공유

บทที่ 288

작가: หูเทียนเสี่ยว
หลังจากเดินมาถึงเขตขุนนางทางตอนเหนือของเมือง ถนนก็กว้างขึ้นและวุ่นวายน้อยลง ฝูซูก็กังวลน้อยลง

เขาถามจั๋วซือหราน "คุณหนูขอรับ เราจะไปจวนเหยียนใช่ไหใขอรับ"

แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ละเอียด แต่เขาก็ไม่ได้โง่จริง ๆ เดินมาถึงเขตนี้แล้ว ไม่มีทางหรอกว่าเขาไม่ทราบที่นี่คือที่ไหน

แต่เขาไม่ได้รับคำตอบจากคุณหนู ฝูซู สึหันไปมองนาง และเขาก็เห็นคุณหนูของเขาดูฟุ้งซ่านเล็กน้อย

"คุณหนูขอรับ"

“ฮะ” จั๋วซือหรานกลับมามีสติอีกครั้ง

“เราจะไปจวนเหยียนด้วยกันใช่ไหมขอรับ”

“จ้ะ เจ้ารู้ตัวแล้วหรือ แสดงว่าฉลาดขึ้นล่ะสิ” จั๋วซือหรานยิ้ม

ฝูซูรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขารู้สึกตัวเองถูกคุณหนูปฏิบัติเหมือนเด็ก ๆ อยู่เสมอ

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถาม “คุณหนูกังวลเพราะเหตุนี้หรือเปล่า ข้าเห็นคุณใจไม่อยู่กับตัวเลย”

เนื่องจากฝูซูไม่เหมือนฉวนคูน เขาไม่ทราบแผนการที่จั๋วซือหรานวางไว้ในก่อนหน้านี้ ดังนั้นในขณะนี้ เขาจึงคิดว่าจั๋วซือหราน กังวลเพราะนางต้องเป็นตัวแทนของตระกูลจั๋วและต้องเจรจากับตระกูลเหยียน

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "เรื่องนี้หรือ เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ข้าแค่คิดเรื่องอื่น... "

“เรื่องอื่นหรือขอรับ” ฝูซูรู้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 289

    เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนูของตัวเอง ฝูซูค่อนข้างผ่อนคลายแต่เขาสามารถปรับตัวเองเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนภายนอก ดังนั้นเมื่อเขาเห็นร่างที่ยืนอยู่หน้าประตูจวนเหยียน เขาทักทายชายผู้นั้นอย่างสุภาพ " อรุณสวัสดิ์ยามเช้า คุณชายเหยียน "ผู้ที่รออยู่ที่ประตูไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเหยียนฉีเหยียนฉีแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นและมองไปที่จั๋วซือหรานเมื่อเทียบกับทัศนคติที่สุภาพของฝูซูแล้ว จั๋วซือหรานทำตัวผ่อนคลายกว่ามาก " ทำไมเจ้าถึงรออยู่ที่นี่ "“ข้ากังวลยามเฝ้าประตูต้อนรับไม่ดี” เหยียนฉีกล่าวว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นแขกผู้มีเกียรติในบ้านของข้า เชิญเข้าบ้านขอรับ”“สุภาพมาก” จั๋วซือหรานยิ้มและเดินตามเหยียนฉีเข้าไปเนื่องจากนางเจรจากับเหยียนฉีมาโดยตลอด และแทบไม่มีการติดต่อกับสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเหยียน เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา ผู้อาวุโสหลายคนในห้องโถงด้านหน้าจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยหากจะบอกว่าพวกเขาอึดอัด พวกเขาตื่นตระหนกมากกว่าในทางตรงกันข้าม จั๋วซือหรานกลับดูอารมณ์ดี หลังจากนางเดินเข้าไป นางเหลือบมองพวกเขา นางมีท่าทางอย่างผ่อนคลาย และมีน้ำเสียงอย่างสงบ"อรุณสวัสดิ์ทุกคน"ในความเป็นจริง เมื่อผู้อาวุโสของตระก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 290

    สีหน้าของผู้อาวุโสที่เคยพูดแหน็บแนมกับจั๋วซือหรานในก่อนหน้านี้ดูแข็งทื่อเล็กน้อย เดิมทีเขากำลังรอจั๋วจิ่วดุคนรับใช้ที่เสียมารยาทใครจะรู้ว่าจั๋วจิ่วไม่ดุคนรับใช้เลย นางแค่ยกคางขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ข้านับเรียบร้อยแล้ว จำนวนทั้งหมดมีเท่านี้ ข้ายังได้เตรียมใบรายการวัสดุยาที่ตระกูลจั๋วต้องการให้ปแล้ว ความหมายของตระกูลจั๋วคือส่งมอบยาภายในวันนี้จะดีที่สุด หากไม่สามารถขนส่งทั้งหมดได้ ถยอยส่งก็ได้”ผู้อาวุโสที่พูดอย่างเหน็บแนมในก่อนหน้านี้พูดอีกครั้งว่า "จะส่งเร็วอย่างนี้ได้อย่างไร เราต้องนับเงินด้วยไม่ใช่หรือ หากเจ้านับผิดล่ะ ทำอย่างไรดี เพราะเจ้ายังกล้าเล่นงานกับตระกูลเจ้าเลย มีอะไรหรือที่เจ้าไม่กล้าทำ”เหยียนฉีขมวดคิ้วขึ้น " ผู้อาวุโสห้า "เขาทราบดี ผู้อาวุโสห้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสสี่ และผู้อาวุโสสี่ของตระกูลเหยียนตัดสินใจผิดในระหว่างการแข่งขันกับ จั๋วซือหราน และทำข้อตกลงเขาไม่ควรตกลงเอาไว้ ซึ่งทำให้ตระกูลเหยียนต้องประสบความสูญเสียแม้ตอนนี้ผู้อาวุโสห้ายังสำนึกผิดในห้องอยู่เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาการของเหยียนชาง...แต่เหยียนฉีทราบดี จั๋วซือหรานไม่ใช่ผู้ที่ยอมให้คนอื่นมาบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 291

    อันที่จริง ก่อนหน้านี้ฝูซูยังไม่เข้าใจฉวนคูนนับเงินเสร็จแล้ว ทำไมต้องแบ่งเงินเป็นเช่นนี้ เงินในกล่องถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน และถูกแนบไว้ด้านล่างของกล่องและด้านในของฝาของกล่องแต่ในขณะนี้ เมื่อฝูซูชักดาบออก และตัดฝากล่องออก ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทำไมฉวนคูนถึงจัดเรียงเงินเป็นเช่นนี้ เพราะแบ่งเงินได้สะดวกฝูซูนำเงินครึ่งหนึ่งและฝากล่องกลับมา และยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านหลังของจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ นางเพียงแต่เงยหน้าขึ้นและมองเหยียนฉี แล้วพูดว่า " ตระกูลจั๋วให้ส่งวัสดุยาไปที่จวนจั๋วภายในวันนี้ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าได้เตรียมไว้แล้ว"เหยียนฉีดูกังวล จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้กังวลจั๋วซือหรานเอาวัสดุยาโดยไม่จ่ายเงิน เดิมทีตระกูลของพวกเขาพ่ายแพ้จั๋วซือหรานอยู่แล้ว และพวกเขาสัญญาไว้ว่าพวกเขาจะจัดหายาให้นางโดยนางมิต้องจ่ายเงินใด ๆสิ่งที่เขากังวลคือในที่สุดเขาก็ได้คลายความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนี้แล้ว และตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางก็เป็นเช่นนี้อีกครั้งเมื่อเห็นจั๋วซือหรานกำลังจะออกไป เหยียนฉีก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูดว่า " แม่นางจิ่ว... "จั๋วซือหรานมองเขาแล้วพูดว่า "ส่วนย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 292

    อารมณ์ของเขาเย็นลงกว่าเดิม และเขาไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเลยด้วยซ้ำแม้ว่าในอดีต เฟิงเหยียนจะมีนิสัยเย็นชา แต่เขายังคงมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลและให้ความสำคัญกับเกียรติยศของตระกูลเป็นอย่างมาก แต่ตั้งแต่นั้นมา ดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปเหยียนฉีไม่ทราบในช่วงเวลาที่เฟิงเหยียนอยู่ในสวนดาบ เขาต้องประสบกับเรื่องใด ๆ จึงต้องให้ชายหนุ่มผู้ดีเช่นนี้กลายเป็นคนปัจจุบันนี้ แต่คงเป็นเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บปวดมากยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเฟิงเหยียนยังได้รับการปรับปรุงในอัตราที่น่าประหลาดใจจริง ๆ แต่เดิมเขาเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมากอยู่แล้ว ตอนที่เขากลับมา เขามีความสามารถที่มโดดเด่นมากยิ่งขึ้นตั้งแต่นั้นมา ทัศนคติที่เฟิงเหยียนมีต่อตระกูลของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก และทัศนคติของตระกูลที่มีต่อเฟิงเหยียนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ราวกับว่า... พวกเขากลัวเขามากดังนั้นเหยียนฉีไม่กล้าถามตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในวันเกิดของ เฟิงเหยียน เหยียนฉีถามในยามที่เขาเมาเหล้า "ทำไมตอนนี้เจ้าไม่ค่อยให้ความสนใจกับตระกูลเหมือนเมื่อก่อน"แม้ว่าเขาจะถามคำถามนี้ในยามที่เขาเมา แต่เหยียนฉียังจำคำตอบของเฟ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 293

    ไม่มีใครกล้ามารบกวนจั๋วหยุนชินจนกระทั่ง... ผู้อาวุโสห้า จั๋วฉี่ กลับมาที่จวนจั๋วด้วยความโกรธ และข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วจวนจั๋วจั๋วหรูซินรู้สึกตกใจและมีความสุข นางยังคิดอยู่ว่า จั๋วซือหรานจะโชคดีขนาดนี้ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะเข้าข้างนางจั๋วหรูซินอดไม่ได้อีกต่อไป นางรีบวิ่งกลับไปที่บ้านของนางอย่างมีความสุข นางเปิดประตูห้องของท่านพี่ของนางทันทีที่ประตูถูกเปิดออก กลิ่นยาก็ฟุ้งกระจายออกมาโผล่มาใส่หน้าจั๋วหรูซิน นางไม่รู้ว่ากลิ่นนั้นคืออะไร น่าจะมีกลิ่นยาอยู่บ้าง แต่ก็มีกลิ่นไหม้ที่อธิบายไม่ได้ปนอยู่ด้วยทำให้กลิ่นนี้สับสนและซับซ้อนมากแต่จั๋วหรูซินไม่สนใจเรื่องนี้ นางตะโกนอย่างมีความสุข " ท่านพี่"จั๋วหยุนชินไม่ได้ดูร่าเริงและหล่อเหลาเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขาดูซีดเซียวมาก นี่อาจเป็นเพราะเขากลั่นยาเหนื่อยเหลือเกินยิ่งกว่านั้น เขาดูหงุดหงิดมากและเต็มไปด้วยความไม่อดทนสีหน้าของจั๋วหรูซินเริ่มระมัดระวังทันทีที่นางเห็นหน้าท่านพี่ของนาง“เกิดอะไรขึ้น” จั๋วหยุนชินถามอย่างเย็นชาจั๋วหรูซินอ่อนแอลงมากเมื่อนางพูดว่า " ผู้อาวุโสห้า ได้นำข่าวกลับมา หนูคิดว่าท่านพี่คงจะสนใจ... "ในเวล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 294

    หลังจากฝูซูพูดจบ ดวงตาของเขาก็แดงก่ำ "พี่...พี่สาว พี่เสี่ยงชีวิตเพื่อหนีออกจากจวนมารายงานให้คุณหนูทราบ พี่ถึงกับอาเจียนเป็นเลือด..."เมื่อจั๋วซือหรานฟังคำพูดก่อนหน้าของฝูซู สีหน้าของนางยังดูสงบ แต่ยังคงค่อนข้างใจเย็น เพราะในเมื่อนางกล้าทำเช่นนี้ นั่นหมายความว่านางได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า สุดท้ายตระกูลจั๋วต้องทราบเรื่องนี้เพราะโลกใบนี้ไม่มีความลับใดที่จะไม่มีวันรั่วไหล เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นจั๋วซือหรานไม่แปลกใจเลย เพราะนางคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่นางและตระกูลจั๋วจะเลิกกันโดยสิ้นเชิงแต่สิ่งที่ทำให้จั๋วซือหรานตกใจก็คือ ฝูซางเสี่ยงชีวิตและหนีออกจากจวนจั๋วจั๋วซือหรานขมวดคิ้วและพูดอย่างกังวลว่า "ทำไมตอนนี้เจ้าเพิ่งเรื่องนี้ ฝูซางอยู่ที่ไหน"“พี่...อยู่ที่ห้องตรงนั้น” ฝูซูร้องไห้หนักมากจนสะอึก เขาเดินตาม จั๋วซือหรานและไปที่ห้องนั้นระหว่างทาง ฝูซูยังคงกังวลเล็กน้อย แน่นอนว่าเขากังวลและเป็นห่วงพี่สาวของเขามาก แต่เขาก็กังวลเช่นกัน...“คุณหนู ฮูหยินและคุณชายจั๋วหวาย...คุณหนูไม่รีบไปหาพวกเขาก่อนหรือขอรับ” ฝูซูถามด้วยน้ำเสียงสะอื้นจั๋วซือหรานพูดอย่าง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 295

    สีหน้าของจั๋วซือหรานซีดเผือด นางขมวดคิ้ว“หยุดพูดเรื่องไร้สาระเช่นนั้นได้แล้ว ประหยัดพลังงานเสียที” เสียงของจั๋วซือหรานทุ้มลึก และฟังดูเศร้าเล็กน้อยเพราะนางโกรธแต่มีความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ ฝูซางรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของนาง และนางก็มองจั๋วซือหรานด้วยดวงตาที่เปิดกว้างหลังจากนั้นไม่นาน นางก็พูดเบา ๆ และแผ่วเบาว่า "ข้าอยาก... อยู่กับคุณหนูไปอีกร้อยปีจริง ๆ ..."น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของฝูซาง นางไม่ทราบนางจะตายหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ร่างกายของนางยังคงรู้สึกไม่สบายอย่างยิ่งเนื่องจากอาการบาดแต่ ณ ตอนนี้ นางรู้สึกดีขึ้น อาจจะเพราะนางจะตายแล้ว ตอนนี้เลยรู้สึกอาการดีฝูซางคิดเรื่องนี้ในใจ และอดไม่ได้ที่ต้องพูดออกมาเช่นนี้จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "บ้าอะไร! เจ้ารู้สึกอาการดีขึ้นเพราะข้ากำลังรักษาเจ้าอยู่ แม้ว่าข้าจะรับประกันไม่ได้ว่า เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกร้อยปี แต่ข้ายังพอสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าได้ "ทันใดนั้น ฝูซางตกใจและดีใจอย่างมาก เมื่อนางจะอ้าปากพูด ก็มีของบางอย่างยัดเข้าไปในปากของนาง มันเป็นยาเม็ดกลม ๆ และกลิ่นหอมของยาก็ล้นออกมาฝูซางเบิกต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 296

    เด็กหญิงคนนี้ต้องทนกับความเจ็บปวดสาหัสเช่นนี้ และรีบกลับมารายงานข่าวให้นางทราบจั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องกำนิ้วให้แน่นเมื่อนางนึกถึงสิ่งนี้ และนางทราบใครเป็นผู้ที่โจมตีฝูซางผู้อาวุโสห้า ซึ่งชื่อ จั๋วฉี่ กำลังยืนอยู่หน้าประตูจวนจั๋วเขาโกรธและโกรธอย่างมาก และเขารอเป็นเวลาครู่หนึ่งด้วยเขารออยู่ที่ประตูตั้งแต่ทาสคนนั้นหนีออกจากจวนจั๋วเขารู้ดีว่าทาสคนนั้นจะไม่ไปที่อื่น นางบหนีไปเพียงต้องการแจ้งให้หญิงร้ายนั้นทราบเท่านั้นพอดีเลย เขาไม่ต้องไปหานางด้วยตัวเองแต่เขาไม่คาดคิดว่า เขารอไปครู่หนึ่งแล้ว เด็กร้ายคนนี้ยังไม่มาคนรับใช้ที่ที่อยู่ด้านข้างถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ ผู้อาวุโสห้าขอรับ นางคงไม่มาใช่หรือไม่ขอรับ นางหนีไปที่อื่นหรือไม่”"นางกล้าหรือ" ผู้อาวุโสห้า จั๋วฉี่ เป็นผู้ที่มีอารมณ์ร้อน ซึ่งทุกคนในตระกูลจั๋วทราบกันหมดคนรับใช้กระซิบว่า "นางกล้าหลอกลวงตระกูลเช่นนี้ มีอะไรหรือที่นางไม่กล้าทำอีกล่ะ บางทีนางอาจจะทิ้งแม่และน้องชายของนางไป..."“เจ้าคิดว่านางจะหนีได้ตลอดชีพหรือ” ผู้อาวุโสห้า ผู้อาวุโสห้า ดุคนรับใช้ด้วยเสียงดังในขณะนี้“เจ้าว่าใครหนี”เสียงที่แหลมคมและเย็นชา

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status