เฟนด์ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์เหล่านี้ โนเอลเม้มปากและพูดว่า “ผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสภายใน และนี่คือศิษย์เพียงคนเดียวของเขา นี่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตำหนักสองกษัตริย์ของเรา ศิษย์ของเราต่างก็เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้อาวุโสภายใน จึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสภายในคนอื่น ๆ ต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างสูงเช่นกัน สิบวันนับจากนี้ ผู้อาวุโสภายในที่มาจากสำนักฝ่ายในก็จะมารวมตัวกัน ณ จุดรวมพลนี้ด้วยเช่นกัน”ริมฝีปากของเฟนด์กระตุกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เนื่องจากผู้อาวุโสภายในทั้งหมดจะอยู่ที่นั่น เขาไม่สามารถทำตัวเหมือนอยู่เหนือกฎและปลีกตัวออกจากงานได้ เขาเลิกคิ้ว ใบหน้าสง่างามของผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ฉายผ่านความคิดของเขา เขาสงสัยเหลือเกินว่าผู้อาวุโสก็อดฟรีย์จะเลือกใครเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของเขาแม้ว่าสิ่งนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์เลือกโอลิเวอร์เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โอลิเวอร์ก็เป็นศัตรูของเขา และแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เรื่องดี
เลือดของสัตว์อสูรในตำนานที่พุ่งไปทางซ้ายและขวาดูคล้ายกับสัตว์อสูรที่หลุดออกจากกรงมันดูทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะรีบพุ่งออกมาและหลบหนีไปในอากาศ เฟนด์จะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เขาหยิบกริชสีดำออกมาจากมัสตาร์ด ซี๊ดและเฉือนลงบนฝ่ามือขวาของตัวเองมีเลือดไหลออกจากบาดแผลในทันที และในขณะที่หยดเลือดของสัตว์อสูรในตำนานกำลังจะหลีกหนีไปได้ เขาก็ยกมือที่มีบาดแผลขึ้นเพื่อดูดซับหยาดเลือดและกักขังมันไว้ในฝ่ามือของตัวเอง จากนั้นเฟนด์ก็กดหยดเลือดตรงตำแหน่งที่เปิดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว เลือดของสัตว์ในตำนานถูกเจือจางทันทีหลังจากที่สัมผัสกับเลือดของเฟนด์ฉ่า!เสียงที่ฟังดูเหมือนหัวแร้งร้อนจัดถูกใส่ในน้ำเย็นดังขึ้น แนชขมวดคิ้ว และความกังวลในดวงตาของเขาก็ปรากฏลึกลงไปแต่เฟนด์ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขากดบาดแผลที่เพิ่งสร้างในทันทีหลังจากที่เลือดของเขาผสานกับเลือดของสัตว์อสูรในตำนาน แล้วเลือดของสัตว์อสูรในตำนานก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเฟนด์ ด้วยวิธีดังกล่าวเฟนด์จึงได้ยินเพียงเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงราวกับกำลังจะระเบิดผิวของเฟนด์เปลี่ยนเป็นสีแดงและร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่รอช้า
เฟนด์รู้สึกได้ถึงการระเบิดของพลังงานทำลายล้างที่พุ่งเข้าหาเขาในขณะที่บุคคลลึกลับขว้างหมัดของเขาออกไป พลังนั้นทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวโดยรอบสั่นสะเทือน มันเป็นคลื่นพลังอันแข็งแกร่งที่เฟนด์ไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วยเสียงโครมคราม เฟนด์จึงหงายหลังและร่วงลงบนพื้นอย่างเสียการทรงตัวในทันทีเมื่อเฟนด์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว และเห็นว่าพ่อของเขากำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างเป็นห่วง แนชยื่นมือออกไปและตบแก้มเฟนด์เบา ๆ "ลูกบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? ลูกเห็นอะไร ทำไมเหงื่อถึงออกเยอะแบบนี้”ลมหายใจของเฟนด์ถี่ขึ้นและหัวใจของเขาก็เต้นแรง เขารู้สึกราวกับเหมือนหัวใจของเขาเต้นแรงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบครั้งต่อนาที เขารู้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา แต่หมัดนั้นช่างน่ากลัวจริง ๆ หากเขายืนอยู่ต่อหน้าชายชุดดำจริง ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่ชายคนนั้นจะต้องต่อยเขาเลยด้วย เพราะเฟนด์คงกลายเป็นเถ้าถ่านและหายไปจากโลกนี้ไปด้วยลมหายใจของชายคนนั้นเฟนด์โบกมืออย่างอ่อนแรงและยอมให้แนชช่วยพยุงให้เขานั่งตัวตรง “ผมไม่เป็นอะไร มันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ”ทันทีที่เฟนด์พูด แนชก็โพล่งอ
เฟนด์มั่นใจว่าภาพลวงตาที่เห็นคือความทรงจำของสัตว์อสูรในตำนานผู้เป็นเจ้าของเลือด และมันเป็นก็เป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจอย่างลึกซึ้งสำหรับสัตว์อสูรตัวนี้ แนชขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจในขณะที่แนชกำลังจะถามคำถามเฟนด์ ก็มีคนมาเคาะประตู เฟนด์ขมวดคิ้วและถามโดยไม่รู้ตัวว่า “เวลาแบบนี้ใครกันที่มาขัดจังหวะผม”แนชมองที่เฟนด์ด้วยความประหลาดใจตามสัญชาตญาณและพูดว่า “ต้องเป็นโนเอลกับบรู๊คแน่ ๆ โนเอลบอกลูกไว้แล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าจะพาลูกไปที่จุดรวมพลเพื่อรอการขานชื่อในอีกสิบวัน”เฟนด์ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของแนช มุมปากของเขาสั่นเล็กน้อย “พ่อกำลังบอกว่าผมฝึกตัวเองมาเป็นเวลาสิบวันแล้วงั้นเหรอ?”แนชเห็นการแสดงออกของเฟนด์และเข้าใจทันทีว่าทำไมเขาถึงประหลาดใจได้ถึงขนาดนี้ แนชพยักหน้าและพูดว่า “วันเวลาผ่านไปสิบวันแล้วจริง ๆ”เฟนด์ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกขณะที่ร่องรอยของความไม่เชื่อฉายผ่านดวงตาของเขา เขาเพิ่งตกอยู่ในภาพลวงตา และรู้สึกเหมือนเพิ่งเข้าฌานได้ไม่ถึงชั่วโมง เขาเห็นเพียงมังกรจันทรคราสโบราณที่บินอยู่บนท้องฟ้าและชายในชุดดำ ใครจะคาดคิดว่าช่วงเวลาสั้
โนเอลหายใจออกลึก ๆ และมีความอิจฉาเล็กน้อยในน้ำเสียงของเขาขณะที่เขาพูดว่า “ก็อย่างที่คิดไว้นั่นแหละ เขาชนะ และชนะทั้งที่ยังไม่ได้แข่งด้วยซ้ำ ชายที่ท้าทายโอลิเวอร์ทนการโจมตีจากโอลิเวอร์ได้เพียงสามกระบวนท่าก่อนที่โอลิเวอร์จะแทงเข้าที่หน้าอกของเขา และเลือดก็กระเซ็นไปทั่วพื้น โชคดีที่ โอลิเวอร์รู้ขอบเขตและหยุดตัวเองเอาไว้ในที่สุด คนผู้นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่บาดแผลของเขาก็หนักหนาพอที่จะทำให้เขาล้มหมอนนอนเสื่อเป็นเวลาหนึ่งหรือสองเดือนได้เลยทีเดียว”บรู๊คที่อยู่ข้าง ๆ พยักหน้าอย่างรุนแรง สายตาที่ดูราวกับนึกอะไรออกแวบผ่านดวงตาของเขา เมื่อเขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น “วันนั้น เราสองคนหาที่นั่ง แม้ว่าจะไม่ได้ยากลำบากอะไร แต่ก็เห็นได้เลยว่าสถานที่แออัดไปด้วยผู้คนในเวลานั้น แถมผู้สังเกตการณ์ก็โห่ร้องเสียงดังมากในตอนที่โอลิเวอร์แทงหน้าอกของชายคนนั้น และพวกเขาต่างก็โห่ร้องก้องตะโกนกันว่าโอลิเวอร์ไร้เทียมทานขนาดไหน”โนเอลมองไปที่บรู๊คอย่างสิ้นหวัง “ถ้าตอนนั้นนายไม่ห้ามฉันเอาไว้ ฉันก็คงตะโกนแบบเดียวกับพวกเขาไปแล้ว” แม้ว่าบรู๊คจะค่อนข้างไม่เกรงใจใคร แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความบาดหมางระหว่างเฟน
พื้นที่ทางทางใต้ที่ไกลออกไปเป็นที่ที่พวกศิษย์ยืนอยู่ สถานที่นี้ดูคล้ายกับจัตุรัสขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีขนาดเท่ากับของสนามฟุตบอลสองหรือสามสนามและจุคนได้หลายพันคน แต่เหล่าศิษย์ต่างก็ยืนห่าง ๆ กันศิษย์ในระดับเดียวกันยืนรวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน และดูคล้ายว่าจะแออัดเล็กน้อยเนื่องจากศิษย์นอกสำนักซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดรวมตัวกันที่บริเวณทิศใต้แม้ว่าจะเป็นพื้นที่กว้างขวางก็ตามเฟนด์สามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนว่าทุกคนรอบตัวเขากำลังพูดถึงอะไรอยู่บ้าง ตอนนั้นเองที่ชายมีหนวดยืนอยู่ข้างหน้าเขาชี้ไปที่เวทีการต่อสู้ขณะที่เขาอุทานว่า “ฉันคิดว่ามาเตโอ เบลี่ย์ควรได้รับเลือกจากผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ด อย่างไรเสียเขาก็อยู่ในอันดับที่ห้าในหมู่ศิษย์ภายใน และไม่มีตระกูลใดสนับสนุนเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนสันโดษและเจ้าอารมณ์มาก ซึ่งคล้ายกับผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดมากทีเดียว ต้องเป็นเขาแน่!”ชายหน้ายาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายมีหนวดตะคอกขึ้นมาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ถ้ามีปัญญาคิดแค่นี้ก็ช่วยเลิกเดาสิ่งที่ผู้อาวุโสภายในกำลังคิดอยู่ได้หรือเปล่า? นายไม่รู้เหรอว่าการจะเลือกศิษย์สักคนจะต้องถูก
ชายหน้ายาวหัวเราะเบา ๆ “นายคงไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหมล่ะ? ถึงแม้ว่าโอลิเวอร์จะทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิดไปแล้ว แต่เขาก็มีพรสวรรค์สูงกว่าศิษย์ภายในทั่วไป ๆ อีกไม่นานเขาทัดเทียมกับศิษย์ที่ถูกเลือก ด้วยพรสวรรค์ของเขา เขามีสิทธิ์ที่จะได้เป็นหนึ่งในศิษย์ที่ถูกเลือก แม้ว่าเขาจะทะลวงไปสู่ขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิดแล้วก็ตาม!”เฟนด์เลิกคิ้วในขณะที่โนเอลมองเขาอย่างประหม่าโนเอลอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องเก็บมันไว้เมื่อเห็นเฟนด์ส่ายหน้าใส่เขา ทุกคนเริ่มถกเถียงกันเพราะสิ่งที่ชายหน้ายาวพูด“คาลเวิร์ตอยู่ในขั้นกลางของระดับแรกกำเนิดและอยู่ในอันดับที่ห้าสิบแปด อันดับของเขาไม่โดดเด่นมากนักในหมู่ศิษย์ภายใน ทำไมเขาถึงสามารถเอาชนะศิษย์คนอื่น ๆ มาได้ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในศิษย์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้กันนะ”“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้ยินมาว่าภูมิหลังของเขาก็ไม่ได้ใสสะอาดนะ และดูเหมือนว่าจะเขาจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสลำดับที่สี่อีกด้วย หากเป็นเช่นนั้น ผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดจะยินดีรับเขางั้นเหรอ?”"ใช่แล้วล่ะ สำหรับเกรสแฮมอันดับของเขาต่ำกว่าคาลเวิร์ตขึ้นไปอีกและเขาอยู่ในอันดั
แน่นอนว่าเฟนด์รู้ว่าโนเอลเป็นห่วงเขา ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย “ถึงแม้โอลิเวอร์จะถูกรับเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของผู้อาวุโสอันดับที่สิบเอ็ดก็ไม่เป็นไร เพราะถึงเขาจะไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของผู้อาวุโสยังไงเขาก็คงไม่ยอมปล่อยให้ผมหลุดมือไปแน่”ในขณะที่เฟนด์และโนเอลกำลังพึมพำกันเอง ความวุ่นวายก็ปะทุขึ้นต่อหน้าพวกเขา หลังจากนั้น เส้นทางข้างหน้าเฟนด์ก็ถูกคนหลายคนแหวกออก และใบหน้าที่คุ้นเคยหลายคนก็เบียดเข้ามาหาพวกเขา เฟนด์ได้แต่มองและไม่อาจห้ามให้ริมฝีปากของเขาไม่กระตุกได้ ไม่อาจห้ามให้ตัวเองกลอกตาใส่พวกเขาได้ด้วย อันที่จริงเขาไม่แยแสคนพวกนี้เลย แต่คนพวกนี้ต่างหากที่ชอบเข้ามาหาเขาเหมือนแมวที่ได้กลิ่นปลาจากระยะไกลเวสลีย์ถือพัดหยกซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาได้มาจากไหนไว้อยู่ในมือ แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ฝึกศิลปะยุทธ แต่เขาก็ทำตัวไม่ต่างจากนายน้อยรูปงามในขณะที่เขาเดินไปหาเฟนด์พร้อมกับแกว่งพัดในมือเบา ๆ เช่นเดียวกับที่เขาทำ ข้างหลังเขามีเจ้าของใบหน้าที่คุ้นเคยอีกคนหนึ่ง ชายที่มีดวงตาเป็นรูปสามเหลี่ยมนั่นเอง เมื่อชายผู้มีดวงตารูปสามเ