แชร์

บทที่ 468

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เฟนด์หัวเราะออกมา “สนุกแน่งานนี้!” ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะแต่งงานกับนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมาพร้อมกับบอดี้การ์ดนะ ไม่แปลกใจเลยที่เธอไม่มีมารยาท

อย่างไรก็ตาม พวกเขาควรคิดใหม่นะว่าตัวเองโชคร้ายที่เจอเฟนด์

“หัวเราะอะไร? บอดี้การ์ดฉันล้อมไว้หมดแล้ว ควรจะรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป” ชายท้วมเยาะเย้ย

“ถูกต้อง เขาเป็นแค่เด็กเอง แล้วคุณล่ะ! แม่ที่ไร้เหตุผลและพ่อที่ชอบตัดสินคนอื่น พ่อแม่อย่างพวกคุณ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้” เฟนด์พูดอย่างเย็นชา ยักไหล่อย่างที่เขาชอบทำ

“เราเจอของเล่นก่อน ภรรยาคุณเป็นคนดึงของเล่นออกจากมือลูกสาวฉัน คุณโดนหลอกแล้ว!” เซเลน่าพูดต่อ มันช่างน่าอายที่จะตามพวกเขาในเหตุการณ์นั้น

“ฮึ่ม! ฉันไม่สนหรอกนะว่าภรรยาจะเป็นคนหยิบมาจากพวกคุณ แต่พวกคุณทำให้แฮมมี่ร้องไห้! ฉันไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นหรอกนะ! ฉันจะไม่ยอมแม้ว่าคุณจะเกินของให้เราตอนนี้ พวกแก ไปจัดการมันซะ!” ชายคนนั้นสั่งให้บอดี้การ์ดของเขาจัดการกับเฟนด์

“ฮา! คิดซะว่าตัวเองโชคร้ายที่มาเหยียบนิ้วเท้าลูกพี่ฮิวจ์ละกัน!” ผู้ชายบางคนเข้ามาใกล้เฟนด์

แต่โถ่เอ๊ย ไม่นานบอดี้การ์ดก็พบว่าร่างตัวเองร่วงหล่นราวกับแม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 469

    ผู้หญิงคนนั้นจ้องไปที่ชายท้วม “ไอ้อ้วนวอลเตอร์ แกจะไปไม่ได้ถ้ากล้ามาแตะต้องตัวฉัน!”เธอยังไม่ทันพูดจบ เขาก็มองมาที่เธอด้วยพร้อมกับไฟลุกโชนในดวงตา และเดินตรงเข้ามาหาเพี๊ยะ! เขาตบเธอสามครั้ง“ฉันตามใจเธอมามากเกินไปแล้ว เธอนี่มัน! ทำไมถึงสร้างปัญหาให้ตลอดเลย? ใครเป็นเจ้านายตรงนี้กันแน่?! ไม่มีฉัน เธอมันก็ไม่มีอะไรเลย!”ดูเหมือนว่าเขาจะหงุดหงิดกับเธอมาก และเขาก็แสดงให้เห็นว่าผู้ชายอย่างเขาเป็นยังไง เขารู้สึกดีที่ได้ระบายความโกรธนี้กับเธอ“แก...” มันทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าต้องพึ่งพาผู้ชายคนนี้เพื่ออำนาจ เธอกล้าทำอะไรลงไปอย่างประมาทเพราะผู้ชายคนนี้ เธอไม่กล้าตอบโต้กลับเมื่อเป็นผู้ชายคนเดียวกันกับที่ตบเธอ“ไสหัวไป!” เฟนด์ตะโกนขณะที่ดูคู่รักทะเลาะกัน บอดี้การ์ดก็ฟื้นจากการหมดสติพอดีบอดี้การ์ดพวกนั้นหนีไปราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้อีก“ไคลี่ เป็นอะไรไหม?” เฟนด์หันกลับมาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ทำให้ลูกกลัว เสียงเฟนด์อ่อนโยนขึ้นมาก“ไม่ค่ะพ่อ พวกนั้นเป็นคนเลว สมควรได้รับอย่างนั้น ต่อไปถ้าโตขึ้น หนูอยากเป็นเหมือนพ่อ! จะได้ไม่มีใครมารังแกได้!” แล้วไคลี่ก็ทำท่าทีเหมือนซุปเปอร์แมนแม้ว่ามันจะดูน่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 470

    เพราะอย่างนี้ ใบหน้าและหูเล็ก ๆ ของเซเลน่าก็แดงก่ำ เธอรู้ดีว่าไคลี่ถามอย่างบริสุทธิ์ใจ มันทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะตอบเธอตกใจกว่าเดิมเมื่อเฟนด์ยิ้มและตอบว่า “เอาน่า ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อสัญญาว่าลูกจะมีน้อง พ่อกับแม่จะมีลูกด้วยกันสองสามคน ลูกก็จะมีพี่น้องให้วิ่งเล่นด้วย”เซเลน่าเขินจนหยิกหลังเฟนด์“โอ๊ย!” เฟนด์ร้องขึ้นมา แต่เขาก็พูดต่ออย่างเร็วกว่า “ตอนกลางคืนนี่มันสวยจังเลยนะ”ทั้งสามรีบพากันกลับบ้าน ไคลี่ง่วงนอนเร็ว เธออยู่บนเตียงขณะที่เฟนด์ออกมาจากห้องน้ำเฟนด์เดินกลับมาที่ฟูกนอนและเตรียมตัวนอน ขณะที่เขากำลังเตรียมตัว เซเลน่าก็มองจากเตียงลงมาที่เขา “ที่รัก... ทำไมคุณไม่มานอนเตียงด้วยกันล่ะ? ถือว่าเป็นรางวัลของการทำหน้าที่พ่อและสามีที่ดีนะ” เซเลน่าหน้าแดงเฟนด์นั่งยอง ๆ บนพื้นอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินแบบนั้น เขากระซิบเบา ๆ ว่า “ที่รัก คุณ...นี่หรือว่าคุณคิดที่จะมีพี่น้องให้ไคลี่อย่างที่เธอของั้นเหรอ? เยี่ยมเลย! ผมก็ด้วย!”เซเลน่ากลอกตาใส่เฟนด์ “พุฟฟ! พูดเรื่องอะไรเนี่ย? ฉันสงสารที่คุณนอนพื้น เลยจะให้นอนบนเตียง ไคลี่ไม่รู้หรอกเธอหลับไปแล้ว”“แค่...คืนเดียว? นอนเฉย ๆ น่ะเหรอ?”

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 471

    “แต่ตอนนี้เรายังไม่มีเงิน เพราะงั้นต้องรอสองเดือนก่อนจะซื้อบ้านได้” เซเลน่าพูด เธอเห็นด้วยกับความคิดของเฟนด์ “คุณให้เงินยี่สิบล้านเป็นค่าหมั้นกับแม่ไปแล้ว เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องให้อะไรอีก ที่เหลือคือของขวัญวันเกิดคุณปู่และค่าตอบแทนสิบล้านให้อีวาน ฉันคิดว่านะ คุณมีข้อตกลงที่ดีกับคุณทันย่า บางทีคุณอาจจะขอให้เธอให้เงินเดือนเดือนแรกเร็วกว่าวันจ่ายจริงสองสามวันเพื่อแก้ไขปัญหา!” เธอหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคิดออกว่า “รอจนกว่าคุณจะได้เงินเดือนอีกหนึ่งเดือน แล้วเราค่อยไปหาบ้านกัน ไม่ใช่ว่าที่นี่ยังอยู่ไม่ได้เสียหน่อย”“ผมไม่คิดว่าเราจะอยู่ที่นี่ได้!” “ไคลี่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว และคุณก็จะไม่ให้ผมแตะต้องตัวคุณ!”เฟนด์ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในขณะที่เขาพูด “ผมจะไปดูว่ามีบ้านที่เหมาะสำหรับเราไหมตอนที่มีเวลา เราจะได้เจอหลังจากที่ดูไปบ้างแล้ว” “งานของคุณมันว่างแล้วก็ง่ายเลยใช่ไหม?” เซเลน่าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอรู้สึกว่าเฟนด์เป็นบอดี้การ์ดที่ไร้ความรับผิดชอบ เขาเลิกงานได้เร็วเมื่อมีธุระส่วนตัว คงไม่มีงานไหนในโลกที่ง่ายแบบนี้อีก ทั้งคู่คุยกันอย่างเงียบ ๆ ในที่สุด พวกเขาก็ผล็อยหลับไป

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 472

    “เธอกำลังตามหาเฟนด์อยู่เหรอ?” "ผู้หญิงสวย?" ทันย่าและอีวอนน์มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ “สวยแค่ไหนกันเชียว?” อีวอนน์กดดัน “ทำไมคนประหลาดแบบนั้นถึงยังมีสาวสวยมาตาม?” “โอ้ เธอสวยมาก จะพูดยังไงดี? สวยเกือบจะเท่าคุณเลย คุณอีวอนน์ และเธอก็อยู่อีกระดับของความสวยงามเช่นเดียวกับคุณทันย่าเลย!”บอดี้การ์ดพูดออกมาอย่างโผงผาง แม้ว่าเขาจะสับสนว่าทำไมผู้หญิงสองคนนี้ไม่เน้นประเด็นหลักที่ว่าผู้หญิงคนนั้นมาถามว่าเฟนด์อยู่ที่นี่หรือเปล่า แต่พวกเธอกลับสนใจความสวยของผู้หญิงคนนั้นแทน? นี่ไม่ใช่ที่ประกวดนางงามนะ!“เฟนด์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาอาจจะเข้ามาตอนบ่าย บอกให้พวกเขากลับไปเดี๋ยวนี้” เจมส์พูดอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ ฉันอยากไปดูว่าใครกำลังตามหาเฟนด์!” ทันย่าพูดหลังจากคิดได้ “ฉันก็อยากเจอเธอเหมือนกัน!” ประกายแห่งความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นในหัวใจของผู้หญิงสองคน เธอเป็นสาวในอุดมคติของเฟนด์แค่เพราะว่าสวยหรือเปล่า? อย่างไรก็ตาม คงไม่แปลกถ้าผู้หญิงบางคนจะสนใจผู้ชายคนเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อเฟนด์เป็นคนดี นอกจากนี้ พวกเขายังเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้หญิงผู้ร่ำรวยในการประมูลครั้งล่าสุด พวกเขาสันนิษฐา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 473

    “เอาล่ะ ทีนี้จะบอกเราแล้วใช่ไหมว่าเป็นใคร?” อีวอนน์พูดลากเสียงอย่างที่เคยทำ “เธอจำฉันไม่ได้เหรอ? นี่ซาซ่าไง ทันย่า! จำฉันไม่ได้จริง ๆ เหรอ?” ซาซ่ายิ้ม “ฉันเคยขอเฟนด์แต่งงาน แต่เขาไม่ได้ตอบตกลง ตอนนั้นฉันน้ำหนักเกินจนดูน่าเกลียด ไม่แปลกที่เขาจะปฏิเสธฉัน เพราะอย่างนี้ฉันเลยอยากลองเสี่ยงอีกสักครั้ง มันอาจจะมีหวังถ้าฉันขอเขาอีกครั้งตอนนี้!” “ซาซ่า!” ทันย่าสูดหายใจเข้าอย่างแรง เธอขยี้ตาด้วยความสงสัยว่าเธอกำลังมีอาการประสาทหลอนอะไรหรือเปล่า เธอสำรวจซาซ่าอย่างใกล้ชิด ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเธอและซาซ่าที่เธอรู้จักดูต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม หลังจากมองดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอเหมือนซาซ่าจริง ๆ ไม่แปลกเลยที่ทันย่ารู้สึกคุ้นเคยเมื่อได้เห็นในตอนแรก“พระเจ้า นี่เธอรักษาโรคได้แล้วเหรอ? แล้วลดน้ำหนักไปกี่โล? ฉันจำได้ว่าเจอเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่ใช่ว่าหนักประมาณ 200 เหรอ?”อีวอนน์ยังคงตกตะลึง เธอเถียงกับตัวเองในใจว่าคนตรงหน้าคือคนหลอกลวงซาซ่าบอกว่าเธอเคยขอเฟนด์แต่งงาน แต่เขาไม่ตกลง และตอนนี้เธอลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว กลายเป็นสาวสวยอย่างน่าทึ่ง เธออยากจะลองอีกครั้ง "ใช่ ทั้งหมดนี้ต้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 474

    เฟนด์ถือกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ที่ซื้อมาก่อนหน้าและยืนอยู่หน้าที่พักของไทเกอร์“พี่ ในที่สุดก็มา ภรรยากับผมกำลังรออยู่เลย!”เมื่อเปิดประตูมาเจอเฟนด์หน้าบ้าน ไทเกอร์ก็ยิ้มออกมา“เข้ามาเลย! เข้ามาเลย!” ภรรยาของไทเกอร์ออกมาต้อนรับเขาทันที อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกงุนงงที่ได้เห็นเฟนด์ถือกระเป๋าเดินทางใหม่เอี่ยมสองใบ “นี่อะไรน่ะพี่?” ท่าทีของไทเกอร์ตรงกันกับภรรยา เขาคิดว่าเฟนด์คิดที่จะย้ายบ้านเหรอ? น่าเสียดายที่บ้านของพวกเขาเล็กมาก ไม่มีทางที่เฟนด์จะมาอยู่ด้วยได้“ว่าไง นี่ฉันไม่มีเวลาเลือกของดี ๆ ให้นายก่อนจะมา เลยเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาให้สองใบ!” เฟนด์หัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบกระเป๋าเข้าไปวางไว้ที่มุมห้อง ดูจากท่าทีเฉย ๆ ของเฟนด์ กระเป๋าสัมภาระนั่นดูเหมือนจะเบา ข้างในคงไม่มีอะไรอยู่ไทเกอร์กับภรรยาตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เพื่อนซื้อของมาเยี่ยมขนาดนี้ คนอื่น ๆ มักจะซื้อผลไม้ บุหรี่ หรือแอลกอฮอล์ อะไรทำนองนั้น ถึงอย่างนั้น ทั้งสองก็สังเกตได้ว่านั่นเป็นกระเป๋าดี พวกเขาสงสัยว่าเฟนด์หมดเงินไปเท่าไหร่กับของที่ดูเหมือนจะเป็นของแบรนด์ “พี่มีน้ำใจเกินไปแล้ว ทำไมถึงเอามันมาให้เราล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 475

    เมื่อได้พยายามยกกระเป๋า เธอพบว่าความจริงแล้วมันหนัก เธอยกมันไม่ขึ้นเพราะออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “ทำไมมันหนักจัง? มันเป็นของใหม่นี่ มีอะไรอยู่ข้างในหรือเปล่าเนี่ย?” คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากัน มีสีหน้างุนงงไทเกอร์นึกอะไรขึ้นได้ก็กระโดดลุกขึ้นและตบหน้าผากตัวเอง “พี่เฟนด์พูดว่า ‘นายเรียกฉันว่าพี่ และในฐานะพี่ เป็นปกติที่จะช่วยเหลือกันสักหน่อย!’”เขารีบวิ่งไปเปิดกระเป๋าเดินทางออกวินาทีที่เขาเปิดกระเป๋าใบแรก แผ่นสีแดงแทบจะพุ่งออกมาจากกระเป๋า มันเยอะจนแทบจะปิดไม่ได้!“โอ้ พระเจ้า... นี่มันเงินจำนวนมากเลย! ฉันไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต!” ภรรยาของเขาเบิกตากว้างที่กระเป๋าเดินทางด้วยความตกใจ ไทเกอร์เปิดกระเป๋าอีกใบ เช่นเดียวกับกระเป๋าอีกใบหนึ่ง แผ่นสีแดงจำนวนหนึ่งอยู่เต็มกระเป๋าใบนี้ “พี่เฟนด์ นี่มัน... เขารวยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมถึงให้เงินเรามากมายขนาดนี้?”ไทเกอร์นั่งอยู่บนพื้นจ้องไปที่กระเป๋าทั้งสองตรงหน้า เขาตกใจมาก“เงินขนาดนี้มันพอกับตลอดชีวิตของเราเลยใช่ไหมไทเกอร์? เราซื้อบ้าน ซื้อรถได้ แล้วยังมีเงินเหลืออีกมาก!” ภรรยาของเขากลืนน้ำลาย มีการตอบสน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 476

    สีหน้าของโจแอนไม่พอใจหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ เธอยิ้มอย่างไม่สบายใจขณะที่ตอบว่า “ไม่ใช่ว่าสัญญาไปแล้วเหรอว่าจะไม่มาขอเฟนด์อีก คุณซาซ่า?” สีหน้าของซาซ่าเริ่มกระอักกระอ่วน “คือหนู ตอนนั้นหนูไม่สวย เลยคิดแต่ว่าเฟนด์จะปฏิเสธ แต่ตอนนี้หนูสวยขึ้นมาก และเฟนด์ก็โดดเด่นมาก เลยอยากจะลองอีกสักครั้ง!”โจแอนเริ่มอารมณ์เสีย “ฉันซาบซึ้งกับความรู้สึกดีที่คุณมีให้เฟนด์นะ แต่ฉันรู้นิสัยของลูกชาย” เธอยืนกราน “เขาดื้อรั้นและซื่อตรง เพราะอย่างนั้นแล้ว เมื่อเขาบอกว่าไม่ชอบคุณ คุณก็จะไปโน้มน้าวใจเขาไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามอีกครั้งก็ตาม ฉันว่าปล่อยมันไปเถอะนะคุณซาซ่า”“ฉันรู้ค่ะป้า แต่ก็ยังอยากลอง ถ้าได้ลองแล้วฉันจะไม่เสียใจ!”ซาซ่ายิ้มหวานและปรบมือเรียกบอดี้การ์ดของเธอบางคนให้ออกมาข้างหน้าและถือของขวัญที่เธอซื้อมา “ฉันไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้ทุกคน เพราะฉะนั้นเลยอยากให้หยกกับทุกคนแทน หวังว่าจะถูกใจนะคะ!” “ในเมื่อไคลี่ยังเด็ก ฉันเลยซื้อตุ๊กตาให้เธอสองสามตัว” ซาซ่าพูดอย่างยิ้ม ๆ “พระเจ้า มีของฉันด้วย!” ซีน่าหยิบกล่องมาดูด้วยความดีใจและตรวจดูหยกที่อยู่ข้างใน “สีนี้เด่นมากคุณซาซ่า แพงน่าดูเลยสินะ” “

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status