อีวอนน์ใจเต้นแรงเมื่อเธอเห็นเด็กฝึกงานผ่าหินของไมเคิลเปิดออกเธอภาวนาอย่างสิ้นหวังว่าหินพนันที่ไมเคิลเลือกนั้นจะแย่กว่าของเธอ หากหินของหมอนั่นเป็นหินธรรมดาหรือมีหยกเพียงเล็กน้อยเธอก็ยังคงมีโอกาสที่จะชนะการเดิมพันนี้ แต่เมื่อหินถูกเปิดออกกลับพบว่ามันมีคุณภาพดีกว่าของเธอ แม้ว่าจะไม่น่าพอใจมากนัก หินขยะนี้มีมูลค่าเพียง 20,000 ถึง 30,000 เหรียญ ไมเคิลหัวเราะลั่นทันที “ยกโทษให้ผมด้วยนะคุณอีวอนน์ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ผมจะชนะ!”ไมเคิลหัวเราะเยาะและพูดต่อ “คุณต้องจ่าย! 300,000 เหรียญ!” “ฮืม! มันก็แค่ครั้งนี้เทพีแห่งโชคอยู่ข้างคุณแค่นั้น!” อีวอนน์ตะคอกกลับอย่างเย็นชาก่อนจะโอนเงินให้กับเจ้าของร้าน อย่างไรก็ตาม อีวอนน์โกรธเคืองจ้องเขม็งไปยังเจ้าของแผงลอยและบ่นอย่างหงุดหงิด “ที่เฟนด์บอกถูกต้องจริง ๆ ร้านของคุณไม่มีหินที่ดีเลย!”อีวอนน์พูดออกมาด้วยความโกรธ เจ้าของแผงลอยไม่กล้าต่อต้านตระกูลเดรคแม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับคําพูดของเธอ เขาทำได้แค่หัวเราะอย่างขมขื่น“ชิ! หมอนั่นนะเหรอ? ไอ้หมอนั่นก็แค่บังเอิญโชคดีที่เดาถูกเท่านั้น!” ไมเคิลหัวเราะเยาะ สายตาเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “หืม งั้นนายมาพนัน
ในระหว่างที่เฟนด์เดินไปที่แผงลอยอื่นและมองใกล้ ๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงคุณอีวอนน์ คุณจะทําเงินได้มากกว่านี้ มันจะไม่เสีย ถ้าต้องเสียผมจะจ่ายคืนให้เอง!”“ถ้านั่นคือสิ่งที่นายต้องการ! ฉันจะรับมันไว้ครั้งนี้ถือว่านายยืมเงินฉัน ฉันจะช่วยจ่ายให้นายก่อน” อีวอนน์ยิ้มออกมาและจับมือกับทันย่าไว้ขณะที่เธอขยับเข้าไปหาเฟนด์ “ผมจะเอาอันนี้” เฟนด์พูดในขณะที่เขาชี้ไปที่หินก้อนใหญ่ หินก้อนนี้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสและคาดว่าจะหนักประมาณ 15 กิโลกรัมเพียงดูขนาดของมันอย่างไรก็ตามหินสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่นี้อยู่ใต้ก้นของเจ้าของแผงลอย ซึ่งเจ้าของร้านใช้เป็นที่รองนั่ง “อะไรนะ? ค-คุณต้องการชิ้นนี้?”เจ้าของแผงลอยเป็นหญิงวัยกลางคน เธอแน่นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของเฟนด์เธอมีความสุขมาก หินสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่นี้อยู่ที่แผงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เธอหวังว่าจะมีมือใหม่บางคนมาซื้อมันไปเพราะพื้นผิวของมันทั้งหมดดูเรียบและเงางามถึงอย่างนั้นหนึ่งปีที่ผ่านมาไม่มีใครซื้อมันไปเลย คนที่เหลือเข้ามาดูอย่างใกล้ชิด แม้แต่เจ้านายของเธอก็คิดว่ามันเป็นหินธรรมดาไม่มีค่าอะไรเพราะไม่มีใครเคยขอซื้อมาก่อน ดังนั้นเธอจึ
“ฮ่าฮ่า น้ำหนัก19 กิโลกรัม แต่คุณเก็บเงินแค่ 15 กิโลกรัมเท่านั้น คุณเป็นคนใจดีจริง ๆ!”หลังจากฟังการแลกเปลี่ยนทันย่าก็ยิ้มอย่างเย็นชา “นี่เป็นเพียงหินธรรมดา ดังนั้นคุณถึงใจดีพอที่จะให้ส่วนลด! หากคุณคิดว่านี่เป็นหินคุณภาพสูงคุณยังจะทำแบบนี้ไหม?” “ใช่! คุณกําลังหลอกลวงนักเล่นหินมือใหม่! คุณมันน่ารังเกียจ!” อีวอนน์ตะโกนก้องก่อนจะหันไปหาเฟนด์“ให้ฉันช่วยนะเฟนด์ หินก้อนที่นายเลือกมันก็แค่หินก้อนใหญ่ธรรมดาจากริมถนน” “อย่ายุ่งน่า!” นายน้อยวิลสันตัดบทพวกเขาอย่างรวดเร็ว “อย่าทำผิดกฎคุณอีวอนน์ ครั้งนี้ผมพนันกับเฟนด์ไม่ใช่คุณ! คุณไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ควรเข้ามายุ่ง! หากคุณทำอย่างนั้น จะเรียกว่าการเดิมพันเหรอ!” “เขาพูดถูก คนนอกไม่ควรเข้ามายุ่ง!”“ฉันเห็นด้วย! คนที่เดิมพันกับนายน้อยวิลสันควรเป็นคนเลือก!”คนรอบข้างพูดขึ้นทีละคน พวกเขาแสดงความคิดเห็นต่อการเดิมพันนี้อีวอนน์หน้าซีด เธอไม่สามารถทนได้อีกต่อไป แต่ถ้าเธอช่วยก็จะเท่ากับว่าเธอทำผิดกฎ “คุณหมายความว่ายังไงที่ว่า ‘รังแกมือใหม่’ ? คุณอีวอนน์ ฉันรู้ว่าคุณเป็นสมาชิกของตระกูลเดรค แต่ได้โปรดมีเหตุผล! นี่คือหินการพนัน มันไม่สามา
“ฮึ่ม! เรายังไม่ได้เปิดอันนี้เลย นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะแพ้? ฉันแค่บอกว่าหินของนายไม่ได้แย่!”เฟนด์หัวเราะด้วยสีหน้าเมินเฉย“ทําไมนาย...ทําไมต้องทำให้ตัวเองดูแย่แบบนั้นด้วย?” อีวอนน์พึมพํากับตัวเอง“เปิดของฉันก่อน!”ไมเคิลจ่ายเงินทันทีอย่างตื่นเต้น มันมากว่า 100,000 ที่ต้องจ่ายไป เด็กฝึกงานสองคนตัดด้านหนึ่งของหินออก เขาก้าวเข้าไปดูใกล้ ๆ มุมปากของเขายกยิ้มอย่างรวดเร็ว“ฮ่า ๆ! เฟนด์ ไอ้เด็กเวร อย่างที่แกว่าเลย เห็นไหม? มากว่าครึ่งมันเป็นหยกแข็ง และสีของมันก็ดูดี นี่อาจจะได้ไม่กี่ล้านเหรียญแต่ไม่มีปัญหา”“ไม่มีทาง!”อีวอนน์และทันย่าแทบจะเป็นลมเมื่อได้เห็น ไมเคิลเลือกได้หินที่ดี มันเป็นหินที่ไม่ธรรมดา “ขอแสดงความยินดีด้วย นายน้อยวิลสัน คุณเลือกได้ดี!” เจ้าของแผงลอยตกตะลึงเธอไม่กล้าเปิดมันและเพิ่งจะนํามันมาขาย นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สําหรับเธอ ในการพนันหิน มีการเปลี่ยนอย่างอย่างรวดเร็วในขณะที่เล่นการพนัน คงไม่มีใครตำหนิเธอที่ไม่มีโชคและขาดการมองการณ์ไกล “เป็นไงล่ะ? เฟนด์ วู๊ด แกจะคุกเข่าและเห่าเหมือนหมาไหม? แค่ยอมแพ้ไป ถึงจะผ่านไปสองสัปดาห์ในถนนสายนี้ก็จะไม่มีใครได้อัญมณีเหม
“ไหน ขอฉันดูก่อน!”อีวอนน์รีบวิ่งไปและก้มลงเพื่อดูให้ดี เธอลูบนิ้วไปบนหยก “โอ้ พระเจ้า สีของมันงดงามมาก นี่มันอาจจะขายได้มากกว่า 20 ล้าน!”“หยกม่วงแข็ง? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมัน” ทันย่าก็ตื่นเต้นเช่นกัน ต้องขอบคุณความโชคดีของเฟนด์ ที่เขาเลือกหินได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้ “ม-มันจริงหรอที่เป็นหยกแข็งคุณภาพสูง!” ไมเคิลขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะแพ้แน่นอนและมันแย่มากถึงอัญมณีของเขาจะดี แต่มันก็ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับของเฟนด์ เฟนด์หันไปหาไมเคิลด้วยรอยยิ้มไร้อารมณ์ “นายน้อยวิลสันคุกเข่าลง นายไม่สามารถกลับคำพูดได้ในเมื่อนายเป็นลูกผู้ชายใช่ไหม?” เฟนด์พูดกวนโมโห “แก…” ใบหน้าของนายน้อยวิลสันบูดเบี้ยวเป็นสีหน้าที่อ่านไม่ออก เขาเป็นนายน้อยของตระกูลชนชั้นสูง เขาจะคุกเข่าต่อหน้าบอดี้การ์ดโง่ ๆ และเห่าเหมือนหมาได้ยังไง? เขาจะทําให้ทั้งตระกูลต้องอับอาย ทุกคนจะนินทาเรื่องนี้ลับหลังเมื่อเขาจะกลับมาที่นี่ในอนาคต เขาเสียใจกับการกระทําของตัวเองจริง ๆ เขาไม่ควรพนันกับเฟนด์ อย่างไรก็ตามใครจะไปคิดว่าคนใจร้อน ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอัญมณีจะเลือกของล้ำค่าแบบนั้นได้จริง? “ม-มันใช่จริงๆนี่
“ไม่มีทาง นายน้อยวิลสันเป็นผู้ใหญ่พอและเป็นคนรักษาคำพูดเสมอไม่ใช่เหรอ?”เฟนด์พูดยิ้ม ๆ โดยไม่สนใจความอัปยศของอีกฝ่าย“ถูกต้อง เว้นแต่นายจะยอมรับว่านายไม่ใช่ลูกผู้ชายแต่เป็นขันทีหรือเป็นผู้หญิง เราจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ แน่!”ทันย่าพูดแทรกขึ้นอย่างมั่นใจขณะที่ยกแขนกอดอก เมื่อเธอได้ยินคำพูดท้าทายของพวกเขา“นายน้อยวิลสันคุณเดิมพันกับเฟนด์เพียงเพราะคุณคิดว่าเขายังใหม่ในเรื่องนี้จึงคิดว่าเขาไม่ค่อยรู้เรื่องหิน ตอนนี้คุณไม่รู้สึกอับอายเหรอที่แพ้ให้กับเด็กใหม่? อีกอย่างคุณยังปฏิเสธที่จะยอมรับหนี้ของตัวเองในตอนนี้ที่คุณได้เสียไป มันคงจะไม่ดีนะถ้ามีข่าวออกไป จริงไหม?”“ทำไมคุณถึงเป็นคนขี้แพ้ที่น่าอนาถขนาดนี้?”คราวนี้เป็นอีวอนน์ที่ก้าวไปข้างหน้าและเยาะเย้ยวิลสันพวกบอดี้การ์ดไม่กล้าส่งเสียงดังอีกต่อไป ตระกูลเดรคเป็นหนึ่งในตระกูลชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงที่สุด พวกเขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะคุกคามหรือกลั่นแกล้งทันย่า เดรคได้ เพราะมันเหมือนกับเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงซึ่งอาจทำให้พวกเขาตายได้“ใครบอกว่าฉันเป็นคนขี้แพ้ที่น่าอนาถ?”นายน้อยวิลสันกัดฟันแน่น “ฉันยอมรับความพ่ายแพ้!” เขาประกาศผู้คนต่
“1 พันล้าน!”หลายคนถึงกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อได้ยินเรื่องนี้ บอดี้การ์ดคนนี้ช่างทะเยอทะยานเสียจริง เขารู้หรือไม่ว่าเงิน 1 พันล้านเหรียญเป็นยังไง? เขาถึงกล้าที่จะขอเงิน 1 พันล้านเหรียญ!อีกอย่างนายน้อยวิลสันใจดีเสนออัญมณีที่เขาเพิ่งซื้อซึ่งมีมูลค่าประมาณ 7 หรือ 8 ล้านเหรียญให้ นั่นเป็นข้อตกลงที่ดีทีเดียว บอดี้การ์ดเพียงคนเดียวจะมีรายได้เท่าไหร่กัน? เขาพูดราวกับว่าเขามีเงินมากมาย“1 พันล้านเหรียญ? เฮ้ แกไม่ทำตัวน่ารังเกียจไปหน่อยเหรอ? พูดงี้ทำไมแกไม่ปล้นกันไปเลยล่ะ?”นายน้อยวิลสันจ้องมองเฟนด์และคิดว่าเขาคงเสียสติไปแล้ว จากนั้นรอยยิ้มเหยียดหยามก็ค่อยๆปรากฎบนริมฝีปาก “โอ้ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมแกถึงต้องการเงินมากขนาดนี้” เขาพูด “แกคงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดจนมันทำให้แกเสียสติไปใช่ไหม? วันเกิดครบรอบ 70 ปีของนายใหญ่เทย์เลอร์กำลังใกล้จะถึงในไม่ช้านี้ และแกจะถูกไล่ออกจากตระกูลเทเลอร์หากแกไม่สามารถหาเงิน 40 ล้านเหรียญตามที่สัญญาไว้ได้ นอกจากนี้แกยังต้องเลิกกับเซเลน่า เทเลอร์ด้วย จริงไหม?”“ไม่มีทาง ผู้ชายคนนี้เป็นสามีของเซเลน่า เทย์เลอร์เหรอ?”“อืมมม ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นแพทย์ทหาร
ดวงตาของชายชราแดงก่ำมากขึ้น ความรู้สึกอบอุ่นเกิดขึ้นในใจของเขา“คุณต้องยอมรับสิ่งนี้ นี่เป็นคำขอบคุณของผมและตัวแทนหัวใจของทหารทุกคนในประเทศของเรา” เฟนด์ยืนกรานและพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างจริงจัง“ก-ก็ได้ ขอบคุณ ขอบคุณมาก ๆ !"ดวงตาของชายชราเป็นกระกาย เขาหยิบอัญมณีจากมือของเฟนด์อย่างช้าๆ“ตัวแทนหัวใจของทหารทุกคนในประเทศของเรา? เหอะ ตอนนี้แกคิดว่าตัวเองสูงส่งมากรึไง แม้แต่คนทั่วไปก็ไม่พูดไร้สาระแบบนี้ออกมา!” ไมเคิลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มอย่างโหดเหี้ยมเมื่อได้ยินเช่นนี้“พูดอย่างกับว่าแกเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม!” เขาเย้ยหยันต่อ“ขอบคุณ...ขอบคุณ!”ชายชราต้องการที่จะคุกเข่า แต่เฟนด์หยุดเขาไว้ชายชรารีบไปที่ร้านค้าใกล้เคียงเพื่อเปลี่ยนหยกเป็นเงิน ตราบเท่าที่มีการขายในราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อยนายหน้าหลายคนก็เต็มใจที่จะซื้ออัญมณีดังกล่าว“แกใจดีมากที่มอบของมูลค่า 7 ถึง 8 ล้านเหรียญให้ไปแบบนั้น ทำไมแกไม่เก็บมันไว้เอง? ถ้าแกมอบให้นายใหญ่เทย์เลอร์ ตระกูลเทย์เลอร์ก็จะไม่สร้างปัญหาให้แกมากนักเพราะมันมีมูลค่าเกือบ 10 ล้านเหรียญ โอเค แค่เกือบจะ... แต่มันก็ดีกว่าไม่หาซื้ออะไรได้เลยเมื่อวันเกิดของนายใหญ่