แชร์

บทที่ 33

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ในที่สุด ทันย่าก็เฝ้ามองดูที่เฟนด์และคนอื่น ๆ ค่อย ๆเดินจากไป

“คุณคงได้เรียนรู้บทเรียนของคุณแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะปล่อยคุณไป หากฉันรู้ว่าคุณยังคงไปรบกวนพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องของวันนี้อีก ฉันจะไม่สนใจว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัววิลสันหรือไม่!”

หลังจากเฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไปทันย่าก็เตือนพวกเขาก่อนที่เธอและคนของเธอจะขับรถออกไป

“ทันย่า เดรก ฉุนเฉียวมาก! ทำไมเธอไม่มาให้ช้ากว่านี้ หรือเร็วกว่านี้ แทนที่จะมาตรงเวลา?”

เธอมาถึงเพียงไม่กี่นาทีต่อมา หรือรอจนกว่าเซเล่น่าและคนอื่น ๆ จะจากไป ไม่งั้นสิ่งต่าง ๆ ก็จะไม่ถูกจัดการให้เป็นระเบียบเช่นนี้!”

เมื่อหันมามองความเสียหายที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องสูญเสียครั้งใหญ่แน่นอน ผู้จัดการอ้วนรู้สึกโกรธมาก

เขาไม่รู้เลยว่าในขณะนั้นไมเคิลกำลังรู้สึกสนุกสนาน อยู่ภายในในห้องส่วนตัว

“เยี่ยมไปเลยนายน้อยวิลสัน วิธีการของคุณได้ผลจริง!”

“ใบหน้าของเซเลน่าซีดลงทันที เมื่อเธอได้ยินว่าต้องจ่ายเงิน 4,000,000 เหรียญ เฟนด์ไม่มีเงินมากขนาดนั้น ฉันพนันได้เลยว่าเขามีเงินไม่ถึง 400,000 เหรียญ!”

“เซเลน่าไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อฉันขู่เธอ เอาลูกสาวและพ่อแม่ของเธอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 34

    “จริงเหรอ?”ตาของไมเคิลสว่างขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาคิดแค่ว่าจะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงครั้งเดียว แต่ก็ดีกว่าการที่จะไม่ได้ตัวเทพธิดาไปตลอดชีวิตก่อนหน้านี้เขาภาวนาให้ครอบครัวของเซเลน่าไม่มีผู้ชายกลับมา เซเลน่าก็คงจะเป็นแม่หม้ายถ้าหากเฟนด์เสียชีวิตลง จากนั้นไม่ช้าก็เร็วเธออาจจะรู้สึกสะเทือนใจ แล้วก็คงจะตกลงที่จะยอมอยู่กับเขา เพราะความพยายามของเขาที่ชอบเธอมานาน เขาไม่ได้คาดหวังว่า เฟนด์ซึ่งเป็นทหารจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาเขารู้สึกว่าความเป็นไปได้ที่จะได้แต่งงานกับเซเลน่านั้นเบาบางเกินไปดังนั้นเมื่ออีวานบอกวิธีการของเขา เขาก็ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก หลังจากที่เขารอวันนั้นมาหลายปี“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่นายน้อยวิลสัน เกี่ยวกับผลกำไรจากโครงการที่เรากำลังดำเนินการกัน ... "อีวานยิ้มอย่างเย็นชา เขาต้องการทำกำไรให้ธุรกิจของครอบครัวเทย์เลอร์เจริญรุ่งเรือง เขาจะเป็นผู้สนับสนุนหลักหากครอบครัวเทย์เลอร์ทำเงินได้เมื่อถึงเวลานั้นเขาสามารถรักษาตำแหน่งของเขาได้ และจะไม่มีใครสามารถมาแย่งตำแหน่งในการเป็นผู

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 35

    “พวกแกมีตั้งมากมาย แต่ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้? ไม่มีใครตอบโต้กลับ? แกแค่นั่งดูพวกเขาทำลายร้านอย่างงั้นเหรอ”เมื่อมองไปที่คนของเขาที่ยืนอยู่ที่นั่น ไมเคิล ก็โกรธมาก “ฉันจ้างพวกแกเพื่ออะไร?”“นายน้อยวิลสัน ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้ต่อสู้หรือหยุดพวกเขาไม่ได้ แต่เป็นเพราะเราไม่กล้าที่จะสู้!”ผู้จัดการไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ “เฟนด์ ไม่ใช่คนที่ทำสิ่งนี้ แต่เป็นบอดี้การ์ดของคุณทันย่า”“ทันย่า เดรก?”ไมเคิลกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินชื่อ “ผู้หญิงคนนั้น ทำไมเธอถึงมาที่นี่และทำลายสถานที่ของเรา”“เอ่อ เธอเดินผ่านร้านอาหารของเรา แล้วคิดว่ามันดูดีเลยอยากจะแวะเข้ามาทานอาหาร หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็ปกป้องพวกเขาและบอกว่าเราไม่ควรแบล็กเมล์พวกเขา หลังจากนั้นเธอก็ทำลายสถานที่!”“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอปล่อยให้เฟนด์ และคนอื่น ๆ จากไปโดยไม่ต้องจ่ายเงิน เธอยังเตือนเราว่าอย่าไปรบกวนพวกเขาอีกต่อไป!”ผู้จัดการถอนหายใจ “ท้ายที่สุดเฟนด์ และคุณเทย์เลอร์ ก็เป็นหนี้บุญคุณของคุณทันย่า ก่อนที่คุณเทย์เลอร์จะจากไปเธออยากให้ผมบอกกับคุณว่า คุณไม่ใช่สาเหตุที่พวกเขาไม่ยอมจ่ายเงินให้ แต่เป็นเพราะคุณทันย่าบอกให้พว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 36

    "แกน่ะเหรอจะจ่าย 400,000 เหรียญ?"ฟีโอน่าหัวเราะอย่างเหยียดหยามเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น “แกแค่แสดงต่อไป แกดูตัวเองสิ ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าแกจะมีเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน”ความคิดที่เกิดขึ้นภายในใจของเธอหลังจากที่เธอพูดแบบนั้น เธอก็พูดกับเซเลน่าว่า "เซเลน่า ครอบครัวเทย์เลอร์ ทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ลูกทำงานให้พวกเขามาตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ลูกไม่สามาถรถทำมันได้ เพราะถูกขัดขวาง มันแย่มากสำหรับเรา แม้กระทั่งหางานจากหลายบริษัท หลาย ๆ ที่ก็ไม่กล้าที่จะจ้างลูกเพราะพวกเขายึดติดอยู่กับอีวาน!”“แม่พูดถูก ฉันไม่ได้มีทางเลือกอื่น เพราะอีวานเขาบอกแล้วว่า เขาต้องการให้ฉันโดดเดี่ยว ให้ฉันกลายเป็นคนเก็บขยะ! ไม่อย่างนั้นเขาจะสร้างเรื่องวุ่นวายไม่เลิก ต่อให้ฉันไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครกล้ารับ คนเหล่านั้นไม่อยากทำให้เขาขุ่นเคืองดังนั้นพวกเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะมีปัญหา”เซเลน่าถอนหายใจ “เมื่อเฟนด์กลับมาแล้วครอบครัวของเราจะดีขึ้น เราทั้งคู่จะทำงานกัน!”"มันเป็นความจริงถึงแม้ว่ามันอาจจะดูยากไปสักหน่อย แต่ตอนนี้เราคงจะไม่ทุกข์ยากกันขนาดนั้น ถ้าหากเราหางานทำกันได้!"ฟีโอน่าถอนหายใจ "

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 37

    เรื่องนี้ทำให้ฟีโอน่าชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ถ้าเกิดแกทำไม่ได้ ลูกเขยของฉันอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นนายน้อยวิลสัน หรือนายน้อยคลาร์ก ก็ได้ ฮ่า ๆ!”เฟนด์ดึงเซเลน่าออกมา เมื่อเขาเห็นเธอกำลังจะถกเถียงกับฟีโอน่า “ลืมมันไปซะ! เซเลน่า แม่ของคุณพูดถูก คุณเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังในวันเกิดของปู่ คุณจะเป็นผู้หญิงของผม และจะไม่มีใครสามารถพรากคุณไปจากผมได้!”เมื่อเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเฟนด์ แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเซเลน่าก็หายไป แทนทีด้วยความอบอุ่นเติมเต็มในหัวใจของเธอแทนเธอพยักหน้าอย่างเขิน ๆ และพูดว่า “ค่ะ ฉันเชื่อในตัวคุณ ฉันได้ยินมาว่าในสนามรบนั้นอันตรายมาก มีผู้เสียชีวิตมากมาย แต่คุณอยู่ที่นั่นมาห้าปี และรอดปลอดภัยกลับมา ฉันเชื่อว่าคุณต้องทำได้ดีกว่าคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน”ใบหน้าของฟีโอน่าเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้ยินคำหวานเลี่ยนเหล่านั้น เธอเตือนเซเลน่าอย่างรวดเร็วว่า “เซเลน่า แม่เตือนแล้วว่าอย่าตกหลุมรักคำพูดที่ไพเราะของมัน มันจะไม่มีทางเป็นลูกเขยของเราเด็ดขาด ถ้าไม่สามารถให้ของขวัญวันหมั้นมูลค่า 10 ล้านเหรียญแก่เราได้ ลูกต้องไม่ยอมให้มันแตะต้องตัวลูกจนกว่าจะถึงตอนน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 38

    ภายในห้องนอน ใช้เวลาเพียงไม่นานหลังจากที่ฟังเรื่องราวของเฟนด์ ไคลีก็เผลอหลับไปทันย่าก็มาถึงบ้านของครอบครัวเดรกแล้ว เธอเข้าไปหาพ่อของเธอ"เป็นยังไงบ้าง แกเจอผู้ชายที่ชื่อเฟนด์ไหม"เจมส์ถามทันย่าอย่างกระตือรือร้นทันทีที่เห็นเธอทันย่ารินไวน์ให้ตัวเองครึ่งแก้ว เธอหมุนแก้วไปรอบ ๆ ก่อนจะจิบ แล้วเธอก็พูดว่า “ใช่ หนูเจอเขา เขาค่อนข้างดูดี และเป็นสุภาพบุรุษมาก!”เจมส์พูดไม่ออก "ฉันขอให้แกชื่นชมใบหน้าของเขางั้นหรือ ฉันให้แกติดต่อเขาแล้วตีสนิทกับเขา ฉันคิดว่ามันมีเพื่อนอีกคน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ดีเท่าเทพเจ้าแห่งสงครามลาน่า แต่พวกเขาก็คล้ายกันมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาและลาน่าสนิทกัน การตีสนิทกับพวกเขาหมายความว่าเราจะรู้จักเทพเจ้าแห่งสงครามมากขึ้น”ทันย่าจิบไวน์ของเธออีกครั้ง เธอวางแก้วของเธอลงบนโต๊ะและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พ่อ หนูไม่เข้าใจถ้าเราอยากประจบประแจงเทพเจ้าแห่งสงครามจากอาณาเขตกลาง ทำไมเราไม่ตามไปตอแยลาน่าไปซะเลย ทั้ง ๆ ที่สถานะของเฟนด์ก็ไม่ได้สูงและเขาไม่สามารถเก่งไปกว่าเทพเจ้าแห่งสงครามใช่ไหม?”“ฮ่า ๆ แกนี่ไม่รู้อะไรเลย"ดวงตาของเจมส์แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของสติปัญญา เขา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 39

    “อีวานมีเรื่องอะไร? ลูกนัดทุกคนมารวมตัวกันเวลาเช้าขนาดนี้ มีเรื่องอะไรสำคัญที่จะบอกพวกเรางั้นเหรอ?”ธีโอดอร์ หัวหน้าครอบครัวเทย์เลอร์ ถามด้วยความสับสนขณะที่เขามองไปที่ลูกชายของเขา“ผมมีข่าวดีสำหรับทุกคน ผมได้รับโปรเจกต์ใหญ่ในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือเราไม่เคยทำงานในโปรเจกต์ราคาแพงขนาดนี้มาก่อน ผมคาดว่าเราจะมีรายได้อย่างน้อย 300 ล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์นี้"อีวานยิ้มขณะที่เขาพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจเขาเชื่อว่าไมเคิลเป็นคนพูด เขาจึงไม่สามารถกลั้นความตื่นเต้นที่มีอยู่นั้นได้ มือได้ของเขาสั่น เขาเรียกทุกคนมาแล้วเล่าสิ่งนี้ให้ฟัง“ยอดเยี่ยมไปเลย นี่มันจะต้องเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่จริง ๆ !"“ถูกต้อง นายน้อยอีวานเป็นคนเก่ง เขาสามารถทำให้เราได้โปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลกำไร มันต้องสูงมากแน่นอนญาติบางคนจากครอบครัวเทย์เลอร์ ต่างเอ่ยปากชื่นชมอีวาน"จริงเหรอนี่? ลูกได้เซ็นสัญญารึเปล่า?"นายใหญ่เทย์เลอร์ มีความสุขมากหลังจากที่ได้ยินข่าว มันจะเป็นผลกำไรมหาศาล เป็นเวลานานพอสมควรที่ครอบครัวเทย์เลอร์เคยได้รับโปรเจกต์ครั้งสุดท้าย ซึ่งมีมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสนใจกับโป

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 40

    “คุณต้องการเชิญพวกบ้านนอกมา? นายน้อยอีวาน คุณกำลังจะพยายามโอ้อวดใช่ไหม? เซซิลีอา ก้าวไปข้างหน้าไม่ทันคาดคิด และเปิดเผยความตั้งใจของอีวานจนหมดอีวานหน้าเสียทันที เขาอธิบายอย่างรีบร้อน “พูดเรื่องไร้สาระอะไร? ฉันดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”อีวานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ยังไงซะ เซเลน่าก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเทย์เลอร์ เธอก็เป็นหลานสาวของคุณปู่เช่นกัน งานนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัวเทย์เลอร์ การเชิญเธอมาร่วมงานก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเราเช่นกัน ผู้ที่มีอิทธิพลรอบข้าง จะได้ไม่มองว่าเราแล้งน้ำใจ ถ้าพวกเขารู้ว่าเราไม่ได้เชิญเธอมา ถึงจะเพิ่มมาอีกสักสองสามคน ก็คงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอะไรมากมายจริงไหม?นายใหญ่เทย์เลอร์ รู้สึกพึงพอใจ “ที่จริงอีวานก็เริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น วันนี้แกโตเป็นผู้ใหญ่ เริ่มมีความคิดแล้ว แกต้องรักษาความคิดนี้เอาไว้ หากแกต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตหลังจากนั้น ช่วงเวลาห้าปีหลาย ๆ คนก็ลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไปแล้ว คงไม่แปลกหรอกที่จะชวนพวกเขามากินอาหารร่วมกัน!” “คุณปู่พูดถูกจริง ๆ นั่นคือความตั้งใจของผม ผมอยากให้พวกเขารู้ว่าเรามีน้ำใจต่อพวกเขาม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 41

    “ฮ่า ฮ่า นี่มันเป็นของแม่ แม่เอาไปเลย!”เฟนด์ หัวเราะและนำเงินไปก้อนนั้นไปไว้ในมือของโจแอน ดวงตาของฟีโอน่าเปล่งประกายขึ้นทันทีเมื่อเธอเห็นสิ่งนี้ เธอเดินไปเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “นี่ไอ้เด็กเหลือขอ แกให้เงินแม่ของแกแค่บางส่วนเท่านั้นเหรอ? แล้วพวกฉันล่ะ? ฉันดูแลลูกของแก แถมยังต้องทนทุกข์ทรมาน ทำไมถึงไม่ให้อะไรกับพวกฉันเป็นค่าตอบแทน? แกควรจะให้เงินที่ฉันต้องหมดไปกับการเลี้ยงดูลูกของแก มันถูกต้องใช่หรือไม่?”เจนนี่ คนรับใช้ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีก เธอพึมพำขึ้นมา “ตลอดช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา คูณไม่ได้ออกไปทำงานเลย แล้วคุณจะเอาเงินมาจากไหนมาดูแลหนูไคลี เงินที่ดูแลหนูไคลีก็ได้มาก็ได้จากแม่ของเธอเก็บขยะขาย และโจแอนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน คุณไม่ได้ควักเงินสักบาทแล้วคุณจะกล้าขอค่าตอบแทนได้อย่างไร?”หลังจากได้ยินแบบนั้น ฟีโอน่าพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “นังโง่ แกกำลังพูดถึงอะไร? เป็นแค่สาวอย่ามาเสนอหน้ายุ่งเรื่องของเจ้านาย”“แม่! จริง ๆ แล้วถ้าแม่ต้องการเงิน แม่แค่ยอมรับว่าที่ลูกเขยคนนี้ไม่เห็นมีอะไรยากเลย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะให้เงินแม่ไปทำไม”เซเลน่าเดินมาหาแม่ของเธอ เธอกลอกตามองไปที่แม่ขอ

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status