Share

บทที่ 2125

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เฟนด์มั่นใจว่าภาพลวงตาที่เห็นคือความทรงจำของสัตว์อสูรในตำนานผู้เป็นเจ้าของเลือด และมันเป็นก็เป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจอย่างลึกซึ้งสำหรับสัตว์อสูรตัวนี้ แนชขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ

ในขณะที่แนชกำลังจะถามคำถามเฟนด์ ก็มีคนมาเคาะประตู เฟนด์ขมวดคิ้วและถามโดยไม่รู้ตัวว่า “เวลาแบบนี้ใครกันที่มาขัดจังหวะผม”

แนชมองที่เฟนด์ด้วยความประหลาดใจตามสัญชาตญาณและพูดว่า “ต้องเป็นโนเอลกับบรู๊คแน่ ๆ โนเอลบอกลูกไว้แล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าจะพาลูกไปที่จุดรวมพลเพื่อรอการขานชื่อในอีกสิบวัน”

เฟนด์ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของแนช มุมปากของเขาสั่นเล็กน้อย “พ่อกำลังบอกว่าผมฝึกตัวเองมาเป็นเวลาสิบวันแล้วงั้นเหรอ?”

แนชเห็นการแสดงออกของเฟนด์และเข้าใจทันทีว่าทำไมเขาถึงประหลาดใจได้ถึงขนาดนี้ แนชพยักหน้าและพูดว่า “วันเวลาผ่านไปสิบวันแล้วจริง ๆ”

เฟนด์ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกขณะที่ร่องรอยของความไม่เชื่อฉายผ่านดวงตาของเขา เขาเพิ่งตกอยู่ในภาพลวงตา และรู้สึกเหมือนเพิ่งเข้าฌานได้ไม่ถึงชั่วโมง เขาเห็นเพียงมังกรจันทรคราสโบราณที่บินอยู่บนท้องฟ้าและชายในชุดดำ ใครจะคาดคิดว่าช่วงเวลาสั้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2126

    โนเอลหายใจออกลึก ๆ และมีความอิจฉาเล็กน้อยในน้ำเสียงของเขาขณะที่เขาพูดว่า “ก็อย่างที่คิดไว้นั่นแหละ เขาชนะ และชนะทั้งที่ยังไม่ได้แข่งด้วยซ้ำ ชายที่ท้าทายโอลิเวอร์ทนการโจมตีจากโอลิเวอร์ได้เพียงสามกระบวนท่าก่อนที่โอลิเวอร์จะแทงเข้าที่หน้าอกของเขา และเลือดก็กระเซ็นไปทั่วพื้น โชคดีที่ โอลิเวอร์รู้ขอบเขตและหยุดตัวเองเอาไว้ในที่สุด คนผู้นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่บาดแผลของเขาก็หนักหนาพอที่จะทำให้เขาล้มหมอนนอนเสื่อเป็นเวลาหนึ่งหรือสองเดือนได้เลยทีเดียว”บรู๊คที่อยู่ข้าง ๆ พยักหน้าอย่างรุนแรง สายตาที่ดูราวกับนึกอะไรออกแวบผ่านดวงตาของเขา เมื่อเขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น “วันนั้น เราสองคนหาที่นั่ง แม้ว่าจะไม่ได้ยากลำบากอะไร แต่ก็เห็นได้เลยว่าสถานที่แออัดไปด้วยผู้คนในเวลานั้น แถมผู้สังเกตการณ์ก็โห่ร้องเสียงดังมากในตอนที่โอลิเวอร์แทงหน้าอกของชายคนนั้น และพวกเขาต่างก็โห่ร้องก้องตะโกนกันว่าโอลิเวอร์ไร้เทียมทานขนาดไหน”โนเอลมองไปที่บรู๊คอย่างสิ้นหวัง “ถ้าตอนนั้นนายไม่ห้ามฉันเอาไว้ ฉันก็คงตะโกนแบบเดียวกับพวกเขาไปแล้ว” แม้ว่าบรู๊คจะค่อนข้างไม่เกรงใจใคร แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความบาดหมางระหว่างเฟน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2127

    พื้นที่ทางทางใต้ที่ไกลออกไปเป็นที่ที่พวกศิษย์ยืนอยู่ สถานที่นี้ดูคล้ายกับจัตุรัสขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีขนาดเท่ากับของสนามฟุตบอลสองหรือสามสนามและจุคนได้หลายพันคน แต่เหล่าศิษย์ต่างก็ยืนห่าง ๆ กันศิษย์ในระดับเดียวกันยืนรวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน และดูคล้ายว่าจะแออัดเล็กน้อยเนื่องจากศิษย์นอกสำนักซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดรวมตัวกันที่บริเวณทิศใต้แม้ว่าจะเป็นพื้นที่กว้างขวางก็ตามเฟนด์สามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนว่าทุกคนรอบตัวเขากำลังพูดถึงอะไรอยู่บ้าง ตอนนั้นเองที่ชายมีหนวดยืนอยู่ข้างหน้าเขาชี้ไปที่เวทีการต่อสู้ขณะที่เขาอุทานว่า “ฉันคิดว่ามาเตโอ เบลี่ย์ควรได้รับเลือกจากผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ด อย่างไรเสียเขาก็อยู่ในอันดับที่ห้าในหมู่ศิษย์ภายใน และไม่มีตระกูลใดสนับสนุนเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนสันโดษและเจ้าอารมณ์มาก ซึ่งคล้ายกับผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดมากทีเดียว ต้องเป็นเขาแน่!”ชายหน้ายาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายมีหนวดตะคอกขึ้นมาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ถ้ามีปัญญาคิดแค่นี้ก็ช่วยเลิกเดาสิ่งที่ผู้อาวุโสภายในกำลังคิดอยู่ได้หรือเปล่า? นายไม่รู้เหรอว่าการจะเลือกศิษย์สักคนจะต้องถูก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2128

    ชายหน้ายาวหัวเราะเบา ๆ “นายคงไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหมล่ะ? ถึงแม้ว่าโอลิเวอร์จะทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิดไปแล้ว แต่เขาก็มีพรสวรรค์สูงกว่าศิษย์ภายในทั่วไป ๆ อีกไม่นานเขาทัดเทียมกับศิษย์ที่ถูกเลือก ด้วยพรสวรรค์ของเขา เขามีสิทธิ์ที่จะได้เป็นหนึ่งในศิษย์ที่ถูกเลือก แม้ว่าเขาจะทะลวงไปสู่ขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิดแล้วก็ตาม!”เฟนด์เลิกคิ้วในขณะที่โนเอลมองเขาอย่างประหม่าโนเอลอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องเก็บมันไว้เมื่อเห็นเฟนด์ส่ายหน้าใส่เขา ทุกคนเริ่มถกเถียงกันเพราะสิ่งที่ชายหน้ายาวพูด“คาลเวิร์ตอยู่ในขั้นกลางของระดับแรกกำเนิดและอยู่ในอันดับที่ห้าสิบแปด อันดับของเขาไม่โดดเด่นมากนักในหมู่ศิษย์ภายใน ทำไมเขาถึงสามารถเอาชนะศิษย์คนอื่น ๆ มาได้ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในศิษย์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้กันนะ”“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้ยินมาว่าภูมิหลังของเขาก็ไม่ได้ใสสะอาดนะ และดูเหมือนว่าจะเขาจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสลำดับที่สี่อีกด้วย หากเป็นเช่นนั้น ผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดจะยินดีรับเขางั้นเหรอ?”"ใช่แล้วล่ะ สำหรับเกรสแฮมอันดับของเขาต่ำกว่าคาลเวิร์ตขึ้นไปอีกและเขาอยู่ในอันดั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2129

    แน่นอนว่าเฟนด์รู้ว่าโนเอลเป็นห่วงเขา ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย “ถึงแม้โอลิเวอร์จะถูกรับเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของผู้อาวุโสอันดับที่สิบเอ็ดก็ไม่เป็นไร เพราะถึงเขาจะไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของผู้อาวุโสยังไงเขาก็คงไม่ยอมปล่อยให้ผมหลุดมือไปแน่”ในขณะที่เฟนด์และโนเอลกำลังพึมพำกันเอง ความวุ่นวายก็ปะทุขึ้นต่อหน้าพวกเขา หลังจากนั้น เส้นทางข้างหน้าเฟนด์ก็ถูกคนหลายคนแหวกออก และใบหน้าที่คุ้นเคยหลายคนก็เบียดเข้ามาหาพวกเขา เฟนด์ได้แต่มองและไม่อาจห้ามให้ริมฝีปากของเขาไม่กระตุกได้ ไม่อาจห้ามให้ตัวเองกลอกตาใส่พวกเขาได้ด้วย อันที่จริงเขาไม่แยแสคนพวกนี้เลย แต่คนพวกนี้ต่างหากที่ชอบเข้ามาหาเขาเหมือนแมวที่ได้กลิ่นปลาจากระยะไกลเวสลีย์ถือพัดหยกซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาได้มาจากไหนไว้อยู่ในมือ แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ฝึกศิลปะยุทธ แต่เขาก็ทำตัวไม่ต่างจากนายน้อยรูปงามในขณะที่เขาเดินไปหาเฟนด์พร้อมกับแกว่งพัดในมือเบา ๆ เช่นเดียวกับที่เขาทำ ข้างหลังเขามีเจ้าของใบหน้าที่คุ้นเคยอีกคนหนึ่ง ชายที่มีดวงตาเป็นรูปสามเหลี่ยมนั่นเอง เมื่อชายผู้มีดวงตารูปสามเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2130

    ชายที่มีดวงตาเป็นรูปสามเหลี่ยมหมายถึงโอลิเวอร์ผู้โด่งดังในทางกลับกันเฟนด์ตอบกลับอย่างยิ้มแย้มว่า “นี้ ในฐานะลิ่วล้อของเขา คราวหน้าช่วยสรรหาคำพูดที่สดใหม่กว่านี้หน่อยได้ไหม? หรือนี่เป็นประโยคเดียวที่สมองกลวง ๆ ของนายนึกออก? นายเรียกฉันว่าผู้กล้าทุกทีเลยสินะ ว่าแต่ทำไมฉันถึงจะกล้าไม่ได้? ก็ในเมื่อฉันเล่นงานศิษย์พี่เวสลีย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นายจนเขาเกือบตายมาแล้ว จะให้ฉันจัดการเขาอีกครั้งก็ยังได้นะ!”ใบหน้าของชายตาสามเหลี่ยมมืดลงขณะที่เขาเหลือบมองเวสลีย์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาอย่างอาย ๆ เวสลีย์รู้สึกว่าเขาเสียหน้าขณะที่เขายื่นมือออกไปเพื่อดึงชายตาสามเหลี่ยมออกไป เขาก้าวไปข้างหน้า “เฟนด์อย่าทำตัวอวดดีให้มันมากนัก แม้ว่านาจะเคยเอาชนะฉันมาก่อน แต่นั่นก็เป็นเพราะฉันเตรียมตัวได้ไม่ดีพอ ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เพราะผู้อาวุโสเซเยอร์ตั้งใจดูแลฉันยังไม่ลดละความพยายาม แล้วนายจะได้เห็นว่าตัวเองไม่อาจต่อกรกับฉันได้ หากเราจัดการประลองด้วยกันอีกรอบ!”คำพูดที่เด็ดขาดของเวสลีย์พิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นว่าเขามั่นใจในตัวเองขนาดไหนเฟนด์เลิกคิ้ว เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเวสลีย์ แต่ต่อให้เขา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2131

    นอกจากนี้โนเอลยังรู้สึกว่าบรรยากาศตึงเครียดเกินไป และทั้งเฟนด์และเวสลีย์ก็เกือบจะมีเรื่องกันอยู่แล้วเขาชำเลืองมองที่เฟนด์ด้วยแววตาที่เป็นกังวลเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยื่นมือไปดึงเสื้อผ้าของเฟนด์ในจุดซึ่งคนอื่นมองไม่เห็นอย่างลับ ๆ เพื่อเตือนให้เฟนด์สงบสติอารมณ์ตัวเองจากการถูกเวสลีย์ยั่วยุมุมปากของเฟนด์โค้งขึ้น เขารู้ว่าการดึงเสื้อผ้าที่โนเอลทำนั้นกำลังสื่อถึงอะไร… แต่เขากลับเพิกเฉย เวสลีย์ตัวสั่นด้วยความโกรธ ในขณะที่เขาจ้องมองที่เฟนด์อย่างไม่พอใจ เมื่อเทียบกับการแสดงออกที่โกรธเกรี้ยวของเวสลีย์ แล้วเฟนด์สงบเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะโต้เถียงกับเวสลีย์ด้วยคำพูดเผ็ดร้อน แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงเรียบเฉยเวสลีย์กัดฟันขณะที่เขาพูด “พี่ชายของฉันจะไม่มีวันปล่อยให้นายลอยนวลไปได้หรอก เขาจะฆ่านายแน่!”“นอกจากขู่แล้วนายยังทำอะไรได้อีก?”เฟนด์สวนกลับอย่างใจเย็นคำพูดเหล่านี้เป็นราวกับหินก้อนใหญ่ที่ถูกยัดเข้าไปในคอของเวสลีย์ และมันทำให้เขารู้สึกว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับเฟนด์มีแต่จะทำให้โมโห สติสัมปชัญญะของเขาก็เกือบจะหายไปแล้ว ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับลูกปัดแก้วสีโลหิต และมันแทบจะถลนออกมาจากเบ้ามาแล้วด้วยซ้ำ ใ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2132

    น้ำเสียงของเฟนด์สงบมากเมื่อเขาพูดสิ่งนี้ ฟังดูเหมือนเขาแค่บอกบรู๊คว่าอยากจะกินหรือดื่มอะไรก็เท่านั้น แต่ในทุกคำที่เขาพูดได้แสดงถึงนิสัยใจคอของเขาออกมา บรู๊คจึงอดไม่ได้ที่จะมองเฟนด์ด้วยสายตามีความหมาย เขาไม่รู้จะโต้ตอบออกไปอย่างไรเฟนด์ไม่มีอารมณ์ที่จะมาใส่ใจความคิดเห็นของคนทั้งคู่ที่มีต่อเขาในขณะนี้ เขามุ่งความสนใจไปที่เวทีทรงวงกลมด้านหลังแทนผู้อาวุโสทั้งสิบเอ็ดคนนั่งลงแล้ว และเฟนด์ก็สังเกตกองกำลังหลักของตำหนักสองกษัตริย์อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะมีศิษย์ในสำนักกี่คน แต่คนที่เป็นกำลังสนับสนุนหลักของตำหนักสองกษัตริย์อย่างแท้จริงก็ยังคงเป็นกลุ่มคนเหล่านี้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสมาชิกทั้งหมดคนที่นั่งตำแหน่งแรกคือผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง เขามองไปที่เหล่าศิษย์ด้านล่างเวทีด้วยสายตาที่อ่อนโยนและมีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ของเขา ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งต่างจากผู้อาวุโสลำดับที่สองผู้ซึ่งมีสีหน้าเคร่งขรึมในขณะที่มีสายตาที่ครุ่นคิด เขามองไปที่ศิษย์ที่อยู่ใต้แท่นอย่างเฉยเมยผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ทุกคนต่างมีความพิเศษของตัวเอง แต่พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะมีนิสัยเอาแต่ใจ ในท้ายที่สุดเฟนด์เพ่งสายตาไปที่ผ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2133

    ผู้อาวุโสพูดเสียงดัง “เมื่อหลายวันก่อน ผู้อาวุโสของสำนักสหัสบรรณมาเยี่ยมเราและได้กล่าวถึงสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งแก่เราด้วย ฉันแน่ใจว่าทุกคนรู้ว่ารัฐเวสต์ เซอร์ซีของเรามีสำนักระดับสี่เพียงสองแห่ง แห่งหนึ่งอยู่ทางเหนือ ในขณะที่อีกแห่งอยู่ทางใต้ และเราไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักสหัสบรรณได้รับข่าวว่าสำนักวายชนม์ที่อยู่ทางใต้ได้แอบส่งศิษย์จำนวนมากขึ้นมาทางเหนือ เราแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ข่าวดี ดังนั้นช่วงนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม”ข่าวดังกล่าวเหมือนก้อนหินที่ทำให้ผืนน้ำกระเพื่อมเป็นพัน ๆ รอบ นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินเรื่องนี้และเบิกตากว้าง ในตอนแรกไม่มีใครกล้าที่จะส่งเสียงออกมาในขณะที่ผู้อาวุโสอยู่ที่นั่น แต่ไม่มีใครสามารถระงับปากของตัวเองได้เมื่อทราบข่าวนี้ ทำให้เกิดเสียงเซ็งแซ่ปะทุขึ้นท่ามกลางฝูงชน"อะไร? สำนักวายชนม์กำลังมุ่งหน้ามาทางเหนือเพื่อสร้างปัญหาให้พวกเรานั้นเหรอ? เราอยู่ในสภาวะที่สงบตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาต้องการทำอะไรที่นี่”“พวกเขาคงจะบ้าไปแล้ว แม้ว่าสำนักวายชนม์จะเป็นสำนักระดับสี่เช่นกัน แต่สำนักสหัสบรรณที่อยู่ทางทิศเหนือของเราก็เป็

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status