Share

บทที่ 309

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานรู้สึกอัญมณีบนผ้าคาดเอวของจั๋วหยุนเฟิงอาจเป็นของเช่นเดียวกันกับแหวนเสวียนเหยียนของนางเอง

นั่นก็คือแหวนเสวียนเหยียนสามารถช่วยระดมพลัง ในความเป็นจริง เป็นไปได้ที่ว่ามีความสามารถเช่นนี้ ตัวอย่างเช่น ลูกหลานของตระกูลเฟิงต่างใช้ดาบประจำตระกูลช่วยระดมพลัง

อัญมณีบนผ้าคาดเอวของจั๋วหยุนเฟิงคงมีความหมายคล้ายกัน

ในขณะที่อัญมณีถูกบดขยี้ พลังรอบตัวของจั๋วหยุนเฟิงเริ่มค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งสีผิวและอำนาจของเขา และแม้แต่อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาก็รักษาได้อย่างรวดเร็ว

มันเหมือนความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งอย่างมากของตระกูลจั๋วได้รับการเร่งตัวขึ้นหลังจากพลังในอัญมณีถูกปล่อยออกมา

ดวงตาของจั๋วหยุนเฟิงยังคงเป็นสีแดง เขาจ้องมองจั๋วซือหราน "วันนี้ ข้าจะช่วยตระกูลกำจัดเจ้า"

จั๋วซือหรานขมวดคิ้วและไม่กล้าที่จะละเลย เพราะหลังจากที่อัญมณีแตกออก พลังที่ถูกเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของ จั๋วหยุนเฟิงดูไม่ธรรมดาด้วยซ้ำ นางยิ่งเกิดความรู้สึกว่า พลังบนตัวของเขาไม่ใช่ของตัวเขาเอง

เหมือนเขายืมพลังอื่นเช่นนั้นหรือ ดังนั้นพลังรอบตัวของเขาจึงดูรุนแรงเป็นพิเศษ

จั๋วซือหรานต้องระมัดระวัง นางไม่ห่วงความปลอด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Siriwan Wongtapang
อยากให้อัพวันละหลายๆตอนหน่อยคะใจจะขาดละอยากอ่านๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 310

    ร่างกายของจั๋วซือหรานถูกจั๋วหยุนเฟิงโจมตีอย่างหนักนางรู้สึกดวงตาของนางมืดลงชั่วขณะหนึ่ง"......หราน หราน""ท่านพี่......"จั๋วซือหรานเพียงรู้สึกในขณะนี้ พยางค์ที่อยู่ข้างหูของนางดูเหมือนถูกลากไปเป็นพยางค์ที่ยาวมาก นางแทบจะไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้นความมืดที่อยู่ตรงหน้าของนางชัดเจนอย่างมาก ในขอบบริเวณเริ่มมีจุดดำ ๆไม่ ข้าล้มไม่ได้จั๋วซือหรานกัดปลายลิ้นของนางอย่างแรง อยากให้ตัวเองตั้งสติไว้นางคายเลือดออกมาเต็มปาก เลือดนั้นไหลบนแหวนเสวียนเหยียน นางวางฝ่ามือลงบนพื้น เพื่อทรงตัวไว้ และเลือดก็ย้อมสีแสีแหวนเสวียนเหยียนให้เป็นสีแดงเข้ม ซึ่งน่าขนลุกยิ่งขึ้นยิ่งไปกว่านั้น เลือดยังไหลตามแหวนเสวียนเหยียน และหยดลงในลวดลายเรียบง่ายของพื้นหินที่ถูกแกะสลักและมีเวลายาวนานเลือดซึมเข้าลอยทีละนิดทีละน้อยรัศมีสีแดงเข้มของแหวนเสวียนเหยียนเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นจะมองไม่เห็นในขณะนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้สังเกตแสงนั้นนางไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของแหวนเสวียนเหยียน แถมนางยังบิดแหวนเสวียนเหยียนอีกหนึ่งในสาม จนกระทั่งแหวนเสวียนเหยียนเปิดออกจนสุดแล้วแต่สิ่งที่จั๋วซือหรานไม่ค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 311

    “หราน… หรานหราน … หรานหรานลูกแม่”มือของอวิ๋นเหนียงสั่นอย่างแรง นางสังเกตแม้ลูกสาวของนางยังคงยืนอยู่ตรงหน้านาง แต่อาการของลูกสาวก็แตกต่างไปจากเมื่อครู่นี้อย่างเห็นได้ชัดนางยื่นมือออกและสัมผัสลูกสาวของตัวเอง นางก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วเห็น... ดวงตาของลูกสาวนางปิดลงแล้ว ทั้ง ๆ ลูกสาวหมดสิตแล้ว ยังคงยืนอยู่ตรงหน้านางกับเสี่ยวหวายชั่วขณะหนึ่ง อวิ๋นเหนียงรู้สึกเหมือนมีดแทงหัวใจของนาง และเสียงของนางก็เหมือนกับนกกาเหว่าที่ร้องไห้เป็นเลือด เศร้าและคร่ำครวญ " หรานหราน ลูกสาวของข้า"ดวงตาของจั๋วหวายแดงเหมือนเลือด เขาจ้องมองคนรอบข้าง จ้องพวกคนที่มีนามสกุลเดียวกับเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเกลียดชัง และความรังเกียจนั้นหาที่เปรียบมิได้ ความรังเกียจและความเกลียดชังนี้รุนแรงมากจนเมื่อเขาจำได้เขามีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขา ซึ่งทำให้เขาเกลียดเลือดส่วนนี้ของเขาเองเหมือนเขาคืนสติไม่ได้แล้วแต่จั๋วหวายคืนสติได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาทราบว่า พี่สาวของเขาพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องพวกเขา และตอนนี้...ถึงเวลาที่เขาต้องดูแลท่านแม่ของเขาแล้วจั๋วหวายบีบข้อมือท่านพี่อย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ถอน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 312

    ดาบยาวที่ปิดกั้นอาวุธของจั๋วหยุนเฟิงนั้นมีลักษณะที่เรียบง่ายและไม่ได้ออกจากฝักด้วยซ้ำแต่อาวุธของจั๋วหยุนเฟิงถูกบล็อกได้อย่างง่ายดาย“เจ้า” จั๋วหยุนเฟิงมองไปที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมยาวและหมวกผ้ากอซ ดูลึกลับและแปลกมากพูดตามตรง ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มาชมการต่อสู้ด้วย พวกเขาต่างไม่ทราบว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นี้ปรากฏตัวอย่างไรและเมื่อใด“ผู้แข็งแกร่งรังแกผู้ไร้เรี่ยวแรง หลายคนรังแกผู้คนที่มีจำนวนที่น้อยกว่า ตระกูลจั๋วใช้วิธีนี้คล่องดีจัง” เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและการเยาะเย้ยร่างกายของชายคนนี้ถูกเครื่องแต่งกายปกปิดไว้อย่างสนิท แม้ว่ามองจากเครื่องแต่งกาย จั๋วหยุนเฟิงจะมองไม่ออกว่าชายผู้นี้เป็นใคร แต่เมื่อเขามองดาบประจำตระกูลของเขาออก นั่นคือดาบประจำตระกูลของตระกูลเฟิงนอกจากนี้เขายังเห็นอักษรที่ถูกสลักไว้บนดาบของตระกูลอย่างชัดเจน - เหยียน“เจ้าคือ... เฟิงเหยียนหรือ”จั๋วหยุนเฟิงเป็นผู้ที่มีความภาคภูมิใจและหยิ่งผยองมาโดยตลอด ในอดีตเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับอัจฉริยะในเมืองหลวงอย่างจริงจัง แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อของเฟิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 313

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฟิงเหยียนดันนิ้วหัวแม่มือของเขา และกระบี่เสวียนเหยียนก็ถูกปลดออกจากฝักทันใดนั้นแรงกดดันทางจิตวิญญาณมหาศาลแทบจะล้นหลามลงมาใส่ศีรษะของเขาสีหน้าของจั๋วหยุนเฟิงเปลี่ยนไปทันที เขามองดูชายลึกลับที่มีผ้าคลุมร่างกายอย่างสนิทอยู่ตรงหน้าเขาเฟิงเหยียนคนผู้นี้ จั๋วหยุนเฟิงตระหนักว่าเขาประเมินเขาต่ำไป หากเขาไม่ได้เปลืองพลังมากเกินไปในการต่อสู้กับจั๋วซือหราน ครั้งก่อน จนกระทั่งเขาต้องใช้พลังในหยกยุ่นหลิงของลัทธิเขาอาจจะยังสามารถต่อสู้กับซื่อจื่อของตระกูลเฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ แต่ตอนนี้...จั๋วหยุนเฟิงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคิดมากเกินไป เพราะเขาไม่ทันสังเกตว่าในขณะนี้ เฟิงเหยียนแค่ผลักดาบประจำตระกูลออกจากฝักส่วนเดียว กระบี่เสวียนเหยียนของเขายังไม่ได้ถูกปลอกออกเลยด้วยซ้ำ มันก็มีพลังเช่นนี้อยู่แล้วเฟิงเหยียนถามอย่างใจเย็น “โอ้ หากข้ายืนกรานที่จะไม่ยให้พวกเขาอยู่ต่อล่ะ”สีหน้าของจั๋วหยุนเฟิงแย่มากทันที ก่อนหน้านี้เขาพูดอย่างเสียมารยาทมาก แต่ตอนนี้เขาไม่ตอบอะไรเลยแต่ในขณะนี้ เฟิงเหยียนก็สังเกตว่า มีบางอย่างกำลังผิดปกติภายใต้ม่าน ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายคนนั้นขมวดคิ้วเล็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 314

    ลางสังหรณ์ที่เป็นอันตรายนี้ทำให้เขาระมัดระวังอย่างมาก เขาต้องถือแต้มต่อไว้ในมืออวิ๋นเหนียง ซึ่งผู้ไร้ความสามารถ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยแต่เมื่อเขายื่นมือออก ไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสอวิ๋นเหนียงเลย เขาแค่มีความคิดนี้อยู่ในใจและเพิ่งขยับข้อมือของเขาจากนั้นเขารู้สึกตาลายนั่นเป็นความรู้สึกที่ตัวเองถูกพลังอันมหาศาลหยิบขึ้นมาด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากแล้วเหวี่ยงลงมาอีกครั้ง เหมือนมีคนถือถุงผ้าแล้วโยนมันลงพื้นแรง ๆและตอนนี้เขาก็คือถุงผ้านั่นอาการปวดหลังของเขารุนแรงมาก เพราะเขาถูกกระแทกกับพื้นอย่างแรง ราวกับว่าหลังของเขากำลังจะหักความรู้สึกหวานและคาวพุ่งพล่านในลำคอของเขา และเลือดก็พุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้จั๋วหยุนเฟิงลืมตาขึ้นด้วยความเจ็บปวดสาหัส และในที่สุดเขาก็มองเห็นผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน มีรอยยิ้มอันอบอุ่นและเจตนาฆ่าบนใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามนั้นนางสร้างความตกใจให้กับผู้คนมากเกินไปตั้งแต่เมื่อก่อนมากเสียจนกระทั่งตอนนี้การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก็เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน แต่ทุกคนก็... ชินแล้วกระมังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะมีความหวังตราบใดที่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 315

    หลังจากจั๋วซือหรานพูดจบ นางก็พาท่านแม่และน้องชายของเขาจากไปหลังจากเดินออกไปสองก้าว นางก็หยุดและหันไปมองชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลนางถอนหายใจอย่างอธิบายไม่ถูกเสียงที่แต่เดิมรุนแรงมากเมื่อพูดกับจั๋วหยุนเฟิง ในขณะนี้เสียงของนางกลับเบาลงเล็กน้อย “ ท่านอ๋องไม่ไปกับข้าหรือ”เฟิงเหยียนหยุดเพียงสองวินาที จากนั้นเขาเดินมาหานางขณะที่จั๋วซือหรานก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก ฝูงชนเริ่มคุยกันเสียงดัง ๆพวกเขาไม่ได้ปิดบังความตกใจในน้ำเสียงของพวก“นั่นอะไรน่ะ”“ใต้าฝีเท้าของนาง... นั่นอะไรน่ะ”“โอ้พระเจ้า นั่นคือ... นั่นคือ...ไม่ใช่หรือ”“นางปลุกพลังสายเลือดแห่งตระกูลได้แล้วหรือ”เดิมทีผู้อาวุโสใหญ่ จั๋วหลานไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงมาสาย แต่ในขณะนี้ เขาเห็นอะไรที่อยู่ใต้เท้าของจั๋วซือหรานจั๋วหลานตกใจและเซกถอยหลังหนึ่งก้าว เขาแทบจะทรงตัวไม่ได้กี่ปี...กี่ปีแล้ว หลังจากพลังสายเลือดแห่งตระกูลหายไปแล้ว ตระกูลจั๋วเหมือนกับตระกูลอื่นๆ ที่สูญเสียพลังสายเลือดแห่งตระกูลจากนั้นเอกลักษณ์ของพลังวิเศษของสายเลือดตระกูลก็จะค่อย ๆ หายไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตระกูลจั๋วได้รปลุกพลังของวิญญาณไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 316

    ไม่ใช่ว่านางอ่อนแอขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ายังมีพลังเหลืออยู่ใน แหวนเสวียนเหยียนที่ตัวเองสามารถใช้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะสูญเสียผลในขณะนั้นจนกระทั่งเฟิงเหยียนปรากฏตัว จนกระทั่งเฟิงเหยียนผลักด้ามดาบและฝักดาบ...จากนั้นดูเหมือนนางดูดซับพลังของเขา และจากนั้นดูเหมือนว่านางแปลงพลังของเขา ไม่ใช่ให้นางใช้เพียงผู้เดียวเท่านั้น... นี่คือสาเหตุที่จั๋วหยุนเฟิงรู้สึกเจ็บอันร้อนแรงจากการโจมตีของนางในก่อนหน้านี้นั่นไม่พลังของนาง แต่เป็นพลังที่ได้นางดูดจากเฟิงเหยียน แต่ยังไม่ทันแปลงเป็นพลังของตัวเองจากนั้น...พลังที่แปลกแต่เต็มไปด้วยพลังชีวิตค่อย ๆ หยั่งรากและงอกออกมาราวกับดอกตูมการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกมหัศจรรย์มาก และนางพยายามหาคำตอบว่า ทำไมนางเป็นเช่นนี้แม้ว่านางเข้าใจแล้วว่า การกระทำที่นางมีต่อเฟิงเหยียนเหมือนนางเก็บหยางจากเฟิงเหยียนและเติมหยินให้เฟิงเหยียน แต่เป็นไปได้อย่างไร... พลังวิเศษไฟกระตุ้นพลังทางจิตวิญญาณของไม้ ได้อย่างไรถึงจะกระตุ้นก็จริง แต่ก็ต้องไม้กระตุ้นให้เกิดไฟเกิดอะไรขึ้นกับนาง เปลวไฟเผาผลาญทุกสิ่งจนพังทลาย แต่กลับกลายเป็นปุ๋ย บางตัวที่มีชีวิตชีวาจะได้เกิดให

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 317

    "ฝืนตัว"เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นน่าดึงดูดมากและลอยเข้าหูของนางเสียงนั้นมีเสน่ห์และไพเราะมากโดยเฉพาะอาจเป็นเพราะสภาพร่างกายของเขารถม้าคันนี้ไม่มีหน้าต่าง และผ้าม่านก็หนาอย่างมาก และปังแสงได้อย่างดีขณะนี้รถมืดสนิทในความมืดมิดเช่นนี้ เสียงอันลึกล้ำของชายผู้นั้นดังก้องอยู่ข้างหูของนางจั๋วซือหรานรู้สึกริมฝีปากของนางแห้งเล็กน้อย"สรุปคือ...ข้าฝืนตัว" จั๋วซือหรานถอนหายใจเบา ๆ เนื่องจากเรื่องของก่อนหน้านี้ อาการของนางไม่ค่อยดีนัก แต่นางก็ยังพูดต่อ "หรือท่านอ๋อง... ฝืนตัว"เมื่อบุคคลหนึ่งพูดคุยกับบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถามคำถามคนมักจะมองอีกฝ่ายหรือ หรือต้องเผชิญหน้าอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวเสมอ แม้ว่าบุคคลนั้นต้องมองไม่เห็นในความมืด แต่คนคนนั้นก็ยังอยากหันไปทางเสียงของอีกฝ่ายด้วยนี่อาจเป็นสัญชาตญาณบางอย่างดังนั้นเมื่อจั๋วซือหรานถามคำถามนี้ นางก็หันหน้าไปทางด้านหลังในความมืด โดยไม่ได้ตั้งใจ นางรู้สึกริมฝีปากอันแห้งของนางสัมผัสถูกจุดที่นุ่มนวลและเย็นเล็กน้อยเมื่อมีสิ่งใดสัมผัสบนริมฝีปาก ผู้คนจะเลียริมฝีปากด้วยลิ้นโดยไม่รู้ตัวจั๋วซือหรานยื่นลิ้นออกและเลียริมฝีปากของเ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status