แชร์

บทที่ 130

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-18 18:00:00
เฉี่ยวหลิง “!!!!!!”

เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”

นางหันกลับไปและเห็นว่าจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่ข้างๆ ในมือถือลูกตาของเฉี่ยวหลิงเอาไว้ ลูกตาในมือของเขากรอกไปรอบๆ และสั่นระริก

ภาพตรงหน้าช่างงดงามเหลือเกิน ทำเอานางตัวสั่นสะท้าน

เฉี่ยวหลิงเอ่ยเสียงสั่นว่า “คือว่า ขอลูกตาของข้าคืนได้หรือไม่?”

จิ่งโม่เยี่ยหันไปมองแล้วถามอย่างสนุกสนาน “ในตัวเจ้ายังมีอะไรที่ร่วงลงมาได้อีกไหม?”

ครู่ต่อมา คางของเฉี่ยวหลิงก็หล่นกระทบพื้น

จิ่งโม่เยี่ย “......”

เฟิ่งชูอิ่งยกมือกุมขมับ เฉี่ยวหลิงนังเด็กโง่นี่.....

นางไม่มีตามองจริงๆ ด้วย!

เฉี่ยวหลิงเก็บคางขึ้นมาสวมกลับที่เดิม “ตอนนี้ข้าขอลูกตาคืนได้หรือยัง?”

เฟิ่งชูอิ่งยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว

เฉี่ยวหลิงไม่สามารถใช้พลังของวิญญาณร้าย แย่งลูกตาคืนมาจากมือของจิ่งโม่เยี่ยหรืออย่างไร?

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นางได้เห็นวิญญาณร้ายปอดแหก!

อีกอย่างหนึ่ง เฉี่ยวหลิงก็สามารถเอาลูกตาของตัวเองคืนมาได้ด้วย เพราะมันไม่ใช่วัตถุที่จับต้องได้จริง เฉี่ยวหลิงหวาดกลัวจิ่งโม่เยี่ยขนาดนั้นเชียว?

จิ่งโม่เยี่ยหันมองเฉี่ยวหลิงแล้วเอ่ยถาม “เจ้าเป็นตัวอะไร?”

เฉี่ยวหลิงตอบ “ข้าไม่ใช่ตัวอะไร...อะแฮ่ม ข้าเป็นคน คนตั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 131

    นางใช้มือกุมผ้าปูที่นอนเอาไว้ “ท่านอ๋อง อย่ารังแกกันให้มากนักนะ!”จิ่งโม่เยี่ยถาม “หากข้ารังแกเจ้ามากเกินไป เจ้าจะทำอะไรได้ล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “ข้าจะรู้สึกว่าท่านอ๋องกำลังขาดความรัก จนต้องมาให้ข้าช่วยโอ๋”จิ่งโม่เยี่ย “......”วิธีการคิดของนางมันแปลกประหลาดกว่าคนทั่วไป จนใครๆ ก็คิดตามนางไม่ทันเขาถามต่อ “อ้อ? ถ้างั้นเจ้าก็ช่วยโอ๋ข้าหน่อยสิ”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ผู้ชายคนนี้ไม่คิดจะเล่นตามกติกาบ้างเลยหรือไงนางไม่ตอบแต่ถามกลับ “ลิ้นของท่านอ๋องหายดีหรือยังเพคะ?”ดวงตาดอกท้อของจิ่งโม่เยี่ยพลันหรี่ลง แฝงไว้ด้วยความอันตรายเขาขยับตัวถอยหลังออกมาเล็กน้อย ทว่าเฟิ่งชูอิ่งกลับพลิกตัวกลับอย่างรวดเร็วก่อนจะกดจูบที่ต้นคอของเขาจิ่งโม่เยี่ย “......”ตอนที่กลีบปากของนางทาบทับลงมา ความอ่อนนุ่มและความอบอุ่นที่สัมผัสได้ ทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบครู่ต่อมา เฟิ่งชูอิ่งก็เผยอริมฝีปากออกเล็กน้อยแล้วกัดลงไปเต็มแรงจิ่งโม่เยี่ยไม่รู้สึกประหลาดใจ ซ้ำยังรู้สึกว่าแบบนี้สิถึงจะถูกต้องอีกด้วยนางก็เป็นเสียแบบนี้ ตอนที่เห็นว่าอ่อนโยนไม่มีพิษมีภัย นางก็จะแยกเขี้ยวคมกริบออกมาให้เห็นทันทีตอนที่นางกัดลงมาเขาไม่ได้รู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 132

    จิ่งโม่เยี่ยนั่งที่เก้าอี้ข้างตัวหนึ่งข้างโต๊ะเขียนหนังสือ หันมองอากาศแล้วบอกว่า “ชงชาให้ข้ากาหนึ่ง”เฉี่ยวหลิงไม่รู้ว่าเขากำลังเรียกนางหรือเปล่า นางจึงลังเลว่าควรจะออกไปดีหรือไม่จิ่งโม่เยี่ยใช้นิ้วเคาะโต๊ะหนึ่งที “อย่าให้ข้าต้องพูดเป็นครั้งที่สอง”เฉี่ยวหลิงก้มหน้ายอมรับชะตากรรมและลอยออกจากป้ายหยก ก่อนจะไปชงชาอย่างจำใจเฟิ่งชูอิ่งทนมองท่าทางเซื่องซึมเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากของเฉี่ยวหลิงไม่ไหว มีวิญญาณร้ายที่ไหนบ้างเป็นแบบนางนางชักจะไม่เข้าใจแล้วว่า เฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้ายแท้ๆ ทำไมถึงหวาดกลัวจิ่งโม่เยี่ย?จิ่งโม่เยี่ยมองกาน้ำร้อนที่ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็บินไปทางห้องครัวคนทั่วไปหากได้เห็นอะไรแบบนี้คงจะตกใจจนหน้าซีดไปแล้ว แต่จิ่งโม่เยี่ยกลับเฉยเมยราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดาเพียงไม่นานกาน้ำใบนั้นก็บินกลับมา พร้อมกับน้ำที่ต้มสุกด้านในจากนั้นกาชาที่อยู่ข้างๆ ก็เริ่มขยับ ใบชาที่อยู่บนโต๊ะตัวเล็กลอยลงไปในตัวกาไม่นานนัก กาที่มีน้ำชาอยู่ถูกรินออกมา จากนั้นถ้วยชาก็ถูกนำไปวางที่ข้างมือจิ่งโม่เยี่ยจิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองเฉี่ยวหลิงแวบหนึ่งแล้วเอ่ย “เจ้าออกไปได้แล้ว”เฉี่ยวหลิงจึงกลับเข้าไปอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 133

    ประกอบกับเขาถูกเลี้ยงดูประคบประหงมตั้งแต่เด็ก การเคลื่อนไหวของเขาจึงดูสูงส่งอยู่หลายส่วนเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางที่เขาทำก็หลุดหัวเราะเสียงดัง “ที่แท้ตอนท่านอ๋องทำท่าทางเช่นนี้ก็ดูเย้ายวนถึงเพียงนี้เลย! จิ๊ จิ๊ คืนนี้ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!”จิ่งโม่เยี่ย “......”สตรีนางนี้ช่างหาเรื่องตายได้ไม่เว้นวัน!แต่ถึงเขาจะอยากไปจัดการนางเสียตอนนี้เลยก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะถึงเขาจะมีใจแต่ร่างกายดันไม่ทำตามเฟิ่งชูอิ่งคลี่ยิ้มบางๆ “ท่านอ๋องอย่าโมโหสิเพคะ ท่านเป็นคนเอายันต์มาแปะที่ตัวข้าเองนะ“ดังนั้นท่านจะโทษข้าไม่ได้ จะโทษก็ต้องโทษตัวท่านเองนั่นแหละ”นางกล่าวจบก็เปลี่ยนท่าเต้นไปเรื่อยๆ นางกระโดดไปที่เสาภายในห้อง ก่อนจะเริ่มการเต้นรูดเสาหมุนตัว กระโดด บิดสะโพก แอ่นหน้าอก สะบัดผม ส่งจูบ......หลังจากทำท่าทุกอย่างตามนางจบ จิ่งโม่เยี่ยก็คิดอยากจะตายขึ้นมาจริงๆเฟิ่งชูอิ่งหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ว้าว ท่านอ๋อง เอวท่านบางชะมัด!“ท่านอ๋อง ก้นท่านงอนงามมากเลย มิทราบว่า พระองค์ฝึกฝนอย่างไรหรือเพคะ?“ว้าว ท่าส่งจูบนี่พอท่านอ๋องเป็นคนทำแล้ว ท่านก็กลายเป็นเครื่องมือปลิดชีพสาวน้อยได้ในพริบตาเลย“หากท่านอ๋องไปเต้นแบบน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 134

    เฟิ่งชูอิ่งกระโดดโลดเต้นมาทั้งคืน นางจึงเหนื่อยล้าอย่างมากนางพยายามลืมตาปรือๆ ขึ้นมามองเขา “นอนตายได้หรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขารู้สึกว่าตนเองจะถูกนางยั่วโมโหจนตายเข้าสักวันเขายื่นมือออกไปจับกระบี่ เฟิ่งชูอิ่งก็เด้งตัวขึ้นมาตวัดแขนโอบรอบคอของเขา “ท่านอ๋อง เลิกทะเลาะแล้วมานอนกันดีกว่าเพคะ!”นางกล่าวจบก็หอมแก้มซ้ายขวาทั้งสองข้างของเขา มือที่คล้องคอของเขาอยู่ใช้คาถาสงบจิตอย่างคล่องแคล่วจิ่งโม่เยี่ย “......”เพลิงโทสะที่อัดแน่นเต็มอกของเขาถูกกลอุบายของนางทำลายจนหมดสิ้น เขาถึงกับมึนไปพักหนึ่งว่าควรจะเอาความโกรธไประบายกับใครดีเขาใช้มือผลักนางออก “ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอกนะ....”คำพูดต่อจากนั้นติดอยู่ในลำคอของเขา เพราะว่ามือของเขาดันผลักโดนหน้าอกของนางพอดีนางชะงักตัวแข็งทื่อ เบิกตากว้างจ้องมองเขาสีหน้าของจิ่งโม่เยี่ยดีขึ้นเล็กน้อย นางเหนื่อยจนไม่อยากกระดิกตัวแล้ว จึงไม่อยากจะคิดบัญชีกับเขาตอนนี้ นางจึงออกแรงเหวี่ยงเขาลงบนเตียง แล้วแบ่งผ้านวมครึ่งหนึ่งให้เขาห่ม “นอนเพคะ!”“หากท่านอ๋องยังรู้สึกไม่พอใจล่ะก็ ครั้งหน้าข้าจะเต้นคนเดียวให้ท่านดูทั้งคืนเลย”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขามองนางอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 135

    ฮวาซื่อจับใจความได้รวดเร็วกว่าหลินชูเจิ้ง นางเห็นสภาพเสื้อผ้าที่ยับเยินของหลินอีฉุน ก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่างนางจึงพุ่งเข้าไปหาหลินอีฉุน ทำท่าอยากจะร้องไห้ออกมา แต่เพราะน้ำตาของนางไม่สามารถแก้ปัญหาได้นางจึงหันไปบอกกับบ่าวทุกคนที่อยู่ตรงนั้น “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้จะต้องเป็นความลับ!“หากข้ารู้ว่าพวกเจ้าเอาไปนินทากันลับหลัง หรือมีคนอื่นได้ยินเรื่องนี้ล่ะก็ ข้าจะลงโทษอย่างหนัก!”บ่าวทั้งหมดจึงแสดงท่าทีอย่างชัดเจน ว่าพวกเขาจะไม่พูดส่งเดชออกไปฮวาซื่อจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย สั่งให้คนแบกหลินอีฉุนกลับไปที่ห้องหลินอีฉุนเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของนาง ปีนี้เขาต้องเข้าร่วมการสอบขุนนาง ภายภาคหน้าจะต้องมีอนาคตที่สดใส จะให้เรื่องแบบนี้ทำลายเขาไม่ได้เด็ดขาดหลินชูเจิ้งที่เพิ่งจะตั้งสติและทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ สีหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวจนไม่น่ามองหลินชูเจิ้งถามสหายร่วมเรียนของหลินอีฉุน “ทำไมจู่ๆ ถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับคุณชายใหญ่ได้?”สหายร่วมเรียนตอบ “เขานัดเจอกับคุณหนูต่างสกุล แต่คุณหนูต่างสกุลไม่มาตามนัดขอรับ”หลินชูเจิ้งพลันขมวดคิ้ว เรื่องที่หลินอีฉุนอยากจะได้เฟิ่งชูอิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 136

    หมอมาถึงจวนสกุลหลินอย่างรวดเร็ว หลังตรวจดูบาดแผลของหลินอีฉุนแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนสามทัศน์ถูกทำลายเป็นเสี่ยงๆบาดแผลของหลินอีฉุนได้มาอย่างไร คนเป็นหมออย่างเขามองปราดเดียวก็รู้แล้วนี่จะไม่วิปริตผิดมนุษย์เกินไปหน่อยหรือ!หลังจากเขาทำแผลให้หลินอีฉุนเรียบร้อยแล้ว เขาก็กำชับเรื่องสำคัญอีกเล็กน้อยตอนที่ฮวาซื่อส่งหมออกจากจวน นอกจากจะมอบค่ารักษาตามสมควรแล้ว ยังมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เขาด้วยนางกระซิบว่า “เรื่องบาดแผลจากสุนัข รบกวนท่านหมอเก็บเป็นความลับด้วย”ท่านหมอปกติจะรักษาบรรดาขุนนางเจ้านายชั้นสูงอยู่แล้ว เขาได้พบเห็นเรื่องราวน่าสะอิดสะเอียนมากมาย อีกอย่างการรักษาความลับคนไข้ก็ทำให้เขามีชีวิตยืนยาวด้วยเขาจึงเอ่ยว่า “ฮูหยินสบายใจได้ คุณชายก็แค่ลื่นล้มเท่านั้นเอง วันนี้ข้ามาที่จวนเพื่อรักษาบาดแผลให้คุณชายใหญ่”ฮวาซื่อพอใจกับวิธีการพูดจาของท่านหมอมาก จึงปล่อยตัวเขาออกจากจวนแต่พอนางกลับเข้ามาเห็นหลินอีฉุนนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง นางก็อดสงสารไม่ได้นางไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของหลินอีฉุน คิดเพียงว่าเฟิ่งชูอิ่งหน้าไม่อาย ล่อลวงหลินอีฉุนออกไปที่นั่นเพื่อทำร้ายนางคิดถึงขั้นว่าหลินอีฉุนยอมหลับนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 137

    วิญญาณร้ายที่เกาะติดผู้ดูแลโจวร้องไห้โฮ ยังจะเพิ่มอีกหนึ่งเดือน แล้วเมื่อไหร่มันจะได้ฆ่าผู้ดูแลโจวกันเล่า!ผู้ดูแลโจวดีใจจนออกนอกหน้า “ขอบพระคุณคุณหนูเฟิ่ง!”เรื่องนี้ทำให้เขากระจ่างแจ้งหนึ่งอย่าง นั่นคือของแค่เขาช่วยงานเฟิ่งชูอิ่งไปเรื่อยๆ เขาก็จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนที่ผ่านมาได้เฟิ่งชูอิ่งโบกมือไปมา บอกกับวิญญาณร้ายว่า “ช่วงสองเดือนนี้เจ้าไปหาอย่างอื่นทำเถอะ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้ดูแลโจว“ถึงข้าจะไม่อยากสอดมือยุ่งเรื่องบุญคุณความแค้นของพวกเจ้า แต่ตอนนี้เขามีประโยชน์ต่อข้า ดังนั้นช่วยไว้หน้ากันหน่อย หลังจากสองเดือนผ่านไปเจ้าค่อยล้างแค้นเขา”วิญญาณร้ายจำต้องยอมไว้หน้านาง เพราะหากไม่ยอมไว้หน้านาง นางก็จะทำให้วิญญาณของเขาแหลกสลายไปได้มันบังเกิดความคิดหนึ่งอย่างในใจ มันจะต้องเป็นวิญญาณร้ายที่น่าสงสารที่สุดในโลกแน่นอนมันปล่อยโฮขณะผงกศีรษะยอมรับ ก่อนจะไปซุกตัวตรงมุมห้องแล้วนั่งร้องไห้มันร้องไห้จนเฟิ่งชูอิ่งเกิดรำคาญ จึงบอกว่า “เจ้าไปร้องที่ห้องอีกฝั่งโน่น”ห้องอีกฝั่งเป็นที่พักของหลินหว่านถิงวิญญาณร้ายตนนั้นลงจากร่างของผู้ดูแลโจว ทำให้เขาตัวเบาปลอดโปร่งขึ้นไม่น้อย เขาจึงรีบเอ่ยข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 138

    คนเฝ้าประตูชะงักกึก หากเฟิ่งชูอิ่งไม่ยอมไปพบคนที่หน้าประตูจวน แล้วงิ้วหลังจากนั้นจะแสดงต่ออย่างไรล่ะ?คนเฝ้าประตูแอบร้อนรน เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “พวกเขาต้องการพบคุณหนูต่างสกุล จะต้องเป็นสหายของคุณหนูต่างสกุลแน่นอน“คุณหนูต่างสกุลไม่ยอมไปพบพวกเขา ออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย!”เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยเสียงเฉยชา “เสียมารยาทก็เสียไปสิ อย่างไรเสียบิดามารดาข้าก็ตายหมดแล้ว ท่านลุงกับท่านป้าสั่งสอนข้าให้ดีไม่ได้ ข้าก็เลยไม่มีมารยาทแบบนี้ไง”คนเฝ้าประตู “......”คำพูดของนางเขาไม่รู้จะตอบรับอย่างไรดีเฟิ่งชูอิ่งจึงไล่เขาออกไป “หากเจ้าไม่มีธุระอื่นก็ออกไปเถอะ ข้าจะพักผ่อน”นางกล่าวจบก็ผลักคนออกไปข้างนอก ก่อนจะปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาคนเฝ้าประตู “!!!!!!”เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกับที่เขาคาดคิดเอาไว้สักนิดเขาได้แต่ยืนโง่งมอยู่ตรงนั้นหากเฟิ่งชูอิ่งไม่ยอมออกไปข้างนอก เขาก็ไม่สามารถบังคับพาตัวนางออกไปได้หากเขาใช้กำลังลากตัวนางออกไป เกรงว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามคนเฝ้าประตูใคร่ครวญอยู่สักพัก ก่อนจะไปพบฮวาซื่อฮวาซื่อฟังจบก็ขมวดคิ้วหน้านิ่ว หากเฟิ่งชูอิ่งไม่ยอมออกไป เรื่องนี้ก็จัดการได้ยากแล้วล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status