แชร์

บทที่ 62

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-29 00:45:24
ต่อให้เป็นจิ่งโม่เยี่ย ก็ยังคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะดำเนินมาทางนี้ได้

เขาเอ่ยหน้ามืดครึ้ม “พวกเจ้าคุยกันจบหรือยัง?”

เจ้าอาวาสตอบอย่างมีความสุข “คุยจบแล้ว คุยจบแล้ว ทีนี้พวกเราจะปรึกษากันเรื่องคำสาปของท่านอ๋องแล้ว”

จิ่งโม่เยี่ยมองท่าทางระริกระรี้ของเขาแล้วรู้สึกอยากจะถีบให้กระเด็นเหลือเกิน

เจ้าอาวาสเห็นเขาสีหน้าไม่สู้ดีนัก จึงตระหนักได้ว่าวันนี้ตัวเองเผลอลืมตัวไปหน่อย

เขาจึงกระแอมไอแล้วบอกกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “คำสาปของท่านอ๋องร้ายแรงมากเลยล่ะ

“ขนาดท่านอ๋องเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าโดนคำสาปตั้งแต่ตอนไหน และใครเป็นคนลงมือสาปแช่งเขา

“คำสาปนี้โหดเหี้ยมอย่างมาก นอกจากจะช่วงชิงชีวิตคนเดียว ยังทำให้โชคชะตาของคนผู้นั้นถูกช่วงชิงไปตลอดเวลาด้วย

“อีกทั้งคำสาปชนิดนี้ยังจะสลักความหวาดกลัวและความปรารถนาลงในจิตใจคน ทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นพวกโหดเหี้ยมป่าเถื่อน ไม่มีทางนอนหลับได้ หากหลับก็ต้องเผชิญหน้ากับฝันร้าย”

ก่อนหน้านี้เฟิ่งชูอิ่งเคยสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ตาของจิ่งโม่เยี่ย จึงเดาว่าเขาน่าจะมีปัญหากับการนอนหลับ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าการที่เขาหลับยากขนาดนี้จะเป็นผลจากคำสาป

นางเอ่ยถาม “ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องรู้ตัวตอน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 63

    เจ้าอาวาสรีบถามว่า “แล้วคำสาปชนิดนี้เจ้าแก้ไขได้ไหม?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “หากคิดจะแก้คำสาป ก็ต้องหาของต้องสาปให้เจอก่อน ขอแค่ทำลายของต้องสาปชิ้นนั้นได้ก็พอแล้ว”เจ้าอาวาสถามต่อ “แล้วเจ้าพอจะมีวิธีหาของต้องสาปชิ้นนั้นไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดสักพัก “หากไปค้นหาตรงๆ ก็คงไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร ไม่มีทางหาเจอแน่นอน“ท่านอ๋อง ท่านพอจะมีคนที่สงสัยอยู่บ้างไหม?”จิ่งโม่เยี่ยตอบเสียงเฉยชา “ในเมืองหลวงแห่งนี้ คนที่อยากจะฆ่าข้ามีเยอะจนนับไม่ถูกเชียวล่ะ“ส่วนคนที่ข้าสงสัย ก่อนหน้านี้เคยลองตรวจสอบดูแล้ว อีกฝ่ายเก็บซ่อนได้มิดชิดมาก ก็เลยไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”เฟิ่งชูอิ่งไม่คิดสงสัยความสามารถของเขาสักนิด หากเขานำกำลังพลออกตามหา การจะใช้คำว่าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เกินจริงเลยหากหาขนาดนั้นก็ยังหาไม่เจอ ก็แปลว่ากำลังมุ่งเป้าไปผิดทาง หรือไม่ก็อีกฝ่ายเตรียมการป้องกันมาอย่างดีแต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็เป็นเรื่องที่ตึงมือทั้งนั้นเจ้าอาวาสถอนหายใจยาวเหยียด “ตั้งแต่พบว่าท่านอ๋องถูกคำสาปก็ผ่านมาห้าปีแล้ว“หากเป็นสถานการณ์ปกติ คนทั่วไปที่ถูกคำสาปเช่นนี้กัดกิน เกรงว่าคงจะมีชีวิตอยู่ได้นานสุดแค่สามปี โชคชะตาก็ถูกสูบจน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 64

    เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “วิธีการของข้าคือให้ท่านอ๋องปลดปล่อยพลังงานชั่วร้ายออกมาทั้งหมด“อย่างไรเสียคนรอบตัวท่านอ๋องก็มีเพียงไทเฮาที่ทรงรักท่านอ๋องจากใจจริง คนที่เหลือล้วนหวังจะทำร้ายท่านอ๋องทั้งนั้น“ตอนท่านอ๋องไปพบไทเฮาก็พกเครื่องรางที่ช่วยสะกดพลังชั่วร้ายเอาไว้ ในยามปกติหากไม่ชอบขี้หน้าใคร ท่านก็ไปเดินเล่นในบ้านของคนผู้นั้นทุกวัน“พวกเขาบอกว่าท่านอ๋องเป็นดาวหายนะมิใช่หรือ ถ้างั้นท่านอ๋องก็เล่นงานคนที่ขัดหูขัดตาให้ตายไปเลยสิ”เจ้าอาวาส “!!!!!!”จิ่งโม่เยี่ย “......”พวกเขาตระหนักจากใจจริงว่าวิธีการคิดของเฟิ่งชูอิ่งผิดแผกมาก เป็นมุมมองที่พวกเขาไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยแต่พอลองคิดทบทวนดูดีๆ กลับรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อยเจ้าอาวาสเบนหน้าไปทางจิ่งโม่เยี่ย เห็นว่าเขาไม่พูดอะไร เพียงถอดสร้อยประคำออกจากมือพริบตาที่เขาถอดสร้อยประคำเส้นนั้นออก เจ้าอาวาสกับเฟิ่งชูอิ่งก็เปิดเนตรทิพย์พร้อมกัน พวกเขาจึงมองเห็นพลังงานชั่วร้ายที่ถูกระบายออกมาจากร่างของเขาเจ้าอาวาสก่นด่าขณะถอยหลังหนี “เวรเอ๊ย ทำไมเจ้าถึงถอดสร้อยประคำโดยไม่พูดไม่จาสักคำ!“เจ้าอยากจะทำให้ใครตายก็ไปหาคนนั้นสิ ทำไมต้องมาเล่นงานข้าด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 65

    เพราะความเป็นจริงแล้วตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จะได้ผลหรือไม่ก็พิสูจน์ไม่ได้อีกเฟิ่งชูอิ่งจึงตอบหน้าตายว่า “ดังนั้นข้าถึงได้บอกไงเพคะ ว่าท่านอ๋องกล้าลงมือโหดเหี้ยมกับตัวเองแค่ไหน“ยิ่งท่านลงมือกับตัวเองโหดเหี้ยมเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็จะยิ่งลงมือกับตัวเองโหดเหี้ยมเท่านั้น“ด้วยเหตุนี้เอง บนร่างของคนผู้นั้นจะต้องหลงเหลือบาดแผลอยู่อย่างแน่นอน ท่านอ๋องแค่ส่งคนไปสืบเป้าหมายที่สงสัย ก็จะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร”จิ่งโม่เยี่ย “......”เจ้าอาวาสที่อยู่ข้างๆ เอ่ยเสริม “วิชานี้ข้าเคยได้ยินมาก่อนนะ ตามหลักการแล้วมันสามารถทำได้จริง“เพราะว่าคนที่ทำร้ายท่านอ๋องกำลังใช้โชคชะตาที่ขโมยไปจากตัวของท่านอ๋อง ดังนั้นหากมองในมุมกลับกันแล้ว มันสามารถทำได้จริงๆ”เขากล่าวจบก็หันไปถามเฟิ่งชูอิ่ง “เจ้าใช้วิชานี้ได้จริงๆ หรือ?”นางพยักหน้าหงึกๆ เจ้าอาวาสจึงเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น “ท่านอ๋อง ลองดูหน่อยสิ! เผื่อมันใช้ได้ผลจริงๆ ไง?“อีกอย่างต่อให้มันใช้ไม่ได้ผล ด้วยความสามารถของท่านแล้ว อย่างไรก็ไม่ทำให้ตัวเองเจ็บตัวหรอก”จิ่งโม่เยี่ยเอียงศีรษะมองคนทั้งสอง ทั้งสองคนก็หันมองเขาด้วยสีหน้าคาดหวังเขามองออกว่าทั้งส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 66

    เฟิ่งชูอิ่งคิดว่าจิ่งโม่เยี่ยน่าจะป่วย ป่วยหนักมากเสียด้วย!มีคนปกติที่ไหนจะขอยันต์จากคนอื่นทีละหนึ่งร้อยแผ่นบ้าง? เขาคิดว่านางใช้เครื่องพิมพ์ทำหรือไง?นางสูดหายใจลึกๆ แล้วหันไปหาเจ้าอาวาส “รบกวนท่านเจ้าอาวาสอธิบายให้ท่านอ๋องฟังหน่อยเถอะว่าการเขียนยันต์แต่ละใบมันยากขนาดไหน”วันนี้นางขายยันต์ให้เจ้าอาวาสในราคาถูก เจ้าอาวาสจึงติดหนี้น้ำใจนางอยู่เขาหันไปหาจิ่งโม่เยี่ยแล้วกล่าว “ท่านอ๋อง การเขียนยันต์ไม่ใช่แค่การวาดลงบนกระดาษ ของพวกนี้จำเป็นจะต้องดึงพลังวิญญาณในห้วงฟ้าดินมาใช้ เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเลย“ท่านขอทีเดียวหนึ่งร้อยแผ่น มันออกจะมากเกินไป”เฟิ่งชูอิ่งที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย “ใช่แล้ว ใช่แล้ว! ท่านอ๋อง ยันต์เขียนได้ยากมาก เป็นของที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง ไม่ใช่ผักกาดขาว[footnoteRef:1]นะเพคะ!” [1: ใช้เปรียบเทียบของที่มีราคาถูก] “อีกอย่างยันต์พวกนี้ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายทุกครั้งที่ใช้ด้วย ภายในสิบวันไม่ควรใช้เกินหนึ่งแผ่นเพคะ”อันที่จริงก็ใช้ได้ทุกวันนั่นแหละ แต่นางไม่อยากถูกเขากดหัวใช้เป็นทาส ในเวลาแบบนี้ นางจึงคิดจะรักษาภาพพจน์ของผู้มีคุณธรรมสูงส่งเอาไว้จะปล่อยให้จิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 67

    ความจริงแล้วจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้หวงสินสอด แต่เป็นเพราะว่าที่พระชายาของเขาตายไปเจ็ดคนแล้วมีหลายคนที่เขายังไม่ทันจะส่งสินสอดไปพวกนางก็ชิงตายเสียก่อน เขาก็เลยคิดว่าไม่ควรจะเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นพอถึงคราวของเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็เลยตัดสินใจจะมอบสินสอดให้วันแต่งงานเลย จะได้ไม่ต้องยุ่งยากนัยน์ตาของจิ่งโม่เยี่ยดำดิ่งเย็นเยือก มือของเขาเลื่อนจับด้ามกระบี่เจ้าอาวาสตกใจจนสะดุ้ง รีบกดมือเขาแล้วเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง มีอะไรก็พูดกันดีๆ เถอะ!“นางเป็นแค่สตรีคนหนึ่ง ท่านอย่าได้ถือสาหาความกับนางเลย“ถ้าอย่างไร...ข้ายอมจ่ายเงินก้อนนี้แทนท่านก็ได้”จิ่งโม่เยี่ยกับเฟิ่งชูอิ่งตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ได้”เจ้าอาวาส “......”เขาชักจะสงสัยแล้วสิว่าสองคนนี้ร่วมมือกันปล้นเขาเขาถามว่า “ข้าเปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหม?”จิ่งโม่เยี่ย “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่ง ”ไม่ทันแล้ว!”เจ้าอาวาส “......”โดนแล้วไง เขาโดนสองคนนี้หลอกปล้นเงินอย่างจังเลยโชคดีที่ก่อนหน้านี้เขาช่วยปัดเป่าพลังชั่วร้ายให้จิ่งโม่เยี่ย จิ่งโม่เยี่ยก็เลยมอบเงินให้เขามหาศาลทีเดียวเขาตัดสินใจจะหักเงินจำนวนนี้จากในนั้นหลังจากตกลงกันได้แล้ว วันนี้เฟิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 68

    จิ่งโม่เยี่ยไม่พูดอะไร นางจึงกล่าวต่อว่า “ชีวิตของท่านอ๋องคงไม่ได้มีค่าแค่แสนตำลึงกระมัง ท่านอ๋องคงจะไม่มีปัญหากับเงินจำนวนเท่านี้หรอก“ข้าเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ ท่านอ๋องจ่ายเงินให้ข้าก่อนห้าหมื่นตำลึงเป็นค่ามัดจำ ส่วนที่เหลืออีกห้าหมื่นตำลึงค่อยจ่ายหลังจากแก้คำสาปของท่านอ๋องได้แล้ว”เจ้าอาวาสคิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะต้องต่อรองราคาอย่างแน่นอน คิดไม่ถึงเลยว่าเขากลับตอบรับทันที “ได้”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินเขาตอบตงลงแบบไม่เรื่องมาก นางก็คิดว่าถึงเขาจะนิสัยเลวร้ายไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้เกินเยียวยานางจึงเอ่ยชมเขา “ท่านอ๋องเป็นคนที่ตรงไปตรงมายิ่งนัก!”นางกล่าวจบก็สร้างมุทราประทับใส่ร่างของจิ่งโม่เยี่ย เพียงพริบตาเดียว ไอทมิฬหนาแน่นที่โอบล้อมรอบตัวเขาก็สลายหายไปเกือบหมดเจ้าอาวาสที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ถึงกับตาเหลือก “เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มตอบ “ของแบบนี้แค่มีมือก็ทำได้แล้วมิใช่หรือ?”เจ้าอาวาส “......”จู่ๆ เขาก็เกิดความคิดว่ามือของเขาช่างไร้ประโยชน์เหลือเกินเฟิ่งชูอิ่งสร้างมุทราอยู่หลายกระบวนท่า พลังงานชั่วร้ายในตัวของจิ่งโม่เยี่ยก็ถูกกำจัดออกไปจนเหลือเพียงชั้นบางๆเจ้าอาวาสเบิกตาโตกล่าวว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 69

    ทางด้านจวนสกุลหลิน นางไม่ปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุขแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าระหว่างที่นางเสียเวลาอยู่นี้ ทางด้านฮว๋าซื่อจะเป็นอย่างไรบ้างแล้วสถานการณ์ของฮว๋าซื่อในยามนี้มิสู้ดีนักตอนที่นางตกลงไปในน้ำ นางตระหนักได้เลยว่าวันนี้ตนเองอาจจะไม่รอดแล้วแต่ชะตาของนางยังไม่ขาด เพราะตอนที่นางตกน้ำไป ขบวนเสด็จของอ๋องเฉินก็อยู่แถวนั้นพอดี เขาจึงสั่งให้คนลงไปช่วยนางและสาวใช้ขึ้นมาจากน้ำตอนที่นางถูกช่วยขึ้นมายังอยู่ในอาการสลบไสล อ๋องเฉินจึงสั่งให้คนพาตัวนางไปส่งที่โรงหมอใกล้ๆ หลังจากท่านหมอช่วยฝังเข็มให้นาง นางถึงได้สติกลับมาอ๋องเฉินจึงลอบถามความคืบหน้าของเรื่องราวต่างๆ นางจึงแอบบอก อ๋องเฉินไปว่าวันนี้เฟิ่งชูอิ่งไม่มีทางรอดแน่นอนอ๋องเฉินพึงพอใจกับผลลัพธ์ของเรื่องนี้มาก ทว่าเรื่องบางอย่างเขาไม่อาจทำอย่างเปิดเผย จึงทิ้งรถม้ากับสารถีเอาให้นางใช้งาน ส่วนพวกเขาก็แยกตัวออกไปก่อนวันนี้ฮว๋าซื่อต้องเจอเรื่องสะเทือนขวัญแล้วยังสำลักน้ำไปหลายอึก ร่างกายยังเต็มไปด้วยแผลถลอก นางจึงอารมณ์เสียเป็นอย่างมากนางอยากรู้ว่าตอนนี้ทางด้านเฟิ่งชูอิ่งเป็นอย่างไรบ้าง แต่แค่นางลุกขึ้นยืนก็วิงเวียนหน้ามืด แข้งขาอ่อนแรง จึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 70

    สารถีคนนั้นไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในรถม้า เขาจึงยิ้มแล้วบอกกับหลินชูเจิ้งว่า “ครั้งนี้ฮูหยินของท่านสร้างผลงานใหญ่แล้ว ท่านอ๋องจะต้องมอบรางวัลอย่างงามแน่นอน”หลินชูเจิ้งสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างมาก แต่ก็ยังพยายามฉีกยิ้มกล่าว “ขอบพระทัยท่านอ๋องแล้ว!“ขอบคุณที่ท่านเสียสละเวลามาส่งฮูหยินของข้า มิสู้เข้าไปดื่มชาในจวนสักหน่อยล่ะ?”สารถีส่ายหน้าปฏิเสธ “ข้าไม่รบกวนใต้เท้าหลินดีกว่า ท่านอ๋องยังรอให้ข้ากลับไปรายงานอยู่“รบกวนใต้เท้าหลินประคองฮูหยินของท่านลงจากรถด้วย ข้าจะได้รีบกลับไปรายงานท่านอ๋อง”หลินชูเจิ้งชักจะยิ้มไม่ออกแล้ว แต่เขายังพยายามหาทางรักษาหน้าตาของตัวเองอยู่ “ใช้เวลาไม่นานหรอก“ท่านอ๋องจิตใจดีมีเมตตาต่อข้าทาสบริวาร หากท่านมาถึงจวนของข้าแล้วไม่ได้ดื่มแม้แต่ชาสักถ้วย เดี๋ยวท่านอ๋องจะหาว่าข้าเสียมารยาทได้”สารถีรู้สึกว่าคำพูดของหลินชูเจิ้งก็ฟังดูมีเหตุผล เขาลังเลอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้าตกลง ทว่ากลับมีเสียงแปลกๆ ดังมาจากในรถม้าเสียก่อนสารถีเอ่ยถาม “เสียงอะไรน่ะ?”หลินชูเจิ้งรีบร้อนกล่าวว่า “ท่านหูแว่วแล้ว ไม่มีเสียงอะไรเลย”ทว่าตอนนั้นเอง เสียงกระเส่าก็ดังออกมาจากข้างในอีกครั้ง คราวนี้เสีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 958

    เฟิ่งชูอิ่งคิดว่านี่คือการมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนรู้ว่าสถานที่อย่างอารามเต๋าหรือวัดพุทธเป็นเหมือนสิ่งต้องห้ามสำหรับภูตผีปีศาจ ปกติแล้วพวกมันไม่กล้าเข้าใกล้สถานที่แบบนี้แต่จิ้งจอกสือซานเหนียงไม่ใช่ปีศาจทั่วไป นางเป็นปีศาจที่แม้แต่พลังมังกรก็ยังกล้าดูดกลืนในสถานการณ์เช่นนี้ นางจะหนีไปซ่อนตัวที่อารามเทียนอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเฟิ่งชูอิ่งจึงกล่าวว่า "แม้ค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับจิ้งจอกสือซานเหนียง""ทหารองครักษ์ค้นหาทั่วภูเขาใกล้เคียงแล้วแต่ก็ยังไม่พบ ถ้าอย่างนั้นก็ลองไปค้นหาอารามเทียนอี้ดูเถอะ"จิ่งโม่เยี่ยเห็นด้วยกับความคิดของนาง จึงให้ทหารองครักษ์ไปค้นหาที่อารามเทียนอี้แต่ทหารองครักษ์กลับมาอย่างรวดเร็วและรายงานว่าค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้ถูกเปิดใช้งานแล้ว พวกเขาเข้าไปไม่ได้ทั้งจิ่งโม่เยี่ยและเฟิ่งชูอิ่งเคยเห็นพลังค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้มาแล้ว ตอนนั้นถ้าจิ่งโม่เยี่ยมาช่วยไม่ทันเวลา เฟิ่งชูอิ่งคงโดนยิงจนพรุนเป็นรังผึ้งไปแล้วเฟิ่งชูอิ่งถามด้วยความสงสัยว่า "ปกติค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้จะ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 957

    จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกจากใจจริงว่าวิชาของเฟิ่งชูอิ่งนั้นลึกลับเกินคาด แถมยังแสดงออกมาในรูปแบบที่เหนือความคาดหมายของเขาอีกด้วยมีนางคอยช่วยเหลือ เขาก็ผ่อนคลายสบายใจขึ้นมากในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยคิดว่าแผนการทั้งสองสามารถดำเนินการพร้อมกันได้ให้หลางซานและฉินจื๋อเจี้ยนไปปราบปรามทหารที่จิ่งสือเยี่ยนส่งมา ส่วนจิ่งโม่เยี่ยจะไปตามหาจิ้งจอกสือซานเหนียงกับเฟิ่งชูอิ่งองครักษ์ที่จิ่งสือเยี่ยนพามาล้วนถูกจิ่งโม่เยี่ยจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเขาถูกส่งตัวไปที่คุกของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดหลังจากเฟิ่งชูอิ่งได้รับข่าวที่จิ่งโม่เยี่ยส่งมา นางก็รีบเดินทางมาพร้อมกับเหมยตงยวนทันทีเมื่อเหมยตงยวนมาถึง เขาก็ร่ายคาถาสำรวจบรรยากาศรอบๆ แล้วพยักหน้าว่า “เป็นสือซานเหนียง”เฟิ่งชูอิ่งยิ้ม “เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรมาตลอด พอมาวันนี้กลับได้พบโดยไม่ต้องออกแรง”“พวกเราตามหาสือซานเหนียงมานานแต่ไม่เห็นวี่แวว ไม่คิดว่าจะได้เบาะแสในเวลาแบบนี้”เหมยตงยวนมองสำรวจไปรอบๆ “ครั้งก่อนนางโดนปู่เยี่ยโหวทำร้ายจนอาการสาหัส ในเวลาสั้นๆ แบบนี้ร่างกายนางคงยังไม่หายดี”“นางปรากฏตัวออกมาในเวลาแบบนี้ คงเพราะอยากจะรักษาอาการบาดเจ็

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 956

    ทันทีที่หลางซานเห็นจิ่งโม่เยี่ยก็รีบตรงเข้ามาสอบถามว่า “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก พวกเราแค่เจอปีศาจจิ้งจอกเท่านั้นเอง”หลางซาน “......”เรื่องปีศาจแต่ก่อนมีอยู่แค่ในนิทานปรัมปราและตำนานพื้นบ้าน ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้พวกเขาจะได้พบเจอกับของจริงหลางซานมองจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าแปลกๆ จิ่งโม่เยี่ยจึงถามว่า “มองข้าด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”หลางซานทำท่าเหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่กล้า จิ่งโม่เยี่ยจึงจ้องอีกฝ่ายเขม็ง หลางซานจึงเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้ ท่านอ๋องควบคุมตัวเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ย “......”นี่มันคำถามอะไรกัน?หลางซานสบตากับแววตาดุดันของเขา แล้วแข็งใจกล่าวต่อว่า “ข้า... ข้าน้อยได้ยินมาว่าปีศาจจิ้งจอกเก่งกาจเรื่องมารยาสตรีมากที่สุด”“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เจอปีศาจจิ้งจอกแล้วจะรอดกลับมาได้ ท่านอ๋องเพิ่งจะปรับความเข้าใจกับพระชายา ถ้าหากว่า...”เขายังพูดไม่จบ จิ่งโม่เยี่ยก็เอามือวางบนด้ามกระบี่ เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูดแบบทันควัน “แต่ท่านอ๋องไม่ใช่บุรุษธรรมดา”“หัวใจของท่านอ๋องมีไว้เพื่อพระชายาเท่านั้น ไม่มีใครแทนที่ได้”“อย่าว่าแต่ปีศาจจิ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 955

    จิ้งจอกสือซานเหนียงเป็นปีศาจไม่ใช่มนุษย์ นางจึงไม่ได้ใส่ใจศีลธรรมมากมายนัก ไม่รู้สึกว่าการที่นางดูดพลังมังกรจากคนอื่นเป็นเรื่องผิดแล้วนางก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวฮ่องเต้ของพวกมนุษย์แม้แต่น้อยก็แค่ผู้ชายที่มีตาสองข้างปากหนึ่งปาก ถอดเสื้อผ้าจับโยนลงบนเตียงก็เหมือนกันหมดนิสัยนางค่อนข้างจะบิดเบี้ยว ก่อนจะเปิดฉากสู้กับจิ่งโม่เยี่ย นางไม่ได้มุ่งมั่นว่าจะต้องจับเขามานอนด้วยให้ได้แต่ถ้ามีโอกาสได้ก็ต้องคว้าเอาไว้ เพราะสำหรับนางเขาคือยาบำรุงชั้นดีหลังจากสู้กับจิ่งโม่เยี่ยแล้ว นางก็รู้สึกว่าต้องได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครองให้ได้!ดังนั้นตอนที่นางลงมือจึงยิ่งบ้าคลั่ง อยากจะกดจิ่งโม่เยี่ยลงใต้ร่างแล้วสูบพลังให้สาสมใจทันทีนางเพิ่มพลังขึ้นจนถึงขีดสุด พุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งเพราะนางบำเพ็ญเพียรมานานหลายปี ในตอนที่บันดาลโทสะ วิชาหลากหลายแขนงก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันต่อให้จิ่งโม่เยี่ยจะเก่งกาจขนาดไหน พอต้องเจอกับการโจมตีที่ไม่ใช่ทางกายภาพ เขาไม่มีทางรับมือได้อยู่แล้วไม่นานเขาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงใช้ผ้าแพรขาวมัดจนขยับเขยื้อนไม่ได้จิ้งจอกสือซานเหนียงหอบหายใจขณะเอา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 954

    พอทหารองครักษ์คนนั้นพูดจบ หมอกขาวก็ยิ่งรวมตัวกันรวดเร็วยิ่งขึ้นจิ่งโม่เยี่ยขมวดคิ้ว เพราะเขารู้ว่าคำพูดของทหารองครักษ์เป็นความจริงเขาจ้องมองหมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ อย่างเย็นชา ร่างกายนิ่งสงบเหมือนภูเขาหมอกขาวกลืนกินทหารองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ เขา ทำให้ทุกคนหายวับไปโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องโวยวายหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยอยู่กับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็มีความรู้ใหม่เกี่ยวกับวิชาของพวกศาสตร์ลี้ลับทั้งหลายในความคิดของเขา แม้ว่านี่จะไม่ใช่วิชาของสำนักลี้ลับ แต่มันก็อาจจะคล้ายคลึงกันหลายส่วนเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังมาจากรอบๆ ผู้ชายทั่วไปได้ยินแล้วคงเผลอหลงใหล แต่เขาฟังแล้วรู้สึกรำคาญ เพราะนั่นไม่ใช่เสียงของเฟิ่งชูอิ่งในใจของจิ่งโม่เยี่ย ผู้หญิงในโลกนี้แบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือเฟิ่งชูอิ่ง และอีกประเภทหนึ่งคือผู้หญิงคนอื่นเขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้เฟิ่งชูอิ่งยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับเขาตอนนี้ดันมีปีศาจที่ไหนไม่รู้มาเกี้ยวพาเขาแบบนี้ ถ้าเฟิ่งชูอิ่งรู้เรื่องนี้เข้า คงจะต้องโกรธมากแน่ๆจิ่งโม่เยี่ยมองไม่เห็นอะไรเลยในม่านหมอกหนา เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพับแล้วมัดปิดตาตัวเองพริบตา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 953

    พลังหยาง พลังมังกรและโชคชะตาอันยิ่งใหญ่นางต้องการ นางต้องได้ทั้งหมดนั่นมาครอง!ตอนแรกจิ่งสือเยี่ยนโดนวิชาของเฟิ่งชูอิ่งเล่นงานจนอาการย่ำแย่อยู่แล้ว มาตอนนี้ยังถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงสูบพลังอีก ทำให้โชคชะตาของเขาลดฮวบลงอย่างรวดเร็วพลังมังกรสามารถคุ้มครองป้องกันร่างกาย ไม่ให้ปีศาจเข้ามาใกล้ได้แต่ตราบใดที่ปีศาจไม่มีจิตสังหาร พลังมังกรก็จะไม่สนใจและปล่อยผ่านไปจิ่งสือเยี่ยนโดนจิ้งจอกสือซานเหนียงเล่นงานจนเกือบหมดแรงนอนเหี่ยวแห้งตายแต่จิ้งจอกสือซานเหนียงเหมือนจะยังไม่ค่อยพอใจ "เจ้าดูเหมือนจะร้ายกาจ แต่กลับได้แค่นี้เอง?"จิ่งสือเยี่ยน “......”จิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!”เขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะถูกผู้หญิงดูถูกเรื่องความสามารถทางด้านนั้น!เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ตอนนี้เจ้าคงสาสมใจแล้ว ปล่อยข้าไปได้หรือยัง?"เขาร้อนใจอย่างมาก หากยังไม่รีบไปตอนนี้อีก เกรงว่าจะถูกจิ่งโม่เยี่ยตามมาทันจิ้งจอกสือซานเหนียงตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่งแล้วเอ่ยว่า "ข้าเคยบอกตอนไหนว่าทำครั้งเดียวแล้วจะปล่อยเจ้าไป?"จิ่งสือเยี่ยนเบิกตากว้างจ้องมองนาง ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขึ้งเขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 952

    ถ้าจะพูดถึงเรื่องที่จิ้งจอกสือซานเหนียงพลาดท่าเสียทีในการยั่วยวนผู้ชายตลอดหลายปีมานี้ ก็คงเป็นตอนที่นางได้เจอกับปู๋เยี่ยโหว และเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นทันทีที่สบตากับจิ่งสือเยี่ยน นางก็มั่นใจได้ทันทีว่า ถึงผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่พวกหื่นกามจนขึ้นสมอง แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนเจ้าชู้อยู่บ้างไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มองตาเขาก็รู้แล้วจิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะคิกคัก นางเอื้อมมือไปคล้องคอเขา “ค่ำคืนนี้ช่างวิเศษจริงๆ”จิ่งสือเยี่ยนยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็แทงกระบี่เข้าใส่จิ้งจอกสือซานเหนียงแบบไม่บอกกล่าวแต่การโจมตีของเขากลับพลาดเป้า สาวงามในอ้อมแขนก็หายวับไปในทันทีสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลาดการโจมตีครั้งแรก การจะลงมือครั้งต่อไปย่อมยากขึ้นจิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะเยาะ “ข้าว่าแล้วเชียว ผู้ชายที่ยิ้มหน้าระรื่นได้แบบเจ้าไม่ใช่คนดีอะไรเลย”“ปากก็พูดจาไพเราะอ่อนหวาน แต่การกระทำกลับโหดเหี้ยมสิ้นดี!”“กับผู้ชายแบบนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจ!”ทันทีที่นางพูดจบ จิ่งสือเยี่ยนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างพันอยู่ที่ขา ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง สิ่งนั้นก็ลากเขาลงไปกองกับพื

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 951

    เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่รู้สึกได้ว่าการหนีออกจากเมืองหลวงในวันนี้ เรียกได้ว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยอุปสรรคขัดขวางต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เขาก็ยิ่งไม่รู้เลยจิ่งสือเยี่ยนมีวรยุทธ์ไม่เลว ไม่ขาดแคลนทั้งความกล้าหาญและกลยุทธ์แต่ในขณะนี้ หัวใจของเขากลับเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บราวกับน้ำแข็งเกาะ มีบางสิ่งกำลังหลุดออกจากการควบคุมจิ่งสือเยี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะชักกระบี่ออกมา ตะโกนเสียงดังว่า “ใครกำลังเล่นตลกอยู่?”ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อเรื่องผีสาง แต่หลังจากได้รู้จักกับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็เริ่มเชื่ออีกครั้งเฟิ่งชูอิ่งเป็นคนที่มีวิชาอาคมสูงส่งที่สุด เท่าที่เขาเคยพบเห็นมาปฏิกิริยาแรกของเขาคือคนที่ซุ่มโจมตีเขาในวันนี้ อาจเป็นเฟิ่งชูอิ่งก็ได้ แต่ไม่นานเขาก็ปัดความคิดนี้ทิ้งเพราะถ้าเฟิ่งชูอิ่งลงมือจริง นางจะให้วิญญาณร้ายที่อยู่ข้างกายนางจัดการโดยตรง จะไม่ปิดบังอำพรางเช่นนี้จิ่งสือเยี่ยนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เขาคิดว่าเขาอาจจะถูกสิ่งสกปรกบางอย่างตามรังควานจิ่งสือเยี่ยนพูดเสียงดังว่า “เจ้าต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้”เสียงที่ตอบกล

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 950

    จิ่งสือเยี่ยนคิดว่าการเดินทางผ่านหมู่บ้านอาจเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก จึงเลือกที่จะเดินทางผ่านป่าแทนแต่แล้วม้าของเขาก็ติดกับดักอีกครั้ง ครั้งนี้ม้าเกิดอาการตื่นตระหนกม้าที่เขาเพิ่งเปลี่ยนมาจากองครักษ์นั้นดีดดิ้นเหมือนกำลังคุ้มคลั่ง จนเขากระเด็นตกจากหลังม้าครั้งนี้เขาไม่โชคดีเท่าไหร่ ตอนที่ถูกม้าเหวี่ยงออกไป ร่างของเขาฟาดเข้ากับต้นไม้อย่างแรงมีเสียงดัง “โครม!” ก่อนจิ่งสือเยี่ยนจะกลิ้งลงมาจากต้นไม้ครั้งนี้เขารู้สึกเหมือนเอวจะหัก ปวดจนทนแทบไม่ไหวองครักษ์ของเขาช่วยพยุงเขาขึ้นมาและดึงม้าที่ตื่นตระหนกกลับมาจิ่งสือเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจรู้สึกหงุดหงิดยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนก็ไม่ได้เป็นอะไร มีแค่ม้าของเขาเท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเขารู้สึกว่าวันนี้ตัวเองค่อนข้างโชคร้ายคืนนี้การเดินทางไม่คืบหน้าไปไหน แล้วเขายังต้องตกม้าถึงสองครั้ง เจอเรื่องแบบนี้แม้แต่พระอิฐพระปูนก็ยังโมโห นับประสาอะไรกับจิ่งสือเยี่ยนที่เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความโกรธแต่การตกม้าครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง เขาเคล็ดเอวด้วยจึงไม่สามารถขี่ม้าได้อีกสักพักเ

DMCA.com Protection Status