เมื่อหลีหย่วนพูดคำเหล่านี้ สีหน้าของหลีเอียนก็เปลี่ยนไปเพราะน้องชายของเธอมองแผนการของเธอออกทั้งหมดในขณะนี้ เย่เฟิงกลับหัวเราะเบา ๆ :"ฉันได้ยินมาว่าลูก ๆ ของครอบครัวใหญ่มีการศึกษาดี แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น เอียนเอ๋อร์ น้องชายของคุณพูดกับพี่เขยแบบนี้เหรอ?"ในขณะที่เขาพูดแบบนั้น แทนที่จะปล่อยหลีเอียนไป เขากลับกระชับเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาชั่วขณะหนึ่ง ลมหอมพัดปะทะใบหน้าของเขา ทำให้ใจของเขาสั่นสะท้านหลีเอียนพูดว่า"อา"และบีบเนื้อนุ่มของหลังส่วนล่างของเย่เฟิงอย่างแรง แต่ภายนอกเธอกลับดูเขินอายเธอไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะซื่อสัตย์ต่อหน้าน้องชายของเขาที่มองเห็นทุกอย่างผู้ชายคนนี้แตกต่างจากสองคนก่อนมากจริงๆความกล้าหาญนี้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเทียบได้กับชายเครื่องมือที่ยอมจำนนสองคนนั้นไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะชอบผู้ชายที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆแม้ว่าการแสดงนี้จะไม่สามารถทำให้หลีเอียนรู้สึกประทับใจได้ แต่เธอก็แอบมองไปที่เย่เฟิงเมื่อหลีหย่วนได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็มืดมนไปหมดเด็กน่ารักคนนี้กล้าดียังไงมาบอกว่าเขาไม่มีการศึกษา? เขากอดพี่สาวอย่างแน่นราวกับกำลังยั่วยุ?“คุณเป็น
ทันใดนั้น เย่เฟิงก็บีบคนของหลีหย่วนออกไป และนั่งตรงข้ามกับเหล่าเฉ๋อ โดยให้ทุกคนคาดไม่ถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันในสายตาของเขามองดู หลีหย่วนด้วยความสันโดษหลีหย่วนไม่รู้ว่าเย่เฟิงกำลังจะทำอะไร ดังนั้นเขาจึงมองไปที่พี่สาวของเขาอย่างไรก็ตามเห็นหลีหยวนจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยสีหน้าสับสนเหมือนกัน“ฮ่าๆเปลี่ยนคนอีกแล้วเหรอ?”เฮียปาถามด้วยความล้อเล่น“เจ้าหนู เจ้าอยากเล่นกับข้าไหม?”เหล่าเฉ๋อเลิกยักคิ้วแล้วถามอย่างน่ากลัว“ไม่อย่างนั้น ฉันจะนั่งลงทำไมล่ะ”เย่เฟิงพยักหน้าและตะโกนบอกหลีหย่วน:"น้องภรรยานับชิปสิ!""น้องภรรยา?"เมื่อเฮียปาได้ยินเย่เฟิงเรียกชื่อชายหลี เขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังและพูดว่า"คุณหลี่เปลี่ยนคู่หมั้นของเธออีกแล้วเหรอ?"หลีหย่วน เดินไปหาเย่เฟิงด้วยใบหน้าสงบและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา:"คุณอยากทำอะไร คุณรู้วิธีเดิมพันไหม"ให้ตายเถอะ เด็กน่ารักคนนี้คงไม่หลอกเขาโดยเจตนาใช่ไหม“มาใส่ชิปกันเถอะ!”เย่เฟิงยิ้มเย่เฟิงเดิมพันเป็นไหมเนี่ย?ก็ไม่เชิง!ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมมีเงินเพียงเล็กน้อย ดังนั้นผมจึงทำได้แค่เล่นแบบสบายๆทักษะการพนันไม่ถือว
คลิก!มีเสียงแผ่วเบาซึ่งดูรุนแรงเล็กน้อยในฉากที่เงียบสงบอย่างยิ่งในเวลานี้ทำให้ทุกคนได้รับแรงบันดาลใจในที่สุด เย่เฟิงก็ปิดซองใส่กระสุนมีกระสุนห้านัดฝังอยู่ในซองใส่กระสุน และมีเพียงนัดเดียวที่ว่างเปล่า!“อย่าหาว่าผมสร้างปัญหา ให้ผมตรวจสอบให้คุณ!”เย่เฟิงที่ปิดตาวางปืนพกไว้บนโต๊ะพนันแล้วเลื่อนไปทางเหล่าเฉ๋อเหล่าเฉ๋อและเฮียปามองหน้ากัน หยิบปืนพกขึ้นมาและตรวจสอบไม่มีปัญหาจริงๆ!หลังจากเลื่อนกลับไปเย่เฟิงที่ถูกปิดตาก็ขยับมือของเขา และซองใส่กระสุนก็เริ่มหมุน“ไอ้หนุ่ม แกไม่ได้เล่นการพนัน แกกำลังจะฆ่าตัวตาย!”เหล่าเฉ๋อกลืนน้ำลายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ยากลำบาก มันเริ่มไม่สงบและสงบเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปใช่แล้ว ในความเห็นของเขา เย่เฟิงได้ฆ่าตัวตาย!การเดิมพันมีความน่าจะเป็นที่จะชนะเสมอแต่ตอนนี้ เหล่าเฉ๋อรู้สึกว่าเย่เฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย“คุณพูดแล้วนะ ว่าจะพนันยังไงให้ตามใจฉัน คุณคงจะเล่นไม่ได้แล้วละสิ”เย่เฟิงเล่นโดยมีปืนพกอยู่ในมือ และค่อยๆ หมุนซองใส่กระสุนไปอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัวในสายตาของทุกคน การกระทำของเขาเป็นเพียงการเคลื่อนไหวสบายๆ โดยไม่มีความหมายใดๆท้ายท
หลังจากออกมาจากคลับโกลด์โคสต์ หลีเอียนยังคงจับจูงแขนของเย่เฟิงอยู่ตลอด ราวกับหล่อนเป็นสาวแรกแย้มที่กำลังมีความรักในเวลานี้ หลีหย่วนไม่ได้คิดว่าเย่เฟิงเป็นเครื่องมือที่พี่สาวเขาตามหาอยู่อีกต่อไป แต่กลับกังวลว่าเป็นพี่ของเขาเองที่ถูกหลอกหรือเปล่าแม้ว่าพี่สาวของเธอจะแกร่งกล้าและหยิ่งทนงยังไง แต่บางคราสติปัญญาของเธอก็อาจลดลงจนติดลบได้เมื่อตกอยู่ในภวังความรักพฤติกรรมของเย่เฟิงในวันนี้ทำให้เขารู้สึกว่าคนคนนี้ค่อนข้างอันตราย!"ไปสืบมา สืบข้อมูลเจ้านั่นมาให้หมด!”"ครับนาย!"อีกด้านหนึ่ง หลังจากขึ้นมาบนรถเฟอร์รารี่รอยยิ้มอันแสนหวานของหลีเอียนก็เลือนหายไป เหลือเพียงใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของเธอ“เย่เฟิงคราวหลังทางที่ดีนายควรทำตัวให้ดีกว่านี้หน่อย ถ้าหากยังแตะต้องฉันมากเกินไปอีกละก็ ไม่ต้องถึงมือฉู่เทียนหลง ฉันนี่แหละจะจัดการนายก่อนเอง!”เรื่องที่เจ้าบ้านี่ดึงเธอให้นั่งบนตักของเขานั้นหญิงสาวที่ทั้งหยิ่งทนงและเยือกเย็นแห่งตระกูลหลีนั้นรู้สึกขายขี้หน้าและขุ่นเคืองเป็นอย่างมากในสายตาของเธอเย่เฟิงยังคงเป็นแค่เครื่องมือและควรเป็นเธอที่เป็นคนควบคุมเขาถึงจะถูกแต่ทว่าตอนนี้เธอรู้สึกว่
“เธอหามันมากี่คน ฉันก็จะฆ่ามันกี่คน!”ขณะที่เขาพูด เขาก็ทุบของในห้องทุกอย่างที่สามารถจะทุบได้ จนในห้องแทบจะยับเยินชายหนุ่มที่ว่าก็คือฉู่ทียนหลง ลูกชายคนโตของตระกูลฉู่เขาสาบานว่าจะเอาหลีเอียนมาเป็นของเขาให้ได้!ในความเป็นจริงแม้ว่าจะเอาอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองได้แต่ฉู่เทียนหลงก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเขานั้นมีข้อบกพร่องทางร่างกายและยังมีตั้งแต่เด็ก!แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสร้างนิสัยที่บิดเบี้ยวและความปราถนาที่ต้องการครอบครองในแบบวิปริต! !……สองวันต่อมาเย่เฟิงนั่งแท็กซี่และมาถึงบริเวณบังกะโลเก่าซึ่งที่นี่ก็คือบ้านที่เขาเช่าอยู่เพื่อรักษาอาการป่วยของนั่วนั่ว เขาจึงขายบ้านเดิมที่อาศัยอยู่ออกไปและทำได้แค่เช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้นในเวลานี้บนใบหน้าของเย่เฟิงปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว!อาการของนั่วนั่วดีขึ้นอย่างสิ้นเชิงซึ่งเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านได้แล้ววันนี้เขากลับมาก่อนก็เพื่อทำความสะอาดและเตรียมบ้านอันอบอุ่นให้กับเด็กหญิงตัวน้อยเย่เฟิงที่เข้าใจเรื่องคัมภีร์จักรพรรดิมังกรในขั้นแรกแล้วนั้น มั่นใจอย่างยิ่งว่าอาการป่วยของลูกสาวของเขาจะไม่แย่ลงไปกว่านี้ นอกจา
หลังจากที่อาการของนั่วนั่วแย่ลงและต้องเข้าโรงพยาบาลครั้งที่แล้ว เย่เฟิงก็เก็บข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันแล้วอยู่ในโรงพยาบาลกับลูกสาวของเขาแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากไม่ได้กลับบ้านมาสักพักเจ้าของบ้านเช่าก็ไม่แม้แต่จะทำการทักทาย แถมยังมาไล่กันออกเลยหรอ?แล้วทำไมเย่เฟิงถึงต้องไปเล่า?ค่าเช่าบ้านก็จ่ายแล้ว และเขาก็มีสิทธิ์ในการอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้เพียงเพราะเจ้าของบ้านเช่าดูถูกคนอื่นและคิดว่าเขาไม่มีเงินที่จะต่อสัญญาเช่า ก็เลยไล่เขาออกก่อนกำหนด?เย่เฟิงนั้นได้รับโชคบางอย่าง แต่โชคนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นตัวเงินครั้งที่แล้วหลีเอียนจ่ายแค่ค่ารักษาพยาบาลให้นั่วนั่วเท่านั้นและไม่ได้ช่วยเย่เฟิงจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นอย่างอื่นแต่ใด ซึ่งเย่เฟิงในตอนนี้ไม่มีเงินที่จะไปหาที่อยู่อื่นแล้วยิ่งกว่านั้นนั่วนั่วกำลังรอกลับบ้านอยู่มันจะเศร้าสลดหดหู่เพียงใดหากพวกเขาสองพ่อลูกถูกไล่ออกมา“ไม่ออก?แกจะเชื่อมั้ยฉันสามารถหาคนมาเล่นงานแล้วไล่แกออกได้”เจ้าของบ้านชี้ไปที่หน้าของเย่เฟิงและด่าสาปอย่างเย่อหยิ่งทันใดนั้น ก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมา“เย่เฟิงนี่แกแม้แต่ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีจ่ายจนต้องถูกไล่ออ
โจวชิ้งยิ้มเยาะเย้ยด้วย ใบหน้าแสดงความเหยียดหยามและอำมหิต "ใครจะมาเมตตาอะไรกับคุณ?คุณคู่ควรหรอ ถ้าจะโทษกัน ก็ต้องโทษที่คุณมันทั้งยากจนทั้งเสแสร้ง! ของไร้ประโยชน์อย่างคุณสมควรถูกเหยียบให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าเท้านั้น!”“แม่งเอ้ย ข้ากำลังพูดกับแกอยู่นะ ไอ้หนู คุกเข่าลงซะ!”เมื่อนายกวงเห็นว่าเย่เฟิงเพิกเฉยต่อเขา เขาก็บันดาลโทสะทันทีและกล่าวอย่างดุเดือด“ขอโทษที ขาผมมันไม่ค่อยดี คงคุกเข่าให้ไม่ได้หรอก!”เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา“ไอบ้านี่! ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะรักษามันให้แกเอง! รออะไรอยู่ล่ะ จัดการมันซะ!”นายกวงพูดด้วยสีหน้าดุร้ายวินาทีต่อมา ลูกสมุนของเฮียกวงก็รุมล้อมเย่เฟิงอย่างทันที“เหอะ...ให้แกไปไม่ยอมไป! ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องไปหาคนมาไล่แกแล้ว มีคนมาจัดการคนจนตรอกอย่างแกแล้ว”เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าของบ้านเช่าก็กลับพูดออกมาอย่างยินดี เช่นกันวินาทีต่อมาฉากที่ทำให้คนถึงกับต้องอ้าปากค้างก็ปรากฏขึ้นผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!เย่เฟิงชกออกไป สีข้างของอันธพาลคนหนึ่งก็ยุบหักลงไป กระดูกซี่โครงของเขาหักทุกซีกขาท่อนหนึ่งพุ่งมาราวกับจรวด ชายร่างใหญ่สามคนกระอักเลือดออกจากปากและล้มลงไปข้า
หลังจากที่นายป้าวพาคนเข้ามา ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ในลานบ้าน หลังจากที่ตกตะลึง เขาก็จ้องเขม็งไปที่เย่เฟิง! ขณะเดียวกันหลิวหาวกับโจวชิ้งที่กำลังจะแอบหนีออกไปเงียบๆก็ต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับเจ๊หวังที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า เพราะพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกของนายกวง คนที่มาคือผู้ที่จะมาช่วยนายกวงอย่างนั้นหรือ และฟังจากชื่อที่นายกวงเรียกนั้น เห็นได้ชัดว่าต้องเก่งกาจกว่าเขาเสียแน่ “เฮียป้าว ท่านมาพอดีเลย ไอ่เด็กคนนี้แหละที่ทำให้พี่น้องของเราต้องบาดเจ็บ เขาลงมืออย่างโหดร้าย! ท่านต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อผมและพี่น้องของเรานะ!” หลังจากที่นายกวงพูดอย่างนั้นไป เขาก็มองไปที่เย่เฟิง และสีหน้าก็เปลี่ยนจากความตื่นตระหนกเป็นความภาคภูมิใจและดุร้ายอีกครั้ง "นี่!ไอ่หนู อย่าคิดว่าตัวเองเก่งเรื่องการต่อสู้มากไปหน่อยเลย ทักษะแมวสามขาของแกไม่ควรเอามาพูดถึงต่อหน้านายท่านป้าวหรอก! นายท่านป้าวน่ะคือผู้ฝึกต่อสู้ตัวจริง! พลังของเขาสามารถบดขยี้แกจนตายตามต้องการได้เลย!และพลังของฉันก็เทียบอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้านายท่านป้าว! แกเจอดีแน่! ฮ่าๆๆๆ……” เสียงพูดค่อยๆเบาลง หลิวหาวกับโจวชิ้งและเจ้
ส่วนสถานการณ์ของเจ้าสามและเจ้าสี่ไม่ชัดเจนนักผู้อาวุโสหลีหน้าเสียต่อหน้าหลีเอียนและเย่เฟิงมานักต่อนัก สุดท้ายยังต้องยอมจำนนอย่างน่าอับอายอีกเธอในตอนนี้ไม่ถูกกับครอบครัวลูกชายคนโตเลยแม้แต่นิด!ดังนั้นเธอย่อมต้องสนับสนุนคนที่ไม่ถูกกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกันอยู่แล้วซึ่งคนคนนั้น ก็มีเพียงหลีเทียนกัง ลูกชายคนรองเท่านั้น…หลังจากที่กลับจากคฤหาสน์ตระกูลหลี ทันทีที่หลีเทียนกังขึ้นรถไป หลี่เยว่ผิวและหลีถิงที่รออยู่บนรถก่อนแล้วก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว“ที่รัก ผู้อาวุโสเป็นยังไงบ้าง? ใกล้จะไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”ภรรยาคนนี้ทำหน้าตั้งตารอ“พ่อคะ พ่อต้องทำให้ย่าเขียนพินัยกรรมมอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้พ่อก่อนที่ท่านจะตายนะคะ!”หลีถิงเองก็ทำหน้าโลภมากหลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชา แล้วโบกมืออย่างอารมณ์เสีย “คิดอะไรอยู่น่ะ? ผู้อาวุโสยังไม่ตายเร็วๆ นี้หรอก หมอบอกว่าแค่พักผ่อนดีๆ รักษาอาการป่วยให้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!”เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาหลีเทียนกังเห็นดังนั้น ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “แต่ผมขู่ผู้อาวุโสไป ให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วแล
เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายคนรอง ผู้อาวุโสหลีก็รู้สึกไม่ดี!ท่าทีของอีกฝ่าย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตนใกล้จะตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรกันแน่? บอกมา!"ผู้อาวุโสหลีถามเสียงเข้ม สีหน้ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมไอเป็นครั้งคราว"แม่ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่พักผ่อนให้สบายเถอะ"หลีเทียนกังพยายามปลอบแต่ผู้อาวุโสหลียังจับตาดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ "เฮ้อ…ฉันเองก็อายุมากแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่แปลก! เพียงแต่…ฉันไม่ยอม!"เธอพูดพลางตบโต๊ะด้วยความโกรธหลังจากใช้ชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด สุดท้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวตัวเอง จนถึงขั้นเสียบริษัทยาไปทั้งหมดความรู้สึกนี้ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายก็ตาม!"แม่ครับ ผมจะช่วยกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้แม่เอง!"หลีเทียนกังกัดฟันและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำ!เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ครอบครัวเขาหน้าด้านหน้าทนไปขอหลีเอียน แต่กลับถูกขับไล้ออกมาอย่างไร้เยื่อใย ในใจเขาเองก็รู้สึกอับอายและโกรธมากเช่นกัน"แม่ ถึงแม้เราจะเสียเปรียบเรื่องบริษัทยา แต่เราสามารถหาวิธีอื่นจัดการครอบครัวพี่ใหญ่ได้นี่ครับ!หลีหย่วนยังไงก็
“ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้
ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!
สวี่ซีเหยียนหน้าซีดด้วยความกลัว "เย่เฟิง ช่วยหน่อยเถอะนะ เห็นแก่ที่ฉันกับเอียนเอียนเป็นเพื่อนกัน นายอย่าถือสาฉันเลยนะ ช่วยฉันด้วย…ฉันไม่อยากโดนหนอนพิษ..."เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างพากันตกใจกลัว ร้องขอความช่วยเหลืออย่างหมดท่า"หึๆ ตอนนี้รู้สึกกลัวแล้วเหรอ? ไม่ต้องตกใจไป หนอนพิษเพิ่งเข้าไปไม่นาน ยังอยู่แค่ในกระเพาะอาหารของพวกเธอ ยังไม่เข้ากระแสเลือดกลับไปเอาผงสารส้มละลายน้ำร้อน แล้วก็ล้วงคอให้อาเจียนออกมา อาเจียนออกมาให้หมดจนไม่มีอะไรเหลือค้างอยู่"เย่เฟิงพูดนิ่งๆเมื่อพูดจบ เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ต่างรีบพุ่งออกจากห้อง ไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียวเซียวคุนกับถงซวี่เย่ยิ่งรู้สึกศรัทธาและเคารพเย่เฟิงมากขึ้นไปอีกหลังจากนั้น เซียวคุนก็เปลี่ยนห้องเพื่อทานอาหารกันสี่คนแบบเรียบง่ายหนึ่งชั่วโมงต่อมา...เย่เฟิงและหลีเอียนออกมาจากร้านเชียนเว่ยเซวียน กำลังจะขึ้นรถไปส่งบอสสาวสวยกลับบ้านหลีเอียนเดินตามหลังเย่เฟิง มองเย่เฟิงที่เดินนำหน้าไปอย่างไม่สนใจใยดีด้วยสายตาที่มีแววขุ่นเคืองตอนทานอาหารเมื่อครู่ หลีเอียนเห็นเซียวคุนหลงใหลและอ่อนโยนกับเย่อินเสวียน ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วแม้จะรู้ว่าเซ
หลังจากหายใจได้ไม่กี่อึดใจ เซียวคุนก็รู้สึกถึงความขมคาวในลำคอของเขา"แหวะ!" ทันใดนั้น เขาก็อาเจียนออกมา!พบว่ามีหนอนสีแดงสดตัวหนึ่งถูกอาเจียนออกมาจากปากของเขา!"อ๊า!" ฉากนี้ทำให้หญิงสาวบางคนในที่นั้นกรีดร้องออกมาส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยความตกใจกลัว รู้สึกขนลุกและหัวใจเต้นแรงเซียวคุนที่ตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติ แววตาที่เคยหลงใหลในเย่อินเสวียนหายไป แทนที่ด้วยความสับสนสงสัยเขามองดูหนอนพิษที่ตัวเองอาเจียนออกมาอย่างตกใจและโมโห "เสวียนเอ๋อร์ ฝีมือคุณจริงๆ เหรอ?"แต่เย่อินเสวียนกลับไม่สนใจเขาเลย สำหรับเธอแล้ว เซียวคุนก็แค่เครื่องมือเท่านั้นในเมื่อเครื่องมือถูกทำลาย เธอก็มองเย่เฟิงด้วยความโกรธแค้น"ไอ้ผู้ชายบ้า มาขัดขวางฉันอีกแล้ว! วอนหาที่ตาย!”เธอด่าด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเคลื่อนไหวพุ่งตรงไปหาเย่เฟิงอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งทำเป็นมีดแล้วฟันไปที่คอของเขา ส่งเสียงฟาดลมอันดุดันออกมาเย่เฟิงเบิกตากว้าง แล้วรีบรับมือทันที!ปัง! ปัง! ปัง...ทั้งสองกระโดดเหยียบบนโต๊ะ ต่อสู้กันไปมาสามครั้งในพริบตาเดียว เย่อินเสวียนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะถอยร่นกลับด้วยแรงผลักจากนั้นใช้
ดูเหมือนจะรู้สึกโกรธเย่เฟิงขึ้นมาเล็กน้อย"พี่เย่ พี่หมายความว่าไง? เสวียนเอ๋อร์ทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ หรือว่าผมไปทำอะไรให้พี่?”คุณชายเซียวถามด้วยสีหน้ามืดมนหลีเอียนเองก็มองเย่เฟิงอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้แตะต้องแก้วเหล้านั้น เพราะเธอเชื่อว่าเย่เฟิงคงไม่พูดหรือทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลรวมถึงถงซวี่เย่ เขาลังเลเล็กน้อยแล้ววางแก้วลงด้วยเช่นกันลูกชายคนสำคัญของถงฟากรุ๊ปยังคงมีความเยือกเย็นอยู่บ้างเนื่องจากเย่เฟิงเพิ่งรักษาแม่ของเขาให้หาย ถงซวี่เย่จึงมีความไว้วางใจที่ยากจะอธิบายต่อเย่เฟิง เมื่อเย่เฟิงบอกว่าอย่าดื่ม เขาจึงไม่ดื่มและรอดูสถานการณ์ในขณะนั้นเอง เย่เฟิงก็แสดงสีหน้าจริงจังและพูดกับเย่อินเสวียนทีละคำว่า "ฟ่งหวงเตี่ยนโถว (ฟินิกซ์พยักหน้า)! เป็นเทคนิคสุดยอดในการใช้หนอนพิษแห่งมู่เจียง! คุณเย่ คุณคือใครกันแน่? แล้วมาที่หยุนเฉิงเพื่อจุดประสงค์อะไร?"เมื่อคำพูดจบลง คนอื่นๆ บนโต๊ะต่างแสดงสีหน้าไม่แน่ใจ"ฟ่งหวงเตี่ยนโถวอะไรกัน? หนอนพิษอะไร? นายพูดเหลวไหลอะไรอยู่น่ะ?"สวี่ซีเหยียนหัวเราะเยาะและถามคนอื่นๆ ก็มองเย่เฟิงเหมือนว่าเขาเป็นคนบ้าเช่นกันส่วนเย่อินเสวียนก็แสดงสีหน้าใส
เย่เฟิงจะไม่เคยเห็นได้อย่างไร!จี้หยกรูปมังกรที่อยู่ในภาพนั้นก็คือสมบัติตกทอดของตระกูลที่ปู่และพ่อของเขาเคยให้ไว้!เพราะจี้หยกนี้ ทำให้เขาเปลี่ยนชะตาชีวิตและได้รับความสามารถพิเศษหลายอย่างทุกวันนี้ แม้จี้หยกนี้จะหมดแสงเงางดงามไปนานแล้ว แต่เย่เฟิงก็ยังเก็บรักษามันไว้ในตู้เซฟที่บ้านของเขาเป็นอย่างดีคาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีใครบางคนมาตามหาจี้หยกนี้?แถมที่บังเอิญยิ่งกว่าคือ คนที่ตามหา ก็แซ่เย่เหมือนเขาด้วย!แต่ด้วยความที่เย่เฟิงไม่ไว้วางใจเย่อินเสวียน เขาจึงไม่คิดจะบอกความจริงกับเธอ"อา น่าเสียดายจังค่ะ!"เย่อินเสวียนกล่าวด้วยความเสียดาย พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ"คุณเย่เลือกคนถามได้ดีจริงๆ ทุกคนที่นี่ไม่รู้ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง?"สวี่ซีเหยียนหันปากค่อนขอดเย่เฟิงอีกครั้งแม้ว่าเซียวคุนและถงซวี่เย่จะดูเกรงใจเย่เฟิงมาก แต่เธอกลับมองว่าเย่เฟิงยังคงเป็นแค่คนที่ต้องพึ่งพาผู้หญิงอยู่ ฟลานเดอร์ทำให้เธอเสียหน้าไปมาก เธอจึงไม่อยากเห็นสามีของหลีเอียนได้หน้ามากไปกว่าเธอด้วยความรู้สึกเช่นนี้ เธออยากจะทำให้เย่เฟิงต่ำตมมากจริงๆ"ใช่ครับ ผมไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว"เย่เฟิงยักไหล่ ไม่สนใจคำพูดของ
หลีเอียนหลุดขำเบาๆ พลางส่ายหัวสวี่ซีเหยียนหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เธอหันไปตบฟลานเดอร์เต็มแรง "ไอ้เลว! แกกล้าหลอกฉันเหรอ? ออกไป! ไปให้พ้น! ฉันเสียหน้าเพราะแกคนเดียว!"ฟลานเดอร์ยกมือขึ้นจับหน้าที่โดนตบ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างหมดสภาพแต่ทันทีที่เขาออกไป เขาก็ถูกผู้จัดการเถิงพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาขวางเอาไว้เพราะบัตรวีไอพีระดับเพชรที่เขาใช้ มันไม่ใช่ของเขาจริงๆ แต่เป็นของลูกค้าคนหนึ่งที่ทำหายไว้"ซีเหยียน ผู้ชายดีๆ ในเยียนเซียมีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ทำไมเธอถึงเลือกคบกับคนต่างชาติที่เป็นนักต้มตุ๋นแบบนี้ล่ะ? ยังไงซะ ตระกูลสวี่ก็นับว่าเป็นตระกูลใหญ่ในหยุนเฉิง เธอเองก็เป็นคุณหนูของตระกูลสวี่ จะไปภูมิใจอะไรกับแฟนชาวต่างชาตินักหนา?สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ภาพลักษณ์ แต่เป็นศักดิ์ศรีของคนเยียนเซีย!"หลีเอียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“เธอ…ฉัน…”สวี่ซีเหยียนรู้สึกอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีแต่คนในงานวันนี้ล้วนแต่เป็นลูกหลานคนสำคัญในหยุนเฉิงทั้งนั้น เธอจึงไม่กล้าเดินออกไป"เอาล่ะๆ คุณสวี่ก็โดนหลอกเหมือนกันนี่นา! ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม งั้นเรามาสั่งอาหารกันดีกว่า"เย