แชร์

บทที่ 31

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทันย่าสะบัดมือขึ้นขณะที่ที่เธอแผดเสียงคำราม

บอดี้การ์ดคนละคนสองคน เริ่มยกเก้านั่งทุบไปทั่วบริเวณร้าน

“คุณทันย่า ได้โปรด ที่นี่คือธุรกิจของครอบครัววิลสัน คุณทันย่าได้โปรดเมตตา!”

ผู้จัดการร้านไม่กล้าที่จะหยิ่งผยองอีกต่อไป เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับคนจากตระกูลเดรก เขาร้องขอด้วยใบหน้าสิ้นหวัง เขาหวังว่าเธอจะหยุดเพื่อเห็นแก่ครอบครัววิลสัน

“ครอบครัววิลสัน! ฉันไม่สนใจว่าธุรกิจครอบครัวนี้จะเป็นของใคร แต่พวกคุณทำแบบนี้ต่อหน้าฉัน การที่พวกคุณแสดงท่าทีแบบนี้ต่อหน้าฉัน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันจะทำลายที่ของพวกคุณซะ ในเมื่อตอนนี้ฉันรู้สึกไม่พอใจ!”

ทันย่ายืนกอดอกด้วยความภาคภูมิใจกับสิ่งที่เธอทำ เธอสามารถดูแคลนพวกเขาได้

แม้ว่าจะมีนักเลงอันธพาลมากมายมาจากครอบครัววิลสัน แต่พวกเขาก็ก้มศีรษะลง ไม่มีใครกล้าที่จะส่งเสียง

พวกเขารู้จักอำนาจของตระกูลเดรกดี ครอบครัววิลสัน คงไม่กล้าที่จะล่วงเกินตระกูลเดรก!

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงก็คือทันย่า เธอไม่เคยที่จะสนใจธุรกิจของคนอื่น เพราะว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ!

“คุณทันย่า ฉันต้องขอบคุณมาก คุณหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวนนี้แล้วใช่ไหม?”

เมื่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 32

    “ไม่มีทาง ผู้ชายคนนี้กำลังอยากจับมือกับคุณทันย่า? เขามั่นใจมากเกินไปรึเปล่า?“ใช่ เขารู้ไหมว่าคุณทันย่าคือใคร? เขาเป็นลูกเขยที่อาศัยอยู่กับครอบครัวเทย์เลอร์ และก็คือสาเหตุที่ครอบครัวเทย์เลอร์ไล่ครอบครัวภรรยาของเขาออกจากบ้าน คนอย่างเขาคู่ควรที่จะจับมือคุณทันย่าไหม”นักเลงสองสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังร้านอาหารเริ่มซุบซิบนินทากันอย่างเงียบ ๆคนปกติธรรมดาจะไม่ได้ยินพวกเขาคุยอะไรกัน เพราะเสียงของพวกเขาแผ่วเบามากแต่พวกเขาไม่รู้ว่าเฟนด์ได้ยินทุกอย่างที่พวกเขาพูดอย่างชัดเจนเฟนด์ไม่ให้ความสนใจกับพวกเขา เขายิ้มและมองไปที่คุณทันย่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา“ยินดีต้อนรับ! และยินดีที่ได้รู้จักฉันชื่อ ทันย่า เดรก! ฉันได้ยินมาว่าคุณมาจากกองทัพด้วยใช่มั้ย? ฉันชื่นชมคนแบบคุณมากที่สุด ขอขอบคุณที่มีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศของเรา! ถ้าไม่ใช่การเสียสละของผู้ชายอย่างคุณ เราคงไม่ชนะในครั้งนี้!”ทันย่ายื่นมือออกไปและจับมือกับเฟนด์ต่อหน้าฝูงชนดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยจับมือกับเพศตรงข้าม เธอดูเขินอายเล็กน้อยเมื่อทำเช่นนั้น“ฮ่า ๆ การปกป้องประเทศของเราคือสิ่งที่พวกเราชาวแคทธีเซีย ควรทำ!”เฟนด์หัวเราะและพูดว่า “

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 33

    ในที่สุด ทันย่าก็เฝ้ามองดูที่เฟนด์และคนอื่น ๆ ค่อย ๆเดินจากไป“คุณคงได้เรียนรู้บทเรียนของคุณแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะปล่อยคุณไป หากฉันรู้ว่าคุณยังคงไปรบกวนพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องของวันนี้อีก ฉันจะไม่สนใจว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัววิลสันหรือไม่!”หลังจากเฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไปทันย่าก็เตือนพวกเขาก่อนที่เธอและคนของเธอจะขับรถออกไป“ทันย่า เดรก ฉุนเฉียวมาก! ทำไมเธอไม่มาให้ช้ากว่านี้ หรือเร็วกว่านี้ แทนที่จะมาตรงเวลา?”เธอมาถึงเพียงไม่กี่นาทีต่อมา หรือรอจนกว่าเซเล่น่าและคนอื่น ๆ จะจากไป ไม่งั้นสิ่งต่าง ๆ ก็จะไม่ถูกจัดการให้เป็นระเบียบเช่นนี้!”เมื่อหันมามองความเสียหายที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องสูญเสียครั้งใหญ่แน่นอน ผู้จัดการอ้วนรู้สึกโกรธมากเขาไม่รู้เลยว่าในขณะนั้นไมเคิลกำลังรู้สึกสนุกสนาน อยู่ภายในในห้องส่วนตัว“เยี่ยมไปเลยนายน้อยวิลสัน วิธีการของคุณได้ผลจริง!”“ใบหน้าของเซเลน่าซีดลงทันที เมื่อเธอได้ยินว่าต้องจ่ายเงิน 4,000,000 เหรียญ เฟนด์ไม่มีเงินมากขนาดนั้น ฉันพนันได้เลยว่าเขามีเงินไม่ถึง 400,000 เหรียญ!”“เซเลน่าไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อฉันขู่เธอ เอาลูกสาวและพ่อแม่ของเธอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 34

    “จริงเหรอ?”ตาของไมเคิลสว่างขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาคิดแค่ว่าจะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงครั้งเดียว แต่ก็ดีกว่าการที่จะไม่ได้ตัวเทพธิดาไปตลอดชีวิตก่อนหน้านี้เขาภาวนาให้ครอบครัวของเซเลน่าไม่มีผู้ชายกลับมา เซเลน่าก็คงจะเป็นแม่หม้ายถ้าหากเฟนด์เสียชีวิตลง จากนั้นไม่ช้าก็เร็วเธออาจจะรู้สึกสะเทือนใจ แล้วก็คงจะตกลงที่จะยอมอยู่กับเขา เพราะความพยายามของเขาที่ชอบเธอมานาน เขาไม่ได้คาดหวังว่า เฟนด์ซึ่งเป็นทหารจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาเขารู้สึกว่าความเป็นไปได้ที่จะได้แต่งงานกับเซเลน่านั้นเบาบางเกินไปดังนั้นเมื่ออีวานบอกวิธีการของเขา เขาก็ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก หลังจากที่เขารอวันนั้นมาหลายปี“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่นายน้อยวิลสัน เกี่ยวกับผลกำไรจากโครงการที่เรากำลังดำเนินการกัน ... "อีวานยิ้มอย่างเย็นชา เขาต้องการทำกำไรให้ธุรกิจของครอบครัวเทย์เลอร์เจริญรุ่งเรือง เขาจะเป็นผู้สนับสนุนหลักหากครอบครัวเทย์เลอร์ทำเงินได้เมื่อถึงเวลานั้นเขาสามารถรักษาตำแหน่งของเขาได้ และจะไม่มีใครสามารถมาแย่งตำแหน่งในการเป็นผู

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 35

    “พวกแกมีตั้งมากมาย แต่ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้? ไม่มีใครตอบโต้กลับ? แกแค่นั่งดูพวกเขาทำลายร้านอย่างงั้นเหรอ”เมื่อมองไปที่คนของเขาที่ยืนอยู่ที่นั่น ไมเคิล ก็โกรธมาก “ฉันจ้างพวกแกเพื่ออะไร?”“นายน้อยวิลสัน ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้ต่อสู้หรือหยุดพวกเขาไม่ได้ แต่เป็นเพราะเราไม่กล้าที่จะสู้!”ผู้จัดการไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ “เฟนด์ ไม่ใช่คนที่ทำสิ่งนี้ แต่เป็นบอดี้การ์ดของคุณทันย่า”“ทันย่า เดรก?”ไมเคิลกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินชื่อ “ผู้หญิงคนนั้น ทำไมเธอถึงมาที่นี่และทำลายสถานที่ของเรา”“เอ่อ เธอเดินผ่านร้านอาหารของเรา แล้วคิดว่ามันดูดีเลยอยากจะแวะเข้ามาทานอาหาร หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็ปกป้องพวกเขาและบอกว่าเราไม่ควรแบล็กเมล์พวกเขา หลังจากนั้นเธอก็ทำลายสถานที่!”“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอปล่อยให้เฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไปโดยไม่ต้องจ่ายเงิน เธอยังเตือนเราว่าอย่าไปรบกวนพวกเขาอีกต่อไป!”ผู้จัดการถอนหายใจ “ท้ายที่สุดเฟนด์ และคุณเทย์เลอร์ ก็เป็นหนี้บุญคุณของคุณทันย่า ก่อนที่คุณเทย์เลอร์จะจากไปเธออยากให้ผมบอกกับคุณว่า คุณไม่ใช่สาเหตุที่พวกเขาไม่ยอมจ่ายเงินให้ แต่เป็นเพราะคุณทันย่าบอกให้พว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 36

    "แกน่ะเหรอจะจ่าย 400,000 เหรียญ?"ฟีโอน่าหัวเราะอย่างเหยียดหยามเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น “แกแค่แสดงต่อไป แกดูตัวเองสิ ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าแกจะมีเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน”ความคิดที่เกิดขึ้นภายในใจของเธอหลังจากที่เธอพูดแบบนั้น เธอก็พูดกับเซเลน่าว่า "เซเลน่า ครอบครัวเทย์เลอร์ ทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ลูกทำงานให้พวกเขามาตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ลูกไม่สามาถรถทำมันได้ เพราะถูกขัดขวาง มันแย่มากสำหรับเรา แม้กระทั่งหางานจากหลายบริษัท หลาย ๆ ที่ก็ไม่กล้าที่จะจ้างลูกเพราะพวกเขายึดติดอยู่กับอีวาน!”“แม่พูดถูก ฉันไม่ได้มีทางเลือกอื่น เพราะอีวานเขาบอกแล้วว่า เขาต้องการให้ฉันโดดเดี่ยว ให้ฉันกลายเป็นคนเก็บขยะ! ไม่อย่างนั้นเขาจะสร้างเรื่องวุ่นวายไม่เลิก ต่อให้ฉันไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครกล้ารับ คนเหล่านั้นไม่อยากทำให้เขาขุ่นเคืองดังนั้นพวกเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะมีปัญหา”เซเลน่าถอนหายใจ “เมื่อเฟนด์กลับมาแล้วครอบครัวของเราจะดีขึ้น เราทั้งคู่จะทำงานกัน!”"มันเป็นความจริงถึงแม้ว่ามันอาจจะดูยากไปสักหน่อย แต่ตอนนี้เราคงจะไม่ทุกข์ยากกันขนาดนั้น ถ้าหากเราหางานทำกันได้!"ฟีโอน่าถอนหายใจ "

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 37

    เรื่องนี้ทำให้ฟีโอน่าชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ถ้าเกิดแกทำไม่ได้ ลูกเขยของฉันอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นนายน้อยวิลสัน หรือนายน้อยคลาร์ก ก็ได้ ฮ่า ๆ!”เฟนด์ดึงเซเลน่าออกมา เมื่อเขาเห็นเธอกำลังจะถกเถียงกับฟีโอน่า “ลืมมันไปซะ! เซเลน่า แม่ของคุณพูดถูก คุณเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังในวันเกิดของปู่ คุณจะเป็นผู้หญิงของผม และจะไม่มีใครสามารถพรากคุณไปจากผมได้!”เมื่อเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเฟนด์ แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเซเลน่าก็หายไป แทนทีด้วยความอบอุ่นเติมเต็มในหัวใจของเธอแทนเธอพยักหน้าอย่างเขิน ๆ และพูดว่า “ค่ะ ฉันเชื่อในตัวคุณ ฉันได้ยินมาว่าในสนามรบนั้นอันตรายมาก มีผู้เสียชีวิตมากมาย แต่คุณอยู่ที่นั่นมาห้าปี และรอดปลอดภัยกลับมา ฉันเชื่อว่าคุณต้องทำได้ดีกว่าคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน”ใบหน้าของฟีโอน่าเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้ยินคำหวานเลี่ยนเหล่านั้น เธอเตือนเซเลน่าอย่างรวดเร็วว่า “เซเลน่า แม่เตือนแล้วว่าอย่าตกหลุมรักคำพูดที่ไพเราะของมัน มันจะไม่มีทางเป็นลูกเขยของเราเด็ดขาด ถ้าไม่สามารถให้ของขวัญวันหมั้นมูลค่า 10 ล้านเหรียญแก่เราได้ ลูกต้องไม่ยอมให้มันแตะต้องตัวลูกจนกว่าจะถึงตอนน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 38

    ภายในห้องนอน ใช้เวลาเพียงไม่นานหลังจากที่ฟังเรื่องราวของเฟนด์ ไคลีก็เผลอหลับไปทันย่าก็มาถึงบ้านของครอบครัวเดรกแล้ว เธอเข้าไปหาพ่อของเธอ"เป็นยังไงบ้าง แกเจอผู้ชายที่ชื่อเฟนด์ไหม"เจมส์ถามทันย่าอย่างกระตือรือร้นทันทีที่เห็นเธอทันย่ารินไวน์ให้ตัวเองครึ่งแก้ว เธอหมุนแก้วไปรอบ ๆ ก่อนจะจิบ แล้วเธอก็พูดว่า “ใช่ หนูเจอเขา เขาค่อนข้างดูดี และเป็นสุภาพบุรุษมาก!”เจมส์พูดไม่ออก "ฉันขอให้แกชื่นชมใบหน้าของเขางั้นหรือ ฉันให้แกติดต่อเขาแล้วตีสนิทกับเขา ฉันคิดว่ามันมีเพื่อนอีกคน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ดีเท่าเทพเจ้าแห่งสงครามลาน่า แต่พวกเขาก็คล้ายกันมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาและลาน่าสนิทกัน การตีสนิทกับพวกเขาหมายความว่าเราจะรู้จักเทพเจ้าแห่งสงครามมากขึ้น”ทันย่าจิบไวน์ของเธออีกครั้ง เธอวางแก้วของเธอลงบนโต๊ะและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พ่อ หนูไม่เข้าใจถ้าเราอยากประจบประแจงเทพเจ้าแห่งสงครามจากอาณาเขตกลาง ทำไมเราไม่ตามไปตอแยลาน่าไปซะเลย ทั้ง ๆ ที่สถานะของเฟนด์ก็ไม่ได้สูงและเขาไม่สามารถเก่งไปกว่าเทพเจ้าแห่งสงครามใช่ไหม?”“ฮ่า ๆ แกนี่ไม่รู้อะไรเลย"ดวงตาของเจมส์แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของสติปัญญา เขา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 39

    “อีวานมีเรื่องอะไร? ลูกนัดทุกคนมารวมตัวกันเวลาเช้าขนาดนี้ มีเรื่องอะไรสำคัญที่จะบอกพวกเรางั้นเหรอ?”ธีโอดอร์ หัวหน้าครอบครัวเทย์เลอร์ ถามด้วยความสับสนขณะที่เขามองไปที่ลูกชายของเขา“ผมมีข่าวดีสำหรับทุกคน ผมได้รับโปรเจกต์ใหญ่ในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือเราไม่เคยทำงานในโปรเจกต์ราคาแพงขนาดนี้มาก่อน ผมคาดว่าเราจะมีรายได้อย่างน้อย 300 ล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์นี้"อีวานยิ้มขณะที่เขาพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจเขาเชื่อว่าไมเคิลเป็นคนพูด เขาจึงไม่สามารถกลั้นความตื่นเต้นที่มีอยู่นั้นได้ มือได้ของเขาสั่น เขาเรียกทุกคนมาแล้วเล่าสิ่งนี้ให้ฟัง“ยอดเยี่ยมไปเลย นี่มันจะต้องเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่จริง ๆ !"“ถูกต้อง นายน้อยอีวานเป็นคนเก่ง เขาสามารถทำให้เราได้โปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลกำไร มันต้องสูงมากแน่นอนญาติบางคนจากครอบครัวเทย์เลอร์ ต่างเอ่ยปากชื่นชมอีวาน"จริงเหรอนี่? ลูกได้เซ็นสัญญารึเปล่า?"นายใหญ่เทย์เลอร์ มีความสุขมากหลังจากที่ได้ยินข่าว มันจะเป็นผลกำไรมหาศาล เป็นเวลานานพอสมควรที่ครอบครัวเทย์เลอร์เคยได้รับโปรเจกต์ครั้งสุดท้าย ซึ่งมีมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสนใจกับโป

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status