รูฟัสพยักหน้าขณะเดียวกันเลนนอนก็ยืนอยู่ข้าง ๆ และพูดด้วยท่าทางค่อนข้างกังวลว่า "พวกเขายังมาไม่ถึงที่นี่ ด้วยแผนการที่คุณเตรียมไว้อย่างดี พวกเขาจะต้องตกหลุมพรางแน่"ชายสวมหน้ากากพยักหน้า เขาคิดว่าเฟนด์และเกรแฮมคงไม่อาจเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ เพราะเขาวางแผนเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีทางที่ทั้งสองคนจะไม่ตกหลุมพรางนอกจากนี้ แผนการที่เขาวางไว้ยังถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอีกด้วย เขาทั้งฆ่าคนนอกและจัดการเส้นทางให้กับตัวเองได้อย่างชัดเจนโดยปราศจากอุปสรรคได้ด้วยในที่สุด เขาก็นำเหล่าศิษย์ที่ยอมศิโรราบให้เดินทางมาตามเส้นทางที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง จนมาถึงภูเขาใต้พิภพได้ แค่นึกย้อนถึงเรื่องนี้เขาก็รู้สึกพอใจในตัวเองอย่างที่สุดซาเมียนยิ้ม “พวกนั้นไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณไม่ได้วางแผนที่จะกำจัดเฟนด์และเกรแฮมเลยแม้แต่น้อย! ที่คุณกำจัดคนพวกนั้นไปมากมายขนาดนั้นก็เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา“นี่จะเป็นการถ่วงเวลาพวกเขา! นอกจากเวลาจะล่าช้าออกไปแล้ว จิตใจของพวกเขาจะไม่อาจจดจ่ออยู่กับการกำจัดอสูรและเดินหน้าต่อไปได้ กำหนดเวลาเพียงสองวัน และหากพวกเขามาถึงที่นี่ได้ไม่ทันเวลา คุณก็จะเป็นคนที่ผ่านด่านไปได้
ชายสวมหน้ากากและลูกน้องของเขาต่างคุ้นเคยกับคนที่เดินนำมาเป็นอย่างดีพวกเขาปรากฏตัวอยู่ที่นั่น เฟนด์ เกรแฮม และเบนจามินต่างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาเฟนด์ดูค่อนข้างผ่อนคลาย ในขณะที่จ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเมินเฉยและหนักแน่นในทางกลับกัน ดวงตาของเกรแฮมและเบนจามินเต็มไปด้วยความโกรธ และภาพนั้นทำให้ชายสวมหน้ากากต้องตะลึง ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น คนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อครู่นี้เขายังเยาะเย้ยถากถาง คนพวกนี้ และมั่นใจว่าพวกเขาจะคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่รอบนอกอยู่เลย แต่ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็โผล่หน้าเข้ามาดื้อ ๆ!ซาเมียนอ้าปากค้าง ขณะเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “เป็นไปได้ยังไง พวกมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! พวกมันควรจะอยู่รอบนอกของป่าไม่ใช่เหรอ?”พวกนั้นน่าจะได้รู้แล้วว่ามีผู้คนตายไปมากขนาดไหน แล้วพวกเขาก็น่าจะสาละวนอยู่กับการรวบรวมกำลังพลสิ นอกจากนี้สัตว์อสูรมากมายที่พวกเขาต้องกำจัดทิ้งก็จะทำให้พวกเขายิ่งล่าช้าเข้าไปอีก แต่น่าแปลกที่พวกเขาก็ยังมาถึงได้ทันเวลา!คนพวกนี้มาถึงช้ากว่าพวกเขาเพียงเล็กน้อย ชายสวมหน้ากากเพิ่งเอาชนะอสรพิษแปดหางได้ และยังไม่ทันได้พัก เฟนด์กับพรรคพวกก็มาถึงเสียก่อ
เกรแฮมตะคอก “นายฆ่าศิษย์ร่วมสํานักของพวกเราไปมากมาย เราเองก็จะไม่ปล่อยนายไปเหมือนกัน! ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะฆ่านายไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไงเราก็จะทำให้นายต้องชดใช้!”เฟนด์ไม่แยแสต่อคำด่าทอของชายสวมหน้ากากมากเท่าไหร่ แต่คำพูดของเกรแฮมทำให้เขาเลิกคิ้วเกรแฮมค่อนข้างน่าสนใจ ผู้ชายคนนี้ผูกตัวเองกับเฟนด์ไว้ด้วยกัน ราวกับว่าทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกันแต่เฟนด์ไม่คิดว่าเกรแฮมหมายความอย่างที่พูดจริง ๆ เขาเข้าใจดีว่าเขาและเกรแฮมอยู่ฝั่งเดียวกันเพราะพวกเขามีความสัมพันธ์อันเป็นประโยชน์ร่วมกันเพียงประเดี๋ยวประดาเท่านั้นเนื่องจากพวกเขาทั้งสองคนมาจากสำนักทางตอนเหนือ พวกเขาจะต้องร่วมมือกันต่อต้านสำนักวายชนม์ แต่ทันทีที่พวกเขาออกจากหุบเหวแห่งสุญญะไปได้ เกรแฮมก็คงจะถีบหัวส่งเขาทันทีเฟนด์ไม่คิดที่จะเชื่อว่าเกรแฮมจะไม่หันไปจับมือกับชายสวมหน้ากากเพื่อเล่นงานเขาทีหลังชายสวมหน้ากากหัวเราะเย้ยหยันกับคำพูดของเกรแฮม แม้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ และยิ่งไปกว่านั้น หัวใจของเขาก็ยังคุกรุ่นไปด้วยโทสะ สภาพร่างกายของเขายิ่งแย่ลงไปอีกและไม่อาจจะพยุงตัวให้นั่งได้ด้วยซ้ำเหล่าศิษย์ที่อยู่ใกล้เขารีบเอื้อมมือไปช่วยชาย
เกรแฮมไม่พอใจกับความคิดดังกล่าวขณะเดียวกันเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น“เฟนด์ อย่าทำอะไรเกินตัวล่ะ ขอแค่นายยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีอะไรที่นายทำไม่ได้ อย่าคิดแต่จะเอาชนะจนทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตราย” เนลสันเอ่ยปากขึ้นด้วยความจริงใจ ขณะมองหน้าเขาในขณะนี้เนลสันยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ เฟนด์พยักหน้า เขารู้ว่าเนลสันหมายความตามที่เขาพูด ในตำหนักสองกษัตริย์ นอกเหนือจากกริฟฟินที่ทรยศไปแล้ว พวกเขาเหลือกันเพียงสามคนเท่านั้นอิเซยาห์รีบกล่าวเสริมว่า "เนลสันพูดถูกแล้ว อสรพิษปีศาจแปดหางไม่ใช่อะไรที่จะเอาชนะได้ง่ายเลย ถ้าคุณต้องสู้กับมัน ก็ต้องคิดให้รอบคอบ!"เฟนด์เอื้อมมือไปวางบนไหล่ของเนลสัน “ไม่ต้องห่วง ตำหนักสองกษัตริย์เหลือเพียงเราสามคนแล้ว ไม่ว่ายังไงผมก็จะทำให้มั่นใจว่าผมจะได้ส่งพวกคุณสองคนออกไปอย่างปลอดภัย”แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรู้สึกเชิงบวกต่อตำหนักสองกษัตริย์มากนัก แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าทางสำนักได้มอบเวลาและทรัพยากรในการบ่มเพาะเขามา เพื่อตอบแทนบุญคุณนี้ เขาจะดูแลพวกเขาอย่างดีเนลสันและอิเซยาห์พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าประทับใจกับคำพูดของเฟนด์ พวกเขาต่างหวาดกลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึงเนื่องจา
เฟนด์เลิกคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาพูดว่า "แม้ว่าอสรพิษแปดหางจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้ ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย"เมื่อได้ยินคำพูดของเฟนด์ เกรแฮมก็มีสีหน้าบูดบึ้ง เขารู้สึกว่าเฟนด์กำลังเสแสร้งอยู่ และคำพูดของเฟนด์ฟังดูดาษดื่นเกินไป เขารู้สึกราวกับว่าเฟนด์กำลังวางอำนาจ ใบหน้าของเกรแฮมเข้มขึ้นเล็กน้อย และเขานึกเพียงอยากจะตอกหน้าเฟนด์ให้หงายเขาอยากให้เฟนด์หยุดทำเหมือนเขาเก่งที่สุด แต่เขาก็รู้ดีว่าเฟนด์คงไม่ยอมฟังเฉย ๆ แน่ และอีกฝ่ายก็ต้องโต้กลับอย่างแน่นอนหากเกิดสถานการณ์น่าอึดอัดขึ้นระหว่างพวกเขา ความเป็นพันธมิตรที่พวกเขาสร้างขึ้นก็จะแหลกสลายไป เกรแฮมจึงได้แต่ระงับความโกรธเคืองของเขาเอาไว้ในขณะที่เขาเดินไปหาอสรพิษปีศาจแปดหางพร้อมกับเฟนด์ชายสวมหน้ากากและคนอื่น ๆ เห็นว่าเฟนด์เคลื่อนไหวแล้ว และทำได้แค่มองด้วยตาที่เบิกกว้างเท่านั้น ความโกรธของชายสวมหน้ากากเริ่มกดดันขึ้นอีกก่อนหน้านี้เพียงครู่เดียว เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งที่ถูกเฟนด์และคนอื่น ๆ หัวเราะเยาะ และนึกแต่อยากจะมุดดินหนีในทางกลับกันซาเมียนก็รับรู้ได้ว่าอะไรที่ทำให้ชายสวมหน้ากากอึดอัดจึงรีบเริ
ชายสวมหน้ากากโกรธจนนั่งไม่อยู่ แม้ว่าร่างกายจะไม่อำนวยให้ต่อสู้ แต่เขาก็อยากจะต่อสู้กับศิษย์จากฝั่งเหนือชนิดให้ตายกันไปข้างอนิจจา เขายังไม่หายจากอาการบาดเจ็บและแทบลุกขึ้นไม่ไหวด้วยซ้ำเหล่าศิษย์ที่อยู่ข้าง ๆ รีบช่วยพยุงชายสวมหน้ากากให้ลุกขึ้น ซาเมียนพยายามปลอบเขาว่า"อย่าโกรธไปเลย นี่ก็เป็นแค่คำพูดพล่อย ๆ ของพวกกระจอกเท่านั้น ถ้าคุณไม่ได้รับบาดเจ็บแบบนี้ พวกเขาไม่กล้าพูดแบบนี้หรอก ท้ายที่สุดเมื่อคุณหายดีแล้ว ค่อยแสดงให้เขาเห็นว่าใครกันแน่ที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน!"ชายสวมหน้ากากโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ความโกรธของเขาเดือดพล่านอยู่ในใจจนถึงกับต้องกระอักเลือดออกมาหนึ่งหนริมฝีปากของเฟนด์กระตุกเมื่อเห็นภาพนั้นแม้ว่าชายสวมหน้ากากจะแข็งแกร่งและมีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ แต่จิตใจของเขาค่อนข้างอ่อนแอ เพียงคำพูดไม่กี่คำก็สามารถทำให้เขากระอักเลือดด้วยความโกรธได้แล้ว ตอนนี้เขาอ่อนแอเกินไปขณะที่ความคิดของเฟนด์ลอยละล่องไป พลังงานอันหนาแน่นก็ปกคลุมร่างกายของเขาทันที เขาหันหน้าไปมองเกรแฮมที่อยู่ข้าง ๆ เห็นว่าสีหน้าของเกรแฮมก็เปลี่ยนไปเช่นกันก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็พร่า
เฟนด์หลีกเลี่ยงการโจมตีของอสรพิษปีศาจแปดหางได้สำเร็จ และดูเหมือนว่านั่นจะกระตุ้นจิตวิญญาณนักสู้ของอสรพิษแปดหางขึ้น มันยิ่งเคลื่อนตัวเร็วขึ้นอีก ความฉุนเฉียวฉายผ่านดวงตาของมันนี่เป็นครั้งแรกที่เฟนด์ได้เห็นความโกรธผุดขึ้นในดวงตาของสัตว์อสูร ในตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่าทำไมอสรพิษตัวนี้ถึงได้...โกรธเกี้ยวขนาดนี้แน่นอนว่าอสรพิษแปดหางไม่ได้ให้คำตอบแก่เฟนด์ขณะที่อสรพิษปีศาจแปดหางเงยหางขึ้นและโจมตีเขาด้วยความเร็วที่บางคนมองไม่ทัน เสียงแหลมก็ดังกระทบหูของเฟนด์การโจมตีอย่างต่อเนื่องและไม่มีวันจบสิ้นทำให้เฟนด์ปวดหัวอย่างหนัก ในขณะนั้นเขาจึงตระหนักได้เหตุใดชายสวมหน้ากากจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้นการโจมตีด้วยหางของอสรพิษแปดหางไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถต้านทานได้ นอกจากนี้ อสรพิษแปดหางยังดูเชี่ยวชาญในการต่อสู้อย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย การโจมตีแต่ละครั้งล้วนเป็นการโจมตีที่รุนแรงแม้แต่พระเจ้าก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีที่ไม่หยุดยั้งของมันได้!เฟนด์สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ขณะที่เขาคร่ำครวญในใจ หากเขาไม่มีความทรงจำที่ได้จากเหล่าผู้อาวุโส เขาก็อาจจะไม่สามารถผ่านด่านทดสอบนี้ไปได้นั่นก็เพราะอสรพิ
“ฉันรู้ว่าหมอนั่นมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง!”ในขณะนั้นเฟนด์ยกดาบสีดำขึ้นและปล่อยการโจมตีไปทางด้านหลังของอสรพิษปีศาจแปดหาง ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่เฝ้ามอง สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นความสับสนบางคนรู้สึกราวกับว่าเฟนด์รู้น้อยเกินไป เขาไม่รู้หรือว่าสัตว์อสูรอย่างอสรพิษปีศาจแปดหางซึ่งมีความแข็งแกร่งในการป้องกันและความแข็งแกร่งทางด้านกายภาพ มีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่ด้านหลัง?เขาคิดว่าการโจมตีของเขาแข็งแกร่งจนถึงขนาดที่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของอสรพิษปีศาจแปดหางได้อย่างนั้นหรือ?คราวนี้ แม้แต่คนจากสำนักทางเหนือที่ศรัทธาในตัวเฟนด์ก็ถึงกับพูดไม่ออกเช่นกัน“เฟนด์คิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมเขาต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วยกันโจมตีหลังอสรพิษแปดหางแบบนั้น! นี่จะไม่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานที่แท้จริงของเขาไปอย่างเปล่าประโยชน์หรอกหรือ?”ความสับสนของพวกเขาปรากฏเด่นชัดในคำถามการกระทำของเฟนด์นั้นนับว่ายากจะเข้าใจอย่างไม่ต้องสงสัยอิเซยาห์จับมือของเนลสันแน่นมากเท่าที่จะทำได้ จากนั้นเขาก็พูดกับเนลสัน ด้วยน้ำเสียงที่ลดต่ำลง “คุณคิดว่าเฟนด์กำลังทำอะไรอยู่ ผมรู้ว่าเขามีความคิดเห็นเฉพาะตัวในเรื่องต