Share

บทที่ 260

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-08-06 19:07:10
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ตอนที่วิญญาณร้ายตัวนั้นพุ่งเข้าไปจู่โจมซ้ำ เทียนซือหยิบของบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะฟาดใส่ร่างของวิญญาณร้ายอย่างรุนแรง

ยามที่ของสิ่งนั้นถูกฟาดออกไป วิญญาณร้ายก็ส่งเสียงโหยหวนชวนสยองออกมา จากนั้นก็แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี

เฟิ่งชูอิ่งพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะว่าของที่เทียนซือนำออกมานั้นมีกลิ่นอายบางอย่างผิดปกติ

แต่ผิดปกติตรงไหน ตอนนี้นางก็ยังบอกไม่ได้เหมือนกัน

ด้านนอกเกิดเสียงเอะอะโวยวายดังมาก องค์ชายหลายคนจึงพากันเดินมาดู

ตอนที่พวกเขาเห็นพระสนมสวี่ยืนอยู่ตรงนั้นในสภาพผมเผ้าหลุดลุ่ย เทียนซือกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้นด้วยสภาพเลือดอาบทั่วตัว

จิ่งสือเยี่ยนเอ่ยถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”

เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ไม่ทราบเพคะ พวกเราเพิ่งจะเดินเข้าประตูมา ก็เห็นควันสีดำกลุ่มหนึ่งปรากฏออกมา จากนั้นกลุ่มควันสีดำก็วิ่งเข้าหาพระสนมสวี่ทันทีเลย

“พอเทียนซือเห็นกลุ่มควันสีดำเหล่านั้นแล้ว ก็คว้าตัวพระสนมสวี่มากอดแล้วต่อสู้กับกลุ่มควันสีดำนั่นทันที

“จากนั้นกลุ่มควันสีดำก็ถูกเทียนซือขับไล่จนสลายหายไป ที่เหลือก็เป็นอย่างที่พวกท่านเห็นนี่แหละ”

นางกล่าวถึงตรงนี้ก็หันไปถามเทียนซื
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 261

    อย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้เทียนซือกับพระสนมสวี่แทบกระอักเลือดได้ แค่นั้นก็สุดยอดมากแล้ว!เทียนซือสามารถดำรงตำแหน่งเทียนซือ เดิมทีก็หน้าด้านมากพออยู่แล้ว แม้จะถูกสอบสวนต่อหน้าเช่นนี้ก็ยังหาข้ออ้างมาแก้ตัวได้เขาเอ่ยเสียงต่ำว่า “ของสิ่งนั้นมีความชั่วร้ายอย่างมาก หากปล่อยมันหลุดออกไป จะต้องสร้างหายนะให้กับทุกฝ่าย“ข้าได้รับการยกย่องว่าเป็นถึงเทียนซือ ย่อมต้องช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากที่อยู่ร่วมโลกกัน”คำพูดของเขาฟังดูดีมาก นอกจากจะมีเหตุผลน่าเชื่อถือ ยังสร้างภาพลักษณ์สูงส่งให้ตัวเองได้ด้วยเพียงแต่เฟิ่งชูอิ่งกลับยกมือน้อยๆ ของนางขึ้นแล้วถามว่า “หากเป็นอย่างที่เทียนซือกล่าว พระสนมสวี่ก็สร้างบาปกรรมมหันต์เอาไว้น่ะสิ?”เทียนซือกับพระสนมสวี่หันขวับมาทางนางพร้อมกัน นางจึงเอ่ยด้วยท่าทางขลาดกลัว “คำพูดนี้ก็เป็นของเทียนซือเช่นกัน“มีเพียงคนที่ชั่วช้าสามานย์เท่านั้นถึงจะดึงดูดสิ่งสกปรกอัปมงคลมาสู่ตัวได้ หากยึดตามหลักการนี้ล่ะก็....”นางหันมองพระสนมสวี่ “มิได้หมายความว่าพระสนมสวี่เป็นคนจิตใจหยาบช้าอย่างถึงที่สุด ถึงได้ดึงดูดสิ่งชั่วร้ายอัปมงคลอย่างยิ่งมาหาตัวเองหรอกหรือ?”เทียนซือ “......”พระสนมสวี

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 262

    เฟิ่งชูอิ่งได้ยินเสียงกรีดร้องดังกล่าวก็ชะงักไปเล็กน้อย คราวนี้มีใครถูกผีสิงอีกล่ะ?จิ่งโม่เยี่ยที่ได้ยินเสียงกรีดร้องนั่นกลับยกยิ้มมุมปากเบาๆ ก่อนจะพานางไปนั่งด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกตอนที่นางกำลังจะสอบถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จิ่งสือเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะร่วนออกมา “เจ้าสิบสามนี่ไม่คิดจะอยู่นิ่งเลยสักครั้ง“วันนี้เขาอาละวาดถึงเพียงนี้ พระสนมสวี่ยังถูกสิ่งชั่วร้ายหมายหัวอีก จิ๊ จิ๊ งานวันเกิดของพระสนมสวี่ช่างน่าสนใจเสียจริงเชียว!”เขากล่าวจบก็สั่งให้สาวใช้รินสุราสาวใช้ทำท่าลังเล “แต่ว่าพระสนมยังไม่ทรงมาเลยนะเพคะ”จิ่งสือเฟิงจึงสบถด่าออกไปว่า “หากพระสนมของเจ้าไม่โผล่ออกมาสักที ก็คิดจะปล่อยให้พวกเราอดตายเลยหรือไง?“พวกเรานำของขวัญมาร่วมอวยพรงานวันเกิดของนาง นางกลับทิ้งพวกเราเอาไว้ตรงนี้ แล้วยังไม่คิดจะให้พวกเราดื่มกินอีกหรือ?”สาวใช้รู้ว่าเป็นเขาโอรสที่เกิดจากฮองเฮา เป็นบุตรภรรยาเอกเพียงหนึ่งเดียวของฮ่องเต้เจาหยวน ฐานะแตกต่างจากองค์ชายคนอื่นๆอีกทั้งฮองเฮากับพระสนมสวี่ก็ไม่ชอบขี้หน้ากันอย่างมาก ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮองเฮาหาเรื่องวุ่นวายให้พระสนมสวี่ไม่เว้นวันท่าทางที่เขาแสดงออกในวันน

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 263

    จากนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากอีกฝั่ง พร้อมกับเสียงตวาดด้วยความเดือดดาลว่า “นังผู้หญิงแพศยา เจ้าปล่อยข้านะ!“เจ้าสกปรกโสโครกเกินไป อย่ามาแตะตัวข้า!”ในบรรดาเสียงหวีดแหลมเหล่านั้นมีเสียงของพระสนมสวี่ปะปนมาด้วย “....ร่างกายเจ้าไม่แข็งแรง อย่ามีโทสะเลย...ได้ ได้ ได้ ข้าไปแล้ว...“เฟิ่งชูอิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ลอบขำในใจพระสนมสวี่มีบุตรชายสองคน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าลูกชายอีกคนเอาชีวิตมาต่อให้ลูกชายคนเล็ก ผลสุดท้ายลูกชายคนเล็กกลับเห็นนางเป็นศัตรูนี่กระมังที่เขาเรียกกันว่าเวรกรรมงานฉลองวันเกิดของพระสนมสวี่ช่างมีสีสันยิ่งนัก นางทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่องค์ชายสิบสาม จึงปิดจบงานเลี้ยงวันเกิดอย่างเร่งรีบวันนี้นางเก็บความโมโหเอาไว้ หลังจากแยกทางกับองค์ชายสิบสาม ก็เอาโทสะทั้งหมดไประบายกับเทียนซือนางถามเสียงเย็นชา “วันนี้มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรกันแน่? ไหนเจ้าบอกว่าสามารถฆ่าพวกเขาได้ไง? ทำไมวิญญาณร้ายตัวนั้นถึงหันมาโจมตีข้าแทนล่ะ?”เทียนซือพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วตอบว่า “พวกเราประมาทเฟิ่งชูอิ่งมากเกินไป นางน่าจะเป็นผู้รู้วิชาศาสตร์ลี้ลับ“วันนี้นางน่าจะใช้วิชาบางอย่างกับจิ่งโม่เยี่ย ตัดขาดคำสา

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 264

    ถึงเทียนซือจะพูดแบบนั้น แต่ในใจของเขากลับไม่อาจสลัดความสงสัยในตัวของหลินชูเจิ้งออกไปได้ตกเย็นวันนั้น เทียนซือก็สั่งให้คนเรียกตัวหลินชูเจิ้งมาพบก่อนหน้านี้หลินชูเจิ้งไม่เคยพบเจอกับเทียนซือมาก่อน แต่กลับรู้ว่าเทียนซือเป็นแขกคนสำคัญของพระสนมสวี่ มักจะแวะมาที่ตำหนักเฟิ่งไหลของพระสนมสวี่บ่อยๆ ตอนนี้เทียนซือต้องการพบตัวเขา น่าจะเป็นความต้องการของพระสนมสวี่ความสัมพันธ์ของพระสนมสวี่กับฮ่องเต้เจาหยวน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาก็พอจะได้ยินผ่านหูมาบ้าง เพียงแต่ยังไม่แน่ใจดังนั้นตอนที่ถูกเทียนซือเรียกไปพบ เขาจึงงุนงงอย่างมากตอนที่เทียนซือพบหน้าเขาก็ยังแสดงท่าทีมีมารยาทด้วย แต่กลับลอบดูโหงวเฮ้งของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ โหงวเฮ้งของหลินชูเจิ้งเป็นคนต่ำช้าที่เจ้าเล่ห์ ไม่มีความใกล้เคียงกับวิญญูชนที่ยึดถือคุณธรรมสักนิด คนประเภทนี้เพราะมีจิตใจไม่เที่ยงตรง จึงมักจะคิดเล็กคิดน้อยตลอดเวลา แล้วยังรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางหลินชูเจิ้งถูกอีกฝ่ายจ้องมองจนรู้สึกอึดอัด จึงถามว่า “ไม่ทราบว่าเทียนซือเรียกข้ามาวันนี้มีเรื่องอะไรจะชี้แนะหรือ?”เทียนซือก็ไม่คิดจะอ้อมค้อมและถามเขาตรงๆ “เจ้ารู้ไหมว่าเฟิ่งชูอิ่งร่ำเรี

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 265

    ทว่าพอถูกเทียนซือไล่ถาม ทำให้เขาตระหนักได้เป็นครั้งแรกว่าเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็นเพราะว่าฮว๋าซื่อกับหลินหว่านถิงวางแผนเล่นงานเฟิ่งชูอิ่งตั้งมากมาย นอกจากนางจะไม่ตายแล้ว เรื่องแต่ละอย่างที่เกิดตามมายังผิดปกติอย่างมากนางสามารถหลีกเลี่ยงได้หนึ่งครั้งอาจเพราะโชคช่วย หลีกเลี่ยงได้สองครั้งเพราะจิ่งโม่เยี่ยช่วยเหลือ แต่พอนางรอดพ้นอันตรายบ่อยครั้งเช่นนี้ จะบอกว่านางไม่มีความสามารถเลยก็คงไม่ได้หลังจากหลินชูเจิ้งกลับมาจากที่พำนักของเทียนซือ เขาก็รู้สึกได้ว่าตนเองถูกเฟิ่งชูอิ่งหลอกแล้วความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เขาโกรธเคืองอย่างมาก เขาเป็นถึงขุนนางขั้นสามของราชสำนัก แต่กลับถูกเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งหลอกปั่นหัว!หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน!หลังจากเทียนซือสนทนากับหลินชูเจิ้ง แม้จะไม่รู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งร่ำเรียนศาสตร์ลี้ลับมาจากใคร แต่เขากลับได้ข้อมูลมาเยอะพอสมควรเลยหากคิดจะฆ่าจิ่งโม่เยี่ย ต้องฆ่าเฟิ่งชูอิ่งให้ตายก่อนเขาไม่คิดจะเผชิญหน้ากับเฟิ่งชูอิ่งตรงๆ เพราะไม่รู้ว่าวิชาของนางล้ำเลิศถึงเพียงไหน แต่ดูจากการที่นางสามารถตัดขาดคำสาปของเขากับจิ่งโม่เยี่ยได้ชั่วคราว

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 266

    เฟิ่งชูอิ่งหันกลับไปพบเห็นว่าจิ่งสือเยี่ยนยืนอยู่ด้านหลังของนาง ก็พลันลูบอกเบาๆ แล้วถามว่า “อ๋องจิ้นมาทำอะไรแถวนี้เพคะ?”จิ่งสือเยี่ยนตอบว่า “การเดินเรือพวกนี้เป็นกิจการส่วนตัวของข้าเอง วันนี้ข้ามาตรวจสอบกิจการแล้วบังเอิญเจอเจ้า ก็เลยแวะเข้ามาทักทาย”เขามองสำรวจไปรอบๆ แล้วถามว่า “เจ้าจะเช่าเรือหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งเคยอ่านนิยายเพียงผิวเผินก่อนจะทะลุมิติเข้ามาในยุคสมัยนี้ การจัดวางเนื้อเรื่องในนิยายส่วนมากจะได้ยินมาจากผู้เป็นน้องสาว นางจึงไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก นางรู้แค่ว่ามารดาของจิ่งสือเยี่ยนฐานะต่ำต้อยไม่ได้รับความโปรดปราน แล้วก็รู้ว่าเขาไม่ได้รับความโปรดปรานเช่นกันส่วนเรื่องกิจการของเขา นางไม่รู้เลยสักนิดเดียวนางถามว่า “กิจการส่วนตัวของท่านมีเรืออยู่กี่ลำอย่างนั้นหรือ?”จิ่งสือเยี่ยนตอบว่า “เรื่องนี้ข้าไม่รู้จริงๆ รู้แค่เรื่องที่จอดอยู่ในแม่น้ำสายนี้ มากกว่าครึ่งน่าจะเป็นเรือในกิจการของข้า”เฟิ่งชูอิ่ง “......”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”ก่อนหน้านี้นางเชื่อคำอธิบายในนิยายมาโดยตลอดว่ามารดาของเขาฐานะต่ำต้อย ก็เลยคิดว่ามารดาของเขาคงเป็นบุตรสาวขุนนางเล็กๆ สักคน ถึงไม่ระบุฐานะอย่างเจาะจงตอนนี้นา

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 267

    เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “พวกเขาไม่ชอบทรัพย์สินเงินทองถึงเพียงนั้น แล้วจะอยากได้เงินเบี้ยหวัดไปทำไม!“แล้วพวกเขาก็ไม่ควรจะใช้เงินซื้อข้าวกินด้วย ไม่ควรเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าอาภรณ์ใหม่ๆ มาสวมใส่ด้วย!”จิ่งสือเยี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา “ข้าเพิ่งเคยได้ยินคนพูดแบบนี้ครั้งแรกเลย”เฟิ่งชูอิ่งถามว่า “แล้วที่ข้าพูดมันไม่จริงตรงไหนล่ะเพคะ?”จิ่งสือเยี่ยนพยักหน้าเห็นด้วย “เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ข้าแค่คิดไม่ถึงเท่านั้นเอง“แม่นางเฟิ่ง เจ้าเป็นสตรีที่ตรงไปตรงมามากที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอ”เขากล่าวจบก็ขยับเข้ามาใกล้นาง “เจ้าวางใจเถอะ เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าเก็บเป็นความลับเอง”เฟิ่งชูอิ่งหันขวับมองเขา เขาจึงกระซิบว่า “ตอนอยู่ในพระราชวังครั้งก่อน สาเหตุที่พี่รองล่วงละเมิดพระสนมอวิ๋นเช่นนั้น เป็นเพราะเคลื่อนไหวเหมือนกับข้าใช่ไหมล่ะ?“ส่วนสาเหตุที่เขาเคลื่อนไหวเหมือนกับข้า ก็เพราะว่ายันต์แผ่นนั้นของพี่สามกระมัง? แล้วยันต์แผ่นนั้นพี่สามก็คงได้มาจากแม่นางเฟิ่งสินะ?”ตอนแรกเขายังไม่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้หรอก แต่พอลองคิดดูดีๆ แล้ว กลับพบว่าคำตอบมันได้มาง่ายกว่าที่คาด

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 268

    จิ่งสือเยี่ยนตอบว่า “ข้าเติบโตมาในรั้ววัง เห็นคนดีมากมายถูกฆ่าตายโดยไร้ความผิด ในซอกหลืบที่ไม่มีใครมองเห็นและล่วงรู้“แล้วเจ้าก็เป็นเพียงผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง ไม่ควรถูกลากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นข้าจึงอยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินสิ่งที่เขาพูดก็คิดขึ้นมาได้ว่า การที่เขาเติบโตในวังหลวงแล้วยังรักษาความคิดเช่นนี้เอาไว้ได้นับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากนางจึงถามยิ้มๆ ว่า “ท่านไม่กลัวว่าช่วยข้าหนีออกจากเมืองหลวง อ๋องฉู่จะพาลโกรธท่านหรือ”จิ่งสือเยี่ยนลังเลไปเล็กน้อยแล้วตอบว่า “พี่สามก็แค่ดูเหมือนคนเย็นชา แต่ความจริงแล้วเป็นคนดีมาก“ตอนข้ายังเด็กถูกคนผลักตกสระจนเกือบจมน้ำตายในอุทยานหลวง เป็นเขาช่วยชีวิตเอาไว้”เขากล่าวถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจ “ตอนนั้นอดีตฮ่องเต้เพิ่งจะสวรรคต สถานภาพของเขามิสู้ดีนัก แต่ก็ยังช่วยเหลือข้าอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง”พอเฟิ่งชูอิ่งได้ยินแบบนี้ นางก็รู้แล้วว่าทำไมเขาถึงดีกับจิ่งโม่เยี่ยนักเพราะเป็นคนที่รู้จักทดแทนบุญคุณคนนี่เองหลังจากทั้งสองคนรู้จักกันมาสักระยะ นางก็พบว่าความจริงแล้วเขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ร่าเริงสดใสและใจดีมีเมตตาแต่นางคิดไม่

    Last Updated : 2024-08-06

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status