Share

บทที่ 323

Author: ดอกถังร่วงหล่น
แต่เขาตระหนักดีว่าในช่วงเวลานี้ บนเวทีประลองแห่งนี้ หากจะมีใครสักคนที่เขาสามารถเชื่อใจได้ คนผู้นั้นคือนาง

เขาไม่เสียเวลาใคร่ครวญด้วยซ้ำ โยนยันต์ที่นางยัดใส่มือเขาทิ้งไปทันที

เสี้ยวพริบตาที่เขาโยนยันต์แผ่นนั้นทิ้งไป นกยักษ์ตัวหนึ่งก็เปลี่ยนเส้นทางบินตรงไปทางเขาทันที

เฟิ่งชูอิ่งเห็นแบบนั้นก็มั่นใจว่าตัวเองเดิมพันได้ถูกต้องแล้ว

ขั้นต่อไปคือการแสดงปาฏิหาริย์ให้คนทั้งหมดได้ประจักษ์!

ตอนที่นกยักษ์ตัวนั้นบินเข้ามาใกล้ เฟิ่งชูอิ่งก็หยิบกระจกทองแดงที่อยู่ในกระเป๋าออกมา ยกขึ้นส่องดวงตาของนกยักษ์ตัวนั้น

พร้อมกันนั้นนางก็ตะโกนว่า “ท่านอ๋อง!”

ชั่วพริบตาเดียว นกยักษ์ตัวนั้นก็แผดเสียงคำรามลั่น สิ่งที่มันจับมาได้ก็ถูกปล่อยจนร่วงลงมาจากท้องฟ้า หล่นลงมาทางศีรษะของจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ชือหลุนก็ยกค้อนขึ้นสูงเตรียมจะฟาดใส่เขาเช่นกัน

จิ่งโม่เยี่ยเคยร่วมมือกันนางมาหลายครั้งแล้ว จึงทราบว่านางจัดการเรื่องต่างๆ ด้วยวิธีที่ผิดแปลกจากสามัญสำนึก พวกเขาจึงสามารถเชื่อมโยงความคิดถึงกันได้

ตอนที่ได้ยินเสียงหวีดแหลมของนกยักษ์ เขาก็เข้าใจจุดประสงค์ของนางทันที

ดวงตาของเขาหรี่แคบลง พยายามปรับลมหายใจขอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 324

    ถึงจิ่งโม่เยี่ยจะรู้ว่าที่นางเป็นห่วงเป็นใยเขาเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเพราะกลัวว่าหากเขาตายไป นางเองก็จะไม่รอดไปด้วยแต่แค่ได้เห็นนางเป็นห่วงเขาแบบนี้ เขาก็รู้สึกพึงพอใจมากแล้วบนโลกใบนี้ มีคนที่ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับเขา ยอมทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเหลือเขาเขาไม่พูดไม่จาอะไร ยื่นมือออกไปคว้าตัวนางเข้ามากอดเฟิ่งชูอิ่ง “......”นางคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ นางรีบยกมือขึ้นผลักตัวเขาออก แต่พยายามอยู่พักใหญ่ อีกฝ่ายกลับไม่ขยับสักนิดนางจึงต้องกระซิบเบาๆ ว่า “ท่านอ๋อง ตรงนี้มีสายตาจับจ้องมากมาย พวกเขากำลังมองพวกเราอยู่นะเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยวางปลายคางมนลงบนไหล่ของนางเบาๆ กระซิบตอบว่า “อยากมองก็มองไปสิ ข้าก็มีคนคอยปกป้องเหมือนกัน”เฟิ่งชูอิ่งชะงักเล็กน้อย นางสัมผัสความเจ็บช้ำและความน่าสงสารเล็กน้อยได้จากคำพูดของเขา แล้วมันยังแฝงความดีใจเสี้ยวเล็กๆ เอาไว้ด้วยตอนแรกนางคิดจะออกแรงผลักเขาออกไป แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผลักไสอย่างที่คิดนางยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบแผ่นหลังของเขาอย่างไม่รู้ตัว ปลอบประโลมเขาอย่างอ่อนโยนซึ่งในมุมมองของนาง มองเห็นเทียนซือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพอดีเฟิ่งชูอิ่งจึงส่งยิ้มบางๆ ให้เทียนซือ จากนั้นก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 325

    แต่กลับได้ยินเขาเอ่ยอีกว่า “เรื่องในวันนี้ ข้าก็เพียงทำตามหน้าที่ในฐานะอ๋องฉู่เท่านั้น“ข้าอยากจะประกาศให้คนแคว้นหนานเยว่ทราบ ว่าตอนนี้ข้ามีว่าที่พระชายาแล้ว อีกไม่นานก็จะแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานแล้วก็จะมีลูก“ตอนข้าอายุสิบสี่ปีสามารถอัดพวกเจ้าจนอุจาระปัสสาวะราดได้ ข้าในตอนนี้ก็สามารถอัดพวกเจ้าจนอุจาระปัสสาวะราดได้เหมือนกัน ในภายภาคหน้าลูกของข้าก็สามารถอัดพวกเจ้าจนอุจาระปัสสาวะราดได้เช่นกัน”การกล่าววาจาเช่นนี้เป็นการแสดงออกในฐานะตัวแทนแคว้น ขุนนางทั้งหลายจึงช่วยกันโห่ร้องสนับสนุนไม่ว่าวันนี้จิ่งโม่เยี่ยจะได้ชัยชนะมาด้วยวิธีไหน แต่สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายชนะอยู่ดี!ฮ่องเต้เจาหยวนสีหน้ามืดครึ้มอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแผนการและกับดักที่เตรียมการมาอย่างดี จะกลายเป็นการตัดชุดเจ้าสาว[footnoteRef:1]ให้จิ่งโม่เยี่ยไปแทน [1: ยกผลงานหรือผลประโยชน์ให้คนอื่น] เขารู้ดีว่าตอนที่เขาช่วงชิงบัลลังก์ในยามนั้น มีขุนนางจำนวนมากในราชสำนึกไม่พอใจแต่เพราะเขากุมอำนาจยิ่งใหญ่ ขุนนางเหล่านั้นจึงไม่กล้าพูดอะไรมากช่วงหลายปีมานี้เขาพยายามทำให้จิ่งโม่เยี่ยกลายเป็นคนไร้ค่า เพื่อบอกกับคนทั่วหล้าว่าจิ่งโม่เยี่ย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 326

    เสียงเย็นชาของฮองเฮาดังขึ้น “พี่สะใภ้ช่างอารมณ์ร้ายเสียจริง เจ้าวางอำนาจบาตรใหญ่ในวังหลวงก็แล้วไปเถอะ นี่ถึงขั้นสั่งให้ข้าไสหัวไปเชียวหรือ!”พระสนมสวี่เอียงศีรษะมองฮองเฮา นัยน์ตาพลันสงบนิ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮองเฮาหาเรื่องให้นางลำบากไม่น้อยเลยทั้งสองคนเกลียดชังกันอย่างมากพระสนมสวี่เข้าสู่รูปแบบการต่อสู้ของวังหลัง นางคลี่ยิ้มบางๆ “ข้าก็ว่าใครพูดจาอวดเบ่งถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็ฮองเฮานี่เอง“ขอถามอะไรหน่อยสิฮองเฮา อำนาจจัดการวังหลังเจ้าได้คืนมาหรือยัง?”ฮองเฮา “......”หน้านางมืดครึ้มลงในเสี้ยวพริบตาครั้งก่อนฮ่องเต้เจาหยวนริบอำนาจจัดการวังหลังทั้งหมดของนางไป จวบจนตอนนี้ก็ยังไม่มอบคืนมาทุกวันนี้นางอยู่ในวังด้วยฐานะที่ค่อนข้างน่ากระอักกระอ่วนใจมีเพียงตำแหน่งฮองเฮาอย่างเดียว แต่ไม่มีอำนาจประจำตำแหน่งพระสนมสวี่เม้มปากอมยิ้ม เอ่ยด้วยสีหน้าหลากอารมณ์ “ดูเหมือนฮองเฮาจะยังไม่ได้อำนาจจัดการวังหลังคืนมานะ“ในเมื่อยังไม่ได้อำนาจคืนมา ย่อมไม่มีสิทธิ์เจ้ากี้เจ้าการเรื่องของข้า“ข้าขอแนะนำฮองเฮาสักหน่อยเถอะ แทนที่จะเอาเวลามาหาเรื่องข้า มิสู้เจ้าหาทางเอาอำนาจคืนมาก่อนดีกว่าไหม“ไม่อย่างนั้น ตำแห

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 327

    แต่หากให้นางย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง นางก็ยังเลือกทำเหมือนเดิมอยู่ดีตอนนี้ขอแค่มีชีวิตรอดก็พอ เรื่องหลังจากนี้ไว้ค่อยว่ากันจิ่งโม่เยี่ยมองนางด้วยท่าทางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “อยู่ข้างกายข้า เจ้าจะปลอดภัยมากที่สุด“ข้าสัญญากับเจ้าได้ว่าหลังจากนี้ไปจะไม่คิดสังหารเจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาด้วยความประหลาดใจ เขาจึงเอ่ยด้วยท่าทางผ่อนคลาย “หากเจ้าหนี เท่ากับตาย”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร พูดอ้อมโลกอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็คือต้องการให้นางยอมอยู่ข้างกายเขาแต่โดยดีนางลองคิดทบทวนถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน คิดว่าสิ่งที่เขาพูดมาก็ใช่จะไม่มีเหตุผล นางจึงตอบว่า “ท่านอ๋องกล่าวได้ถูกต้อง ข้าไม่เคยคิดจะไปจากท่านตั้งแต่แรกแล้ว”จิ่งโม่เยี่ยปรายตาเหลือบมองนาง แอบจิกกัดเบาๆ “เด็กเลี้ยงแกะ”เฟิ่งชูอิ่งทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องพวกนี้แค่พวกเขารู้แก่ใจดีว่าอะไรเป็นอะไรก็พอ ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายให้อีกฝ่ายฟังในมุมมองของจิ่งโม่เยี่ย ไม่ว่าวันนี้นางจะช่วยเหลือเขาด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่สำคัญหรอกสิ่งที่สำคัญคือนางพยายามสุดชีวิตเพื่อช่วยเขา เต็มใจจะรุกรับเผชิญหน้าศัตรูร่วมกับเขาตอนที่ทั

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 328

    หลังฮ่องเต้เจาหยวนได้ยินข้อมูลที่ขันทีนำกลับมารายงาน ก็ถึงกับยกมือนวดหว่างคิ้วไทเฮายังติดใจสงสัยเรื่องที่เขาชิงบัลลังก์ในปีนั้นอยู่ตลอดเวลา วันนี้นางเรียกเขาเข้าไปต่อว่าแล้วยังจัดฉากเช่นนั้นอีก เป็นการประกาศชัดว่าต่อต้านเขาหากเป็นคนอื่น ฮ่องเต้เจาหยวนคงจะสั่งให้คนไปจัดการแล้วแต่ไทเฮาเป็นมารดาแท้ๆ ของเขา ถึงเขาจะชั่วช้าสามานย์สักแค่ไหน ก็ไม่ถึงขั้นจะลงมือลงไม้กับไทเฮาเขาจึงต้องเก็บเพลิงโทสะเอาไว้ เพราะไม่รู้จะไประบายกับใคร จึงโยนความผิดทั้งหมดให้กับเฟิ่งชูอิ่งหากนางไม่โผล่เข้ามาขัดขวางแผนการ วันนี้จิ่งโม่เยี่ยคงตายไปแล้ว!จิ่งโม่เยี่ยเป็นก้างขวางคอสำหรับเขา อย่างไรก็ต้องกำจัดให้สิ้นซาก!เขาจึงสั่งให้คนเรียกตัวหลินชูเจิ้งมาเข้าพบ ก่อนจะด่าหลินชูเจิ้งแบบสาดเสียเทเสียชุดใหญ่เอ่ยทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากเป็นหัวหน้าเลขากรมคลัง ซึ่งตำแหน่งหัวหน้าเลขากรมคลังนี้ ต้องเป็นของคนที่มีความสามารถจริงๆ เท่านั้น“ข้ามั่นใจว่าขุนนางหลินมีความสามารถนั้น หลังจากนี้ไปขุนนางหลินช่วยแสดงความสามารถที่แท้จริงให้ข้าเห็นทีสิ”หลินชูเจิ้งเดินออกจากตำหนักทรงพระอักษรด้วยร่างกายที่เปียกเหงื่อชุ่มเขารู้ว่

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 329

    เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดแล้วตอบว่า “วิธีการที่เหลืออยู่คือข้าต้องเผชิญหน้ากับเทียนซือโดยตรง ซึ่งหากว่ากันตรงๆ แล้ว พวกเรามีโอกาสชนะไม่มากเท่าไหร่“ทว่าสิ่งที่ไอ้นักพรตสารเลวนั่นทำลงไปในวันนี้ ช่วยเตือนสติข้าว่าหากจะรับมือกับคนแบบนั้น สามารถใช้กลอุบายสกปรกเล็กน้อยได้”จิ่งโม่เยี่ยหันมองนาง ริมฝีปากของนางมีรอยยิ้มประดับ ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายสดใสทุกครั้งที่นางเผยให้เห็นสีหน้าแววตาเช่นนี้ เขาก็รู้ทันทีว่ากำลังจะมีคนถูกเล่นงานเขาเอ่ยถาม “กลอุบายแบบไหนล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “เรื่องนี้ต้องให้ท่านอ๋องช่วยเหลือเล็กน้อย”ถึงนางจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับจิ่งโม่เยี่ย ทว่าตั้งแต่ฮ่องเต้เจาหยวนพระราชทานสมรสให้พวกเขา ชะตาชีวิตของพวกเขาก็ผูกกันจนแยกไม่ออกแล้วเทียนซือคิดจะฆ่านาง เท่ากับว่าเป็นศัตรูของนางด้วยจิ่งโม่เยี่ยพูดถูกอยู่หนึ่งอย่าง วันนี้นางเผยคมเขี้ยวให้พวกเขาเห็น ล่วงเกินฮ่องเต้เจาหยวนก่อนหน้านี้ฮ่องเต้เจาหยวนยังไม่ค่อยสนใจนางเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เกรงว่าเขาจะจัดนางไว้ในรายชื่อบุคคลที่ต้องกำจัดทิ้งเสียแล้วในเมื่อนางถูกใส่รายชื่อในบัญชีสังหารของฮ่องเต้เจาหยวนแล้ว เช่นนั้นนางก็เหลือเส้นทางเพียงสาย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 330

    เขากล่าวถึงตรงนี้ก็ยกยิ้มมุมปาก “ข้าชอบมันมาก!”เฟิ่งชูอิ่งเหล่ตามองเขาเล็กน้อย พูดจาเสียใหญ่โตขนาดนี้ ไม่กลัวจะขาดอากาศหายใจตายหรือไงจากนั้นนางก็เล่าแผนการที่สองให้เขาฟัง ทว่าจิ่งโม่เยี่ยกลับ “......”เขารู้ว่าบางครั้งนางก็ทำตัวร้ายกาจ แต่ตอนที่นางร้ายกาจถึงขั้นนี้พบได้ไม่บ่อยนักเฟิ่งชูอิ่งหันมองเขาด้วยดวงตาสุกใสแล้วถามว่า “แผนการนี้เป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”คราวนี้จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ประเมินผลงาน ไม่ตอบและถามกลับว่า “เจ้ายังเหลือแผนการอีกมากแค่ไหน?”เฟิ่งชูอิ่งจึงเล่าอีกสองแผนการที่เหลือให้ฟัง : จิ่งโม่เยี่ย “......”เขายกคิ้วสูงเล็กน้อยแล้วจ้องมองนาง “ดูเหมือนแผนการของเจ้าจะไม่มีข้าอยู่ร่วมด้วยนะ?”เฟิ่งชูอิ่งถลึงตาโต “จะไม่มีได้อย่างไรเพคะ? การเข้าไปสืบข่าวล่วงหน้า จากนั้นก็จัดการเชือดคน ล้วนเป็นงานของท่านอ๋องทั้งนั้นเลย“ดังนั้นแผนการทั้งหมดนี้หากไม่มีท่านอ๋องสนับสนุน ก็คงไม่มีทางสำเร็จแม้แต่อย่างเดียว!”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขามั่นใจว่าตนเองเป็นคนที่มีความกล้าหาญชาญชัยและแผนการอันแยบยล แต่พอฟังที่นางพูดมา เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นนักฆ่ามือฉมังไปทันทีเขาปรายตามองนางแล้วเอ่ยว่า “ข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 331

    อีกอย่างที่เขาอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เพราะมีต้นสายปลายเหตุ เขา....ดูเหมือนเขาจะไม่ได้คบหายากขนาดนั้นนะตอนนี้เพราะว่าพวกเขามีการแต่งงานผูกมัดเอาไว้ แล้วยังมีศัตรูร่วมกันอีก ขอแค่เขาไม่คิดจะฆ่านางอีก พวกเขาก็สามารถร่วมมือกันได้อย่างสบายใจจิ่งโม่เยี่ยได้ยินสิ่งที่นางกล่าว พลันเข้าใจว่าการสัญญากับนางว่าตนเองจะไม่ฆ่านางอีก ใช้ได้ผลดีขนาดไหนเขาเพิ่งจะได้คิดทบทวนเรื่องนี้แบบจริงจัง เขาดูเหมือนคนน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?เขาคิดว่าตอนอยู่ต่อหน้านางก็ทำตัวน่าคบหาอยู่พอสมควรนะ...ด้วยเหตุนี้เอง เขาถึงได้ค้นพบลักษณะนิสัยของนางอย่างหนึ่งไม้แข็งนางต่อต้าน ไม้อ่อนใช้กับนางได้ผลเขาแอบคิดอยู่ในใจเงียบๆ ดูเหมือนเขาจะหาวิธีเข้าหานางได้แล้วล่ะเฟิ่งชูอิ่งเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว วันนี้นางบอกว่าจะฆ่าเทียนซือ ก็ลงมือวางแผนการจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็ลงมือทำตามแผนทันทีขั้นแรก นางใช้เวลาทั้งคืนเขียนหนังสือภาพขึ้นมาเล่มหนึ่งจิ่งโม่เยี่ยที่เฝ้ามองนางเขียนหนังสือภาพอยู่ข้างๆ ก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร จึงเงียบปากไม่พูดอะไรทว่าเฟิ่งชูอิ่งกลับถามเขาว่า “เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ ท่านอ๋องไม่ชอบตรงไหนหรือเปล่าเพคะ?”ดวงตาของจิ่

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status