"ได้ความแล้วค่ะ" เป็นอ้ออีกเช่นเคยที่ไปสอบถาม รปภ.ว่ารถคันนี้เป็นของใคร พอได้เรื่องอ้อก็รีบเดินกลับมาที่รถซึ่งมีเจ้านายนั่งรออยู่ด้านใน "ท่านคิดไว้ไม่มีผิดเลยค่ะ รถของผู้หญิงคนนั้นค่ะ""เป็นชื่อใคร" พระนายหมายถึงว่ารถคันนี้ลูกชายซื้อเป็นชื่อของใคร"ชื่อของเธอเลยค่ะ" ที่อ้อรู้ว่าเป็นชื่อของใครก็เพราะ รปภ. ยืนอยู่ใกล้ตอนที่เซลล์ขายรถคุยกับจ๊ะเอ๋"กลับบ้าน""อะไรนะคะ? ..เออค่ะ" อ้อแปลกใจทำไมท่านถึงไม่จัดการอะไร เพราะแบบนี้ถือว่ามากเกินไปแล้วที่จริงพระนายไม่คิดจะปล่อยเรื่องนี้ไปอยู่แล้ว ถ้าปล่อยไปสงสัยลูกชายคงถูกสูบเลือดสูบเนื้อมากกว่านี้แน่ แค่มาทำงานไม่กี่วัน เสียให้กับเธอไปถึง 20 ล้านบาท[หมู่บ้านจัดสรร]"คุณพระราม คุณอยู่ในห้องนี้ใช่ไหม เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ" มาถึงก็เห็นรถของเขาจอดอยู่แล้ว หญิงสาวรีบตรงไปที่ห้องนอน"ห้องไม่ได้ล็อก..เข้ามาสิ""ฉันจะคุยกับคุณข้างนอก" ใครจะกล้าเข้าไปหาเขา"แต่ผมจะคุยข้างใน""คุณเอารถไปคืนเลยนะ" หญิงสาวอดทนรออยู่ข้างนอกอีกไม่ได้แล้ว จึงเปิดประตูเข้ามา"อยากได้ไม่ใช่เหรอ""ก็ตอนนั้นฉันไม่คิดว่าคุณจะมี..""..มีปัญญาซื้อ?" ชายหนุ่มพูดต่อประโยคที่เธอ
หัวใจเต้นแรงขึ้นมาเมื่อได้ยินเขาบอกให้จับมันใส่เข้าไป นี่เขาคงคิดว่าเธอผ่านผู้ชายมาหลายคนแล้วสินะ แต่ก็ว่าให้เขาไม่ได้อีกนั่นแหละ เพราะความจนมันบีบบังคับให้เธอต้องได้ไปทำงานในที่แบบนั้น"อือ อือ อ " หญิงสาวกัดฟันจับมันส่งเข้ามาในร่องคับแคบที่ไม่เคยมีอะไรผ่านเข้ามาเลย นอกจากของเสียที่เธอปล่อยออกจากร่างกายเท่านั้น "อื้ออ" พอความใหญ่โตของเขาผ่านด่านแรกเข้ามาเธอก็ปล่อยมือ เพื่อให้เขาจัดการต่อเองเจ้าของท่อนเอ็นลำใหญ่ดันมันเข้าไปได้อีกเล็กน้อย..เขาก็หยุดมองหน้าเธอ?"ฉันบอกแล้วไงว่าจะรีบกลับบ้าน" ความหมายของจ๊ะเอ๋ อยากให้เขารีบทำรีบจบพระรามก็เลยดันมันเข้าไปอีก เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเธอไปแน่ รอมาตั้งเป็นปีกว่าจะได้เจอกันอีก"อื้อ" เจ็บ ตอนที่เขาเริ่มขยับร่างกาย มันสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอมาก แต่คนตัวเล็กก็ไม่กล้าพูดเดี๋ยวเขาหาว่าสำออยชายหนุ่มจับขาเธอแยกออกทั้งสองข้าง เพื่อมันจะได้ไม่เสียดสีมาก แล้วสะโพกหนาก็เริ่มขยับเร็วขึ้น"โอ๊ย" พยายามทนความเจ็บไว้แล้ว แต่ยิ่งเขาขยับร่างกายเร็ว มันก็ยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้"พอก่อนไหม" เขาหยุดอีกครั้งเมื่อนิ้วเรียวจิกลงที่ลำแขนอย่างแรง ถึงแม้เธอจะไม
แค่มองดูพระลักษณ์ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนรูดบัตร แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูด"พ่ออยากให้เราทำอะไรให้หน่อย""ทำอะไรครับ""เราก็เห็นแล้วนี่ พ่อว่าน้องเราต้องถูกหลอกแน่""หึ..ใครจะไปหลอกมันได้" ถึงแม้จะไม่ได้โตมาด้วยกัน แต่เขาคิดว่ารู้จักคนแบบพระรามดี"พระลักษณ์ เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอลูก" ก่อนที่จะให้พระรามเข้ามาอยู่ในบ้าน พระนายได้คุยกับลูกชายคนโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"แต่เรื่องนี้ผมคงช่วยอะไรพ่อไม่ได้" ว่าแล้วพระลักษณ์ก็ออกจากห้องทิ้งให้ผู้เป็นพ่อได้แต่มองตาม ไม่รู้จะทำยังไงให้ลูกทั้งสองรักใคร่กันดีเที่ยงวันเดียวกัน..พอถึงเวลาพักจ๊ะเอ๋ก็รีบออกมา เพราะกลัวเพื่อนในบริษัทจะเห็นว่าเธอไปซื้อยา ขณะที่เดินผ่านรถคันสวยก็อดที่จะแอบมองไม่ได้ เพราะมันยังจอดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่เดิม"จ๊ะ""แม่??" ได้ยินเสียงที่คุ้นหูจ๊ะเอ๋หันกลับไปมองแบบอัตโนมัติ"แม่ได้ยินคนพูดกันว่ารถคันนี้เป็นรถของลูกเหรอ""แม่เอาอะไรมาพูด""ไม่ใช่รถของเราแน่นะ""ฉันจะมีปัญญาที่ไหนไปซื้อล่ะแม่"ที่จริงจอยได้ยินมาเยอะกว่านั้น แต่เมื่อลูกปฏิเสธนางก็เลยไม่ได้ถามต่อ "แล้วนี่เราจะไปไหน""จ๊ะว่าจะออกไปหาอะไรกินหน้าบริษัท""ทำไมไม่กินในโรงอ
"ท่านประธานมีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ" คนที่เปิดประตูเข้ามาก็คือจ๊ะเอ๋ พอพระรามขึ้นลิฟต์ไปแล้ว อ้อก็เดินตามเธอไป แจ้งว่ายังไงเธอก็ต้องไปพบท่านประธานให้ได้ ซึ่งเธอไม่รู้ว่าในห้องของท่านประธานมีพระรามอยู่ก่อนหน้านั้น แถมตอนที่ไปถึงประตูห้องก็ถูกเปิดแง้มไว้"ตามผมมา" พระรามคว้ามือเรียวจะพาออกมาจากห้องนั้น แต่จ๊ะเอ๋สะบัดมันออก"ขอโทษค่ะ ฉันยังไปไม่ได้เพราะท่านประธานมีเรื่องจะคุยด้วย""ผมบอกให้ตามมาไง" ว่าแล้วพระรามก็ใช้แรงที่มีมากกว่าพาเธอออกจากห้องมาจนได้ขณะที่ลงลิฟต์ จ๊ะเอ๋ก็ไม่ได้มองหน้าเขาเลย และสีหน้าเธอก็ปกติมาก ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ปกติ ..นี่เขาเป็นลูกชายของท่านประธานหรอกหรือ เธอไม่แปลกใจแล้วว่าเขาได้เงินพวกนั้นมายังไง และมันก็ไม่แปลกที่พ่อของเขาจะดูถูกเธอ..รวมทั้งตัวเขาด้วย"จะไปไหน" พระรามรีบเดินตามเมื่อเธอออกจากลิฟต์ไปก่อน"เข้าแผนก" จ๊ะเอ๋ยังคงตอบแต่ก็ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย"วันนี้ไม่ต้องเข้าทำงานแล้ว" ชายหนุ่มจูงแขนเธอเดินมาได้แค่ไม่กี่ก้าวหญิงสาวก็หยุด"ฉันต้องไปเข้างาน" ว่าแล้วเธอก็แกะมือของเขาออกแล้วรีบเดินไปทางแผนก แต่ก่อนที่จะถึงเธอได้แวะห้องน้ำก่อน เพราะต้องจัดการกับความรู้สึกข
ห้องผู้จัดการ..ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอจะเนื้อหอมเป็นพิเศษ เมื่อวานนี้ห้องท่านประธานวันนี้ห้องผู้จัดการ"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวกล่าวสวัสดีพอให้เป็นพิธี แต่เธอก็ไม่ได้ยกมือขึ้นมาไหว้"ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย""ค่ะ" ถ้าไม่มีเรื่องคุยคงไม่ให้คนไปตามเธอขึ้นมาหรอก"มานั่งก่อนสิ"จ๊ะเอ๋ก้าวเดินเข้าไปนั่งลงเก้าอี้ด้านหน้าของพระลักษณ์แบบมั่นใจในตัวเอง ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้พกเอาความมั่นใจมาด้วยเลย"ผมจะหางานที่เหมาะสมกับคุณให้" พระลักษณ์เห็นว่าพ่อกลุ้มใจกับเรื่องนี้มาก ก็เลยคิดว่าต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้ว"จะไล่ฉันออกหรือคะ" ขณะที่พูดใบหน้าของเธอก็ยังคงนิ่ง เหมือนไม่สะทกสะท้านสะเทือนใดๆ เลย"อย่าว่าไล่ออกเลย แค่จะโยกย้ายงาน""ฟังดูดีนะคะ แล้วจะโยกย้ายไปที่ไหนล่ะ""ผมมีอยู่สามบริษัทให้คุณเลือก เป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนกับที่นี่โดยตรง ถ้าคุณได้ไปทำงานที่นั่นผมจะให้คุณบรรจุเป็นพนักงานประจำ ไม่ต้องฝึกงานอีกต่อไป""แล้วเงินเดือนล่ะคะ""อะไรนะ" เขาคิดว่าเธอจะไม่กล้าพูดเรื่องนี้ ..แน่นอนว่าทุกคนไม่กล้าถามเรื่องเงินเดือนอยู่แล้วถ้าจะถูกย้าย..เพราะดีเท่าไรแล้วที่ไม่ไล่ออก"ถ้าเงินเดือนไม่พอยาไส้ ฉันขอเลือกทำงานที
พอจัดของเข้าที่เสร็จ จอยก็ได้ถืออะไรบางอย่างเข้ามาให้ลูกในห้องนอน"อะไรคะแม่""ยาของลูกไง" มันคือยาที่จ๊ะเอ๋ซื้อมาวันนั้น"คะ?" มือเรียวยื่นไปรับยามา และอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงความรู้สึกของแม่บททดสอบในชีวิตของแต่ละคนไม่เท่ากัน นี่มันอาจจะเป็นบททดสอบหนึ่งของลูกสาว แต่ก็เป็นบททดสอบของแม่ด้วย ในเมื่อไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ได้แล้ว นางต้องทำใจยอมรับมันให้ได้นี่ก็เข้าวันที่ 4 แล้วคงกินไม่ทัน ตอนนี้คงทำได้แค่ภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันตกไข่ของเธอเลย"ท่านประธานจะมาค้างที่นี่ด้วยไหมลูก""ไม่มาค้างหรอกค่ะแม่""ถ้าวันไหนที่ท่านจะมา บอกแม่นะเดี๋ยวแม่จะออกไปจากบ้าน""แม่คะ เออ..""แม่ว่าหนูไปนอนเถอะ" นางคิดว่าลูกคงจะเป็นห่วงความรู้สึกของนาง ถึงได้อ้ำๆ อึ้งๆ แบบนี้เช้าวันต่อมา.."จ๊ะว่าแม่ไปลาออกดีกว่า""ไม่ได้หรอกลูก คนเขาจะมองเรายังไง""ช่างคนอื่นเขาปะไรแม่" จ๊ะเอ๋คุยกับแม่ในขณะที่เดินมาบริษัท ตอนนี้ไม่ต้องไปยืนรอรถเมล์แต่เช้ามืดอีกแล้ว เดินแค่สิบกว่านาทีก็ถึงบริษัท"วันนี้บริษัทเปิดรับสมัครพนักงานเหรอ" พอมาถึงบริษัทก็เห็นคนที่จะมาสมัครงานยืนออกันอยู่"คงใช่มั้งแม่" ขณะที่พูดสายตาเธอแอบมองหาเขา คน
ดวงตามัลลิกาเปิดกว้างขึ้น เมื่อเห็นว่าพระรามเอาผ้าซับริมฝีปากให้กับจ๊ะเอ๋"ขอบคุณค่ะ" พอกล่าวขอบคุณเสร็จเธอก็เอื้อมไปตักอาหารอีกจาน แต่จานนั้นอยู่ไกลหน่อยจนเอื้อมเกือบจะไม่ถึง เขาก็เลยค่อยๆ เลื่อนมันมาให้ใกล้ที่สุดของขวัญทำได้แค่แอบมองเพื่อน และกรอกสายตามองไปดูมัลลิกาแบบไม่ให้อีกฝ่ายได้รู้"อิ่มจังเลย ขอบคุณมากนะคะ" หญิงสาวกล่าวขอบคุณพระรามอีกครั้งพร้อมกับลุกขึ้น"แกกำลังทำอะไรอยู่""ก็เดินไง""ไม่ได้หมายถึงตอนนี้ ฉันหมายถึงตอนที่กินข้าวอยู่""ก็เหมือนที่แกเห็นนั่นแหละ""แกกลับไปสนิทกับพระรามแล้วเหรอ""ก็บอกแล้วไงเหมือนที่แกเห็นนั่นแหละ""อะไรของแกเนี่ย" ของขวัญได้แต่มองตามเพื่อนไป เพราะต้องได้แยกกันตรงนี้แล้วเย็นวันเดียวกัน.. จ๊ะเอ๋คิดว่าตัวเองมองผิดก็เลยเดินเข้ามาดูใกล้ๆ "แม่กำลังทำอะไรอยู่""คนที่มาสมัครงานน่ะสิลูก ทำของเลอะเทอะ แม่ก็เลยมาช่วยทำความสะอาด""มันไม่ใช่หน้าที่ของแม่ไม่ใช่เหรอ""ทำไม..แม่บ้านจำเป็นต้องทำแค่ตรงนั้นเหรอ" มัลลิกาพูดมาแต่ไกลแค่นี้จ๊ะเอ๋ก็รู้แล้ว..แกล้งเธอไม่ได้ก็มาแกล้งใช้งานแม่ให้หนักนี่เอง"ถึงเวลาเลิกงานแล้ว กลับบ้านกัน" หญิงสาวจับของที่แม่กำลังทำควา
"ท่านประธานเชิญนั่งก่อนค่ะ""นั่งได้หรือครับ" พระนายเองก็งงเหมือนกัน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงพูดเหมือนเป็นกันเอง แต่ก็รู้แล้วล่ะว่าคนนี้คือแม่ของเธอ"ลืมแนะนำตัวไปเลยค่ะ ดิฉันชื่อจอยเป็นแม่ของจ๊ะเอ๋ค่ะ" ถึงจะอายอยู่บ้างที่ตัวเองใส่ชุดพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำ แต่ก็ต้องได้แนะนำไปตามความจริง"ยินดีที่ได้รู้จักครับ""ท่านประธานนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ำมาให้" จอยทำอะไรไม่ถูกรีบเดินเข้าไปในครัว คิดว่าตอนนี้ลูกสาวคงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องแน่เลย เดี๋ยวคงออกมามั้งในขณะที่รอน้ำ พระนายก็มองไปจนทั่วห้องโถงของบ้านหลังนี้ที่จริงเขาแอบมาดูเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าแม่ของเธอจะชวนเข้ามา เพราะจอยมองเข้าไปในรถคันหรูก็เห็นว่าเป็นประธานนั่งอยู่ด้านใน"น้ำมาแล้วค่ะ""แม่ทำอะไรเนี่ย" จ๊ะเอ๋ได้ยินทุกคำพูดที่แม่กำลังพูดกับท่านประธานอยู่ และเธอก็รู้ดีว่าแม่ทำไปเพราะอะไร...เพราะเธอนั่นแหละที่ไม่รีบอธิบายให้แม่ฟังก่อน"คุณรออยู่ข้างในนี้ห้ามออกไปนะ" นิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าของพระรามให้เขานั่งอยู่บนเตียงห้ามขยับไปไหนแกร็ก!"จ๊ะเอ๋มาพอดีเลยค่ะ ถ้างั้นดิฉันไปก่อนนะคะ" จอยไม่อยากจะเห็นภาพที่ลูกออดอ้อนท่
"คุณทำไมดูไม่ตกใจเลยล่ะ" เข้ามาถึงในห้องก็ยังเห็นว่าเขาปกติ ไม่มีท่าทีตกใจกลัวอะไรเลยตอนเห็นปืนใครบ้างจะไม่ตกใจ แต่พอเห็นว่าเธอกับแม่พยายามปกป้องเขาอยู่ ก็เลยทำให้คลายความกลัวไปได้เยอะ"พ่อคุณเป็นกำนันเหรอ" ที่เขาถามแบบนี้เพราะได้ยิน คนชื่อจ้อยเรียกว่าพ่อกำนัน"ใช่ค่ะ"ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง"นี่คุณ ฉันไม่ได้จะให้คุณนอนในห้องนี้สักหน่อย""ไม่ให้ผมนอนนี่แล้วจะให้นอนไหน""เดี๋ยวพ่อฉันสงบลงแล้วจะหาห้องให้" บ้านเธอกว้างขวาง ห้องนอนก็มีหลายห้อง"คุณคิดว่าพ่อคุณจะสงบง่ายไหม ยิ่งตอนนี้เห็นผมเข้ามาในห้องของคุณด้วยแล้ว""คุณก็อย่าพูดให้ฉันเสียวสันหลังสิ" ตอนเรียนมัธยมเคยถูกพ่อตีมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเรื่องผู้ชายนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้เลยเถิดอะไรมากก็แค่วัยรุ่นอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง"ผมขอนอนพักเอาแรงหน่อยแล้วกัน ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง"อะไรของเขาเนี่ย ยังจะนอนหลับอีกเหรอ"ออกมา!""พ่อ?" เขานอนไปได้แค่ครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนมาจากหน้าห้อง"ไม่ต้องออกมานะลูก ปล่อยให้พ่อบ้าอยู่คนเดียวเถอะ" แม่รีบตามมาห้ามพ่อ"ลูกเราเป็นผู้หญิงนะแม่!""พ่อกล้าขึ
"ผู้จัดการ?" พอรู้ว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องคือใคร ของขวัญรีบปิดประตูกลับคืนไว้เหมือนเดิม "ขะ..คุณมาทำไมคะ""ตกใจเหมือนเห็นผี" โชคดีที่เขาก้าวขาถอยกลับทันจังหวะที่เธอปิดประตู ถ้าไม่งั้นได้หน้าแหกแน่ "เปิดประตูออกมาคุยกันก่อน""คุณไม่เห็นหรือไงว่าฉันอยู่ในสภาพไหน""ไม่ได้ใส่อะไรยังเห็นมาแล้ว แค่นี้ทำไมต้องอาย"นี่แสดงว่าเขายังคงจำได้เหรอ? ..ของขวัญพยายามบอกตัวเองว่าเขาคงลืมแล้ว เพราะเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา แต่ทำไมเขายังจำได้ล่ะ "ฉันขออาบน้ำก่อนเดี๋ยวออกไปหา""คุณจะให้ผมยืนรออยู่ตรงนี้เหรอ""ไม่รู้จะมาทำไม แล้วนี่เมื่อไรพระรามกับจ๊ะเอ๋จะมา" หญิงสาวพึมพำออกมาแค่เบาๆ แต่ก็ยอมเปิดประตูให้ห้องเช่าของเธอไม่ได้กว้างขวาง แต่ก็แบ่งโซนที่ใช้ทำเป็นครัว ห้องน้ำในตัว ส่วนเตียงนอนก็จะถูกจัดวางไว้อีกมุมหนึ่งในห้องเดียวกัน"คุณนั่งรอก่อนแล้วกัน" ในห้องนี้ถ้าจะนั่งรอก็คงมีแค่เตียงนอน จากที่ไม่เคยเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย เธอก็เลยต้องได้เอาเข้าไป เพราะจะมาเปลี่ยนต่อหน้าเขาคงไม่ได้แล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จของขวัญก็ออกมา"คุณมีอะไรจะคุยกับฉันก็ว่ามาสิ""เก็บเสื้อผ้าเดี๋ยวจะพากลับบ้าน""ไห
ชายหนุ่มออกมาจากห้องของผู้เป็นพ่อก่อนที่จะกลับเข้าห้องตัวเอง สายตาคมก็ได้มองไปที่.."เข้ามาหาผมหน่อย"กาญจนาหันมองกลับไปด้านหลัง เพราะดูเหมือนว่าผู้จัดการจะไม่ได้พูดกับตัวเอง"เมื่อสักครู่ผู้จัดการบอกใครคะ" พรทิพย์ก็มีความสงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะด้านหลังของคุณเลขามีอยู่สองคน เผื่อว่าผู้จัดการจะเรียกใช้ตัวเองบ้าง"พี่ว่าคงจะบอก.." กาญจนาตวัดสายตามองไปที่ของขวัญ "เข้าไปหาผู้จัดการสิ"มีธุระอะไรต้องเรียกเราอีกเนี่ย ..หญิงสาววางงานไว้แล้วก็เดินมาที่ห้องของเขาแกร็ก! แอดดด.. "อุ๊ย.. ขอโทษค่ะ" มัวแต่คิดอยู่ว่าเขาจะคุยอะไรด้วยก็เลยลืมเคาะประตู พอเปิดเข้าไปแล้วก็ต้องได้ปิดไว้ก่อนก๊อก ก๊อก "เข้ามา""ผู้จัดการให้ฉันเข้ามามีอะไรคะ" หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องนี้แล้ว"บ้านของคุณอยู่ที่ไหน""คะ?""คุณเป็นคนจังหวัดอะไร""ถามแปลก..ฉันก็เป็นคนทุกจังหวัดนั่นแหละค่ะ" ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แค่ไม่อยากจะบอกว่าบ้านอยู่ที่ไหน ..แต่พอเห็นสายตาของเขามองมา ของขวัญก็เลยต้องได้บอกไป"เคลียร์งานเสร็จอีกสองวันเดี๋ยวจะพากลับบ้าน" เขาพูดเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับคำพูดของตัวเองเลย"อะไรนะคะ?""อยากจะกลับบ้านไม
ของขวัญที่ยังไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ก็แอบคิดในใจอยู่หรอกว่า ทำไมเขาพาเธอมาดินเนอร์ อยากจะพูดอะไรกับเราหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าต้องพามาเปลืองเงินแบบนี้"ทานสิครับ" พระลักษณ์เอื้อมมือมาตักอาหารวางใส่จานตรงหน้าให้กับเธอแบบอ่อนโยน"??" หญิงสาวแปลกใจมากขึ้น แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว แต่เธอก็เล่นไปตามเกมที่เขาวางไว้ "ขอบคุณค่ะ""คุณไม่ชอบแบบนี้หรือครับ"ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้น ไม่นะของขวัญ เรายังไม่รู้เลยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร เธออย่าหวั่นไหวกับเขาเด็ดขาด ..เพราะแต่ละคำพูดแต่ละประโยคที่ออกมาจากปากผู้ชายตรงหน้ามันช่างละมุนยิ่งนัก จนของขวัญเผลอเคลิ้มไปกับคำหวานพวกนั้น"วันหลังอยากไปไหนก็บอกผมแล้วกัน จะได้หาเวลาว่างให้" ชายหนุ่มยังคงทำใบหน้าละมุนนั่นไง..ว่าแล้ว ..จากที่มองหน้าเขาแบบตกอยู่ในภวังค์ ตอนนี้ดวงตาของเธอมองสอดส่ายไปทั่วห้องอาหารหรูแห่งนี้"คุณพูดจริงนะคะ ฉันอยากไปหลายที่เลย" เสียงของเธอเริ่มเปลี่ยนไป จากที่พูดแบบไม่มีหางเสียง ตอนนี้น้ำตาลยังอายพระลักษณ์ก็เลยต้องได้มองหน้าเธออีกครั้ง "แล้วคุณอยากไปไหนล่ะครับ""อยากกลับบ้านค่ะ""กลับบ้าน?" ชายหนุ่มมองไปดู กลุ่มคนที่เขารู้แล้วแหละว่าเป็นนักข่าว เพรา
"ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น""แล้วผู้จัดการจะคุยเรื่องอะไรล่ะคะ" เขาไม่คิดเลยเหรอว่าเราจะอาย ..พอถูกเบรคของขวัญก็นึกอายขึ้นมา เรื่องเมื่อคืนนี้มีอะไรต้องให้พูดกันอีกนอกจากเรื่องที่เขาทำกับเธอแบบนั้น"ถ้าคุณพ่อเรียกตัวไปพบ ก็บอกท่านไปว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น""??" อะไรกันท่านประธานจะเรียกตัวเราไปพบเหรอ แค่ผู้จัดการเธอก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว นี่ท่านประธานเลยนะ "ฉันไม่ไปค่ะ" คิดดูแล้วถ้าท่านประธานเรียกไปพบ เธอขอลาออกดีกว่า"ไม่ไปไหน?""ก็ถ้าท่านประธานเรียกตัวไปพบฉันขอไม่ไปพบท่านไงคะ""ผมแค่พูดเผื่อไว้ถ้าท่านเรียกตัวคุณไป" พระลักษณ์รู้ดีว่ายังไงพ่อก็ต้องเรียกตัวเธอไปคุยเรื่องนี้อยู่แล้วทำไมเราต้องไปด้วย เขาต่างหากที่ทำกับเรา "ฉันไม่ไปหรอกค่ะ เพราะฉันโกหกใครไม่เป็น""โกหก?""ก็ใช่ไงคะ คุณจะให้ฉันบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง..ก็ในเมื่อมันมี""เธอคิดจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ" แค่จูบเขาไม่คิดว่ามีอะไรอยู่แล้วคิดว่าฉันจะแบล็คเมล์เลยเหรอ? ..ของขวัญคิดว่าแค่จะพูดให้ผู้จัดการไปเคลียร์กับพ่อเอง "แล้วแต่ผู้จัดการจะคิดแล้วกันค่ะ ฉันขอออกไปทำงาน" ทำไมเรื่องวุ่นวายต้องเกิดขึ้นกับเราด้วย จริงๆ แล้วของขวัญไม่ใช่ค
"??" คนที่อยู่ในห้องไม่รู้หรอกว่าหน้าห้องกำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะม่านรูดที่นี่เป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวนจากข้างนอก หรือเสียงที่อยู่ข้างในก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ "คุณพ่อ?""จ๊ะ??" ไม่ได้ตกใจแค่พระลักษณ์ ของขวัญที่ตามออกมาก็ตกใจไม่ต่างกัน"ขวัญอยู่ในห้องนั้นจริงๆ ด้วย" จ๊ะเอ๋เอ่ยพูดออกมาเบาๆ พระรามต้องรีบโอบร่างเธอไว้ก่อนที่เข่าจะทรุด "พี่ชายของคุณทำอะไรเพื่อนฉัน" หญิงสาวเฝ้าแต่โทษตัวเองที่ดึงเพื่อนเข้ามาเดือดร้อนด้วย"เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่คะ" นักข่าวไม่พลาดสักช๊อต และตอนนี้ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างได้ถูกบันทึกเป็นคลิปไว้หมดแล้ว รอแค่เวลาเผยแพร่"ลูกมาทำอะไรที่นี่" พระนายถามออกไปด้วยท่าทางที่ปกติมาก ไม่ตื่นตระหนกเหมือนคนอื่นเลย"คือว่าผม.." พระลักษณ์มองสายตาพ่อก็รู้แล้วว่าไม่ได้ปกติเหมือนใบหน้าและคำพูดที่แสดงออกมาในเวลานี้เลย"ก็บอกแล้วไงว่าพ่อรู้เรื่องนี้แล้ว จะคบกันพ่อก็ไม่ว่า"???? เครื่องหมายนี้ไม่ได้ผุดขึ้นแค่พระลักษณ์ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สงสัยและแปลกใจ เพราะพระนายทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติ และรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว"ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ
"ทำยังไงดีโทรก็ไม่ติด" จ๊ะเอ๋พยายามโทรหาของขวัญ แต่ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของเพื่อนจะถูกปิดเครื่อง"เราไปดูที่ห้องเช่าก่อน..ขวัญอาจจะนั่งแท็กซี่กลับไปแล้ว" ในขณะที่ขับรถไปห้องของขวัญ พระรามก็ทำได้แค่พูดปลอบใจเธอ"ภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะ"ในเวลาต่อมา..ที่ห้องเช่า"ขวัญยังไม่กลับมาเลย" จ๊ะเอ๋เริ่มใจไม่ดี เมื่อมาถึงเห็นว่ากุญแจคล้องจากด้านนอก "ทำยังไงดี""เดี๋ยวเรากลับไปโรงแรมอีกครั้ง ไปขอดูกล้องวงจรปิด" ที่เขายังไม่ไปขอดูเพราะกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ และต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่าเพื่อนของเธอไม่ได้กลับมาที่ห้องพัก[โรงแรมที่ใช้จัดงาน]"นั่นลูกชายของคุณพระนายไม่ใช่เหรอ" นักข่าวที่กำลังจะกลับ เห็นพระรามแล้วจ๊ะเอ๋เดินผ่านเข้าไปด้านในก็เลยจำได้"พวกเขาจะเข้าไปทำไม งานเลี้ยงเลิกแล้วไม่ใช่เหรอ""อยากรู้ก็ตามไปดูสิ" นักข่าวทั้งสองเดินตามไปแบบไม่ให้รู้ตัว"เรามาขอดูกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถครับ" เขาไปถึงพระรามก็พูดกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม"มีอะไรเกิดขึ้นคะ""เพื่อนของเรายังไม่กลับบ้าน" แล้วจ๊ะเอ๋ก็เล่าให้ฟังว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างพนักงานได้ยินแบบนั้นก็ตรวจเช็คกล้องวงจรปิดให้ทันที บางกรณีถ้าแขก
นักข่าวที่ประจำอยู่หน้างาน ก็เห็นอยู่ว่ามีคู่รักเดินมาด้วยกัน แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่ามาร่วมงานปกติพระนายมองออกไปที่หน้างาน ก็ไม่พอใจเอามากๆ เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กควงผู้หญิงคนนั้นมาด้วยพระลักษณ์ที่กำลังพาของขวัญไปคุยกันมุมหนึ่งของงานนั้น แต่ยังไม่ได้คุยเลยด้วยซ้ำก็มองไปเห็นพ่อที่เรียกตัวให้เข้ามาหาก่อน"ผู้จัดการมีอะไร..?" ของขวัญกำลังจะถามว่าผู้จัดการมีอะไรจะคุยกับเธอ แต่พอมองอีกทีผู้จัดการเดินไปโน่นแล้ว "อะไรวะ เรียกเรามาคุยด้วยซะดิบดี" หญิงสาวมองซ้ายมองขวา เพราะถ้าใครเห็นคงน่าอายมาก"จะทำยังไง" พระนายยื่นใบหน้าเข้าไปถามลูกชายเบาๆ เพราะไม่อยากให้แขกที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกัน"ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะ..""อย่าให้พ่อได้ยินคำว่าไม่แน่ใจอีก" ลูกชายยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ ผู้เป็นพ่อก็พูดสวนขึ้น"ผมจะพยายามแล้วกันครับ" พระลักษณ์เดินออกมาแล้วก็มองว่าผู้หญิงสองคนที่เขาชวนมางานด้วย คนไหนพอที่จะเรียกใช้งานได้"คุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ" และเขาก็เลือกที่จะเดินมาหา.."ลิกาหรือคะ?""ถ้าคุณช่วยผมได้ ผมจะตอบแทนอย่างงาม""ช่วยอะไรคะผู้จัดการ" "ช่วยแยกผู้หญิงคนนั้นออกจากพระรามหน่อย"มัลลิกามอง
[ห้องเช่าของขวัญ]ตอนที่โทรคุยกันจ๊ะเอ๋บอกให้เพื่อนกลับห้องไปก่อนเดี๋ยวตามไปหา"เข้ามาข้างในก่อน" ของขวัญเปิดประตูห้องให้กับจ๊ะเอ๋ สายตาไม่ได้มองเพื่อนหรอกแต่มองคนที่เดินตามหลังเข้ามา"ฉันรู้ว่าแกอยากจะถามอะไร" เพราะคิดว่าของขวัญต้องอยากรู้แน่ว่าทั้งสองกลับมาคบกันแล้วเหรอ ทำไมถึงตามติดเหมือนเงาเลย"แกพร้อมที่จะเล่าให้ฉันฟังไหมล่ะ" ของขวัญแอบน้อยใจอยู่ไม่ใช่น้อย ที่ได้ยินเรื่องราวของเพื่อนจากปากคนอื่น แต่ถ้าเพื่อนพร้อมที่จะเล่าให้ฟังป่านนี้คงเล่าแล้ววันต่อมาที่บริษัท"จริงเหรอ?" ตอนนี้ข่าวที่ผู้จัดการชวนมัลลิกาไปออกงานรู้กันไปทั่วทั้งบริษัทแล้ว"จริงสิ..ได้ยินมาจากเจ้าตัวเองเลยแหละ""ทำไมเราไม่ถูกเชิญแบบนี้บ้าง""เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรามาเม้าท์เรื่องที่ทำไมผู้จัดการถึงเชิญมัลลิกา" คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต่างก็จ้องตา เพราะผู้จัดการก็ยังโสด ส่วนมัลลิกาตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าคงไม่สมหวังจากพระรามแล้วล่ะ"นางหาที่เกาะใหม่ได้เร็วมาก""มาโน่นแล้ว" อีกคนรีบสะกิดเพื่อนไว้เมื่อเห็นมัลลิกาเดินยิ้มแป้นเข้ามาในบริษัท"คุณมัลลิกา""คะ""วันนี้ดูอารมณ์ดีจังเลยนะคะ""จริงเหรอคะ..ไม่รู้เลยนะเนี่ย""คืนนี