แชร์

บทที่ 2406

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
มันทำให้ราฟาเอลหยุดหัวเราะทันที เขาไอเบา ๆ และลูบจมูก

“ยังไงก็เถอะ ฉันจะถือว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่นายพูดวันนี้ก็แล้วกัน นายควรดูแลตัวเองให้ดี ถ้านายมีเวลาเหลือมาพูดจาแบบนี้ ทำไมไม่ลองไปรับงานบางอย่างเพื่อรับคะแนนบุญเพิ่มล่ะ เพราะหากนายได้คะแนนบุญสองร้อยแต้ม นายก็จะสามารถศึกษามรรคาแห่งโอสถได้นี่นา”

เฟนด์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกเหมือนว่าเขาทำเรื่องไร้สาระทั้งชีวิตไปแล้วในวันนั้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า "ราฟาเอล คุณไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมบอกกับคุณก่อนหน้านี้งั้นหรือ จะให้ผมพูดซ้ำอีกครั้งหรือเปล่า"

คำพูดเหล่านั้นทำให้ใบหน้าของราฟาเอลมืดครึ้มลงอย่างสมบูรณ์ ราฟาเอลขมวดคิ้วขณะที่เขาจ้องมองไปที่ชายผู้ดื้อรั้นคนนั้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “แล้วนายล่ะ? นายไม่เข้าใจคำพูดของฉันหรือแกล้งโง่กันแน่?”

หลังจากนั้นแววตาของเขาก็แสดงออกราวกับเขาคิดอะไรขึ้นได้ สีหน้าท่าทางของเขาดูดุดันขึ้นกว่าเดิม “นายมาที่นี่เพราะคิดจะมาขโมยวัตถุดิบบางอย่างอย่างนั้นเหรอ? อย่างไรเสียนายก็ไม่มีปัญญาบ่มเพาะโอสถระดับหกได้หรอก นายคิดว่านายจะได้ใช้วัตถุดิบเหล่านั้นฟรี ๆ ใช่ไหม? นายก็แค่อ้างว่าอยากจะได้วัต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2407

    แม้จะถูกอีกฝ่ายเย้ยหยันแบบนั้น แต่เฟนด์ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด ท้ายที่สุดแล้วราฟาเอลไม่รู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง ราฟาเอลดูเหมือนจะเริ่มเสพติดการเย้ยหยันเฟนด์เข้าให้แล้วเฟนด์กำลังจะถามว่าเขาจะเข้าไปในห้องนั้นได้เลยหรือเปล่า แต่ราฟาเอลกลับไม่ให้โอกาสเฟนด์ได้พูดอะไรมากนัก เขาเย้ยหยันต่อไปว่า “นายคงไม่เคยเห็นอักขระทางยามาก่อน นับตั้งแต่ที่ฉันเข้าสู่วิมานโอสถ ฉันก็ยังไม่เคยเห็นใครได้รับแผ่นทองคำเลยนอกจากศิษย์พี่ใหญ่ของเรา“ดูเหมือนว่านายจะคิดว่าตัวเองจะได้กลายเป็นคนที่สองที่ได้รับแผ่นทองสินะ”หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างไปจากนี้ เฟนด์คงจะตบหน้าผู้ชายคนนั้นสักครั้งสองครั้งไปแล้ว หมอนี่พูดมากราวกับเขารู้ไปเสียทุกเรื่อง เฟนด์หันกลับมามองราฟาเอลด้วยสีหน้าจริงจัง“ผมจะต้องได้รับแผ่นทองอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นผมจะเข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้แหละ ตราบใดที่ผมควบแน่นอักษาโอสถได้สองร้อยอักษร ห้องรังสีแห่งโอสถก็จะมอบแผ่นทองให้กับผมโดยปริยาย ใช่ไหม?”ราฟาเอลตกตะลึงไปอีกครั้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกเหมือนกับว่าการที่เขาประเมินว่าเฟนด์เป็นคนดื้อรั้นนั้นจะเป็นการประเมินต่ำเกินไป เรื่องต่าง ๆ มาถึงขั้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2408

    “นายบ้าไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? นายไม่เคยศึกษามรรคาแห่งโอสถมาก่อนเลย แล้วจะควบแน่นรังสีแห่งโอสถได้ยังไง นายรู้ไหมว่าข้างในนั้นเป็นยังไงบ้าง”เฟนด์ก็เมินเฉยต่อเขาเช่นเดิมเฟนด์ไม่ได้หันศีรษะกลับไปมอง ขณะที่เขากระแทกประตูที่อยู่ด้านหลังเขาปิดลง ทุกสิ่งรอบตัวเขาก็มืดลงทันที รอบตัวเขาไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้เลย นอกจากกลิ่นของโอสถแล้ว ก็ไม่มีอะไรบ่งชี้ให้เขาเห็นว่าเขาอยู่ที่ไหนเมื่อเผชิญหน้ากับความมืด เฟนด์ไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิด เนื่องจากรอบตัวเขาไม่มีอันตรายอะไร ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ขณะที่เขาสาวเท้าเข้าหาจุดที่กลิ่นของโอสถหนาแน่นที่สุด เขาพูดว่า "นี่น่าจะใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง!"เฟนด์ให้เวลาตัวเองสี่ชั่วโมงในการปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อม เขาจำเป็นต้องหลอมรวมจิตใจและร่างกายของเขาให้ได้ภายในสี่ชั่วโมง มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในขณะที่แสงสีทองเริ่มหมุนวนอยู่บนปลายนิ้วของเขาแสงสีทองบางเฉียบราวกับเส้นผม ขณะที่เฟนด์ขยับนิ้วของเขาอย่างคล่องแคล่ว ประกายของพวกมันก็เคลื่อนไหวไปในอากาศจนแปรเปลี่ยนเป็นอักขระทางยามีเสียงโครมครามดังขึ้น อักขระทางยาระเบิดไปในอากา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2409

    อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขายังคงต่อสู้หวังจะตามความทรงจำของเขาให้ทัน เขายังคงต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้ชินกับสภาพที่เป็นอยู่อย่างสมบูรณ์ เขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาเอื้อมมือออกไปและลบอักษาแห่งโอสถทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นทันใดนั้นน้ำเสียงกังวลของราฟาเอลก็ดังมาจากข้างนอก “เฟนด์! นายใช้เวลาอยู่ในนั้นพอหรือยัง นี่ก็ผ่านไปนานแล้วนะ ทีนี้นายรู้หรือยังว่านายไปถึงขั้นไหนแล้ว?“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยได้หรือเปล่า? เวลาส่วนใหญ่ที่ผู้คนใช้กันในห้องรังสีแห่งโอสถคือสี่ชั่วโมง ถ้านายยังอยู่ข้างในนั้นนานกว่านี้ นายก็จะกินเวลาของคนอื่นไปด้วย”เฟนด์เลิกคิ้วอย่างตื่นเต้น กฎนี้ค่อนข้างน่าประหลาดใจสำหรับเขา ทุกคนสามารถใช้เวลาฝึกฝนในห้องรังสีแห่งโลหิตในแต่ละวันได้สี่ชั่วโมงตราบใดที่เขายังคงฝึกฝนทุกวัน ในเวลาเพียงไม่กี่วันเขาก็น่าจะสามารถพัฒนาไปได้ไม่น้อย!ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหัวเราะเบา ๆ ขณะที่หันหลังกลับและเปิดประตูไป เขาเห็นราฟาเอลกำลังมองมาที่เขาด้วยคิ้วที่เลิกสูงและสายตามีนัยยะ สิ่งที่ทำให้เฟนด์ประหลาดใจก็คือกิลเบิร์ตเพื่อนเก่าของเขาอยู่ข้างหลังราฟาเอลด้วยกิลเบิร์ตมองเฟนด์ราวกับว่าเขาเป

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2410

    “ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้าย เลิกสร้างความรำคาญให้ผมไม่หยุดไม่หย่อนได้แล้ว ไม่อย่างนั้น ที่ผมเล่นงานคุณไปคราวก่อนจะถือเป็นการเรียกน้ำย่อยเท่านั้น”คำพูดของเฟนด์เป็นการราดน้ำมันลงกองไฟ มันทำให้กิลเบิร์ตระเบิดอารมณ์ทันใดนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าและตะโกนด้วยความโกรธ "เฟนด์! อย่าลำพองใจให้มันมากนัก ถึงแม้ว่าฉันจะเอาชนะนายในการต่อสู้ไม่ได้ แต่ฉันก็ยังมีวิธีจัดการกับนายอยู่ดี!"เฟนด์เม้มริมฝีปากและพูดด้วยท่าทีไม่แยแส “แน่จริงก็เอาเลย แต่ผมต้องขอเตือนคุณเอาไว้ก่อนเลยนะ ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยินอะไรแบบนี้จากปากของศัตรู และกลับกลายเป็นว่าพวกที่พูดแบบนี้นั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายประสบกับโศกนาฏกรรมเสียเอง"หลังจากพูดอย่างนั้น เฟนด์ก็ตัดสินใจไม่ยอมเสียเวลาอีก เขาหันหลังกลับและจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งทั้งสองคนไว้เบื้องหลังกิลเบิร์ตโกรธเคืองต่อเฟนด์เป็นอย่างยิ่ง ร่างกายของเขาสั่นไปหมด สายตาของเขาจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเฟนด์ นึกอยากจะเข้าไปจัดการเฟนด์อย่างหนักราฟาเอลเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีจึงรีบเอื้อมมือไปหยุดกิลเบิร์ตเอาไว้“กิลเบิร์ต ใจเย็น ๆ หมอนั่นมันโง่จะตาย ถ้าคุณตามไปสู้กับหมอนั้นล่ะก็ จ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2411

    ราคาเหล่านั้นถือเป็นมาตรฐานที่ต่ำที่สุดด้วยซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่าราคาสูงสุดของผลึกวิญญาณระดับเก้าจะมีมูลค่าเท่าไร ไม่ว่าจะมีมูลค่าเก้าสิบล้านหรือไม่ เฟนด์ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด แนชรู้ว่าทุกสิ่งที่เฟนด์ทำคือการเตรียมการเข้าสู่หุบเขารกชัฎเขาขมวดคิ้วและพูดว่า “ที่แห่งนั้นไม่ใช่เพียงเข้าไปยากเท่านั้น แต่ยังอันตรายอีกด้วย เราจำเป็นต้องตามหากุญแจนั่นจริง ๆ เหรอ?”เฟนด์พยักหน้าโดยไม่ลังเล “จำเป็น หีบปะการังแดงเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ยังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิง แม้ว่าผมจะอยู่ในทวีปเฮสเทียได้ค่อนข้างดี แต่นี่ไม่ใช่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของผม มันเป็นเพียงบันไดก้าวแรกเท่านั้น เราจำเป็นต้องก้าวขึ้นไปให้สูงกว่านี้ และไม่อาจยอมแพ้ได้ เราไม่อาจละทิ้งโอกาสที่จะได้ก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่านี้ได้“ทั้งหีบปะการังแดงและสิ่งที่อยู่ในหีบปะการังแดง ผมต้องการมันทั้งหมด ความลับของมันยังกวนใจผมไม่เลิก”เนื่องจากเฟนด์พูดมากขนาดนั้น แนชจึงไม่ยอมหยุดเขา สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือถอนหายใจเบา ๆ ขณะเดินไปตบไหล่เฟนด์“พ่อรู้ว่าลูกมีหัวใจที่กล้าหาญ แต่พ่อรู้สึกได้แล้วว่าหนทางข้างหน้าจะต้องลำบากมาก ลู

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2412

    เฟนด์ไม่ตอบเขา แต่ผลักประตูเปิดห้องรังสีแห่งโอสถไปอย่างใจเย็นแทน หลังจากมองดูการกระทำของอีกฝ่าย ราฟาเอลจึงไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งไปหาเฟนด์เขาเอื้อมมือออกไป ดึงเฟนด์กลับมาแล้วพูดว่า "เฟนด์ ฉันได้ยินมาว่านายไม่ได้รับคะแนนบุญเลยแม้แต่แต้มเดียวตั้งแต่นายเข้ามาในวิมานโอสถ ถูกต้องไหม?"เฟนด์สูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาอยากจะตบราฟาเอลให้ประเด็นออกไปจริง ๆ แต่ถ้าเขาทำเช่นนั้นมันก็มีแต่จะทำให้เกิดปัญหาเขาจึงระงับความหงุดหงิดและความโกรธเอาไว้ แล้วพยักหน้ารับทันทีแน่นอนว่าเขาไม่สนใจคะแนนบุญอะไรพวกนั้นเลย สำหรับเฟนด์ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องไร้สาระ โอสถเพลิงสีชาดเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผู้คนที่นี่แต่เฟนด์มีโอสถแห่งสุญญะอยู่แล้ว โอสถเพลิงสีชาดจึงเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับเฟนด์ มันเป็นสิ่งที่ต่อให้คนพวกนี้จะมอบให้เขา เฟนด์ก็ไม่ต้องการ“ตอนนี้ยังไม่มีใครใช้ห้องรังสีโอสถ การที่ผมจะเข้าไปในนั้นไม่ได้รบกวนใคร เพราะงั้นปล่อยผมไปเถอะ ตกลงไหม? เพราะผมเองก็มีสิทธิ์ใช้ห้องนี้ด้วยเหมือนกันนี่” เฟนด์กล่าวราฟาเอลมองเฟนด์ ริมฝีปากของเขากระตุก เฟนด์ดูคล้ายจะบ้า

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2413

    เฟนด์ยังคงไม่หันกลับไปมอง และตอบเพียงสั้น ๆ ว่า "คุณถามมาตอนนี้ได้เลย"เมื่อเห็นท่าทางของเฟนด์ ราฟาเอลก็ไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เคยไปยุ่มย่ามกับกิลเบิร์ตเลย และไม่เคยมายุ่งอะไรกับเขาด้วยดังนั้น เขาจึงระงับความโกรธในใจและถามออกไปว่า "นายเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับกิลเบิร์ตบ้างไหม ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวนั้นสร้างความโกลาหลมากทีเดียว พวกเขาทุกคนบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับนายด้วย…"ก่อนที่ราฟาเอลจะพูดจบ เฟนด์ก็พูดแทรกขึ้น "ผมไม่รู้อะไรเรื่องกิลเบิร์ตเลย นับตั้งแต่ที่ผมเข้ามาอยู่ในวิมานโอสถ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง“นอกจากตอนที่กิลเบิร์ตพยายามหาเรื่องผมไม่กี่วันก่อน ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย และไม่ว่าใครจะบอกว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนั้นก็อย่าได้เชื่อพวกเขา เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ"หลังจากพูดจบ เฟนด์ก็ปิดประตูทันที ชายังอยู่ในมือของราฟาเอล เขาไม่อาจระงับความโกรธได้อีกต่อไปแล้ว “เจ้าสารเลวนี่…” เขากำลังจะก่นด่าอีกฝ่ายแต่ก็ไม่กล้า นั่นก็เพราะเฟนด์ไม่ใช่คนที่เขาจะล้อเล่นด้วยได้เฟนด์ไม่เคารพกิลเบิร์ตด้วยซ้ำ ถ้าราฟาเอลพูดอะไรที่ทำให้เฟนด์ไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2414

    เขาดูคล้ายคนที่เพิ่งได้ยินเรื่องตลกที่สุดในชีวิตมา เฟนด์มองเขาอย่างสงบราวกับกำลังรอให้เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายเงียบหายไปเร็ว ๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ราฟาเอลก็ละล่ำละลักออกมาขณะหัวเราะไปด้วย "นายนี่บ้าไปแล้วจริง ๆ นี่หรือนายคิดว่าฉันจะยอมเชื่อว่านายสามารถควบรวมอักขระทางยาได้สองร้อยอักษรเพราะแค่นายมาที่นี่อย่างตรงเวลาเพียงไม่กี่วัน? นี่นายอยากให้ฉันช่วยหาวัตถุดิบสำหรับบ่มเพาะโอสถระดับหกเหรอ?“นายจะไร้เดียงสาเกินไปหน่อยหรือเปล่า? นายนี่มันไร้เดียงสาเป็นบ้า ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับนายแล้ว!”เฟนด์เลิกคิ้วขณะที่เขาหยิบแผ่นทองคำออกมาจากแหวนมัสตาร์ด ซี๊ด ก่อนโบกมันไปต่อหน้าราฟาเอลทันทีที่ราฟาเอลเห็นแผ่นทองคำนั้นเขาก็ดูคล้ายกับคนที่สมองหยุดทำงานไปแล้ว แม้แต่รอยยิ้มของเขาก็แข็งค้างบนใบหน้าอยู่อย่างนั้น เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะฟื้นคืนสติกลับมาได้ดวงตาของเขาเบิกโพลงจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า "นี่มันอะไรกัน?" เขาตะโกนเสียงดังเฟนด์เม้มริมฝีปากด้วยความโกรธเคือง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องรอให้ราฟาเอลช่วยเขาหาวัตถุดิบสำหรับบ่มเพาะโอสถระดับหก เขาคงไม่สนผู้ชายคนนี้เฟนด์พูดออกมาว่า “คุณไม่รู้หรือว่านี่คืออ

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status