เกรแฮมขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูเฟนด์ด้วยแววตาจริงจัง เฟนด์เหม่อมองออกไป เขามองดูขอบฟ้าสีเลือดที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ขณะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า "เขาต้องการฆ่าเรา เขาน่าจะได้สมบัติของเราด้วย และอีกอย่าง เราเป็นคู่แข่งของเขา และการฆ่าพวกเราทิ้งจะช่วยทำให้เขาได้รับรางวัลง่ายขึ้นอีก“หากเราไปถึงตีนเขาใต้พิภพได้สำเร็จและถูกส่งกลับไปยังหุบเหวแห่งสุญญะ ก็จะต้องมีการต่อสู้อีกครั้ง ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาก็คงมั่นใจอย่างที่สุดว่าจะเอาชนะเราทั้งสองคนได้ แต่ตอนนี้...เขาคงไม่มั่นใจแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว"เกรแฮมพยักหน้าเห็นด้วย เฟนด์พูดถูก การฆ่าพวกเขาทิ้งจะช่วยให้อีกฝ่ายหลุดพ้นจากปัญหาได้ง่ายขึ้นเฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาก่อนจะกล่าวเสริมว่า “เขามีความแค้นต่อผมมาตั้งแต่ต้นแล้ว ในการเข้าสู่แหล่งทรัพยากรยุทธต้องห้ามของเขาน่าจะมีอีกเป้าหมายหนึ่ง และการกำจัดพวกเราทิ้งที่นี่ จะทำให้เขาสามารถผ่านด่านทดสอบไปได้ง่ายกว่าเดิม”ใบหน้าของเกรแฮมบูดบึ้งในขณะที่เขาพูดว่า "สาเหตุที่เขาต้องการจะฆ่าพวกเราทุกคน ก็เพราะไม่ต้องการให้ใครรอดไปได้สินะ?"เฟนด์พยักหน้า และเกรแฮมใกล้จะควบคุมอ
“มีของล้ำค่ามากมายบนหุบเหวแห่งสุญญะ ไม่ว่าใครก็ต้องการมันทั้งนั้น แน่นอนว่าเขาจะต้องอยากได้ทุกอย่างที่มีไว้ในครอบครอง และหากเป็นเช่นนั้น เขาต้องกำจัดพวกเราทุกคนก่อน!”เกรแฮมยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน และความสงสัยทำให้ดวงตาของเขาขุ่นมัวเฟนด์ยิ้มเบา ๆ ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้า วางมือบนไหล่ของเกรแฮม “ในเมื่อเป้าหมายของเขาชัดเจนถึงขนาดนี้ ดังนั้นทุกสิ่งที่เขาทำย่อมมีส่วนช่วยให้เป้าหมายของเขาสำเร็จลุล่วงไปได้ การที่เขาทิ้งร่องรอยไว้เช่นนี้ก็เพื่อเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ด้วย “แม้ว่าเราจะยังไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่หากเราหาหลักฐานได้มากกว่านี้ อีกไม่นานเราก็จะได้คำตอบ”เกรแฮมพยักหน้า แม้จะยังไม่เข้าใจทุกสิ่ง จู่ ๆ ทั้งสองก็เงียบไป และไม่มีใครพูดอะไรอีก พวกเขาทั้งคู่ต่างจมอยู่กับความคิดของตนเอง แต่ดูเหมือนว่าเฟนด์จะมีสีหน้าสงบกว่า ในขณะที่เกรแฮมมีสีหน้าหม่นหมองกว่ามากเขากังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าอย่างที่สุด หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน เกรแฮมก็เอ่ยขึ้นมา "ถ้าอย่างนั้น ต่อจากนี้เราจะทำยังไงดี"เฟนด์เดินไปข้างหน้าสองก้าว "ค้นหาไง"“ค้นหาอะไร?”“ค้นหาร่องรอยอื่น ๆ ที่ชายสวมหน้าก
ในแต่ละครั้งพวกเขาสี่คนจะส่งญาณทิพย์ออกไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยวิธีนี้ เพราะเขาจะสามารถประคับประคองพลังวิญญาณและพลังงานที่แท้จริงไว้ทั้งยังสามารถเพิ่มความแม่นยำได้อีกด้วย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจเลือกทิศทางที่จะมุ่งหน้าต่อไปขณะที่ทุกคนก้าวไปข้างหน้า เฟนด์ เกรแฮม และเพื่อนร่วมทางคนอื่น ๆ ก็ถูกจัดให้ยืนอยู่ที่แนวหน้า พวกเขารู้สึกถึงพลังของการเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มได้อย่างแท้จริงในขณะนั้น แล้วทุกคนก็รู้สึกปลอดภัยพวกเขาสูญเสียคนไปมากกว่าสองในสาม และพวกเขาก็อยู่ในจุดที่ไม่มีใครปลอดภัยอย่างแท้จริง ขณะที่ทั้งกลุ่มก้าวต่อไปอย่างมั่นคงเฟนด์ก็พูดคุยกับเกรแฮมและเบนจามินอีกครั้งอย่างไรก็ตามนี่ดูไม่ใช่บทสนทนาโต้ตอบกันธรรมดาสักเท่าไหร่ เพราะน้ำเสียงของเฟนด์ฟังดูราวกับกำลังกล่าวโทษถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาสีเข้มของเขาจับจ้องไปที่เกรแฮมที่อยู่ทางด้านซ้ายของตัวเอง“เกรแฮม ในฐานะศิษย์ห้าอันดับแรกที่ได้รับเลือกในสำนักสหัสบรรณ คุณต้องได้รับความโปรดปรานจากผู้อาวุโสและเหล่าผู้ปกครองแน่ มีบางอย่างที่ผมคิดไม่ตกมาหลายวันแล้ว แล้วผมก็อยากรู้ว่าคุณจะช่วย ไขข้อสงสัยให้ผมได้หรือเปล่า”แม
เกรแฮมขมวดคิ้ว หันหน้าหนีสายตาคาดโทษของเฟนด์“บอกตามตรง ผมเองก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละ แม้ว่าผมคือศิษย์อันดับสูงที่ถูกเลือก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะรู้ทุกอย่าง นี่เป็นความลับของสำนัก แล้วต่อให้จะมีตำแหน่งสูง ยังไงผมก็เป็นแค่ลูกศิษย์”เฟนด์พยักหน้า ยอมรับว่าเกรแฮมพูดไม่ผิดเบนจามินที่พยายามควบคุมอารมณ์อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นว่า "อย่าโกรธไปเลยนะเฟนด์ และอย่าได้อาฆาตแค้นกันด้วย ผมว่าเกรแฮมพูดถูก การที่สำนักทำเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผล“ทางสำนักก็คงไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน เพราะการสูญเสียศิษย์ไปมากมายขนาดนี้คงไม่ได้อยู่ในความคาดหมายของพวกเขา”วิธีที่เบนจามินพยายามปลอบใจเช่นนี้ดูค่อนข้างจะไร้ไหวพริบ เฟนด์ไม่ใช่คนหัวอ่อนที่จะยอมให้คำพูดไม่กี่คำของใครมาเปลี่ยนความคิดของเขาเขายิ้มเบา ๆ ขณะเอ่ยว่า "พวกคุณสองคนไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดพวกนี้มาปลอบประโลมผม ผมไม่ใช่พวกโลกสวย ถ้าเรื่องไม่บานปลายมาถึงขนาดนี้ ผมคงไม่ถามคำถามพวกนี้ขึ้นมาหรอก”หลังจากนั้น รอยยิ้มเย็นชาของเฟนด์ก็ยิ่งปรากฏชัดขึ้น “คุณบอกว่าพวกเขาไม่คิดว่าจะสูญเสียศิษย์ไปมากมายขนาดนี้งั้นเหรอ? ผมไม่เชื่อเลยสักนิด“ผู้อาว
เมื่อเฟนด์กลับมามองที่เกรแฮมอีกครั้ง สายตาของเขาก็ดูบูดบึ้งและดุร้ายเกรแฮมถอนหายใจ รู้สึกทำอะไรไม่ถูก ขณะที่เบนจามินมองไปที่เฟนด์ก่อนจะหันไปมองเกรแฮมต่างจากเกรแฮม เบนจามินตกอยู่ในความมืดมนอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเขาอยากจะปกป้องเกรแฮมและออกตัวแทนเขาอยู่สักหน่อย แต่จริงๆแล้วเขาก็อยากที่จะได้คำตอบเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบเกรแฮมตกอยู่กับความสิ้นหวังอยู่นานสองนาน ตอนที่สุดท้ายจะอ้าปากพูดอย่างไม่เต็มใจนัก “พวกเขาต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง มันเป็นสิ่งที่มีคุณอนันต์และโทษมหันต์ มันไม่ใช่สิ่งที่พลังของสำนักทางเหนือเพียงอย่างเดียวจะหามันเจอ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงให้บัตรผ่านครึ่งหนึ่งกับสำนักทางใต้ด้วย ”การคาดเดาของเฟนด์ไม่ผิดเลย และสีหน้าของเขาก็ไม่ได้ดูเบาใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย เกรแฮมถอนหายใจอีกครั้งและรู้ว่าเฟนด์ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด“ผมรู้ว่าตอนนี้คุณคงไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด แต่รับประกันได้เลยว่าผมไม่ได้โกหก ถ้าคุณไม่เชื่อผม ผมก็ทำอะไรไม่ได้”ทันใดนั้น เฟนด์ก็พูดขึ้นมาว่า "สิ่งนั้นคืออะไร? อยู่ที่ไหน? ใช่ของล้ำค่าที่มีอยู่บนหุบเหวแห่งสุญญะไหม หรือเป็นอย่างอื่นที่อยู่ใน
แซมซั่นยืนอยู่ข้างหลังเฟนด์และพึมพำว่า "แปลกจริง ก่อนหน้านี้ทุก ๆ หนึ่งถึงสามกิโลเมตร เราจะได้พบกับสัตว์อสูร แถมจะได้พบมากกว่าหนึ่งตัวด้วย แต่ตั้งแต่ต้นไม้ที่ยืนต้นตายต้นนั้นเรื่อยมาเราก็ไม่ได้เจออสูรเลยสักตัว… สิ่งที่เห็นมีเพียงร่องรอยจากการปะทะเท่านั้น”เฟนด์ลุกขึ้นและมองไปรอบ ๆ บริเวณที่มีร่องรอยการต่อสู้ เขาไม่อาจระบุได้ว่าผู้สร้างร่องรอยเหล่านี้ไว้เป็นศิษย์จากฝ่ายพวกเขาหรือจากทางใต้ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องปล่อยจิตสัมผัสของตัวเองให้ขยายออกไปเป็นระยะสามร้อยเมตร ในขณะนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเดียวกันกับที่ได้จากซากไม้ยืนต้นซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสองร้อยห้าสิบเมตรลมหายใจของเขากระชั้นขึ้นเพราะความวิตกกังวล “มันเป็นร่องรอยไฟฟ้าจากทักษะอสุนีโลหิตมารอีกแล้ว!”ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น พันธมิตรอีกยี่สิบสี่คนก็ชะงักงันและจ้องมองเฟนด์อย่างคาดหวัง แต่ทว่าเฟนด์ไม่รอช้า รีบมุ่งหน้าไปยังบริเวณเขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยดังกล่าวพันธมิตรคนอื่น ๆ ตามหลังเฟนด์ไปอย่างใกล้ชิด ในโลกสีโลหิตแห่งนี้ นอกเหนือจากเนินเขาลูกแล้วลูกเล่าแล้ว สิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงต้นไม้เหี่ยวเฉาทั่วไปเท่านั้นไม้ยืนต้นตายที
เกรแฮมและคนอื่น ๆ งงงวย และสมาชิกคนอื่นๆที่อยากรู้อยากเห็นบางคนก็อดไม่ได้ที่จะถามทันทีว่า "คุณเดาอะไรได้หรือ?"“นั่นสิ! ผู้ชายคนนั้นต้องการอะไร?”เฟนด์ถอนหายใจยาวขณะที่เขามองไปทางด้านหลังต้นไม้ ภูเขาใต้พิภพยังคงถูกปกคลุมไปด้วยสีโลหิต และห่างไกลอย่างไม่น่าเชื่อ คล้ายกับว่าพวกเขาจะไม่มีวันเดินไปถึงรูม่านตาของเขาขยายเล็กน้อยขณะเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย “เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของเขาในขณะนี้คือการผ่านบททดสอบไปให้เร็วที่สุด และเป้าหมายที่สองของเขาคือการทำให้เราสองคนผ่านด่านไปไม่ได้ เพราะรู้จุดยืนของตัวเองดี เขารู้ว่าสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ใช้วิธีการต่าง ๆ มาถ่วงเวลาเราอยู่ตลอด เขาไม่อยากให้เราผ่านด่านได้ทันเวลา! เขาเตรียมการสิ่งต่าง ๆ ไว้นานแล้ว เขากำจัดอุปสรรคทั้งหมดที่มี และทำเครื่องหมายเพื่อที่จะได้ก้าวต่อไปข้างหน้าโดยไร้ซึ่งอุปสรรค"คนอื่น ๆ สับสนเมื่อได้ยินคำอธิบายของเฟนด์ แต่เกรแฮมเข้าใจดีสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ก่อนคำรามด้วยฟันที่สบกันแน่น "เดรัจฉานนั่นทำเกินไปแล้ว หมอนั่นทำได้ทุกอย่างจริง ๆ!"ชายสวมหน้ากากพาสหายร่วมสำนักของตัวเองติดตามไปด้วยเพื่อสังหารศิษ
“ในเมื่อเรารู้แล้วว่าเขาทิ้งร่องรอยของทักษะอสุนีโลหิตมารไว้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่หลงทิศ แล้วทำไมเราไม่ใช้ประโยชน์จากมันบ้างล่ะ?”เกรแฮมชะงักไปชั่วคราว ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างในขณะที่เขาอุทานอย่างยินดีว่า "คุณพูดถูก! ในเมื่อเขาจัดการพวกอสูรที่อยู่ตามเส้นทางนี้ไปแล้ว เราก็ควรจะไปในทิศทางเดียวกัน! ส่วนเรื่องอื่นผ่านด่านแล้วค่อยว่ากัน!"หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เกรแฮมก็จะไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เขาหันหลังกลับและเริ่มออกคำสั่งให้กับทุกคนที่อยู่ข้างหลังเสียงสนั่น“นี่คือเครื่องหมายพิเศษที่ชายสวมหน้ากากจากสำนักวายชนม์ทิ้งไว้ ตอนนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะปลอดภัยเราจะเดินไปตามสัญลักษณ์พวกนี้ ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนอยู่ในโลกสีโลหิตด้วยความหวังที่จะได้กำจัดอสูรและได้สมบัติล้ำค่าไว้ในครอบครอง แต่นี่เป็นกรณีที่ต่างออกไป“หากเราไม่ร่วมมือกัน คุณอาจถูกศิษย์ของสำนักวายชนม์สังหารเอาได้“ผมจะไม่บังคับให้พวกคุณทุกคนตามพวกเราไปข้างหน้า ถ้าคุณไม่เต็มใจและอยากจะล่าอสูรและตามล่าสมบัติ ผมก็จะไม่ห้ามคุณไว้”หลังจากที่เขาพูดจบ ศิษย์คนอื่น ๆ ที่เหลือต่างก็คิดเห็นไปในทางเดียวกัน“เราจะติดตามเกรแฮมต่อไป