Share

บทที่ 980

Author: ดอกถังร่วงหล่น
เดิมทีจิ่งโม่เยี่ยตั้งใจจะตามไปทางเรือ แต่เมื่อขึ้นไปบนเรือแล้วก็พบว่าก้นเรือรั่ว มีคนใช้กระบี่งัดก้นเรือจนเป็นรูขนาดใหญ่

เขาไปดูอีกสองลำ ปรากฏว่าเป็นแบบเดียวกันหมด

เฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว “จิ่งสือเยี่ยนทำอะไรก็รอบคอบเหมือนเดิมเลย”

“เขาไม่เพียงแต่รอบคอบ แต่ยังเด็ดขาดมากด้วย”

เรือพัง พวกเขาก็ไม่มีทางตามไปได้อีก

ในใจนางนึกชื่นชม สมกับเป็นพระเอกของนิยายต้นฉบับ มีโชคทางวาสนาหนุนหลัง สถานการณ์แบบนี้ยังหนีไปได้อีก สุดยอดจริงๆ

จิ่งโม่เยี่ยคำนวณระยะทางในใจ “เราขวางจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้แล้ว ครั้งนี้คงต้องสู้กันหนักแน่”

เพียงแค่จิ่งสือเยี่ยนรวมพลกับกองกำลังของเขาได้ เขาก็จะมีทหารนับแสนในทันที

ในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ

เขานึกถึงคำทำนายที่เฟิ่งชูอิ่งเคยทำนายให้เขา เขาคิดว่านางทำนายได้แม่นยำมากจริงๆ

เฟิ่งชูอิ่งกัดริมฝีปากเบาๆ “สถานการณ์แบบนี้ เราทำได้แค่หาทางขวางเขาไว้ก่อน”

“ถ้ามีโอกาสฆ่าเขาก่อนจะรวมพลกับกองกำลังได้ ก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาด”

จิ่งโม่เยี่ยก็คิดเหมือนกับนาง

ถึงแม้ว่าตอนนี้โอกาสที่จะตามเขาไปทันจะมีน้อย แต่พวกเขาก็ต้องลองดู จะไม่ยอมแพ้แบบนี้โดยเด็ดข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 981

    เฟิ่งชูอิ่งดึงเขาไว้แล้วพูดว่า “อย่ากระโดดลงไป ในแม่น้ำใต้ดินนี้มีปลากินคน ถ้าเขากระโดดลงไปแบบนี้จะต้องถูกปลากินคนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยหันไปมองนาง คิดว่านางกำลังพูดไร้สาระ หรืออาจจะกำลังใช้เล่ห์กลทางจิตวิทยา หลอกให้จิ่งสือเยี่ยนเสียขวัญนางหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปที่ริมแม่น้ำ ดึงแผ่นไม้กั้นน้ำที่อยู่ริมฝั่งออกมาแผ่นหนึ่งเมื่อแผ่นไม้กั้นน้ำเปิดออก ก็มีปลาสีดำนับไม่ถ้วนพากันแหวกว่ายออกมาปลาเหล่านั้นมีลักษณะหัวโต ฟันแหลมคม ดูท่าทางดุร้ายมากจิ่งโม่เยี่ย “......”เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีปลากินคน?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ชิงหยวนบอกข้า”ชิงหยวนทำหน้ามึนงงแล้วพูดว่า “เอ๊ะ? ข้าบอกเจ้าหรือ? ข้าบอกเจ้าตอนไหนกัน?”“แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่รู้เลย!”เขาก้มลงมองแผนที่เส้นทางลับ แต่บนแผนที่ก็ไม่ได้บอกว่าที่นี่มีปลากินคนอยู่ด้วย!เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ข้าดูแผนที่ที่เจ้าวาดอย่างละเอียด แล้วก็ศึกษาภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้”“โดยพื้นฐานแล้ว ทางลับทั้งหมดและภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้อยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์บ่อน้ำ( )”“สัญลักษณ์บ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 982

    ตอนนี้ผิวน้ำเปื้อนไปด้วยเลือด ปลากินคนก็ยิ่งคลั่งหนัก พากันแหวกว่ายไปรวมตัวตรงจุดที่มีเลือดผุดขึ้นมากระดาษยันต์ไฟในมือของเฟิ่งชูอิ่งมอดดับลง พวกเขามองไม่เห็นสถานการณ์บนผิวน้ำอีกต่อไปแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ความน่าจะเป็นที่จิ่งสือเยี่ยนจะรอดชีวิตนั้นมีน้อยมากเนื่องจากจิ่งสือเยี่ยนเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญญาธิการอย่างแท้จริง ตอนนี้ยังไม่เห็นศพของเขา เฟิ่งชูอิ่งก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะตายจริงหรือไม่เพราะจิ่งสือเยี่ยนตอนที่ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงดูดพลังไปเกือบหมด ยังสามารถหนีออกมาจากเงื้อมมือของนางได้ แล้วยังดวงดีบังเอิญไปเจอทางออกลับอีกเส้นด้วยโชคชะตาของเขาช่างแข็งแกร่งจริงๆเพื่อความปลอดภัย นางรู้สึกว่าพวกเขาควรจะต้องป้องกันไว้ก่อน “ถ้าจิ่งสือเยี่ยนยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องหาวิธีติดต่อกับคนของเขาอย่างแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยพยักหน้า “ข้าจะส่งคนไปดักเขาที่ทางออกของแม่น้ำใต้ดิน”“ถ้าหากยังมีชีวิตอยู่ต้องเห็นคน ตายแล้วต้องเห็นศพ”เฟิ่งชูอิ่งเห็นด้วยกับวิธีการของเขาเรื่องเสี่ยงอันตรายอย่างการไปดักฆ่าจิ่งสือเยี่ยน ไม่จำเป็นต้องให้เฟิ่งชูอิ่งเข้าร่วมด้วยหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยออกมาจา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 983

    ก่อนหน้านี้นางได้ยินข่าวว่าเหมยตงยวนถูกฆ่าตายแล้ว นางรู้สึกสะใจมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่าแค่นี้มันยังไม่พอคนอย่างเหมยตงยวนสมควรวิญญาณแตกสลายไม่ได้ผุดได้เกิด!เพียงแต่นางรู้ดีว่าเหมยตงยวนนั้นเก่งกาจมาก ถึงแม้เขาจะตายไปแล้วก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ดังนั้นนางจึงยิ่งฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อเพิ่มพลังปีศาจของตัวเองให้แกร่งกล้า นางถึงขั้นยอมใช้วิธีการที่ผิดบาป เมื่อครู่นี้นางได้ยินพวกนักพรตพูดว่าเหมยตงยวนใช้กระบี่เพียงเล่มเดียวสังหารเจ้าอาราม และใช้พลังของตนเองเพียงอย่างเดียว ขวางคนของอารามเทียนอี้ทั้งหมดไว้ได้จิ้งจอกสือซานเหนียงยอมรับว่านางไม่มีความสามารถเช่นนี้ เหมยตงยวนคนนี้แข็งแกร่งกว่าในความทรงจำของนางมากการจะฆ่าเหมยตงยวนนั้นยากกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้เฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว "พ่อข้าจะวางยาพิษฆ่าแม่ข้าได้อย่างไร?"จิ้งจอกสือซานเหนียงมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วบอกว่า "นอกจากเจ้าจะพบกับเหมยตงยวนแล้ว ยังหลงเชื่อคำพูดของเขาด้วยสินะ”"ตอนแรกคุณหนูไม่มีทางตายได้หรอก ถ้าไม่ใช่เพราะดื่มยาพิษที่เขาส่งมาให้ นางจะถูกพิษเล่นงานจนตายได้อย่างไร”"หลังจากคุณหนูตายไปแล้ว วิญญาณของนางก็น่าจะกลับไปยังปรโลก หรือเร่รอน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 984

    เหมยตงเหยวนรีบเถียงว่า “ข้าเคยวางยาพิษนางตอนไหนกัน?”จิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะเยาะ “เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีก เจ้านี่มันเลวถึงแก่นจริงๆ!”สิ้นเสียง นางก็เหวี่ยงดาบในมือรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเฟิ่งชูอิ่งทนดูไม่ได้ จึงหาโอกาสแปะยันต์ตรึงกายาใส่จิ้งจอกสือซานเหนียงจิ้งจอกสือซานเหนียงขยับเขยื้อนไม่ได้ นางจึงเอ่ยด้วยความเดือดดาล “แกะยันต์ออกไป ข้าจะฆ่าไอ้คนทรยศนี่เพื่อแก้แค้นให้คุณหนู!”เฟิ่งชูอิ่งนวดขมับ “ถ้าเจ้าสงบพอจะพูดคุยกันอย่างมีสติได้เมื่อไหร่ ข้าจะปล่อยเจ้าเอง”“หากพ่อข้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริงๆ คงไม่ลำบากตามหาแม่ข้าจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็คงใช้กระบี่ปลิดชีพเจ้าไปนานแล้ว”จิ้งจอกสือซานเหนียงโมโหจนหอบหายใจรุนแรง ก่อนจะกัดฟันตอบว่า “ก็ได้ ข้าอยากจะฟังเหมือนกันว่าเขาจะแก้ตัวอย่างไร!”ในใจของเหมยตงยวนเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง เขาเอ่ยถามว่า “เจ้าบอกว่าข้าวางยาพิษชิงหลิง มีหลักฐานหรือไม่? อยู่ดีๆ ข้าจะวางยาพิษนางเพื่ออะไรกันล่ะ?”จิ้งจอกสือซานเหนียงเบ้ปากใส่ “เจ้ายังกล้าถามเช่นนี้อีก หน้าด้านจริงๆ!”“ตอนแรกที่คุณหนูล้มป่วย เจ้าเป็นคนส่งยามาให้นางกินทุกวัน ซึ่งตอนนั้นอาการของคุณหนูก็ดีขึ้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 985

    “เจ้าสำนักมีของวิเศษชิ้นหนึ่ง สามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่นได้ตามใจชอบ”“ข้าถูกเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้จักข้าดีที่สุด ดังนั้นการที่เขาจะเปลี่ยนร่างเป็นข้าจึงเป็นเรื่องง่ายมาก”เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งเฟิ่งชูอิ่งและจิ้งจอกสือซานเหนียงก็ตกตะลึงเหมยตงยวนกำมือแน่น “ข้าคือผู้ที่เขาเลือกเฟ้นอย่างดีให้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไป”“เขาคิดว่าการจะเป็นเจ้าสำนักได้ต้องตัดเยื่อใยไร้ความรัก เมื่อเฟิ่งชิงหลิงตาย ข้าก็จะไม่มีพันธะใดๆ ในโลกนี้อีก ตอนนั้นข้าถึงจะคู่ควรกับตำแหน่งเจ้าสำนักลี้ลับ”“แต่ก่อนหน้านี้ข้าเคยทะเลาะกับเขาอย่างรุนแรงเรื่องของชิงหลิง เขาจึงไม่กล้าลงมือทำอะไรอีก”“แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้!”ก่อนออกไปทำภารกิจ เขาแอบไปเยี่ยมเฟิ่งชิงหลิง พบว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้วด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงวางใจออกไปทำภารกิจด้านนอกแต่เมื่อเขาย้อนกลับมาอีกครั้ง นางก็จากไปแล้วเหมยตงยวนเคยติดใจสงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่เพราะเขาสืบไม่พบเบาะแสใดใดยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเฟิ่งชิงหลิงเสียชีวิตแล้ว เขาก็หาดวงวิญญาณของนางไม่พบ จึงคิดไปว่านางคงไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกต่อไปใน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 986

    เฟิ่งชูอิ่งรีบหยิบยันต์ออกมาแผ่นหนึ่งแปะลงบนตัวเหมยตงยวน เพื่อระงับโทสะและพลังอำนาจด้านมืดที่พลุ่งพล่านออกมาจากตัวเขานางร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง “ท่านพ่อ!”แต่เหมยตงยวนไม่ได้หันมองนาง เพียงพึมพำว่า “ข้าเป็นคนฆ่าเฟิ่งชิงหลิง ข้าเป็นคนทำให้นางต้องตาย!”“ตอนนั้นทำไมข้าต้องออกไปทำภารกิจด้วย ข้าควรจะฆ่าเจ้าสำนักให้เร็วกว่านี้”เดิมทีจิ้งจอกสือซานเหนียงมั่นใจว่าเฟิ่งชิงหลิงถูกเขาฆ่าตาย แต่เมื่อเห็นสภาพเขาเช่นนี้ก็รู้ว่าตนเองคิดผิดเพราะเฟิ่งชิงหลิงวิญญาณสลายไปแล้ว เหมยตงยวนก็ตายไปแล้วเช่นกันในสถานการณ์เช่นนี้ เหมยตงยวนไม่จำเป็นต้องหลอกนางอีกจิ้งจอกสือซานเหนียงฝึกฝนอย่างหนักตลอดหลายปีมานี้ก็เพื่อฆ่าเหมยตงยวน แต่ตอนนี้นางกลับพบว่า ความเกลียดชังที่นางมีต่อเหมยตงยวนมานานหลายปีกลับสูญเปล่าตอนนี้นางรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปนางพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ในเมื่อเจ้ามีคุณหนูอยู่ในใจ ทำไมตอนนั้นถึงไม่แสดงออกให้ชัดเจนกว่านี้?”“คุณหนูเคยคิดว่าเจ้าไม่เคยรักนางสักนิด ซ้ำยังคิดว่าเจ้าเกลียดชังนางด้วย”ตอนที่เฟิ่งชิงหลิงยังมีชีวิตอยู่ นางคิดมาตลอดว่าสาเหตุที่เหมยตงยวนบุกเข้าไปในดินแ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 987

    เพียงแต่เขาดูแข็งแกร่งเกินไป แล้วยังมีวิชาเต๋าที่แกร่งกล้าคอยค้ำจุนเอาไว้ เขาไม่ยอมแสดงด้านที่อ่อนแอให้นางเห็น นางก็เลยไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนนางรู้ว่าความปรารถนาอันแรงกล้าที่สุดในใจของเขาคือเฟิ่งชิงหลิง ตอนนี้พอรู้ว่าเฟิ่งชิงหลิงวิญญาณแหลกสลายไปแล้ว ปณิธานดังกล่าวก็เลือนหายไปด้วยที่เขาทนมาได้จนถึงทุกวันนี้ ล้วนเป็นเพราะความปรารถนานั้น ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้วจิ้งจอกสือซานเหนียงก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ นางมองดูแสงดาวที่สลายไปของเหมยตงยวนอย่างเหม่อลอย แล้วถอนหายใจยาวนางเป็นปีศาจจิ้งจอก คิดว่าตัวเองเข้าใจด้านมืดของจิตใจมนุษย์แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่า ความรักที่ซ่อนเร้นไว้ มักจะถูกคนอื่นประเมินค่าต่ำไปสิ่งที่นางคิดว่าเป็นความเฉยชา กลับเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้งที่สุดในโลกความปรารถนาเดิมของนางคือการฆ่าเหมยตงยวน แต่ตอนนี้เหมยตงยวนตายไปแล้ว นางกลับรู้สึกเสียใจอย่างมากระหว่างที่ทั้งสองจมอยู่ในความโศกเศร้า ไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนแอบเข้ามาใกล้กว่าเฟิ่งชูอิ่งจะรับรู้ถึงความผิดปกติที่คืบคลานเข้ามา ก็สายเกินไปเสียแล้ว มีฝ่ามือสับลงที่สันคอของนางอย่างแรงนางหันก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status