แชร์

บทที่ 589

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“คุณออร์คิด ทำไมคุณถึงอยากทำงานนี้?” เธอถามเบา ๆ ขณะที่เธอเดินไปข้างออร์คิด

ออร์คิดเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดเบา ๆ ว่า “เอเลนเป็นลูกศิษย์ของราชาแห่งสงคราม ถ้าเธอเป็นคนขอเสนอที่จะไปทำงานนี้แสดงว่ามันคงจะดีจริง ๆ ฉันสงสัยว่าเราอาจจะได้ทำงานเป็นบอดี้การ์ดของเทพีแห่งสงครามก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงจะสะดวกกว่าถ้าเราอยู่เคียงข้างเทพีแห่งสงคราม ไม่งั้นทำไมพวกเขาถึงอยากได้บอดี้การ์ดหญิง?”

หญิงสาวมีความสุขหลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ฟังดูดีนะ เป็นไปได้สูงที่พวกเขาอาจจะได้ไปทำงานให้กับเทพีแห่งสงคราม ถ้าพวกเขาอยากได้บอดี้การ์ดผู้หญิงมากกว่า

นอกจากนี้ ราชาแห่งสงครามเซเลสติโนยังกระตือรือร้นที่จะช่วยทำไม ถ้าไม่ใช่เพราะเทพีแห่งสงครามคราม?

คนอื่น ๆ เริ่มยกมือขึ้นเมื่อเห็นว่ามีสามคนเข้าร่วมแล้ว ไม่นานก็ได้คนครบทั้งสิบคน

“เอาล่ะ ทุกคนกลับไปได้แล้ว ขอบคุณทุกคนมากที่แวะมา!” สกายเลอร์บอกให้คนอื่น ๆ กลับไปก่อน

หลังจากที่พวกเขาออกไปหมดแล้ว เขาก็พูดกับผู้หญิงสิบคนนี้ว่า “ไปที่ห้องของฉันแล้วฉันจะบอกพวกเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด!”

เมื่อพวกเธอทั้งหมดเข้ามาในห้อง สกายเลอร์ก็ปิดประตูหลังจากที่เขาเดินเข้ามา

“อาจาร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 590

    “โอ้พระเจ้า จริงเหรอเนี่ย? คือท่านนักรบสูงสุด? เขาเคยช่วยชีวิตฉันไว้ก่อนหน้านี้!” เอเลนกระโดดด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ฉันไม่เคยเจอท่านเลยสักครั้ง ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นท่าทางที่สง่างามของท่านนักรบสูงสุดด้วยตาของฉันเอง!”"ใช่! คือท่านนักรบสูงสุด โชคดีที่ฉันตัดสินใจมาทำงานเป็นหนึ่งในสิบบอดี้การ์ด ถ้าฉันไม่เลือกแบบนี้ฉันคงเสียใจมาก ๆ เป็นเกียรติมากที่ได้เป็นบอดี้การ์ดและรับใช้เขา!” ดวงตาของออร์คิดเปล่งประกายด้วยความสุข เธอเป็นพันตรีหญิงและยังเป็นแฟนคลับเขาด้วย “ฉันยินดีเสียสละชีวิตถ้าฉันได้อยู่เคียงข้างกับท่านนักรบสูงสุดและได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา!”หญิงสาวอีกคนหน้าแดง “มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเราได้อาบน้ำและนอนกับท่านนักรบสูงสุด!”“อะแฮ่ม ๆ...พวกเธอพูดว่าอะไรนะ? พวกเธอไปที่นั้นเพื่อทำงานเป็นบอดี้การ์ด ฉันไม่ได้ขอให้เธอไปเป็นสาวใช้และไปเป็นคู่นอนของท่านบนเตียง!” สกายเลอร์พูดไม่ออก เขาไม่คิดว่าพวกเธอจะมีปฏิกิริยาตอบสนองแรงมากอย่างนี้ หลังจากที่ได้รู้ว่าพวกเธอจะได้ทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับท่านนักรบสูงสุดอย่างไรก็ตาม ขนาดเขาที่คิดว่าเขาตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าเฟนด์คือท่านนักรบสูงสุด และ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 591

    “ยังไงก็ตาม มีเพียงพวกเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องในวั้นนี้ เพราะงั้นจงเก็บไว้เป็นความลับ เนื่องจากท่านนักรบสูงสุดไม่ได้ประกาศตัวตนของเขาออกไป เขาอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข” สกายเลอร์ เซเลสติโนพูดออกมาหญิงสาวคนหนึ่งที่อยากนอนกับท่านนักรบสูงสุดยกมือขึ้นทันทีและตะโกนว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง เราหวังก็ว่าท่านนักรบสูงสุดจะได้มีชีวิตที่สงบสุขปราศจากความกังวล เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแน่นอน!"“อย่าคิดอะไรไปไกลเลย ท่านนักรบสูงสุดแต่งงานแล้ว แม้แต่ลูกของเขาก็ไม่เด็กแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ท่านอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”สกายเลอร์ถอนหายใจเบา ๆ และหันไปหาทุกคน “ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยของตระกูลเทย์เลอร์!”“เฟนด์ วู๊ด!” ในตอนนั้นเองเอเลนก็เข้าใจในทันที เธอไปร่วมงานวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์เพื่อร่วมสนุกด้วย เธอไปงานปาร์ตี้นั้นคนเดียวและแกล้งทำเป็นไม่รู้จักสกายเลอร์ เซเลสติโนความจริงก็คือเธอรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น“โอ้พระเจ้า เขาคือท่านนักรบสุงสุดและที่เทพีแห่งสงครามพูดอย่างนั้นในสิ่งที่เขาพูดในวันนั้นอย่างจงใจก็เพื่อช่วยท่านนักรบสูงสุดปกปิดตัวตนของเขา!”ในที่สุดเอเลนก็เข้าใจเรื่อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 592

    ตอนบ่ายสองโมง เฟนด์ก็กลับมาถึงบ้านมีแม่บ้านห้าถึงหกคน คนทำความสะอาด พ่อครัว และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสี่คนจากทั้งสองกะยืนอยู่ที่สนามหญ้า รวม ๆ แล้วก็มีอย่างน้อยสิบสองคนหลังจากที่แนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว เฟนด์ก็มองไปที่ฟีโอน่าและถามว่า “เป็นไงบ้าง? พอใจไหม?”“อือ พอใจ!” ฟีโอน่าพยักหน้าอย่างพอใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้สึกเหมือนเป็นเจ้านาย วันข้างหน้าเธอจะได้สั่งสอนแม่บ้านแล้ว! เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานกว่าห้าปีแล้ว“โอ้ ในอนาคตพวกคุณจะต้องฟังคำแนะนำของเจนนี่นะ โอเคไหม?” หลังจากที่ครุ่นคิดแล้วเฟนด์ก็พูดกับแม่บ้านว่า “ในอนาคตเจนนี่จะบอกให้พวกคุณทราบว่าพวกคุณจะได้รับค่าตอบแทนเท่าไร และเธอจะแนะนำตลาดที่คุณต้องไปและงานอื่น ๆ ด้วย”“ฉัน?” เจนนี่ประหลาดใจกับคำชมเชยนั่นเฟนด์พยักหน้า “ใช่ เธอจะได้เป็นหัวหน้าแม่บ้าน สำหรับเงินเดือนของเธอ ฉันจะเพิ่มให้เป็นสองเท่า!” เขาพูดอย่างจริงจัง“ค่ะ นายท่าน!” เจนนี่พยักหน้า หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุข เธอรู้สึกว่าเธอตัดสินใจถูกและเลือกตามเจ้านายถูกคน “ขอบคุณอีกครั้งค่ะ นายท่าน!”“อ่า ไม่เป็นไร!” เฟนด์พูดออกมาอย่างมีความสุข“เดี๋ยวก่อน เฟนด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 593

    เพราะยังไงซะพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในช่วงนั้นอีกแล้ว แม่ของเขาอายุมากขึ้น และเธอก็สมควรที่จะมีชีวิตที่ดี อย่างน้อยที่สุด เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวประหยัดเหมือนเมื่อก่อน “แม่ยายพูดถูก แม่ประหยัดเกินไป ไม่ต้องลังเลถ้าอยากซื้อในสิ่งที่แม่อยากได้ เราไม่ได้มีชีวิตเหมือนสมัยก่อนแล้ว ตอนบ่ายนี้ผมว่างนะ ให้ผมพาแม่ออกไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรืออะไรก็ได้!”“ลูกชาย แม่ไม่ต้องการสิ่งของพวกนั้น ตอนนี้แม่ก็มีอาหารที่ดีกินดี มีเสื้อผ้าที่ดีใส่และมีชีวิตที่ดี แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว!” โจแอนรีบพูด การที่ได้เห็นลูกชายของเธอประสบความสำเร็จทุกอย่างได้อย่างทุกวันนี้ เธอก็พอใจแล้ว เมื่อไม่กี่ปีที่ก่อน สิ่งเดียวที่เธอฝันและหวังไว้คือ ให้เฟนด์ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยจากสนามรบ เป็นโชคดีของเธอที่ความฝันของเธอเป็นจริง ไม่เพียงแต่เขาจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยเท่านั้น เขายังกลับมาในฐานะผู้ชายที่มีเกียรติและประสบความสำเร็จอีกด้วย โชคชะตาช่างเมตตาต่อเธอนักและปฏิบัติต่อเธออย่างดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา“แม่ แม่พูดอะไรนะ? เราไม่ได้ขาดแคลนเงินแล้ว ดังนั้นเราน่าจะไปซื้อเสื้อผ้าหรือของบางอย่างให้แม่นะ!” เฟนด์ยืนกรานด้วยรอยยิ้ม“ใ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 594

    “บอดี้การ์ด?” เมื่อฟีโอน่าได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็หมองลง เธอจ้องไปที่เฟนด์อย่างโกรธจัด สูดหายใจเข้าลึก ๆ และปล่อยออกมา “เฟนด์ นายจะไปประกวดนางงามเหรอ? พวกนี้เป็นบอดี้การ์ดแบบไหนกัน? พวกเธอทั้งหมดดูเหมือนดอกไม้และอัญมณี พวกเธอจะเป็นบอดี้การ์ดได้ยังไง?”เฟนด์พูดไม่ออก เขาไม่รู้จะอธิบายออกไปยัง ทำได้เพียงแต่ยิ้มอย่างขมขื่น “แม่ครับ ผมขอให้เพื่อนช่วยหาบอดี้การ์ดให้ ผมไม่ได้บอกว่าต้องการผู้ชายหรือผู้หญิง และไม่คิดว่าเขาจะเลือกทีมบอดี้การ์ดหญิงล้วนให้ผม!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เอเลนรู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรม ส่วนตัวแล้วเธอกลัวว่าเฟนด์จะไล่พวกเธอไปเมื่อเธอคิดบางอย่างได้ เธอก็ก้าวออกมาเพื่อแสดงความรู้สึกของเธอ “มีอะไรผิดปกติเหรอถ้าเป็นผู้หญิง? คุณไม่ควรดูถูกผู้หญิงนะ เราทุกคนเป็นวีรบุรุษหญิงที่นำเกียรติยศมาสู่ประเทศ ขนาดประเทศนี้ยังไว้วางใจให้เราปกป้อง แล้วอะไรทำให้คุณคิดว่าเราไม่สามารถปกป้องคุณได้?”ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปที่เฟนด์ “ถ้าพี่ชายไม่หล่อขนาดนี้ พวกเราก็คงไม่มา!”เอเลนไม่ได้หมายถึงแค่ความดูดีของเฟนด์เท่านั้น แต่เธอยังหมายถึงการปรากฏตัวของเขาและออร่าของเข

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 595

    เฟนด์คิดว่าการที่ผู้หญิงพวกนี้ขับรถดี ๆ แบบนี้ หมายความว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องใช้หรือขาดเงินเลย เขาคิดว่ามันแปลกที่พวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อค่าจ้างแค่สองพันเหรียญต่อเดือนสำหรับแม่ยายของเขา เขาถึงกับพูดไม่ออกเพราะเธอยอมถอยเพียงเพราะหญิงสาววัยประมาณยี่สิบกว่า ๆ เรียกเธอว่า 'พี่สาว' อันที่จริง ดูเหมือนว่าเอเลนน่าจะอายุน้อยกว่าเซเลน่าอีก“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นคุณป้าที่อ่อนเยาว์เช่นนี้!” เอเลนพูดอย่างแก่นแก้ว“ผู้หญิงคนนี้ปากหวานมาก เพราะงั้นพวกเธอได้เป็นบอดี้การ์ดของเราแล้ว ฉันไม่อยากทำให้ชีวิตยุ่งยากมากขึ้นโดยไม่จำเป็น แค่แสดงให้ฉันเห็นว่าเธอมีความสามารถอะไรบ้าง อย่างเช่น เธอสามารถชกมวยหรือตีลังกากลับหลังได้ไหม ถ้าฉันรู้สึกว่าความสามารถของเธอโอเค ก็อยู่ที่นี่ต่อได้!”ฟีโอน่ามีความสุขมาก เธอไม่อยากให้ชีวิตของสาว ๆ ยากขึ้นไปอีกเอเลนพูดโดยไม่ต้องคิดว่า “นั่นมันง่ายเกินไป เราควรทำอะไรที่ยากกว่านั้นอีกหน่อย!” ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็เดินไปที่มุมกำแพงใกล้ ๆ หยิบอิฐสีแดงขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วขอให้ออร์คิดถือมันไว้สูง ๆ “อย่าบอกนะว่าเธอคิดที่จะทำให้อิฐแตกออก?” ฟีโอน่ากลืนน้ำลาย เธอคิ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 596

    เฟนด์มองดูชุดของสาว ๆ และรู้สึกปวดหัวกับมันนิดหน่อย เขาพูดออกมาว่า “ในเมื่อพวกเธอเป็นบอดี้การ์ดของเรา พวกเธอจะต้องรักษารูปลักษณ์และสวมเครื่องแบบ ฉันเกรงว่าเสื้อผ้าอย่างกระโปรงสั้น ๆ แบบนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่”“เฮ้ ทำไมนายถึงเข้มงวดนัก ผู้หญิงไม่ควรมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเหรอ? ฉันชอบที่พวกเธอแต่งตัวแบบนี้! พวกเธอแต่งตัวได้สวยเหมาะกับขาพวกเธอที่ยาว มันมีอะไรผิดงั้นเหรอ? แบบนี้ก็ดูดีแล้วนี่!” ฟีโอน่าพูดแทรกขึ้นมาทันทีและพูดต่ออีกว่า “ด้วยการแต่งตัวแบบนี้ คนอื่นก็จะไม่รู้ว่าพวกเธอเป็นบอดี้การ์ด พวกเธอก็เป็นเหมือนตำรวจนอกเครื่องแบบ แบบนี้มันไม่ดีกว่าเหรอ? ฉันไม่ชอบให้มีกลุ่มบอดี้การ์ดที่ใส่เครื่องแบบเดินตามหรอกนะ มันดึงดูดความสนใจมากเกินไป!”โชคดีที่ออร์คิดได้ทันและพูดว่า “คุณป้าคนสวย ไม่ต้องห่วง เราคุยกันเรื่องนี้แล้วในระหว่างทางมาที่นี่ เราคิดว่าเราจำเป็นต้องมีเครื่องแบบเพื่อให้เราดูเหมาะสมมากขึ้น แต่เราไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าที่เป็นทางการ เราคิดไว้แล้วว่าจะใส่ชุดไหน! พวกเราจะใส่กางเกงยีนส์ฤดูร้อน รองเท้าผ้าใบสีขาว และเสื้อเชิ้ตสีขาว เรากำลังคิดว่าควรจะมีสัญลักษณ์ของครอบครัวเทย์เลอร์

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 597

    “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันมีความสามารถพอตัว ฉันไม่ต้องการบอดี้การ์ด หน้าที่หลักของพวกเธอคือปกป้องลูกสาว ภรรยา และพ่อตาแม่ยายของฉัน นอกจากฉันแล้ว ทุกคนในครอบครัวต้องมีบอดี้การ์ดอยู่ด้วยหนึ่งหรือสองคน!”เฟนด์คิดและพูดต่อว่า “ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอทั้งหมดติดตามเราตอนออกไป เพียงแค่หนึ่งหรือสองคนก็พอแล้ว พวกเธอไม่จำเป็นต้องตามมาหรอกเพียงแค่ออกไปซื้อเสื้อผ้า”เอเลนได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกหดหู่ใจทันที เธอหน้าลงและอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำออกมา“พวกเธอควรไปพักผ่อนในบ้านได้แล้ว ในเมื่อฉันเป็นนายของพวกเธอ พวกเธอทุกคนก็ควรฟังฉัน!” เฟนด์พูดพลางมองไปที่เอเลนอย่างตรงไปตรงมา“ค่ะ นายท่าน! เราจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านทุกอย่างในอนาคต!”เอเลนยิ้ม การได้คุยอย่างใกล้ชิดกับท่านนักรบสูงสุดในตอนนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ“ไปกันเถอะแม่!” เฟนด์รีบพาโจแอนออกไปซื้อของอย่างรวดเร็วสาวสวยทั้งสิบคน ต่างถือกระเป๋าเดินทางของตัวเอง และมีเจนนี่นำไปยังที่พักของพวกเธออย่างรวดเร็ว เมื่อจัดการที่พักเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจนนี่ก็จากไป ทันทีที่เจนนี่จากไป บอดี้การ์ดสาว ๆ พวกนั้นก็รวมตัวกัน“ว้าว ท่านนักรบสูงสุดยิ่งมองนานเท่าไหร่ท่านก็

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status