"ได้! ผมอยากรู้เหมือนกันว่าคุณอยากจะพูดอะไร"โจวชิ้งมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่ซับซ้อน ก่อนจะเดินนำไปก่อนเย่เฟิงกระตุกยิ้มเย็นพร้อมกับจูงมือนั่วนั่วตามไปเขาอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไร?หลังจากเดินมาได้สักพัก!โจวชิ้งหยุดอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยอะพาร์ตเมนต์เก่า 6 ชั้นใกล้กับโรงเรียนอนุบาลเหวินเฟิงไม่รู้ว่าเธอเดินมาไกลเพราะไม่อยากถูกมอง หรือมีเหตุผลอื่น"อยากพูดอะไรก็ว่ามา"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์เขาจูงมือนั่วนั่วไว้แน่น ยืนอยู่ใต้อะพาร์ตเมนต์เก่าพร้อมกับโจวชิ้ง"อาเฟิง…ให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?""ช่วงที่ผ่านมาฉันเพิ่งเข้าใจว่าชีวิตฉันที่ไม่มีคุณกับลูก ฉันอยู่ต่อไปไม่ได้เลย""ฉันคิดถึงพวกคุณทั้งกลางวันและกลางคืน ในฝันฉันก็ยังเห็นหน้าคุณกับนั่วนั่ว…"โจวชิ้งพูดพลางสะอื้น น้ำตาคลอเบ้าเธอย่อตัวลงไปหานั่วนั่ว พยายามจะจับมือลูก "นั่วนั่ว หนูคิดถึงแม่บ้างไหม?"ทันใดนั้น เย่เฟิงดึงนั่วนั่วมาอยู่ข้างหลังเขาทันที น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือก "อย่ามาแตะต้องลูก!"โจวชิ้งมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าทุกข์ใจ เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ครั้งที่แล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายลูกเ
เย่เฟิงมีสีหน้าเคร่งขรึม มองดูนั่วนั่ววิ่งไปหาโจวชิ้ง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขัดขวางตอนนี้การห้ามนั่วนั่วไม่ให้ติดต่อกับโจวชิ้ง จะมีแต่ทำให้เกิดผลลบ"นั่วนั่ว เด็กดี! คิดถึงแม่ไหม?"โจวชิ้งยื่นแขนออกมา ถามนั่วนั่วฟิ้ว!ในขณะนั้นเอง ก็มีกระถางต้นไม้หล่นลงมาจากฟ้า!จากความเร็วและวิถีการตก ดูเหมือนว่าจะหล่นใส่นั่วนั่วเย่เฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบจะปกป้องลูกสาวแต่ปฏิกิริยาของโจวชิ้งกลับเร็วกว่าเย่เฟิง เธอพุ่งไปหานั่วนั่วอย่างรวดเร็ว อุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนป้องกันเอาไว้ฟิ้ว!ผ่านไปครู่หนึ่ง กระถางต้นไม้ตกลงมาใกล้จะกระแทกหัวโจวชิ้งโจวชิ้งหลับตา ในใจต่อสู้กับความลังเล แต่สุดท้ายก็กัดฟันไม่ขยับเธอรู้ว่านี่เป็นเพียงกระถางเปล่า!หากโดนตกใส่ อย่างมากก็แค่หัวแตกเย็บไม่กี่เข็ม ร้ายแรงสุดกฌคงกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อย แต่ไม่ถึงตายเย่เฟิงมองดูการกระทำของโจวชิ้งในตอนนี้ ดวงตาของเขาหดแคบลงเล็กน้อยปัง!ในที่สุด ก่อนที่กระถางต้นไม้จะกระแทกหัวโจวชิ้ง เย่เฟิงก็ลงมือ!เขาตบกระถางต้นไม้จนแตกเป็นผุยผง กระจายไปทั่วตัวของโจวชิ้งแต่สุดท้ายก็ไม่มีภาพเหตุการณ์ที่เธอต้อ
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น"คุณชายฉู่!"ทนายลวีรีบรับสาย ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อม"คุณจัดการเย่เฟิงไปแล้วหรือยัง?"เสียงเย็นเยียบของฉู่เทียนหลงถามกลับมาทนายลวีได้ยินคำถามนั้น เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย "ยัง... ยังครับ""ไร้ประโยชน์! ไร้ประโยชน์จริงๆ!คราวก่อน คุณประมูลยันต์สังหารมาได้แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงยังจัดการไอ้หน้าขาวนั่นไม่ได้อีก?"ฉู่เทียนหลงด่ากราดอย่างโกรธจัด"คุณชายฉู่...ผม...ผมไม่แน่ใจว่ายันต์สังหารนั้นเป็นของจริงหรือเปล่าน่ะครับ! ถ้ามันเป็นของปลอมล่ะ ผม..."ทนายลวีพูดพลางทำหน้าขมขื่นแม้ว่าเขาจะได้ยินมาจากปากของคนในตระกูลกู่ ว่ายันต์สังหารนั้นมีพลังงานบางอย่างอยู่จริง และยังเคยถามเย่อินหลินแล้วด้วยแต่ทนายลวีเป็นคนขี้ขลาดกลัวตาย จึงยังไม่กล้าเสี่ยง…"ไปตายซะ! ไร้ประโยชน์! ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า คุณเอาเงินห้าพันล้านของผมไปแล้วแอบเก็บไว้เอง จริงๆ แล้วไม่ได้เอาไปประมูลของชิ้นนั้นมาเลยใช่ไหม?"ฉู่เทียนหลงกัดฟันถามได้ยินดังนั้น ทนายลวีก็ตกใจสะดุ้ง รีบแก้ตัว "ผมไม่กล้าหรอกครับ! คุณชายฉู่ ถึงจะให้ความกล้าผมอีกสักร้อยเท่า ผมก็ไม่กล้าทำแบบนั้
ยามเย็น เย่เฟิงพานั่วนั่วมาที่บริษัทผลิตยาเพื่อรับหลีเอียนเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก หลีเอียนก็ขมวดคิ้ว “เย่เฟิง นั่วนั่วเป็นอะไรไป? มีใครรังแกเธอหรือเปล่า?”เห็นได้ชัดว่านั่วนั่วมีคราบน้ำตาติดบนใบหน้า ราวกับเพิ่งร้องไห้มา“น้าหลีเอียน…”แม้ว่าเด็กหญิงจะยังงอนเย่เฟิงอยู่ แต่เมื่อเห็นหลีเอียน เธอก็เบะปากและทักทายด้วยมารยาท“นั่วนั่วเด็กดี! บอกน้าหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”หลีเอียนเดินเข้าไปอุ้มนั่วนั่วขึ้นมาด้วยความอ่อนโยน พร้อมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็กทำหน้าตาเศร้าหมอง น้ำตาคลอเบ้า และเบะปากทักทายอย่างน่าสงสาร หัวใจของหลีเอียนก็แทบจะละลายเธอรู้สึกว่านั่วนั่วน่ารักจนใครๆ ก็ต้องหลงรัก แต่ก็ดูน่าสงสารจนอดเอ็นดูไม่ได้“ไม่ต้องสนใจเธอหรอก เด็กก็งอแงแบบนี้แหละ”เย่เฟิงพูดพลางโบกมือด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย“นั่วนั่วน่ารักขนาดนี้ จะงอแงอะไรได้? เย่เฟิง เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทน! ถ้าคุณไม่มีความอดทน ก็ให้นั่วนั่วมาอยู่กับฉันเถอะ!”หลีเอียนมองบนใส่เย่เฟิงด้วยความไม่พอใจ พร้อมปกป้องนั่วนั่วอย่างลำเอียงเธอคิดว่าเย่เฟิงเป็นผู้ชาย อาจจะขาดความอดทนไปบ้างเย่เฟิงยักไ
"นายท่านใหญ่ คุณหนูหลีเอียน พวกคุณจะทำอะไรครับ?"ยามคนหนึ่งถามหลีเทียนกังและหลีเอียน"ฉันมาหาแม่ฉัน จะมาทำอะไรได้? หลีกไป!"หลีเทียนกังที่ถูกขวางหน้า แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน เขาสั่งเสียงเข้ม"ขอโทษครับนายท่านใหญ่ ผู้อาวุโสสั่งไว้ว่า ห้ามให้ครอบครัวของคุณเข้าไปในบ้านตระกูลหลี!"ยามตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลีเทียนกังและหลีเอียนก็เปลี่ยนไปทันที"เรามาเยี่ยมคุณย่า แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?"หลีเอียนขมวดคิ้วถามหลีเทียนกังโกรธยิ่งกว่าเดิม "ถ้ารู้ว่าฉันเป็นใครก็หลีกไป! ฉันมาหาแม่ฉัน!""ขอโทษครับ ผู้อาวุโสบอกว่า พวกคุณไม่ใช่คนตระกูลหลีอีกต่อไป ตามกฎแล้ว พวกคุณไม่สามารถเข้าไปในบ้านตระกูลหลีได้ครับ!"ยามส่ายหัวและยังคงยืนกรานไม่ว่าหลีเทียนกังและหลีเอียนจะพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไร ยามทั้งสองคนก็ไม่ยอมขยับพ่อลูกทั้งสองคนถึงกับโกรธจนแทบระเบิดพวกเขารู้ว่ายามเหล่านี้ก็รู้จักตัวตนของพวกเขาดี แต่ก็จงใจไม่ให้เข้าไป!ในขณะที่ทั้งสองยังพยายามโต้เถียง เย่เฟิงกลับดึงหลีเอียนมาหลบอยู่ด้านหลังของเขา"หลีกไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็นใส่ยามทั้งสองยามทั้งสองสบตากันอย่างลั
ครั้งนี้ลุงรองหลีเทียนกังไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เพราะเขาไม่สามารถวนเวียนอยู่รอบตัวผู้อาวุโสหลีได้ตลอดเวลาแต่ในช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญ เขาต้องคอยจับตาดูสถานการณ์ของผู้อาวุโสหลีตลอดพูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขารอให้ผู้อาวุโสเสียชีวิตนั่นเอง!ดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิง อย่างน้อยก็ต้องมีคนหนึ่งคอยอยู่ข้างกายผู้อาวุโสหลีตลอดเวลาผู้อาวุโสหลีที่กำลังนั่งตากแดดอยู่ เมื่อเห็นเย่เฟิง หลีเทียนหยาง และหลีเอียนเดินเข้ามา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“พวกเธอมาที่นี่ทำไม?”“ใครอนุญาตให้พวกเธอมา? ออกไป!”เสียงของผู้อาวุโสหลีเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว สั่งไล่ลูกชายคนโตและคนอื่นๆ ออกไปอย่างไม่เกรงใจโดยเฉพาะเมื่อสายตาของเธอตกลงที่เย่เฟิง ความโกรธแค้นในแววตาก็ยิ่งชัดเจน!เพราะยอดฝีมือตระกูลหลีถูกเย่เฟิงเล่นงานจนบาดเจ็บหนัก ตระกูลหลีจึงตกอยู่ในสภาพที่บอบช้ำ!แผนการที่จะทำลายหลีหย่วนก็พังทลาย!ตั้งแต่หลีเอียนหลานสาวคนโตพาเย่เฟิงเข้ามาในฐานะลูกเขย ผู้อาวุโสหลีที่เคยใช้อำนาจในตระกูลอย่างเบ็ดเสร็จ ก็เริ่มพบกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า!ผู้อาวุโสหลีจึงเกลียดเย่เฟิงถึงขั้นฝังลึกในกระดูก!“แค่กๆๆ...แค่กๆ…”ผู
"ใช่! พวกเราเชิญหมอเทวดาจู้มาดูแลสุขภาพของผู้อาวุโสแล้ว! ไม่ต้องให้ไอ้หน้าขาวอย่างนายมาทำตัวเป็นคนดีหรอก!อีกอย่าง นายจะมีเจตนาดีอะไร?"หลี่เยว่ผิงได้ยินว่าเย่เฟิงอยากช่วยรักษาอาการให้ผู้อาวุโส ใบหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนสีทันทีจากนั้นหล่อนก็ยืนขวางหน้าผู้อาวุโส พร้อมหัวเราะเยาะเย้ยออกมาหลีถิงก็ถ่มน้ำลายพลางพูดว่า "นายรักษาได้เรอะ? ฉันว่านายคงทำให้คนเดือดร้อนมากกว่าจะช่วยได้!""คุณย่า ให้เย่เฟิงลองดูเถอะค่ะ เขารู้วิชาแพทย์จริงๆ ยาตัวใหม่ของบริษัทหนู ก็เย่เฟิงเป็นคนคิดค้นทั้งหมด อีกทั้งเขายังเคยรักษานายท่านซ่งด้วย!เย่เฟิงไม่มีทางทำร้ายคุณย่าหรอกค่ะ!"หลีเอียนมองดูผู้อาวุโสหลีที่ดูอ่อนแอจนใจหาย หล่อนพยายามพูดเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ"ใช่ครับแม่! สุขภาพสำคัญกว่าอะไร ตอนนี้อย่าเพิ่งดื้อเลยนะครับ!"หลีเทียนหยางตบหลังมือผู้อาวุโสเบาๆ"พี่ใหญ่ พวกพี่ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง? เราเชิญหมอเทวดาจู้มาแล้ว เขาเป็นถึงตำนานของวงการแพทย์แผนจีนแห่งเยียนเซียเชียวนะ!เขาจะช่วยปรับสุขภาพของผู้อาวุโสงั้นเหรอ เย่เฟิงไอ้คนครึ่งๆ กลางๆ นี่ รีบไปให้พ้นจะดีกว่า!ถ้าการรักษาของหมอเทวดาจู้ถูกขัดขวาง
ปฏิกิริยาของหมอเทวดาจู้หลังจากเห็นเย่เฟิง ทำให้ทุกคนประหลาดใจ!จากนั้น เขาก็ให้หลีถิงพาผู้อาวุโสกลับเข้าไปในห้อง ราวกับว่ามีบางเรื่องที่ไม่สะดวกจะพูดต่อหน้าผู้อาวุโสหลีผู้อาวุโสหลีทำหน้าขรึมและสงสัยในใจ แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมเข้าไปในห้อง"หมอเทวดาจู้ คุณพูดอะไรกัน?""หรือว่าไอ้หน้าขาวนี่จะเก่งกว่าคุณ?"เมื่อผู้อาวุโสเข้าไปแล้ว หลี่เยว่ผิงถามขึ้นจู้ชิวหนานหลบสายตาไปมา ก่อนจะหัวเราะออกมา "วิชาแพทย์ของหมอเทวดาเย่อาจสู้ผมไม่ได้ แต่ในกรณีที่เป็นโรคยากๆ เขาอาจจะมีวิธีรักษาก็ได้!"จากนั้น เขาหันไปยิ้มให้เย่เฟิง "หมอเทวดาเย่ ผู้อาวุโสหลีสุขภาพย่ำแย่ลงทุกวัน ผมเองก็ไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผลแน่ชัด ไหนๆ คุณก็มาที่นี่แล้ว งั้นก็ฝากคุณจัดการต่อด้วยนะครับ"ได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงตกใจทันที!อะไรนะ?หมอเทวดาจู้ไม่รักษาต่อ แต่จะให้เย่เฟิงเป็นคนดูแลแทนแบบนี้ไม่ได้! หมอเทวดาจู้สัญญากับพวกเขาไว้ว่าจะรักษาผู้อาวุโสจนตายโดยไม่มีใครรู้หลี่เยว่ผิงร้อนใจ ส่งสายตาให้หมอเทวดาจู้หลายครั้ง แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นเย่เฟิงเลิกคิ้ว "โอ้? ฝากให้ผม?""ใช่! แต่วันนี้ขอให้ผมทำการฝังเข็มครั้งสุดท
นอกวงล้อม!ร่างสี่ร่างปรากฏขึ้นตรงหน้าเย่เฟิง!หรือจะพูดให้ถูกต้องคือ เย่เฟิงเพียงร่างเดียว ยืนขวางหน้าร่างทั้งสี่นั่นเขากำลังหยุดพวกมันจากการมุ่งหน้าไปยังค่ายพักในบรรดาร่างทั้งสี่ มีสองคนที่มีใบหน้าแบบชาวเอเชีย พวกเขาเป็นยอดฝีมือจากประเทศญี่ปุ่นอีกสองคนมีผมหยิก ผิวขาว และดวงตาลึกโหล พวกเขาเป็นชาวตะวันตกหลังจากทาคุโนะ ซากิ และโอดะ ชินเก็น สองยอดฝีมือจากประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางมายังเยียนเซียแล้วขาดการติดต่อครั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการชิงตัวเสิ่นจี่ ฝ่ายประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแค่ส่งองค์กรนักฆ่าและยอดฝีมือจากประเทศตัวเองมาเท่านั้น แต่ยังจ้างยอดฝีมือระดับโลกด้วยเงินจำนวนมหาศาลชายร่างผอมสูงจากประเทศญี่ปุ่นที่ยืนอยู่ทางซ้ายสุด มีสีหน้าซีดแดงเล็กน้อย และดูเหมือนร่างกายกำลังสั่นสะเทือนจากภายในเมื่อครู่เขาได้ปะทะกับเย่เฟิงไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่มาของแรงระเบิดและพลังงานที่กระจายไปทั่วทั้งสี่คน ยืนเผชิญหน้ากับเย่เฟิงด้วยแรงกดดันแม้ใบหน้าจะยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ลึกๆ แล้วก็แฝงไปด้วยความระวังเมื่ออยู่ในระดับยอดฝีมือเช่นนี้ พวกเขาจะไม่ประมาทศัตรูคนใดเด็ดขาดยิ่งไป
ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทุกคนรอบบริเวณรู้สึกได้ถึงการสั่นไหวของพื้นนักรบในชุดดำที่พุ่งเข้าไปล้อมเย่เฟิง ถูกแรงระเบิดส่งตัวลอยขึ้นกลางอากาศร่างของพวกเขาระเบิดออก!หมอกเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว แขนขาที่ขาดกระเด็นปลิวไปคนละทิศทางเย่เฟิงยืนอยู่ตรงกลาง พื้นดินแตกร้าวเป็นใยแมงมุมกว้างใหญ่พลังดินสะเทือนโลกที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ ได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลังในครั้งนี้ครั้งนี้ต่างจากครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือตระกูลหลี เพราะครั้งนี้ เย่เฟิงไม่ยั้งมือเย่เฟิงเหยียบลงบนพื้นดิน และสังหารนักรบชุดดำกว่าร้อยชีวิตในพริบตา!พื้นที่รอบตัวเขาโล่งว่าง เหมือนมีช่องว่างใหญ่เปิดขึ้นกลางกองทัพศัตรูเขาเปรียบเสมือนมังกรร้ายที่บุกเข้าสู่ฝูงแกะ ฉีกทำลายศัตรูจนพินาศทั้งศัตรูและฝ่ายเดียวกันต่างมองภาพนี้ด้วยความตกตะลึงในวินาทีต่อมา ขวัญกำลังใจของฝ่ายเย่เฟิงก็พุ่งสูงขึ้นทุกคนรู้สึกถึงกระแสเลือดในตัวที่พลุ่งพล่านปัง ปัง ปัง!การยิงของฝ่ายเย่เฟิงดุเดือดขึ้นหลายเท่าตัวนักรบที่โดนศัตรูล้อมอยู่ต่างตะโกนลั่น ก่อนเปลี่ยนไปใช้ดาบปลายปืน และเปิดฉากต่อสู้ระยะประชิดกับ
ผลวิจัยไบโอเทคของหยุนเจิงในครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นความสำเร็จที่ก้าวล้ำอย่างมากเพราะหลังจากที่ทาคุโนะ ซากิ และโอดะ ชินเก็นปรากฏตัว ในระหว่างการคุ้มกันนักโทษครั้งนี้ ก็ได้มีนักรบฝีมือเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเพื่อจู่โจมหน่วยควบคุมตัวการต่อสู้ที่ดุเดือดปะทุขึ้นในภูเขาอย่างฉับพลันเสียงปืน เสียงตะโกน และเสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่หยุด!หน่วยปฏิบัติการดาบมังกรและทหารเขตรักษาความปลอดภัย ต่อสู้กับศัตรูจากต่างแดนอย่างดุเดือดในขณะเดียวกัน ในอีกทิศทางหนึ่งเย่เฟิงเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกกักขังมานาน และตอนนี้มันได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ แทบจะรอก่อให้เกิดพายุครั้งใหญ่ไม่ไหวแล้วอย่างไรอย่างนั้น!เขาเพียงลำพังสามารถฆ่านินจาที่ใช้วิชาดินกลุ่มหนึ่งจนหมดสิ้น ก่อนจะพุ่งเข้าสู่กลุ่มนักรบซามูไรที่ถือดาบและโล่“บากะ!”“ฆ่ามัน!”“หั่นมันเป็นชิ้นๆ!”เหล่าซามูไรจากประเทศญี่ปุ่นชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นชายคนเดียวพุ่งเข้ามาจากนั้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นดุดัน เต็มไปด้วยความกระหายเลือดในเสี้ยววินาที ดาบซามูไรมากกว่าสิบเล่มฟันผ่านอากาศ พุ่งใส่เย่เฟิงอย่างรวดเร็ว
กลุ่มนักรบในชุดดำ โผล่ออกมาจากทุกทิศทาง!พวกเขามือถือดาบซามูไรในมือและโล่กันกระสุนอีกข้าง ค่อยๆ บีบวงล้อมเข้ามา ปิดล้อมค่ายพักชั่วคราวไว้แน่นบรรยากาศรอบบริเวณเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายและกลิ่นอายสังหาร!“ศัตรูบุก! เตรียมพร้อมสู้!”“คุ้มกันเสิ่นจี่! ห้ามให้มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด!”สีหน้าของฉินเจิ้นเปลี่ยนพลางตะโกนเสียงดังปัง! ปัง! ปัง!ต้องยอมรับว่าหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรมีความสามารถในการรบที่ยอดเยี่ยม พวกเขาตอบสนองได้รวดเร็วทันทีเสียงปืนเริ่มดังขึ้น!ลั่วกันหยุนและเหล่าทหารเขตรักษาความปลอดภัยก็เข้าสู่สถานะเตรียมรบอย่างรวดเร็วการปะทะที่ดุเดือดเริ่มต้นขึ้นโดยไม่มีคำพูดใดๆในขณะเดียวกัน เย่เฟิงพุ่งเข้าหานักรบในชุดดำกลุ่มหนึ่งดวงตาสีแดงก่ำของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ความเศร้า... และความตื่นเต้นเล็กน้อย“ขอบใจพวกแกมากที่โผล่มาในเวลานี้!”เย่เฟิงแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว พลังสังหารที่พุ่งออกมาจากตัวเขาเข้มข้นจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือกตูม!ในชั่วพริบตา หมัดของเขาซัดใส่นินจาคนหนึ่งอีกฝ่ายเพิ่งจะยกดาบขึ้นเตรียมรับมือ แต่แรงมหาศาลจากหมัดของเย่เฟิงพุ่งใส่หน้าอกจนเขาลอยกระเด็นออกไป
“ขอบคุณเธอและอาจารย์ของเธอมากที่พยายามช่วยพวกเขาในตอนนั้น!”“ฉันต้องขอโทษสำหรับการกระทำของฉันเมื่อกี้ด้วย”เสียงของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความหม่นหมอง หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกจากหุบเขาโดยไม่เหลียวกลับมามอง"ฟู่ว..."หลานเขอซีมองเขาเดินจากไป แล้วถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจรักษาระยะห่าง แล้วเดินตามเย่เฟิงกลับไปยังค่ายพักชั่วคราวในใจเธอรู้สึกโชคดี ที่เย่เฟิงไม่ได้เสียสติจนฆ่าเธอในตอนนั้นเมื่อเห็นเย่เฟิงสวมสร้อยหยกไว้ที่คอ หลานเขอซีเองก็ไม่กล้าขอคืนเธอคิดว่า ชายหญิงที่ตายไปนั้นคงมีความสัมพันธ์พิเศษกับเขาบางทีอาจเป็นญาติสายตรงก็ได้!แน่นอนว่า หลานเขอซีไม่มีความกล้าพอที่จะถามเย่เฟิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ควรได้รับการกระตุ้นเพิ่มอีกแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเรื่องนี้เมื่อเย่เฟิงเดินกลับมาที่ค่ายพักด้วยสีหน้าเย็นชา เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นทันที“โอ้ กลับมาแล้วเหรอ?”“ทำไมสีหน้าตาดูไม่ดีเลยล่ะ! หรือว่าโดนฉางหูตบหน้าไปหลายที? ฮ่าๆๆ...”สมาชิกหน่วยดาบมังกรคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมหัวเราะเยาะเมื่อเห็นเย่เฟิงเดินกลับมาในสภาพอารมณ
เย่เฟิงคว้าหัวไหล่ของหลานเขอซีไว้แน่น "พิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไมต้องพิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไม? พวกเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะจัดการศพของพวกเขาแบบนั้น? ฮะ?"พิธีฝังศพแห่งฟ้า?ถ้างั้นพ่อแม่ของเขาก็คงไม่เหลือแม้กระดูกแล้วน่ะสิ!!หลานเขอซีมองเย่เฟิงที่ดูเหมือนจะเสียสติ หัวใจของเธอเต้นระรัว กลัวว่าเขาจะฆ่าเธอในทันที"ในวัฒนธรรมของพวกเราพิธีฝังศพแห่งฟ้า คือการให้เกียรติอันสูงสุดแก่ผู้เสียชีวิต มันหมายถึงการที่วิญญาณไม่มีวันสูญสิ้น และจะวนเวียนในวัฏจักรของการเกิดใหม่""อาจารย์ของฉันทำด้วยความหวังดี!"เย่เฟิงจ้องมองหลานเขอซีโดยไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอออกจากมือตุบ!ร่างของเย่เฟิงเซเล็กน้อย ก่อนจะทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพ่อแม่ของเขา...ตายแล้วเหรอ?ได้ยังไงกัน? ตายได้ยังไงกัน?หลายปีที่ผ่านมา เย่เฟิงยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าพ่อแม่ของเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าความหวังนั้นจะริบหรี่เพียงใดแต่เมื่อได้ยินคำตอบนี้จากปากของหลานเขอซี เย่เฟิงก็เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตสามสิบล้านโวลด์รู้สึกว่าความหวังหลายปีมานี้ได้พังทลายลงในชั่วพริบตายิ่งไปกว่านั้น จากที่หลานเขอซีเล่า พ่อแม่ของ
หลานเขอซีสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเย่เฟิงในตอนนี้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีผู้ชายที่เมื่อครู่ยังทำตัวสนิทสนม พูดจาเล่นหัว เหมือนสุนัขตัวเล็กๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นหมาป่าดุร้ายตัวหนึ่ง!"นายเป็นบ้าอะไร? ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย?"หลานเขอซีขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาปัง!สิ้นเสียง เย่เฟิงกระทืบเท้ากับพื้น ก่อนพุ่งเข้าหาหลานเขอซีหลานเขอซีหน้าซีดเผือด เธอชูนิ้วขึ้นทำท่าดาบ แล้วโจมตีไปที่หน้าอกของเย่เฟิงในชั่วพริบตา พลังระดับแปรสภาพขั้นต้นของเธอปะทุออกมาเต็มที่ การโจมตีของเธอรุนแรงและรวดเร็วแม้แต่นิ้วมือของเธอที่พุ่งผ่านอากาศยังส่งเสียงหวีดหวิวแต่เย่เฟิงกลับมองการโจมตีของเธอด้วยสายตาไม่ยี่หระเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้น เย่เฟิงฟาดมือตบการโจมตีของหลานเขอซีออกไปอย่างง่ายดายจากนั้นมือใหญ่ของเขาก็คว้าคอของหลานเขอซี และยกตัวเธอขึ้นจากพื้น"สร้อยหยกเส้นนี้มาจากไหน?""บอกมา! ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเต็มไปด้วยความน่ากลัวใบหน้าสวยของหลานเขอซีเริ่มแดงก่ำจากการขาดอากาศ เธอมองเย่เฟิงด้วยความตกใจและหวาดกลัวเย่เฟิงในตอนนี้ไร้
หลานเขอซีเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรด้วยวิธีนี้เธอมาจากสำนักลึกลับที่ชื่อสำนักก๋าเจียในเขตฉาง ซึ่งมีวิถีการฝึกฝนเฉพาะตัวแม้จะร่วมเดินทางไปกับทหาร เธอก็ไม่เคยละทิ้งการฝึกฝนตอนนี้ ในบรรยากาศของภูเขาที่สงบและบริสุทธิ์ หลานเขอซีหาที่นั่งเงียบๆ เพื่อทำสมาธิเส้นผมยาวของเธอสยายลงเบาๆ ให้ความรู้สึกสง่างามและบริสุทธิ์ใบหน้าด้านข้างที่งดงามดุจภาพวาดของเธอ ทำให้ใครเห็นก็หลงใหลแต่ในวินาทีต่อมา คิ้วของหลานเขอซีก็ขมวดเข้าหากัน สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังทิศทางหนึ่ง"น่ารำคาญจริงๆ!"หลานเขอซีลุกขึ้นยืน มองเย่เฟิงที่เดินตามมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเธอคิดว่าเย่เฟิงเป็นแค่ผู้ชายเจ้าชู้ที่หวังลวนลามเธอแต่ครั้งนี้ ใบหน้าของเย่เฟิงไร้ซึ่งรอยยิ้มเหมือนตอนที่เข้ามาทักสายตาของเขากลับดูแข็งกร้าว เย็นชา และจ้องมองเธออย่างไม่ลดละเย่เฟิงเดินตรงไปที่หลานเขอซี โดยไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปคว้าที่คอเสื้อของเธอทันทีเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้นอย่างชัดเจนหลานเขอซีตบหน้าเย่เฟิงเต็มแรงเธอยกมือขึ้นปิดคอเสื้อของตัวเอง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ และแฝงไปด้วยความดุดัน"ไอ้เลว!""แกกล้าดี
“ให้ช่วยไหม?”หลังจากที่มาถึง เย่เฟิงก็ถามฉางหูยิ้มๆหลานเขอซีหรือก็คือฉางหูอึ้งไปสักพัก แล้วหันไปมองค้อนใส่เย่เฟิงพลางส่ายหัวอย่างไร้อารมณ์ “ไม่ต้อง!”เบื้องลึกสายตาของเธอแฝงไปด้วยความรำคาญรู้สึกแย่ต่อพฤติกรรมเข้ามาทักทายแบบนี้ของเย่เฟิง“เธอชื่ออะไร? ได้ข่าวว่ามาจากเขตฉางเหรอ? มาจากสำนักไหนล่ะ?”เย่เฟิงกลับไม่สนใจ เอ่ยถามด้วยสีหน้า ‘ไร้ยางอาย’“ไม่มีอะไรต้องบอกนาย!”หลานเขอซีขมวดคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะนั้นเอง ฉินเจิ้นนำทีมสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ไอ้เย่ ทำอะไรน่ะ?”ฉินเจิ้นตบไหล่เย่เฟิงอย่างแรง และถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแม่งเอ๊ย! กล้ามาจีบฉางหูงั้นเหรอ?สมแล้วที่เป็นคนนอก ไม่มีมารยาท!สายตาของเหล่าสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรที่มองเย่เฟิง เต็มไปด้วยความไม่พอใจและดูถูกเหมือนพวกเขากำลังมองคนเจ้าชู้ที่ไม่มีอะไรดีไปกว่าผู้ชายลามก“ก็แค่พูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมทีม มันผิดตรงไหน? ฉันได้ยินมาว่าฉางหูเป็นสมาชิกเสริมเหมือนกัน เราก็ถือว่ามีพรหมลิขิตต่อกัน จริงไหม?”เย่เฟิงพูดพร้อมรอยยิ้ม“พรหมลิขิต? แม่งพูดได้ไม่อายปาก!”“ฉันจ