“แต่การที่มีคนมาที่นี่มากขนาดนี้ แม้กระทั่งคนจากเมืองชั้นในนั่นก็หมายความว่าข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายไปนานแล้ว แต่พันธมิตรอาจจะเลือกกุมความลับนี้ไว้แทน คุณคิดว่าพันธมิตรต้องการอะไรกันแน่?”คำถามนั้นคือสิ่งที่เฟนด์คิด แต่เขารู้น้อยเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะคาดเดาอะไรได้รองเหรัญญิกมองไปที่เฟนด์ด้วยความชื่นชม เฟนด์ยังคงเป็นคนที่สามารถเข้าใจหลักสำคัญของปัญหาและตั้งคำถามที่มีความหมายได้ รองเหรัญญิกคิดอยู่นานก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“ฉันก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ฉันรู้สึกได้เลยว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ แต่ช่วงนี้ฉันไม่ได้รับข่าวคราวอะไรเลย…”เฟนด์ถอนหายใจ แม้แต่รองเหรัญญิกยังไม่รู้ น้ำหน้าอย่างเขาจึงไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยเขาหันไปมองทุกคนที่อยู่บนดาดฟ้า และจนพบว่าบนใบหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างชัดเจนเหนือสิ่งอื่นใดการได้เป็นบัณฑิตของพันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุถือเป็นตำแหน่งที่ดีกว่าตำแหน่งปัจจุบันมาก พวกเขาจะได้รับทรัพยากรมากขึ้นและเส้นทางในอนาคตก็จะราบรื่นขึ้นอีกด้วยบรรดาผู้ที่อยู่ที่นั่นได้ผ่านกระบวนการคัดเลือกกันมาแล้ว หลายคนเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างที่กิ
“ในภายภาคหน้า วิมานโอสถอาจได้รับเกียรติดังกล่าว แต่การที่เราพยายามจะเปิดร้านเพียงสองสามแห่งก็ทำให้เราเข้าไปพัวพันกับโอสถอำไพมาศโดยไม่รู้ตัว “พวกเขาจงใจวางหลุมพราง เราไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ของที่นั่นและสุดท้ายก็ตกหลุมพรางพวกเขา เราไม่เพียงแต่เปิดร้านไม่ได้เท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเราด้วย”“ในช่วงเวลานั้น แม้แต่ธุรกิจของเราในเมืองปักษาสีชาดก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เรากลายเป็นเพียงตัวตลก และนั่นนับว่าน่าอับอายมาก หลังจากนั้นเราก็พบว่านี่เป็นฝีมือของโอสถอำไพมาศ”เฟนด์ขมวดคิ้ว ดูเหมือนก่อนหน้านี้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น แม้ว่ารองเหรัญญิกจะไม่ได้ลงรายละเอียด แต่เฟนด์ก็สามารถบอกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นไม่มากก็น้อยผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดสำหรับธุรกิจโดยปกติแล้วก็คือข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์หรือการเบี้ยวสัญญา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน มันก็จะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับทั้งร้านค้าและผู้บริหารเบื้องหลังได้เมื่อเห็นรองเหรัญญิกกัดฟันพูดเช่นนั้น พวกเขาก็จินตนาการได้ถึงความลำบากที่วิมานโอสถต้องเผชิญหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เฟนด์ถอนหายใจโดยไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้ในตอนนั้นเองที
แม้แต่กิลเบิร์ตและแอนดรูว์ก็ยังตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน เฟนด์ขมวดคิ้วขณะมองดูพวกเขา อย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงมีปฏิกิริยากันมากขนาดนี้ ขณะที่ทั้งสองคนยืนอยู่บนดาดฟ้า การสนทนารอบตัวพวกเขาก็ดังขึ้น แม้จะอยู่ห่างไกล แต่เฟนด์ก็ยังได้ยินสิ่งที่คนเหล่านั้นกำลังพูดถึง“เกรย์สันเป็นศิษย์ภายในไปแล้วไม่ใช่เหรอ! ทำไมเขาต้องมาแย่งตำแหน่งบัณฑิตของพวกเราด้วย? หรือว่าพวกเขาจะมีแผนอื่น?”“ใครจะรู้ พวกเขาอาจมีแผนการลับบางอย่างก็ได้ เราเคยได้ยินชื่อของเกรย์สันมาสองสามครั้งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้ชายคนนั้นเป็นอัจฉริยะ แต่ด้านการต่อสู้เขาอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนักและหลายปีมานี้ก็เป็นเพียงลูกศิษย์นอกสำนัก แต่นับตั้งแต่เขาเริ่มแสดงศักยภาพอันน่าทึ่งในทักษะด้านการเล่นแร่แปรธาตุ คุณค่าของเขาก็พุ่งสูงขึ้น”“เขาใช้เวลาเพียงหนึ่งปีก็สามารถเลื่อนขั้นจากศิษย์นอกสำนักมาเป็นศิษย์ภายในได้! ไม่ว่าใครก็อิจฉาเขาทั้งนั้น”เฟนด์กระพริบตาปริบ ๆ ไม่น่าแปลกใจแล้วว่าทำไมพวกเขาจึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ เกรย์สันอาศัยพรสวรรค์ด้านการเล่นแร่แปรธาตุในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนนี่เองเฟนด์
เฟนด์ได้ยินคำพูดของรองเหรัญญิกและได้แต่ครุ่นคิด จากคำพูดของรองเหรัญญิก สถานการณ์ดูเหมือนจะเริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆด้วยพรสวรรค์ของเกรย์สัน ไม่มีทางที่สำนักปักษาสีชาดจะปล่อยเขามาแบบนี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็พบว่ามันต้องมีเรื่องลึกเบื้องหลังอะไรนอกจากนี้เขามาที่นี่เพื่อจะมาเป็นบัณฑิต ซึ่งเทียบอะไรไม่ได้กับตำแหน่งศิษย์ภายใน นอกจากนี้สำนักปักษาสีชาดยังเป็นสำนักระดับห้าอีกด้วย เกรย์สันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการหาทรัพยากรใด ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองเลยผู้อาวุโสของสำนักปักษาสีชาดคงยอมทำทุกอย่างเพื่อจะเลี้ยงดูเขาเอาไว้อย่างแน่นอน ตราบใดที่เกรย์สันไม่หยุดพัฒนา ในอนาคตเขาก็สามารถขึ้นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับเจ็ดได้ไม่ยาก และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสำนักปักษาสีชาดอย่างมากทีเดียวแทบทุกสำนักอยากจะมีนักเล่นแร่แปรธาตุเป็นของตนเอง เมื่อนักเล่นแร่แปรธาตุพัฒนาได้อย่างเต็มความสามารถ เขาจะสามารถช่วยปรับแต่งยาให้กับเหล่าศิษย์ของสำนักและแม้กระทั่งช่วยดูแลนักเล่นแร่แปรธาตุรุ่นต่อ ๆ ไปได้อีกด้วยแต่การเล่นแร่แปรธาตุเป็นอาชีพที่ต้องใช้พรสวรรค์อย่างมาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้“เขาจะมาที่นี่เพื่อเข้าเป็
ผู้นำสองสามคนแสดงความเคารพเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดร้องออกมาว่า "สวัสดี ผู้อาวุโสเทิร์นเนอร์!"บุคคลนั้นเป็นผู้อาวุโสภายในสหพันธ์พันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งรัฐตอนกลาง ไม่ว่าจะไปที่ไหน สถานะของผู้อาวุโสก็ยังคงได้รับความเคารพอย่างดี เฟนด์อดไม่ได้ที่จะมองดูผู้อาวุโสเทิร์นเนอร์อีกครั้งเขาดูเป็นมิตรมาก ใบหน้าของเขากลมและยิ้มแย้ม มีเพียงเศษเสี้ยวความโหดเหี้ยมที่ไม่อาจเก็บซ่อนไว้ในดวงตาของเขา เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่เป็นมิตรอย่างที่คิดเลยผู้อาวุโสเทิร์นเนอร์โบกมือให้ผู้มาเยือนทุกคนและพูดว่า "ทุกท่าน ขอบคุณมากที่มาในวันนี้ ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีผู้คนมามากมายถึงเพียงนี้ แต่ด้วยคำสั่งจากเบื้องบน เราย่อมขัดไม่ได้"หลังจากที่ผู้อาวุโสเทิร์นเนอร์พูดจบ เขาก็มองทุกคนอย่างมีความหมาย หลังจากนั้นเขาก็ชูนิ้วทั้งห้าขึ้นแล้วพูดว่า "แค่ห้า! วันนี้เราจะรับศิษย์เพียงห้าคนเท่านั้น!"เฟนด์ไม่ใช่คนเดียวที่ตะลึงกับคำพูดเหล่านั้น ทุกคนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยิน เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครทันตั้งตัว รับศิษย์เพียงห้าคน? ทั้งที่บนดาดฟ้านี่มีคนอยู่อย่างน้อยแปดสิบคนน่ะหรือจำนวนแปดสิบคนล้วนเป็นบุคคลที่มีความสามารถในส
เฟนด์เลิกคิ้วขึ้น เห็นได้จากสีหน้าของรองเหรัญญิกว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย นอกจากซีนย์และคอนสแตนซ์แล้ว ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงทั้งไม่ต้องละทิ้งตำแหน่งในปัจจุบันของตัวเองแถมยังได้รับทรัพยากรจากสหพันธ์อีก นี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับทั้งเหล่าบัณฑิตและสำนักของพวกเขานี่แปลอย่างง่าย ๆ ว่าสหพันธ์กำลังเลี้ยงลูกให้คนอื่น หากพวกเขาไม่ได้ยินกับหูคงไม่มีทางเชื่อแน่ว่าจะมีเรื่องดีแบบนี้เกิดขึ้นในโลกเฟนด์ขมวดคิ้วขณะมองผู้อาวุโสอย่างนึกสงสัย แม้ว่ามันจะฟังดูคล้ายเป็นเรื่องที่ดี แต่เฟนด์ก็รู้แก่ใจดีว่าไม่มีใครเต็มใจจะเสียผลประโยชน์ตัวเองเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสหพันธ์เลยสหพันธ์พันธมิตรนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งรัฐตอนกลางจะต้องมีเหตุผลในการทำเช่นนั้น ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนเงียบ การสนทนาของทุกคนเงียบลงเมื่อผู้อาวุโสฮอร์สท์ยกมือขึ้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ยิ้มและพูดว่า "ฉันรู้ว่าทุกคนกำลังคาดเดาอะไรอยู่ จริง ๆ แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องคาดเดาอะไรทั้งนั้น สหพันธ์กำลังประสบปัญหาเล็กน้อย และเราต้องการความช่วยเหลือจากอัจฉริยะบางคน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เราถึงขอให้ทุกคนมารวมตัวกันที่
“ฉันจะขอเตือนทุกคนอีกครั้ง การทดสอบในครั้งนี้ต่างจากครั้งไหน ๆ เมื่อได้รับเลือกแล้ว จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด และการเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกก็ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”คำพูดเหล่านั้นทำให้ทุกคนที่ได้ยินเบิกตากว้าง มันกระตุ้นความกระหายชัยชนะของทุกคน นี่คือสมบัติล้ำค่า ซึ่งทำให้บัณฑิตในปัจจุบันน้ำลายสอสหพันธ์ไม่เคยเลี้ยงดูใครเช่นนี้มาก่อน และมันต้องเป็นข้อตกลงที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน แม้ว่าจะฟังดูเหมือนคำลวงเพื่อหลอกล่อพวกเขา แต่สหพันธ์นี้ไม่ใช่สำนักเล็ก ๆ พวกเขาต้องรักษาคำพูดของตัวเองอย่างแน่นอนทันทีที่พวกเขานึกถึงสิ่งที่เขาจะได้รับจากสหพันธ์ มือของพวกเขาก็เริ่มสั่นด้วยความตื่นเต้น แรงกระตุ้นเข้าครอบครองร่างกาย แต่เฟนด์กลับไม่ได้สนใจคำพูดสองสามประโยคสุดท้ายที่ออกมาจากปากของผู้อาวุโสฮอร์สท์เลยมีเวลาสิบห้านาทีให้ทุกคนคิดหาวิธีพิสูจน์ศักยภาพและความสามารถของตนเองได้ เฟนด์ได้แต่นึกสงสัยว่านอกเหนือจากการสร้างอักขระทางยาแล้ว นักเล่นแร่แปรธาตุจะสามารถพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาได้อย่างไรอีกเฟนด์ไม่อาจแม้แต่จะคิดถึงเรื่องนี้ได้ในขณะนั้น แม้ว่าจะมีผู้คนมากมาย แต่ก็ไม่มีใคร
เกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วตอบว่า "พวกนายทุกคนมาที่นี่ก็แค่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้น แต่อย่างน้อยนายก็กล้าพอที่จะพูดกับฉันแบบนี้ ฉันต้องยอมรับเลย”“ถ้านายสามารถสร้างอักขระทางยาได้ห้าร้อยอักษร ฉันจะยอมรับในตัวนายก็ได้ แต่ดูหน้าแล้ว กว่าจะสร้างอักขระทางยาได้สักร้อยอักษรคงต้องใช้พรสวรรค์อย่างมากเลยทีเดียว!”คนที่ถูกเกรย์สันตำหนิโกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขาได้แต่นิ่งเงียบ ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก เกรย์สันพูดถูก เขาไม่สามารถสร้างอักขระทางยาได้ถึงร้อยอักษรด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงห้าร้อยอักษรเลยท้ายที่สุดแล้ว มรรคาแห่งโอสถก็เป็นสิ่งที่ลึกล้ำและยากจะเข้าใจมาโดยตลอด หากไร้ซึ่งพรสวรรค์สูงส่ง ก็ไม่มีทางที่จะศึกษาวิธีสร้างอักขระทางยาห้าร้อยอักษรในระยะเวลาอันสั้นได้ความแตกต่างระหว่างพรสวรรค์ของเขากับของเกรย์สันก็เป็นสิ่งที่เห็น ๆ กันอยู่ แม้ว่าเขาจะดื้อรั้น แต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ในเมื่ออีกไม่นานพวกเขาก็ต้องเริ่มทำการทดสอบแล้ว“เกรย์สันดูมั่นใจในตัวเองมากทีเดียว…” จู่ ๆ คนที่อยู่เบื้องหลังคอนสแตนซ์ก็พูดขึ้นเฟนด์ขมวดคิ้วและมองตามเสียงไป เขาสังเกตเห็นว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่มองพวกเขาด้วยส