช้มีดแทงไปที่คอของลั่วชิงยวนหมายจะปลิดชีพด้วยการแทงเพียงครั้งเดียวแต่ในจังหวะที่ถูกแทง ลั่วชิงยวนก็คว้าข้อมือของนางไว้ชั่วขณะนั้นเวินซินถงตกตะลึงนางมิได้โดนพิษหรอกหรือ?ลั่วชิงยวนออกแรงบีบข้อมือของนาง เวินซินถงเจ็บจนมือสั่น ปล่อยมีดหล่นลงพื้นแต่เวินซินถงตอบสนองอย่างรวดเร็ว อีกมือหนึ่งคว้ามีดแทงไปที่คอของลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1259

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยความอ่อนแรงเวินซินถงบอกว่า นางพยายามอย่างหนักกว่าจะขึ้นมาถึงตำแหน่งนักบวชหญิงได้นางเป็นภัยคุกคามต่อเวินซินถง ดังนั้นเวินซินถงจึงต้องการฆ่านางเหตุใดกัน นี่มิใช่ศิษย์น้องในความทรงจำของนางศิษย์น้องมีความสามารถน้อยกว่านาง แต่ก็เป็นคนขยัน ขี้เล่นและไร้เดียงสาศิษย์น้องที่พบในวันนี้ต่างจากคนในความทรงจำของนางโดยสิ้นเชิงขณะกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เฉินชีก็เข้ามาใกล้“เจ้าทำได้เร็วกว่าเวลาที่ข้าตั้งไว้”“อาเหลาสมกับเป็นอาเหลา นักบวชหญิงอันดับหนึ่งของแคว้นหลี!”เฉินชีใช้มือยันเก้าอี้ มองลั่วชิงยวนด้วยแววตาที่ลุกโชนลั่วชิงยวนมิได้มองเขา นางนั่งอาบแดดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง“ข้าทำเต็มที่แล้ว ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”เฉินชีหัวเราะเบา ๆ “วางใจเถิด หลังจากวันนี้ เจ้าจะมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวง”“การได้ครองตำแหน่งนักบวชหญิงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้นก็หันไปมองเขา “ห้ามทำร้ายเวินซินถง”“ตอนนี้นางเป็นนักบวชหญิง หากเจ้าอยากเป็นนักบวชหญิงก็ต้องฆ่านางสิ” เฉินชีโหดเหี้ยม“ข้ารู้ความสามารถของนางดี นางสู้ข้ามิได้หรอก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1260

    ลั่วฉิงคิดว่าเมื่อฟู่เฉินหวนถูกควบคุม เขาจะต้องมาช่วยนางแน่นอนแต่ร่างที่อยู่ใต้ชายคากลับยันกำแพง แล้วเบือนหน้าหนีฟู่เฉินหวนพยายามอดกลั้นความเจ็บปวด เขาถอยหลังไปสองก้าวด้วยสีหน้าซีดเผือด“ท่านอ๋อง ท่านกลับไปเถิด อย่าดูเลยพ่ะย่ะค่ะ อยู่ที่นี่มีแต่จะเจ็บปวด” ซูโหยวเตือนฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “ข้ามิวางใจ”“ต้องจับลั่วฉิงให้ได้! ต้องฆ่านาง!” ภัยร้ายนี้มิอาจเก็บไว้ได้!ซูโหยวพยักหน้า “วางพระทัยเถิดท่านอ๋อง! กระหม่อมสั่งให้คนปิดทางเข้าออกสามสายแล้ว ลั่วฉิงหนีมิพ้นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมจะพาท่านอ๋องกลับไป!”มุมปากของฟู่เฉินหวนมีเลือดไหลออกมา เขาเช็ดเลือดด้วยสีหน้าซีดเซียว แล้วเดินจากไปส่วนทางนี้ ลั่วฉิงพยายามต่อสู้หมายจะฝ่าวงล้อมออกไปอย่างสิ้นหวังแต่สู้คนเดียวย่อมสู้มิไหว สุดท้ายก็ถูกจับราษฎรมากมายมามุงดูที่หัวถนนทั้งสองฝั่งลั่วฉิงถูกจับตัวเข้าคุกในทันที......ในห้องทรงพระอักษรมีเสียงคนกำลังโต้เถียงกัน“นางเป็นคนของข้า!”“ฟู่อวิ๋นโจว ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านจะล้างบางพวกหม่อมฉันแล้วหรือ!” เหยียนหน่ายซินกล่าวด้วยความโกรธปกติแล้วนางมิค่อยควบคุมอารมณ์มิอยู่ โดยเฉพาะตอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1261

    ลั่วชิงยวนพักฟื้นมาหลายวันแล้ว นั่งอาบแดดด้วยจิตใจที่แจ่มใส“เจ้าเปลี่ยนแปลงวงเวทตรงไหนบ้าง!” เวินซินถงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาลั่วชิงยวนหลับตา กล่าวแผ่วเบา “เจ้าเป็นนักบวชหญิง กลับมาถามเรื่องนี้กับข้า”เวินซินถงกำมือแน่นด้วยความโกรธจัดนางไร้ความสามารถจริง ๆ!เทียบกับศิษย์พี่ลั่วเหลามิได้เลยทั้งพรสวรรค์และความสามารถลั่วชิงยวนเดาความรู้สึกของเวินซินถงได้ เพราะสำหรับเวินซินถงแล้ว นางเป็นเพียงพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการของแคว้นเทียนเชวียเหตุใดจึงเก่งกว่านักบวชหญิงอย่างนาง“วันนี้เจ้ามา มิใช่เพื่อถามเรื่องนี้กระมัง เพราะข้าจะมิบอกเจ้าง่าย ๆ หรอก”เวินซินถงกัดฟัน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สำนักนักบวชขอเชิญเจ้าเข้าร่วม”ได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็เลิกคิ้วและลืมตาขึ้น“ช้ากว่าที่ข้าคิดนิดหน่อย” ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปากเวินซินถงกล่าวด้วยน้ำเสียงมิพอใจ “นี่เป็นครั้งแรกที่สำนักนักบวชเชิญคนนอก ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้จักประมาณตน”ลั่วชิงยวนพูดด้วยรอบยิ้ม “สำนักนักบวชเชิญข้าเข้าร่วมก็เพื่อให้ข้าฟื้นฟูวงเวท ท่าทางของเจ้า มิใช่ท่าทางของคนที่มาขอร้อง”เวินซินถงโกรธจนกำมือแน่นยามนี้ราชวงศ์เร่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1262

    ในคืนนั้นฉินอี้มาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง แล้วถามผู้ใต้บังคับบัญชา “แจ้งทุกคนแล้วหรือยัง?”“แจ้งหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ! คืนนี้เมื่อประตูเมืองเปิด ก่อนฟ้าสางจะมีคนเข้าเมืองอย่างน้อยห้าร้อยคน!”ฉินอี้พยักหน้า ยกยิ้มมุมปาก “ห้าร้อยกว่าคน คงจะพอจัดการสิบวายร้ายและสตรีที่อ่อนแอคนเดียวได้”ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบ “แน่นอนว่าพอพ่ะย่ะค่ะ! คนห้าร้อยกว่าคนนั้นมิใช่คนธรรมดา แม้แต่ทหารหุ้มเกราะก็มิแน่ว่าจะรับมือได้พ่ะย่ะค่ะ”“อย่าว่าแต่สตรีอ่อนแอผู้นั้นเลย แค่สิบวายร้ายก็ยังพอจะรับมือได้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอี้พอใจมาก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต้องทำให้แนบเนียน อย่าให้เฉินชีรู้ว่าเป็นฝีมือของเรา”“องค์ชายใหญ่โปรดวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”......รุ่งเช้าวันต่อมาลั่วชิงยวนพาสิบวายร้ายมาที่ถนนเสวียนอู่ถนนสายนี้ตรงไปยังประตูวังหลวงแต่เมื่อมาถึงถนนสายนี้กลับมิคึกคักเหมือนเคย จากที่ร้านค้าทั้งสองฝั่งเคยเต็มไปด้วยลูกค้า บัดนี้ถนนเงียบสงัดจิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วในโรงน้ำชาและโรงเตี๊ยมมีบุรุษสตรีมากมายนั่งอยู่ การแต่งกายของพวกเขานั้นหาได้ธรรมดาไม่โฉวสือชีสำรวจรอบ ๆ แล้วเตือนด้วยเสียงแผ่วเบา “คนพวกนี้ดูมีพิรุธ”“ระวังต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1263

    แต่ศัตรูมีมากมาย พวกเขาจึงค่อย ๆ กระจัดกระจายไปเพราะต่างฝ่ายต่างก็ต้องเอาตัวรอดทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า ถือกระบี่ยาวแทงไปที่หัวของลั่วชิงยวน“ลั่วชิงยวน ตายซะ!”เมื่อได้ยินเสียงนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงเสียงคุ้นมากเป็นหล่างชิ่นนี่เอง!แสงกระบี่วาววับแยงตาลั่วชิงยวน นางยกมือขึ้นสกัดกั้นโดยสัญชาตญาณ พลันหลับตาลงเฉินชีที่อยู่มิไกลเห็นดังนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย“ตาของนางเป็นอะไร?”ภัยอันตรายใกล้เข้ามา ลั่วชิงยวนรีบก้าวเบี่ยงตัวหลบแล้วชักกระบี่ขึ้นมารับกระบี่ของหล่างชิ่น ทั้งสองถอยห่างจากกันลั่วชิงยวนมองหล่างชิ่นด้วยแววตาเย็นชา เป็นนางจริง ๆหล่างชิ่นยังมิยอมแพ้ ตามมาถึงแคว้นหลี ความพยายามนี้ช่างมิธรรมดาเลยหล่างชิ่นจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความเกลียดชัง “วันนี้เจ้าหนีมิพ้นแน่!”“ถึงแม้ว่าข้าจะฆ่าเจ้ามิได้ ข้าก็จะดูพวกมันฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”หล่างชิ่นทุ่มสุดตัว โจมตีลั่วชิงยวนอีกครั้งจิตสังหารแผ่ซ่านพร้อมที่จะตายลั่วชิงยวนหรี่ตาลง มิหลบแม้แต่น้อย จิตสังหารพัดปอยผมและชายกระโปรงของนาง“คุกเข่า!”เสียงใสที่แฝงไปด้วยความโกรธดังกึกก้องไปทั่วถนนเสวียนอู่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status