Share

บทที่ 954

Author: โมเนโต้
“อาจารย์ครับ มีทั้งหมดหกคนและผมจำหนึ่งในนั้นได้ แต่อีกห้าคนผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร! ถ้าอาจารย์จะออกไปสู้กับพวกนั้น มันจะไม่แย่เหรอ?”

บอดี้การ์ดยิ้มบาง ๆ ออกมาสงสัยในการตัดสินใจของสกายเลอร์

“นายรู้จักหนึ่งในนั้นใช่ไหม? อืมมม แล้วฉันรู้จักพวกนั้นไหม?”

สกายเลอร์ฟังที่ลูกศิษย์ของเขาพูดอย่างตั้งใจและถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“โอ้ อาจารย์รู้จักคนคนนี้แน่! เขาเคยเป็นลูกน้องของคุณ แต่เขาไม่รู้จักผมแน่นอน!”

บอดี้การ์ดพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่ปนเปกัน “เขาคือ คุณ ไมล์ สโตน อาจารย์จำได้ไหม? เขาไม่ใช่แค่ลูกน้องของคุณ แต่อาจารย์ยังเคยช่วยชีวิตเขามาก่อนด้วย!”

“อ๋อ! เขานั่นเอง!”

ทันทีที่สกายเลอร์ได้ยินชื่อนั้น เขาตื่นเต้นมากและแทบรอไม่ไหวที่จะได้พบกับเพื่อนเก่าที่แสนดีคนนี้

แต่หลังจากก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หยุด จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาเที่ยว แต่อีกฝ่ายมาเพื่อหาเรื่อง ถ้าเขาออกไปแบบนี้อาจทำให้อีกฝ่ายอับอายต่อหน้าราชาสงครามคนอื่น ๆ

หลังจากที่คิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็ถามลูกศิษย์อีกครั้งว่า “คนที่ตะโกนอยากฆ่านายท่านเฟนด์ไม่ใช่เขาใช่ไหม? ไมล์เป็นคนดีและจิตใจดี เขาไม่เคยไปท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
แสงดาว ในคืนข้างแรม
สนุกมากๆ พรุ่งนี้อัปมากๆเลยนะคะ สู้ๆค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 955

    ใครก็ตามที่มีความสามารถในการต่อสู้เทียบเท่าราชาสงครามคงไม่อาสามาเป็นบอดี้การ์ดแน่นอน ดังนั้นชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายแกล้งทำเป็นราชาสงคราม แต่จริง ๆ แล้วเขาอาจจะกลัวและเพราะอยากรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองจึงไม่อยากยอมรับความอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงขอให้ไมล์ สโตนเข้าไปเพื่อที่จะติดสินบนให้ไมล์ และไมล์จะช่วยให้เขาพ้นจากปัญหา “เฮ้! ฉันเป็นถึงราชาสงครามห้าดารา และนายกำลังบอกให้ฉันเข้าไปพบเขา? แน่ใจนะ?” ไมล์พ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น สีหน้าของเขาแสดงความขุ่นเคืองออกมา “ไอ้หนุ่ม รีบ ๆ ไปบอกให้หัวหน้าของแกออกมา ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกซะ!” ฮันเตอร์หมดความอดทน เขาก้าวออกมาข้างหน้า บีบคอบอดี้การ์ดและยกเขาลอยขึ้นสูงกลางอากาศ ฮันเตอร์คิดว่าบอดี้การ์ดจะกลัวจนฉี่ราด แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้แสดงอาการกลัวออกมาเลย เขาจ้องฮันเตอร์ด้วยสายตาน่ากลัว “ถ้าอยากจะฆ่าก็ฆ่า แกคิดว่าฉันกลัวตายเหรอ แต่ฉันอยากจะบอกแกว่า ถ้าแกฆ่าฉัน พวกแกทุกคนจะต้องเสียใจในภายหลังแน่ และพวกแกทุกคนจะต้องชดใช้ชีวิตให้ฉันด้วยชีวิตของพวกแก!” “ฮันเตอร์ อย่าฆ่าเขา!” ความกล้าหาญของบอดี้การ์ดทำให้ไมล์ได้สติขึ้นมา บางทีมันอาจจะไม่ง่ายอย่างนั้น หล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 956

    “อย่าครับ ได้โปรด อย่าเลยพี่เซเลสติโน่! อย่ามือสั่นเลย ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง พวกเราคงตกอยู่ในอันตรายแน่!” ไมล์ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะกับสถานการณ์นี้ดี จู่ ๆ ความรู้สึกของเขาก็แทบจะลักออกมา “พี่เซเลสติโนครับ ผมไม่คิดว่าจะได้เจอพี่ที่นี่ โอเค! ผมจะจัดการให้เรียบร้อย แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาที่นี่ใหม่!” “พรุ่งนี้นายจะมาที่นี่อีกงั้นเหรอ?” สกายเลอร์ยิ้มนิด ๆ ไมล์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า พรุ่งนี้ผมจะมาหาพี่ มาดื่มและคุยกัน วันนี้ผมทำไม่ได้ เพราะยังมีคนรอผมอยู่ที่ข้างนอกนั่น!” “ฉันเห็นด้วย แต่ตอนนี้นายยังออกไปไม่ได้! ฉันจะรินชาให้นายสักถ้วย อย่างน้อยนายควรดื่มมันก่อนแล้วค่อยออกไป!” ไมล์สเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่สนิทของเขา พวกเขาคนสองเคยผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันในสนามรบ ดังนั้น สกายเลอร์จึงอารมณ์ดีหลังจากที่เจอไมล์ “ฮ่าฮ่า! ได้เลย!” ไมล์คุยกับสกายเลอร์อยู่สักพัก แล้วก็ก้มลงดื่มชาตรงหน้า จากนั้นเขาก็เดินออกไปที่ประตูเอง “ทำไมสโตนยังไม่กลับมาอีก?” ฮันเตอร์และคนอื่น ๆ ที่รออยู่ข้างนอกเริ่มหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไมล์อยู่ด้านในเกือบสิบนาทีแล้ว มันทำให้พ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 957

    “อืม...คนลึกลับที่อยู่ข้างในไม่ใช่คนที่เราจะไปทำให้โกรธเคืองได้ ถ้าเรายังทำตามแผนที่วางไว้ ก็เท่ากับว่าเราอยากขุดหลุมฝังศพให้ตัวเอง!” ไมล์หัวเราะเบา ๆ เพื่อทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดดีขึ้น “นายรู้ไหมว่าใครเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ด? เขาเป็นราชาสงครามแปดดารา เขาคือคุณสกายเลอร์ เซเลสติโน! เจ้านายเก่าของฉันตอนที่อยู่ในกองทัพ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเคยช่วยชีวิตฉันไว้มาก่อนด้วย! ถ้าเราสู้กับเขา ภายในไม่กี่นาทีเราคงตายแน่!” “อะไรนะ? ราชาสงครามแปดดารา?” หนึ่งในราชาสงครามสี่ดาราตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน เขาตกใจมาก กลั้นหายใจจนแทบจะหมดสติ “สโตน นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? ราชาสงครามแปดดาราสกายเลอร์ เซเลสติโนอยู่ด้านในนั้น เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ด?” ราชาสงครามสี่ดาราแทบจะพูดออกมาไม่เป็นคำ “ไม่น่าเชื่อ! เป็นไปได้ยังไง?” สีหน้าของฮันเตอร์ไม่สู้ดีนัก ถ้าเป็นอย่างนั้น แผนการแก้แค้นของเขาคงจะต้องถูกล้มเลิกแน่ เว้นแต่...เว้นว่าแต่เขาจะรู้จักกับราชาสงครามเก้าดาราหรือเทพเจ้า... “ทำไมฉันจะต้องโกหกพวกนาย?” ไมล์จ้องฮันเตอร์อย่างหมดความอดทนแล้วพูดต้อว่า “เอาล่ะ มัวร์ กลับกันเถอะ ตอนนี้นายเข้าใจแล้วนะว่าทำไมเราถึ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 958

    “ฮ่า ไม่ต้องห่วง นายน้อยควินตัน แน่นอน ฉันจำข้อตกลงของเราได้!” เสียงพูดทางโทรศัพท์ของพีซก็ดังขึ้นอีกครั้ง “แต่เราคงจะทำตามแผนเดิมของเราไม่ได้แล้ว!” สีหน้าของคาเลบมืดลงเมื่อได้ยินแบบนั้น หมอนี่เปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ แม้ว่าจู่ ๆ พีซจะเปลี่ยนแผนก็ตาม เพราะยังไงซะ ตระกูลแชฟฟ์แมนก็แข็งแกร่งเกินไป ไม่งั้นเขาคงไม่ไปหาพีซตั้งแต่แรกหรอก “เฮ้ เพราะก่อนหน้านี้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราตกลงกันว่าจะผลัดกัน แต่ตอนนี้มันต่างออกไป มีผู้หญิงสองคน ฉันคิดดูแล้ว เอาคนสวย ๆ เมื่อวานให้ฉัน แล้วนายก็เอาผู้หญิงคนที่สวมหน้ากากไป เป็นไง?” วินาทีถัดมาพีซตอบกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหัวเราะคิกคัก เมื่อเขาได้ยินแบบนั้น หัวใจของคาเลบก็พองโตด้วยความดีใจ พีซไม่เคยเห็นผู้หญิงคนที่สวมหน้ากากมาก่อน ดังนั้นเขาอาจคิดว่าเธอคงจะไม่สวยเพราะเมื่อวานไม่ได้เจอ ในความเป็นจริง ผู้หญิงที่สวมหน้ากากก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ผู้หญิงสวย ๆ คนเมื่อวานเลย “ก็ได้ รักษาคำพูดด้วยนะนายน้อยแชฟฟ์แมน อย่าเสียดายล่ะ!” คาเลบเห็นด้วยกับข้อเสนอทันทีและเน้นประเด็นนั้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 959

    พวกเขากัดฟันแน่นและทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับชายร่างใหญ่ ปัง! เกิดเสียงดังขึ้น ชายร่างใหญ่ยืนตัวตรงอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อน แต่บอดี้การ์ดทั้งสองกลับถูกอัดกระเด็นถอยไปข้างหลัง “อ๊าก!” บอดี้การ์ดทั้งสองคนจับแขนของตัวเอง แขนที่พวกเขาเคยใช้โจมตีตอนนี้กระดูกหักแล้ว “ไม่เลวเลย แต่พวกแกอยากเดินเข้ามาตายเอง พวกแกอยากวิ่งเข้ามาหานักสู้สองคนนี้ของฉันเอง!” พีซยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ปรากฏออร่าที่หยิ่งยโส “ฆ่า-ฆ่าพวกมันซะ!” คาเลบที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตะโกนออกมา เขาถูกทำร้ายมาตั้งสองครั้ง ในที่สุดเขาก็จะได้เห็นกรรมตามสนองศัตรูของเขา “ตายซะ!” ริมฝีปากของชายร่างใหญ่หยักเป็นรอยยิ้มเยือกเย็น เขาดึงดาบออกมาจากด้านหลัง ฟุ่บ! เขาเหวี่ยงดาบอย่างรุนแรง ทันใดนั้นคลื่นดาบก็พุ่งตรงไปยังบอดี้การ์ดทั้งสองที่อยู่บนพื้น ฟุ่บ! คลื่นดาบอีกลูกพุ่งตัดหน้าบอดี้การ์ดทั้งสองไปในขณะที่พวกเขากำลังจะถูกฆ่า ขัดขวางคลื่นดาบของชายร่างใหญ่ “ใคร?” ชายร่างใหญ่ คาเลบและคนอื่น ๆ มองไปยังทิศทางที่คลื่นดาบลูกนั้นซัดมา “แกเป็นใคร?” สกายเลอร์โกรธจัด เขาเพิ่งจัดการไล่ไมล์และเพื่อนของไมล์ออกไปได้ไม่นาน เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 960

    “ฮ่า แกช่างหยาบคายจริง ๆ ฟังนะสหาย ฉัน พีซ แชฟฟ์แมน นายน้อยตระกูลชนชั้นสอง แกกล้ามาล้อเลียนฉันงั้นเหรอ? แกกล้าดียังไงมาทำให้ตระกลูแชฟฟ์แมนโกรธเคือง?” พีซระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น “อีกอย่าง ฉันไม่คิดว่าแกจะเอาชนะนักสู้สองคนที่ฉันพามาด้วยได้หรอก!” “ตระกูลชนชั้นสอง?” แม้แต่สกายเลอร์ก็ยังตกใจกับคำพูดของเขา เพราะเฟนด์และคนอื่น ๆ เพิ่งมาถึงที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นเฟนด์บอกว่าเขามีเรื่องอื่นที่ต้องไปจัดการ เขาไม่อยากสร้างปัญหาในเมืองนางแอ่นถ้าสกายเลอร์ฆ่านายน้อยจากตระกูลชนชั้นสองคนนี้จริง ๆ มันคงเป็นประเด็นแพร่ออกไปแน่ หัวหน้าของตระกูลแชฟฟ์แมนและนักสู้คนอื่น ๆ ของพวกเขาก็จะมาตามแก้แค้นให้นายน้อยของพวกเขาอย่างแน่นอน เขาไม่ได้เกรงกลัวตระกูลแชฟฟ์แมนหรอก แต่ตระกูลนี้มีสมาชิกจำนวนมาก ถ้าเขาทำลายตระกูลแชฟฟ์แมนทั้งตระกูล ในไม่ช้า เฟนด์ เซเลน่า และคนอื่น ๆ คงเป็นที่สนใจของตระกูลที่มีอำนาจตระกูลอื่นแน่ ตอนที่เขาคิดเรื่องนี้ได้ สกายเลอร์จึงรู้สึกว่าเขาควรจะละเว้นชีวิตนายน้อยนั่นไว้ ยังไม่ฆ่านายน้อยแชฟฟ์แมนกับนายน้อยควินตันในตอนนี้ อีกอย่าง เฟนด์กับลาน่าก็ไม่อยู่ จะเกิดอะไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 961

    “อย่า-อย่าฆ่าพวกเราเลย!” ขาของคาเลบอ่อนแรง เขาคุกเขาลงทันทีเมื่อรู้ตัวว่าเหลือเพียงเขากับพีซเท่านั้น “ได้โปรด ปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะนะ ฉันเป็นนายน้อยของตระกูลชนชั้นสอง ฉันไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว!” พีซไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เท้าของเขาเย็นเฉียบ เขาหวาดกลัวมากจนกางเกงเปียก เช่นเดียวกันกับคาเลบ เข่าของเขาอ่อนลงและคุกเข่าลงกับพื้น ในขณะนั้น สกายเลอร์น่ากลัวมาก เขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาเลย พวกเขาไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวอย่างนี้มาก่อน “พวกนั้นทำให้ลูกศิษย์ของฉันสองคนบาดเจ็บ ฉันฆ่าคนพวกนั้นทั้งหมดเพื่อเป็นการลงโทษ งั้นถือว่าเสมอกันนะ ไปให้พ้นสายตาฉันซะ!” สกายเลอร์จ้องเขม็งไปที่ชายสองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่าย ๆ อีกแน่ ถ้าพวกแกกล้ามาโผล่ที่นี่อีก!” “ไม่ต้องห่วง เราจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว!” คาเลบเช็ดเหงื่อเย็นที่เกาะอยู่บนหน้า จากนั้นเขาก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน “เราจะไม่มาที่นี่อีก!” พีซพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็สะดุดและเกือบจะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง คาเลบจึงช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้น จากนั้นทั้งสองก็รีบเดินออกจากประตูไป “เศษสวะ!” สกายเลอร์พูดด้วยน้ำเสียงห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 962

    “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? น้อยไปเหรอ?” ริมฝีปากของเฟนด์หยักเป็นรอยยิ้มขมขื่นขณะที่เขาพูดกับหญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงหน้า “ไม่ค่ะ ไม่เลย มันมากเกินไปด้วยซ้ำ ฉันไม่คิดว่าเราจะได้ค่าจ้างมากขนาดนี้!” ทั้งสองคนรีบโบกมือและตอบกลับอย่างรวดเร็วในตอนนั้นเอง เห็นชายชราคนหนึ่งอยู่ที่ทางเข้า เขาแต่งตัวสกปรกและดูเหมือนขอทาน เขามองเข้ามาภายในร้านขายยาด้วยความลังเลที่ปรากฏอยู่ในสายตาของเขา เฟนด์มองไปที่ชายชราและรู้สึกว่าเขานั้นกำลังลังเล เฟนด์เขาก้าวออกไปและถามว่า “คุณกำลังมองหาอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?” ชายชราขมวดคิ้ว เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมาในที่สุด “พ่อหนุ่ม ย-ยาจีนมีราคาถูกกว่ายาตะวันตกมากใช่ไหม?” เฟนด์เข้าใจทุกอย่างทันที ชายชราอยากรับการรักษา แต่เขากังวลว่าเขาอาจจะมีเงินไม่พอจ่ายค่ารักษาพยาบาล เฟนด์ส่งยิ้มหวานไปให้ “ใช่แล้วครับ การรักษาด้วยยาจีนถูกกว่าการไปโรงพยาบาลใหญ่ตั้งเยอะ แต่มีคนไม่มากนักที่จะกล้ามารักษากับเรา เพียงเพราะมีไม่กี่คนหรอกที่มั่นใจในการรักษาของเรา” เฟนด์วิเคราะห์ชายชราอย่างละเอียด “แต่คุณดูแข็งแรงดีนะครับ คุณไม่ได้ป่วยใช่ไหม?” ชายชราหยิบถุงพลาสติกออกมาจากก

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status