“อย่าคิดว่าแค่เพราะมีคนคอยหนุนหลังแล้วจะทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้นะ เข้าใจไหม?”เฟนด์ขมวดคิ้ว เขานึกอยากจะส่งหมัดของตัวเองออกไปสักหมัดในตอนนั้น เขาอยากจะบอกให้เด็กสารเลวคนนี้ระวังคำพูดของตัวเองเสียหน่อย แต่เขาก็รู้ดีว่าเขามาอยู่ที่นี่เพราะอะไร ดังนั้นเขาจึงยอมกล้ำกลืนฝืนทนเฟนด์ชะงักไปชั่วขณะแล้วพูดว่า "ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วคุณมาพูดเหมือนผมชอบทำอะไรตามแต่ใจตัวเองอย่างนั้นน่ะหรือ?"กิลเบิร์ตเลิกคิ้วขึ้น “นี่นายคิดจะไปหางานทำหรือไง? น่าเสียดายหน่อยนะ ภารกิจพวกนั้นมีคนทำอยู่แล้ว เดือนนี้ไม่มีคะแนนบุญให้นายหรอก รอไปถึงเดือนหน้านู่น ถึงตอนนั้นอาจจะพอมีงานให้นายทำ”เฟนด์ขมวดคิ้ว ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมกิลเบิร์ตถึงมาหาเรื่องเขาแบบนี้ กิลเบิร์ตพยายามบอกเขาว่าจะตราบใดที่เฟนด์ไม่เรียกร้องของานทำก็จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น กิลเบิร์ตไม่ต้องการให้เฟนด์ได้รับคะแนนบุญใด ๆ เลยเฟนด์รู้สึกกำลังฟังเรื่องตลกที่สุดในโลกอยู่ กิลเบิร์ตจัดการกับนักเรียนคนอื่น ๆ แบบนั้นด้วยหรือเปล่า? ค่อย ๆ ขัดขาคนอื่น ๆ จากการได้รับคะแนนบุญเพื่อที่เขาจะได้ได้รับคะแนนทั้งหมดด้วยตัวเอง จากนั้นเขาจะใช้คะแนนที่ได้รับมาเพื่อ
เฟนด์สัมผัสได้ถึงเสียงปังในหัวราวกับว่ามีบางอย่างระเบิด ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเฟนด์หลังจากกลับมาที่ห้องตัวเอง กิลเบิร์ตสังเกตเห็นว่าเดเมี่ยน ลีดส์กำลังรออยู่ที่หน้าห้อง กิลเบิร์ตขมวดคิ้วและยื่นกาน้ำชาใส่มือเดเมี่ยน เดเมี่ยนรับกาน้ำชาไปด้วยความเคารพ“ทำไมนายถึงมารออยู่นี่? ฉันเคยบอกนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังก็ได้ หมอนั่นสร้างปัญหาให้เราไม่ได้หรอก”เมื่อเห็นการแสดงออกของกิลเบิร์ต เดเมี่ยนก็รู้ได้ในทันทีว่ากิลเบิร์ตจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ผมไม่รู้ว่าคุณซิมมอนส์คิดอะไรอยู่ ถึงได้รับเด็กสารเลวนั่นเข้ามาในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ถ้ามันทำลายแผนการที่เราวางเอาไว้ขึ้นมา…”เมื่อได้ยินเช่นนั้น กิลเบิร์ตก็ขัดจังหวะเขาทันที "จะไม่มีใครมาทำลายแผนการของเราได้! เลิกคิดในแง่ร้ายสักทีเถอะ!"เดเมี่ยนตัวสั่นด้วยความกลัว เขากลัวกิลเบิร์ตมาโดยตลอด เขากระแอมเล็กน้อย แล้วจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที "ผมสงสัยนะว่าคราวนี้เขาจะทำสำเร็จหรือเปล่า"ทันทีที่พูดถึงบุคคลที่สามใบหน้าของกิลเบิร์ตก็แข็งทื่อ แต่ทว่ากิลเบิร์ตก็สามารถควบคุมสติ
“เขาต้องการรับภารกิจกับคะแนนบุญเหรอ? ฝันไปเถอะ! ตราบใดที่ฉันยังอยู่ เขาจะไม่มีวันได้รับคะแนนบุญเลยสักคะแนนเดียว!”เมื่อเดเมี่ยนได้ยินเช่นนั้น เขาก็ยิ้มกว้างออกมาแล้วพูดว่า "ถ้าคุณพูดอย่างนั้น ผมก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว! ผมแค่กลัวว่าการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้ชายคนนี้จะทำให้แผนของเราพัง!"กิลเบิร์ตเลิกคิ้วขณะที่เขาหัวเราะเย็น ๆ “ฉันบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรือยังไง? ไม่มีใครทำลายแผนของเราได้ การที่เด็กเหลือขอนี่ปรากฏตัวขึ้นนับว่าเป็นเรื่องไม่คาดฝัน แต่นั่นจะไม่ขัดขวางแผนของเราเด็ดขาด“ฉันให้คนไปจับตาดูเขาเอาไว้แล้ว เขาไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายตาของฉันได้อย่างแน่นอน! เราจะจับตาดูเขาไว้ตลอดหนึ่งเดือน หลังจากครบหนึ่งเดือนแล้วเราก็จะมีโอกาสกำจัดเขาไปได้ หลังจากนั้นเราจะได้ควบคุมที่แห่งนี้”หลังจากที่แผนของเขาสำเร็จ ทุกคนจะต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ กิลเบิร์ตจึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งขณะที่พวกเขากำลังคุยกันและรู้สึกมีความสุขกับตัวเองอยู่นั้น เฟนด์ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาเพิ่งดูดซับความทรงจำจำนวนมหาศาลที่อยู่ในชิ้นส่วนวิญญาณโชคดีที่เขาไม่ใช่เฟนด์คนเดิมอีกต่อไปแล้ว จิตวิญญาณของเ
เขาไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เพราะไม่ว่าใครก็ไม่ควรเปิดประตูห้องของเขาอย่างไร้มารยาทแบบนี้อยู่ดี หากเขาอยู่ระหว่างการซึมซับความทรงจำ การถูกรบกวนเช่นนี้อาจทำให้เขาสูญเสียการควบคุมไปได้!“นายใช่ไหม! ต้องเป็นนายแน่!” กิลเบิร์ตชี้ไปที่เฟนด์ ดวงตาของเขาแดงก่ำเฟนด์มองกิลเบิร์ตด้วยสายตาประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่กิลเบิร์ตหัวเราะอย่างเย็นชา "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายทำอะไร!"เฟนด์รู้สึกราวกับกิลเบิร์ตเสียสติไปแล้ว เขาไม่เคยออกจากห้องตัวเองด้วยซ้ำ แล้วเขาจะทำอะไรได้? ใบหน้าของเฟนด์มืดลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุเพราะข้อกล่าวหาแสนประหลาด และการที่กิลเบิร์ตบุกเข้ามาในห้องเขาอย่างหยาบคายดาบวิญญาณก่อตัวอยู่ในมือของเขา เฟนด์ตัดสินใจแล้วว่าจะสอนบทเรียนให้กับกิลเบิร์ตอย่างสาสมแม้ว่ามันจะขัดกับกฎก็ตาม!กิลเบิร์ตดูคล้ายจะโกรธจัด เขาสั่นไปทั้งตัว “ว่ามาสิ! แล้วรู้สึกผิดบ้างไหม? นายเป็นคนปล่อยข้อมูลออกไปใช่หรือเปล่า!”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออก เขาเอ่ยด้วยความโกรธว่า "สมองคุณมีปัญหาหรือเปล่า? กำลังพูดเรื่องอะไรกัน? รู้สึกผิดอะไร? ข้อมูลอะไร?"ร่างกายของกิลเบิร์ตสั่นเทิ้ม
"เจ็บโว้ย!" กิลเบิร์ตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทำให้ร่างกายขดตัวด้วยความเจ็บปวดเฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชาขณะที่เขาเดินออกจากประตู ในขณะนั้น กิลเบิร์ตก็นอนหดตัวกลมอยู่แล้ว นี่ยังถือว่าเฟนด์อดกลั้นพลังเอาไว้แล้ว เพราะหากก่อนหน้านี้เฟนด์ใช้พลังไปถึงสี่ในสิบส่วนแล้วล่ะก็ กิลเบิร์ตคงตายไปแล้วกิลเบิร์ตอาจมีพรสวรรค์ด้านการเล่นแร่แปรธาตุ แต่เขาคงไม่แม้แต่จะสามารถเอาชนะแนชในการต่อสู้ได้กิลเบิร์ตร้องด้วยความเจ็บปวด เขาหงายล้มลงไปอีกขณะพยายามลุกขึ้น เมื่อจอห์นได้ยินเสียงโกลาหลเขาก็รีบวิ่งมาดู จอห์นตกใจมากที่เห็นกิลเบิร์ตนอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นเขาก็รีบไปช่วยพยุงกิลเบิร์ตให้ลุกขึ้นจอห์นเหลือบมองเฟนด์ซึ่งยืนตัวตรงอยู่ กิลเบิร์ตได้จัดให้เฟนด์อยู่ในพื้นที่อันห่างไกลผู้คนอย่างไม่น่าเชื่อ จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่โรงเก็บของอย่างที่เฟนด์คาดเอาไว้จริงๆ ด้วยเหตุนี้ จึงมีเพียงจอห์นเท่านั้นที่ได้เห็นกิลเบิร์ตถูกเล่นงานจนอยู่ในสภาพเช่นนี้เฟนด์พ่นลมหายใจออกมา “คุณนี่ถ้าไม่กล้าบ้าบิ่นก็คงตาบอด คุณคิดจะโจมตีผมก่อนที่คุณจะรู้ว่าผมอยู่ในระดับไหนเสียอีก คุณนี้มันไม่รู้จักเจียมเนื้อเจี
เฟนด์มองไปที่กิลเบิร์ตโดยไม่พูดอะไรขณะที่กิลเบิร์ตจ้องมองเขาด้วยแววตาเกลียดชัง แม้หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว เฟนด์ก็ยังไม่เข้าใจว่ากิลเบิร์ตกำลังทำอะไรหรือพูดอะไรกันแน่เหตุใดกิลเบิร์ตจึงเข้ามาตวาดใส่เขาแบบนั้น? เหตุใดกิลเบิร์ตจึงกล่าวหาเขา? ในขณะนั้นเฟนด์ได้แต่หัวเราะกับคำขู่ของกิลเบิร์ต กิลเบิร์ตสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนหันกลับไปมองเดเมี่ยนด้วยความโกรธ“อย่ามัวแต่มายุ่งกับฉันอยู่นี่เลย ไปจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นก่อน!”เดเมี่ยนหน้าซีด ความอึดอัดใจจากการถูกผลักออกไปก่อนหน้านี้ได้คลี่คลายไปไม่น้อยแล้ว เขาหันกลับมามองเฟนด์ก่อนจะหันกลับไปมองกิลเบิร์ตเดเมี่ยนพยักหน้า "ผมจะจัดการให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้ แต่...ผมเคยตรวจสอบมันมารอบนึงแล้ว มันไม่ผิดแน่"สีหน้าของกิลเบิร์ตแข็งทื่อ เขายังอยากจะอธิบายเพิ่มซักหนึ่งถึงสองประโยค แต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงคอไปเขาเพียงพยักหน้าอย่างเย็นชา "เข้าใจแล้ว แต่เราจะวางเฉยต่อไปไม่ได้!"ในขณะที่เขาพูดอย่างนั้น กิลเบิร์ตไม่ได้มองเดเมี่ยนด้วยซ้ำ กิลเบิร์ตจ้องมองเฟนด์ตลอดเวลา แต่เฟนด์ค่อนข้างคุ้นเคยกับท่าทางแสดงความเกลียดชังนั้นแล้ว แทบทุกคนที่พยายามทำให้เฟนด
“คุณบุกเข้าไปในห้องพักของผมอย่างไม่มีเหตุผลสมควร คุณพยายามโจมตีผม แต่คุณมันอ่อนหัดอย่างไม่น่าเชื่อ ทีนี้นอกจากเอาชนะผมไม่ได้ยังมากล่าวหาผมแบบนี้อีก ไม่รู้เลยว่าหน้าคุณจะหนาได้ถึงขนาดนี้”มุมปากของจอห์นกระตุกเมื่อได้เห็นถึงความตรงไปตรงมาของเฟนด์ เขาเหลือบมองกิลเบิร์ตที่อยู่ข้าง ๆ อย่างอับอาย กิลเบิร์ตโกรธจนร่างกายของเขาสั่นไปหมด ดูคล้ายจะไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการพุ่งไปกัดเฟนด์เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชาขณะที่เขาพูดต่อ "ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมคุณถึงยังไม่ไปอีก คุณอยากจะพูดอะไรล่ะ คุณคิดว่าคุณจะเถียงผมชนะหรือไง คิดว่าจะเอาชนะผมในการต่อสู้ได้?"ใบหน้าของกิลเบิร์ตเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว เขาโกรธเฟนด์มากจนรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดเสียเดี๋ยวนี้ ความจริงแล้วคำพูดของเฟนด์นั้นถูกต้องทั้งหมด เขาไม่สามารถเอาชนะเฟนด์ได้ และไม่อาจเถียงเฟนด์ให้ชนะได้ด้วยการรั้งอยู่ที่นี่ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับเขาเลยทั้งยังมีแต่จะทำให้เขาต้องขายหน้ายิ่งกว่าเก่า เขาหายใจเข้าลึก ๆ สักสองสามครั้งก่อนที่จะให้จอห์นช่วยพยุงเขาไปหลังจากเดินไปสองก้าว เขาก็ตะโกนโดยไม่หันกลับมามองว่า "ฉันจะกลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกในอีกไม่น
เพราะงั้นจึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะไม่รู้จักเขา สิ่งเดียวที่คนรับใช้ต้องทำคือจำเสื้อผ้าที่เฟนด์ใส่อยู่เพื่อที่จะได้รู้ว่าเฟนด์คือใคร คนรับใช้พินิจมองเฟนด์ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “คุณเป็นบัณฑิตคนที่สิบเอ็ดใช่หรือเปล่า?”เฟนด์รู้สึกตกใจเล็กน้อยกับชื่อใหม่ของตัวเอง บัณฑิตคนที่สิบเอ็ด? หลังจากคำพูดเหล่านั้นลอยอยู่ในหัวของเฟนด์สักพักหนึ่ง เขาก็เข้าใจทันทีแชนด์เลอร์เคยบอกเฟนด์มาก่อนแล้วว่าเขาเป็นนักเรียนคนที่สิบเอ็ดที่วิมานโอสถรับเข้าศึกษา คนรับใช้จึงเรียกเขาด้วยตำแหน่งเป็นธรรมดาเฟนด์พยักหน้า หลังจากที่คนรับใช้รับรู้ถึงตัวตนของเฟนด์อย่างชัดเจนแล้ว เขาก็ตื่นตระหนกน้อยลง เขาเม้มริมฝีปาก เมื่อได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่าบัณฑิตใหม่ไม่ลงรอยกับบัณฑิตรอง แต่ทว่าเฟนด์ก็ยังถือเป็นบัณฑิตของที่นี่พวกเขาเป็นเพียงคนรับใช้ธรรมดาเท่านั้น หากพวกเขาทำให้เฟนด์ขุ่นเคืองเนื่องจากคำพูดที่ไม่เหมาะสม พวกเขาอาจถูกไล่ออกเมื่อใดก็ได้ หากเฟนด์นำเรื่องนี้ไปฟ้องคนอื่นด้วยเหตุนี้ คนรับใช้จึงฝืนยิ้มและพูดว่า "มีอะไรหรือ บัณฑิตสิบเอ็ด?"เฟนด์พยักหน้า เขาไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยกับคนรับใช้ ดังนั้นเขาจึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า "ฉั