เฉาเหนียนไม่สนใจใดๆ วิ่งเข้าไปตรงหน้าหลี่ชื่อ “แกจะบอกว่า ตอนที่ชุ่ยเจี๋ยเลิกกับฉัน เธอกำลังตั้งท้องงั้นเหรอ? แก…แกเป็นลูกชายฉันงั้นเหรอ?แกเป็นลูกชายฉันงั้นเหรอ?หลี่ชื่อเห็นเฉาเหนียนวิ่งเข้า สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเดือดดาลทันที เขาบีบคออีกฝ่ายโดยตรง“ไอ้คนหัวโบราณเห็นแก่ตัว! ฉันจะฆ่าแกซะ!”หลี่ชื่อตาแดงก่ำด้วยความกรุ่นโกรธ อยากจะบีบคอเฉาเหนียนให้ตายคามือแต่แล้วก็ตัดใจลงมือทำไม่ได้…ตุบ!หลังจากที่สีหน้าแปรเปลี่ยนไปหลายหน หลี่ชื่อก็เตะเฉาเหนียนจนกระเด็นออกไป “ไปซะ! ฉันไม่ใช่ลูกชายอะไรของแกหรอก แกไม่คู่ควร!”เฉาเหนียนลุกขึ้นจากพื้น แล้วหันไปมองลู่ไฉ่หยุนด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุดขีด“ฉันไม่ได้ส่งคนไปฆ่าชุ่ยเจี๋ย! ฉันไม่ได้ทำ!”“ใครเป็นคนทำ? ไฉ่หยุน บอกฉันมา ใครเป็นคนทำ?”“แกใช่ไหม? แกใช่ไหม?”เขาหันไปตะคอกใส่คุณผู้หญิงเฉาพร้อมกับสีหน้าโกรธจัดลู่ไฉ่หยุนมองเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว เธอถูกเฉาเหนียนทำตกใจจนสะดุ้งโหยง ก่อนที่ความอับอายจะเปลี่ยนเป็นโกรธแทน“ใช่! ฉันทำเอง แล้วยังไง? ใครสั่งให้นังแพศยานั่นตั้งท้องลูกของคุณล่ะ!”“ถ้าวันนั้นคุณรู้ว่ามีลูกชายอยู่ข้างนอก แล้วกลับไปหานังแพศยาน
หลังจากออกมาจากวิลล่าตระกูลเฉา เย่เฟิงเห็นเพียงเงาร่างที่ดูสิ้นหวังเดินอยู่ข้างหน้า แขนขวาของเขาปล่อยห้อยไร้เรี่ยวแรงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง หลี่ชื่อหันกลับไปมอง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีทันที"นายมาเพื่อฆ่าฉันใช่ไหม?"หลี่ชื่อบังคับตัวเองให้ฮึดสู้ พลางจ้องมองเย่เฟิงด้วยสายตาเคร่งเครียดและถามด้วยความโกรธ"เปล่า!"เย่เฟิงส่ายหัว"เหอะๆ ไม่ใช่เหรอ? นายโหดเหี้ยมขนาดนี้ ถึงกับทำลายฉันจนหมดสภาพ ฉันนึกว่านายตามมาเพื่อเอาชีวิตฉันเสียอีก"วินาทีต่อมา เขามองเย่เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าเมื่อคิดถึงแขนขวาที่ถูกทำลาย หลี่ชื่อก็รู้สึกเจ็บปวดและโกรธเคืองในใจ!เย่เฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อรับรู้ถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย เขาถามพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า "นายมีแผนอะไรหรือเปล่า? ยังคิดจะทำร้ายครอบครัวเขาอีกหรือเปล่า?"ระหว่างพูด เขาพลางชี้ไปยังวิลล่าของตระกูลเฉาหลี่ชื่อส่ายหัว "ไม่มีแผนอะไรหรอก ฉันกลับไปที่สำนักไม่ได้แล้ว! อาจารย์บอกว่าฉันไร้พรสวรรค์เกินไป เลยไล่ฉันลงจากเขา! ส่วนจะไปทำร้ายเขาอีกไหมนั้น? เหอะๆ...มันไม่มีความหมายอะไรแล้ว…"เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เฟิงอุทานเบาๆ ใ
หลี่ชื่อสะบัดแขนของตัวเองดู พบว่าไม่เพียงแค่หายดี แต่ยังดูแข็งแรงและทรงพลังขึ้นอีกด้วย!ยิ่งไปกว่านั้น…"นี่มัน…""ฉันทะลุถึงระดับพลังแปรสภาพแล้วเหรอ? ฉันไม่เพียงแค่หายดี แต่ยังทะลุขีดจำกัดได้อีก?"หลี่ชื่อเบิกตากว้าง เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ!วินาทีถัดมา เขาดีใจจนตาแดง น้ำตาไหลพรั่งพรูอีกครั้งน้ำตาแห่งความปิติ!"ขอบคุณท่านมาก! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านคือผู้มีพระคุณที่สร้างชีวิตใหม่ให้กับผม! ผมหลี่ชื่อจะขอรับใช้ท่านเย่ตลอดไป!"หลี่ชื่อคุกเข่าลงกับพื้น เสียงสั่นเครือพลางเอ่ยขอบคุณเย่เฟิงมุมปากกระตุก ในใจคิดว่าหมอนี่บ่อน้ำตาตื้นเกินไปไหม นิดๆ หน่อยๆ ก็ร้องไห้ซะละ?"ไม่ต้องถึงขั้นเรียกฉันว่าอาจารย์หรอก แค่ตั้งใจทำงานให้ฉันก็พอ!""แต่จำไว้ ฉันสามารถเพิ่มพลังให้นายได้ ฉันก็สามารถทำลายมันได้เหมือนกัน ถ้าวันไหนที่ฉันรู้ว่านายทรยศฉัน นายคิดเองแล้วกันว่าผลจะเป็นยังไง!"เย่เฟิงโบกมือ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกฝ่ายที่อายุมากกว่าเย่เฟิงสองสามปี ย่อมไม่เหมาะสมที่จะเป็นศิษย์ของเขา ดังนั้นเรื่องรับเป็นศิษย์ก็ช่างมันเถอะ…อย่างไรก็ตาม หลี่ชื่อจะเป็นกำลังสำคัญให้เย่เฟิงได้ เพราะมีบ
เวลา 3 ทุ่ม เย่เฟิงมาถึงโรงแรมโกลด์เดนรอยัลโรงแรมแห่งนี้เป็นของหลีหย่วนเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลหลีหลีหย่วนพาอาเจียงและเหล่าหยู ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทมายืนรออยู่หน้าประตูตั้งแต่เนิ่นๆ"พี่เขย!""คุณเย่!"เมื่อเห็นเย่เฟิง พวกเขาตะโกนพร้อมกัน"พี่ พี่คิดว่าโรงแรมนี้เป็นยังไง? ชอบไหมครับ?"หลีหย่วนเดินมาโอบไหล่เย่เฟิงแล้วถามด้วยรอยยิ้ม"ดีนะ ดูดีเลย"เย่เฟิงพยักหน้า"ถ้าชอบ งั้นโรงแรมนี้ผมยกให้พี่เลย! จากนี้ไป พี่คือเจ้าของที่นี่!"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง พร้อมผายมือเย่เฟิงได้ยินก็ทำหน้าอึ้ง "ยกให้ฉัน? ฉันไม่เอาหรอก! ฉันไม่มีเวลามาบริหารจัดการ แล้วฉันก็ไม่เก่งเรื่องนี้ด้วย""โธ่ พี่ จะลงมือเองทำไมล่ะ? ก็มีผู้จัดการโรงแรมอยู่แล้วนี่ พี่แค่รอรับเงินก็พอ!""ผมไม่สนล่ะ ยังไงพี่ก็ต้องรับไว้ ถ้าไม่รับ…ถ้าไม่รับ ผมจะฟ้องพี่สาวผมว่าพี่แอบไปนวดร้านแบบนั้นมา!"หลีหย่วนพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์"ไปให้พ้นเลย! ไอ้เด็กนี่ แกนี่มันแสบจริงๆ!"เย่เฟิงยิ้มขำ พร้อมด่าแบบไม่จริงจังนัก"ฮ่าๆๆ…"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพาเย่เฟิงเดินเข้าไปในโรงแรมเมื่อขึ้นไปถึงห้องส่วนตัวขนาดใหญ่บนชั
หญิงสาวคนนี้เห็นเย่เฟิงก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง พอจำได้ก็เบะปากแล้วพูดขึ้นเธอชื่อหลี่เวย เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเย่เฟิงเช่นเดียวกันแต่ตั้งแต่สมัยเรียน หลี่เวยก็ไม่ค่อยชอบเย่เฟิงอยู่แล้วหรือจะพูดให้ถูกก็คือ เพื่อนส่วนใหญ่ในตอนนั้น ต่างก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกตอนอายุ 18 ปี พ่อแม่ของเย่เฟิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยที่ทิเบต ทำให้เขาขาดแคลนทั้งเงินและค่าใช้จ่ายเพื่อหาเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย เย่เฟิงต้องทำงานพิเศษในโรงเรียน เช่น ซักผ้า ทำความสะอาด และวิ่งซื้อของให้เพื่อนแม้กระทั่งกางเกงใน รองเท้าเหม็นๆ และถุงเท้าสกปรกของเพื่อนผู้ชายบางคน เย่เฟิงก็เป็นคนซักเรื่องนี้ทำให้เพื่อนหลายคนมองเย่เฟิงด้วยความดูถูกแต่ก็มีเพื่อนบางคนที่แตกต่างออกไป ซึ่งเจียงหว่านเป็นหนึ่งในนั้น สมัยนั้น เธอไม่เพียงไม่ดูถูกเย่เฟิง แต่ยังมักจะซื้อข้าวให้เย่เฟิงอยู่บ่อยๆจนมีข่าวลือในโรงเรียนว่า เจียงหว่านชอบเย่เฟิงเพียงแต่ ตอนนั้นเย่เฟิงมีความรู้สึกด้อยค่า แม้ว่าเขาจะแอบชอบเจียงหว่านเช่นกัน แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะแสดงออก"หวงเจี้ยนอาจลืมเชิญนายล่ะมั้ง! เย่เฟิง ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว มาด้วยกันสิน
"ไม่เป็นไร! งานเลี้ยงรุ่นที่คุณชายหวงเป็นคนจัด ฉันจะไม่ไปได้ยังไง!"เย่เฟิงส่ายหัว พร้อมยิ้มบางๆเมื่อได้ยิน หลี่เวยหัวเราะเสียงดัง "ทำไมล่ะ เย่เฟิง? นายก็รู้ว่าคุณชายหวงตอนนี้ไปได้สวยเลยอยากจะเอาใจเขาใช่ไหม? นายก็ถือว่ารู้จักประจบคนเป็นนะเนี่ย ถ้าทำให้คุณชายหวงพอใจ บางทีเขาอาจให้ไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บริษัทเขาก็ได้ยังไงตอนเรียน นายก็ซักเสื้อผ้าให้คนอื่นจนชินมือแล้วนี่ ฮ่าๆๆ!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจ"เหอะๆ ใช่สิ! ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้คุณชายหวงจะเจ๋งแค่ไหน! แต่ดูจากสภาพเธอตอนนี้ ท่าทางจะประจบเขาไม่น้อยเลยสินะ? ถึงขั้นขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า?"เย่เฟิงตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคำพูดนี้ทำให้หลี่เวยโกรธจนหน้าแดง "ไปให้พ้นเลย เย่เฟิง! ไม่เจอกันหลายปี นายกลายเป็นคนต่ำช้าขนาดนี้เลยเหรอ?"ในใจเธอแอบคิดอย่างเกรี้ยวกราด (นายมันก็แค่ขยะ ยังกล้าคิดจะไปประจบคุณชายหวง หวังจะเกาะเขาด้วย?ได้ รอให้ฉันไปปั่นหัวคุณชายหวงสักหน่อย นายเจอดีแน่!)ในขณะเดียวกัน เจียงหว่านที่ได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าหวงเจี้ยนประสบความสำเร็จ เย
หลังจากเดินเข้ามาเห็นภาพนั้น เจียงหว่านก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เธอรู้สึกว่างานเลี้ยงรุ่นนี้กลายเป็นการอวดรวย แข่งขันกัน และสร้างเครือข่ายไปเสียแล้ว"โอ้ ดาวโรงเรียนของพวกเรามาแล้วเหรอ?"ทันใดนั้น มีคนสังเกตเห็นเจียงหว่านและตะโกนขึ้นหวงเจี้ยนที่กำลังถูกล้อมรอบดั่งดวงดาวกลางวงก็รีบหันมาทางเธอ ดวงตาเป็นประกาย เขาย้ายมือที่วางอยู่บนตัวเหอปิงออก แล้วเดินตรงเข้ามา "เสี่ยวหว่าน เธอมาเสียที! ฉันคิดถึงเธอแทบแย่"เจียงหว่านยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบสนองอะไรในขณะนั้นเอง มีคนสังเกตเห็นเย่เฟิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเจียงหว่าน"เอ๊ะ? นั่นเย่เฟิงไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ?"เมื่อได้ยิน ทุกคนก็หันมามองเย่เฟิงด้วยสายตาหลากหลายในสมัยเรียน เย่เฟิงมีชื่อเสียงในฐานะคนจน ทำให้ทุกคนยังจดจำเขาได้"ไม่ได้ทำอะไร"เย่เฟิงตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์"ไม่ได้ทำอะไร? หมายความว่าตอนนี้ว่างงานสินะ?""ฉันมีถุงเท้าคู่หนึ่ง นายช่วยซักให้หน่อยสิ ฉันให้ห้าร้อย เป็นไง?"ทันใดนั้น เสียงหัวเราะดังลั่นห้องแม้กระทั่งเหอปิง อดีตครูประจำชั้นของเขา ก็เบะปากพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม "เย่เฟิง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะยังไร้ประโยช
เย่เฟิงหันไปมองเจี่ยอี้ด้วยสายตาเย็นชา ความรู้สึกทั้งหมดที่เคยคิดว่าเขาเป็น "พี่น้อง" ถูกลบล้างจนหมดสิ้นเสียงหัวเราะเยาะที่ดังรอบตัวไม่ได้กระทบจิตใจเขาแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเฉย ราวกับทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา"พวกนายทำแบบนี้ได้ยังไง? เอาความเจ็บปวดของคนอื่นมาล้อเลียน?"มีเพียงเจียงหว่านเท่านั้นที่ยืนขึ้นปกป้องเย่เฟิงเย่เฟิงดึงแขนเธอเบาๆ พร้อมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรให้มากความสำหรับเขาในตอนนี้ สายตาและมุมมองต่อโลกของเขาต่างจากคนเหล่านี้ไปไกลแล้วมังกรที่บินอยู่บนฟ้าย่อมไม่สนใจคำดูถูกจากมดปลวกบนดิน"หัวเราะพอแล้วใช่ไหม? ถ้าพอแล้ว ก็เชิญไสหัวไปได้เลย!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสียงของเขาไม่ได้ดังนัก แต่ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจนคำพูดนี้ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง"ไสหัวไป? ฉันได้ยินถูกไหม ไอ้คนว่างงานมาบอกให้พวกเราหัวไป?"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนกระซิบอะไรบางอย่างกับหวงเจี้ยน"อาหารมื้อนี้คุณชายหวงเลี้ยง นายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้คนอื่นออกไป?"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่าเอ่ยขึ้นด้วยความดูถูกหวงเจี้ยนที่ได้ยินหลี่เวยกระซิบแล้วหันไปมอ
คืนนั้น เย่เฟิงนอนไม่หลับทั้งคืน!เขาค้นคว้าความทรงจำในสมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงวิธีการต่างๆ แม้กระทั่งวิธีการที่ผิดปกติหวังเพียงแค่ จะหาทางออก!แต่ก็ไร้ผลดังนั้นเขาจึงออกไปที่ลานบ้าน ฝึกฝนวิชาลับอย่างบ้าคลั่งเย่เฟิงรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็น “วิญญาณมังกรมุ่งมั่นสู่เส้นทางเซียน” หรือ “คัมภีร์จักรพรรดิมังกร” หรือ “วิชาการแอบมองนภามังกร” ในสมองของเขานั้น ถูกปลดปล่อยออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้นขั้นสูงกว่านั้น จะค่อยๆ ได้รับรู้เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น!อาจถึงเวลานั้น เขาจะสามารถรักษาโรคของลูกสาวได้ และทำให้นั่วนั่วไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยอีกต่อไปเวลาเที่ยงคืน โทรศัพท์ของเขาสั่นขึ้นเมื่อดูแล้ว เป็นวิดีโอที่ซ่งหย่งไท่ส่งมาในเวลานี้ เย่เฟิงรู้แล้วว่า เขาเข้าใจผิดกับตระกูลซ่งอาการของนั่วนั่ว น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลซ่งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกผิดอย่างมากกับปฏิกิริยาและคำพูดของตนเองในตอนนั้นเมื่อเปิดดูวิดีโอ ปรากฏเป็นภาพของหยวนหยวนและนั่วนั่วกำลังเล่นกันเด็กหญิงทั้งสองกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน นั่วนั่วก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างกะทันหันเย่เฟิงถอนหายใจ แล้วโทรหาซ่งหย่งไท
นายท่านซ่งมองภรรยาของตนเอง แล้วถอนหายใจ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีก……เย่เฟิงอุ้มนั่วนั่ววิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว ตลอดทางก็พุ่งพลังมังกรเข้าไปในตัวนั่วนั่วไม่หยุดแต่ก็ไม่มีผลอะไรเลย!“นั่วนั่ว! นั่วนั่ว... อย่าทำให้พ่อตกใจสิ...”“เป็นอะไรไปเนี่ย?”“ใครทำอะไรกับลูก?”น้ำตาเย่เฟิงไหลออกมา เมื่อเห็นลูกสาวเป็นเช่นนี้ เขารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมา!นั่วนั่วตอนนี้ อยู่ในสภาพหมดสติแม้แต่ในขณะที่หมดสติ ใบหน้าเล็กๆ ก็ยังแสดงความเจ็บปวด นึกภาพออกว่านั่วนั่วกำลังทนทุกข์ทรมานขนาดไหนในฐานะพ่อ เย่เฟิงคงจะรู้สึกแย่มากแค่ไหน“พระเจ้า! ทำไม ทำไมถึงทำกับลูกสาวฉันแบบนี้?”“ลูกสาวฉันไม่เคยเป็นอะไรเลย! ทำไม? ทำไม?”ถ้าหากเขาสามารถแบกรับความทุกข์ทรมานนี้แทนลูกสาวได้ เย่เฟิงยินดีที่จะให้ความเจ็บปวดนี้ทวีคูณขึ้นร้อยเท่า และให้มันลงโทษเขาขอเพียงแค่นั่วนั่วมีสุขภาพแข็งแรงและมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากกลับมา เย่เฟิงไม่สนใจคำถามของลุงหลิว วางนั่วนั่วลงบนโซฟาอย่างทะนุถนอม พูดว่า “อย่าขยับ” แล้วรีบวิ่งเข้าไปในครัวเริ่มต้นด้วยความหวังริบหรี่ ต้มยาสมุนไพรพลังมังกรไม่ได้ผลแล้ว เย่เฟิงหวังว่าตำรับยาบางอ
พลังอำมหิตที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ขยายออกมาจากตัวเย่เฟิงเมื่อเห็นนั่วนั่วกลายเป็นเช่นนี้ในบ้านตระกูลซ่ง เขาก็เหมือนสิงโตบ้า จ้องมองคนตระกูลซ่งด้วยสายตาที่ดุร้าย ราวกับว่าจะทำให้ทุกคนต้องเลือดตกยางออกได้ทุกเมื่อคนตระกูลซ่งต่างก็หน้าซีดเผือด หยวนหยวนยิ่งร้องไห้โฮออกมาด้วยความกลัว!"เสี่ยวเย่ พวกเราไม่รู้เหมือนกันว่านั่วนั่วเป็นอะไร เมื่อครู่ยังเล่นสนุกกับหยวนหยวน อยู่ดีๆ ก็เป็นแบบนี้ขึ้นมา"นายท่านซ่งอธิบาย"จะเป็นไปได้ยังไง? ลูกสาวฉันปกติดี พวกคุณไม่ได้ทำอะไร ทำไมนั่วนั่วถึงเป็นแบบนี้?""บอกมา! พวกคุณทำอะไร? ลงยาพิษหรือเปล่า? เอายาแก้พิษออกมา!"เย่เฟิงตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ เหมือนกับเสียสติไปแล้วในตอนนี้นั่วนั่วมีพลังมืดปกคลุมทั่วตัว เย่เฟิงไม่รู้จะทำอย่างไร การส่งพลังมังกรก็ไม่ได้ผล เขาสับสนไปหมดแล้ว"เย่เฟิง อย่าใส่ร้ายป้ายสี! พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย!""ลูกสาวของคุณเป็นแบบนี้ พวกเราก็งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น"ซ่งมู่เสวี่ยดึงหยวนหยวนมาข้างกาย พูดด้วยความไม่พอใจ"ดี! ดี!"“พวกคุณอย่าได้ทำอะไรเลย ไม่งั้นถ้าลูกสาวฉันเป็นอะไรไป ฉันสาบานว่าจะฆ่าล้างตระกูลซ่งทั้งตระกูล!”เย่เฟ
นั่วนั่วได้ยินดังนั้นจึงรีบหันไป พร้อมบ่นพึมพำว่า: "พ่อฉันไม่ใช่ตัวตลกอย่างจูปาเจี๋ยสักหน่อย พ่อฉันเป็นวีรบุรุษเก่งกาจอย่างซุนหงอคงต่างหาก!""อ้าว! พ่ออยู่ไหนล่ะ?"นั่วนั่วกระพริบตาปริบๆเธอยังไม่รู้ตัว ในขณะนั้นเอง หยวนหยวนก็แอบเข้ามาอย่างเงียบๆบนใบหน้ากลมๆ น่ารักของหยวนหยวน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ ขณะที่กำลังจะคว้าตัวนั่วนั่ว เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นปัง!จู่ๆ นั่วนั่วที่เมื่อกี้ยังดูปกติดี ก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างกะทันหันตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยความเจ็บปวดยิ่งกว่านั้น เลือดยังไหลออกมาจากปาก จมูก และหูของนั่วนั่วเหตุการณ์นี้ช่างน่าตกใจและไม่คาดฝันเหลือเกิน!หยวนหยวนตาโต หน้าซีดเผือด ร้องไห้เสียงดัง: "โอ๊ย!""นั่วนั่ว! นั่วนั่ว เป็นอะไรไปเนี่ย?""ฮือๆๆ...คุณปู่ทวด คุณยายทวด! นั่วนั่วเลือดออก!""ลุงรอง น้า! รีบมาเร็ว นั่วนั่วเป็นอะไรไปเนี่ย?""ฮือๆๆๆ..."หยวนหยวนร้องเสียงหลงหยวนหยวนเป็นหลานสาวของลูกชายคนโตของนายท่านซ่ง นั่นคือลูกสาวของพี่ชายคนโตของซ่งหย่งไท่และซ่งมู่เสวี่ยดังนั้นจึงเรียกซ่งหย่งไท่และซ่งมู่เสวี่ยว่าลุงรองและน้า...เจ
ช่วงบ่าย เย่เฟิงอยู่ในห้องทำงานของหลีเอียน เขากำลังนวดศีรษะให้กับประธานสาวคนสวยหลีเอียนงานยุ่งมากในช่วงนี้ แต่ทุกครั้งที่เย่เฟิงมานวดให้ เธอก็พบว่าร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นทันทีเธอรู้สึกได้ด้วยซ้ำว่า สุขภาพร่างกายของเธอดีขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมาเย่เฟิงเหลือบมองนาฬิกา เขาคิดว่าคงได้เวลาไปรับนั่วนั่วที่โรงเรียนแล้ว แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เป็นสายจากนายท่านซ่ง“เสี่ยวเย่ ตอนเย็นมีเวลามาที่บ้านฉันหน่อยไหม? มากินข้าวด้วยกัน”เสียงของนายท่านซ่งเต็มไปด้วยความเป็นมิตร“เอ่อ…ได้ครับ ในเมื่อท่านเชิญ ผมก็คงต้องไป”เย่เฟิงตอบรับ แม้จะประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ลังเลแม้ครั้งก่อนที่หลีหย่วนมีปัญหา ซ่งหย่งไท่จะแสดงท่าทีเหมือนจะฉวยโอกาสอยู่บ้างแต่เย่เฟิงไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิดมาก และไม่ได้มีความบาดหมางใด ๆ กับนายท่านซ่งตระกูลซ่งเคยช่วยเขาหลายครั้ง โดยเฉพาะในงานประชุมธุรกิจครั้งนั้น ถ้าไม่มีซ่งหย่งไท่และซ่งมู่เสวี่ย หลีเอียนคงโดนเถียนอวี่เซวียนใส่ร้ายจนเสียชื่อเสียงไปแล้วเย่เฟิงไม่ใช่คนใจแคบ และเขาจำบุญคุณของคนอื่นได้เสมอ“ดีเลย อาเปาไปรับหยวนหยวนที่โรงเรียนแล้ว เดี๋ย
ผู้อาวุโสหลีมองบุตรชายคนรองด้วยสายตาลึกล้ำ แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาแต่เธอก็ไม่ได้บอกหลีเทียนกังว่าเย่เฟิงไม่ได้มาเหยียบที่นี่เลยในช่วงนี้“เทียนกัง...แม่รู้สึกว่าตัวเองคงอยู่ได้อีกไม่นาน...อีกไม่กี่วันก็คงจะไปแล้ว...”ผู้อาวุโสหลีพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและอ่อนล้า“แม่! ไม่หรอกครับ ไม่จริง! แม่ต้องมีอายุยืนยาวแน่นอน!”หลีเทียนกังพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าสร้อยและกล่าวต่อ “แม่ต้องดูแลสุขภาพดีๆ นะครับ ถ้าแม่เป็นอะไรไป...ตระกูลหลีจะทำยังไง? แม่จากไป ตระกูลหลีก็จะไม่มีใครเป็นผู้นำแล้วนะครับ...”ขณะที่พูด เขาแอบชำเลืองมองผู้อาวุโสหลีด้วยแววตาคาดหวังยายแก่นี่ ใกล้ตายแล้วยังไม่ยอมเลือกผู้นำคนใหม่อีก…เช้าวันรุ่งขึ้นหลี่ชื่อเดินทางมาหาเย่เฟิงที่สวนจักรพรรดิ เพื่อรับหยางหยวนตันชุดใหม่ในห้องรับแขก เย่เฟิงนั่งทานอาหารเช้ากับนั่วนั่วอย่างสบายใจ ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “อาชื่อ...ยาหมดแล้วเหรอ?”หลี่ชื่อพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ครับ หมดแล้ว! ขายดีสุดๆ เลยล่ะ”“หืม? ห้าล้านบาทต่อเม็ดยังขายดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”เย่เฟิงยกถ้วยโจ๊กขึ้นจิบ พลางถามด้วยท่าทีไม
เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ ก่อนส่ายหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ “เปล่าหรอก ฉันเข้าใจดี ฉันไม่มีทางดูถูกเธอหรอก”หลังผ่านประสบการณ์ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและความแปรปรวนของผู้คน เย่เฟิงได้มองโลกในแง่ที่เข้าใจมากขึ้นปฏิกิริยาของครอบครัวเจียงหว่าน เขาเข้าใจได้ทั้งหมด“อืม งั้นเรื่องเงินสี่ล้าน ฉันคืนให้นายนะ”เจียงหว่านพูดขึ้นตอนนี้เธอเริ่มเชื่อแล้วว่าที่เย่เฟิงบอกว่าโรคหัวใจของแม่เธอหายดีจริงๆ“ไม่ต้องรีบคืนหรอก เธอเก็บไว้ใช้ก่อนก็ได้ จะเอาไปซื้อบ้านใหม่เพื่อแยกตัวออกมาจากพ่อแม่และน้องชายก็ได้นะ”เย่เฟิงโบกมือสำหรับเย่เฟิง การตอบแทนผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเหลือเขาในอดีต เป็นสิ่งที่เขาไม่ลังเลเลยที่จะทำเจียงหว่านเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดแซวด้วยน้ำเสียงล้อเล่น “นี่นายคิดจะเลี้ยงดูฉันเหรอ?”“เอ่อ...ไม่! ไม่ใช่อย่างนั้น! คิดซะว่าฉันแค่ให้เธอยืมไปก่อน แล้วค่อยๆ คืนฉันก็ได้”เย่เฟิงเหงื่อแตก รีบโบกมือแก้ตัวกลัวเจียงหว่านจะเข้าใจตนผิดเมื่อได้ยินคำตอบนี้ เจียงหว่านก็แสร้งทำเป็นส่งเสียง “อ้อ” แล้วจ้องเย่เฟิงด้วยสายตาตัดพ้อเธอมองออกว่าเย่เฟิงไม่ได้ช่วยเธอเพราะหวังอะไรตอบแทน ไม่เหมือนผู้
“คุณเย่...ไอ้หัวเขียวมันเป็นคนหลอกผมเองครับ!”“ขอร้องล่ะครับ ปล่อยผมไปเถอะ! ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ...”“ผมสัญญาว่าจากนี้จะอยู่แบบสงบเสงี่ยม ไม่ทำเรื่องเลวๆ อีกแล้วครับ...”“ได้โปรดไว้ชีวิตผมเถอะครับ...ได้โปรดเถอะ...”เย่เฟิงจ้องมองเฮียปาด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะเย็นชา จากนั้นเขายกเท้าขึ้นถีบไปที่หว่างขาของเฮียปาอย่างแรง“อ๊ากกก!” เฮียปาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มือกุมจุดสำคัญเอาไว้ ร่างของเขาห่อตัวเหมือนกุ้ง ใบหน้าบิดเบี้ยว และดวงตาเบิกโพลงจนแทบถลนออกมา“คำสัญญาของนาย ฉันไม่เชื่อหรอก แค่นี้ก็สมควรแล้ว”“รอบนี้ฉันแค่ทำลายนาย แต่ถ้าฉันเจอนายทำเรื่องชั่วอีกล่ะก็ นายเตรียมตัวไปพบยมบาลได้เลย!”เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเฮียปาฝืนยิ้มที่ดูน่าเวทนาเสียยิ่งกว่าร้องไห้ “ครับ...ขอบคุณครับคุณเย่...ขอบคุณที่ไว้ชีวิตผม...”“พาคนของนาย แล้วก็ไอ้หัวเขียว ไปให้พ้นซะ!”เย่เฟิงโบกมือด้วยความรำคาญเพราะนั่วนั่วยังอยู่ข้างๆ เขาจึงเลือกที่จะไม่ฆ่าคนต่อหน้าลูก“ครับ...ครับ...”เฮียปากุมหว่างขาของตัวเองแน่น ก่อนจะลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลโดยมีลูกน้องช่วยพยุงจากนั้น พวกเขาก็ลากไ
เมื่อเห็นเฮียปาคุกเข่าก้มหัวขอชีวิตต่อหน้าเย่เฟิง โลกทั้งใบของเจียงหยางพลิกคว่ำในพริบตา!เฮียปา — ชายผู้ที่เป็นคนมีอิทธิพลและทรงอำนาจในหยุนเฉิงในสายตาของเขากับอีกคนหนึ่ง — ผู้ชายที่เขาเคยดูถูกเมื่อครู่ ว่าเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่มีลูกติดแต่ตอนนี้ คนที่เขายกย่องว่าเป็น "พี่ใหญ่" กลับคุกเข่าขอชีวิตจากชายคนนี้ที่เขาเคยดูถูก!ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เจียงหยางคงคิดว่าเย่เฟิงจ้างตัวปลอมมาแสดงละครแน่ๆเมื่อเห็นเฮียปากลัวจนฉี่ราดต่อหน้าผู้ชายที่พี่สาวเขาคบหา เจียงหยางรู้สึกว่าเลือดในกายเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น!ตื่นเต้นถึงขีดสุด!พี่ไปหาคนที่เก่งขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย!ส่วนเจียงหว่าน พ่อ และแม่เจียง ต่างก็ตกตะลึงไม่แพ้กันไม่แปลกใจเลยที่เย่เฟิงพูดว่าเฮียปาเป็นแค่พวกไร้ค่าดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริงเสียด้วย!ไอ้หัวเขียวและลูกน้องของเฮียปาหลายคน ต่างก็หน้าเสียและมึนงงไปหมด“เฮียปา! นี่มันเรื่องอะไรกันครับ?”“ไอ้หมอนี่เป็นใครกันแน่?”ไอ้หัวเขียวถามด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว ขณะจ้องมองเย่เฟิง“นี่พี่เขยฉันเอง ไอ้หัวเขียว มึงจบเห่แน่!”“มึงกล้าเอาพี่สาวกูไปขายให้เฮียปาเนี่ยนะ? พี่เขย