แชร์

บทที่ 1984

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เวสลีย์เป็นคนหยิ่งผยอง และไม่เคยเห็นหัวคนอื่น ถึงเราจะทำเพื่อเขา เขาก็คงไม่แยแสเราหรอก แต่การกระทำดังกล่าวของเรา อาจจะทำให้เฟนด์ขุ่นเคืองได้ ซึ่งมันไม่คุ้มกันเลย” โนเอลตัดสินใจที่จะปิดปากเงียบหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากมีคนรู้เรื่องนี้นี่จะกลายเป็นข่าวที่ใหญ่ไม่น้อยเลย แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรใครที่ไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ และโนเอลก็ไม่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยงนี้ไว้กับตัวเองเซนยังคงเงียบ แต่สายตาของเขากวาดไปรอบ ๆ ขณะที่นึกสนุกไปกับความคิดดังกล่าว

เมื่อสังเกตเห็นความเงียบของเซน โนเอลจึงหันกลับมามองเขาก่อนจะสังเกตได้ว่าสีหน้าของเซนดูสนุกกับความคิดในหัวของตัวเองขนาดไหน

ในขณะนั้นโนเอลนึกโกรธในความโง่เขลาของอีกฝ่ายในทันที และตะคอกออกไปว่า “นี่นายกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่? ฉันรู้ว่านายอยากจะประจบเอาใจเวสลีย์ เมื่อเปรียบเทียบกับนายแล้วเขามีชื่อเสียงมากขนาดไหน และนายอาจมีอนาคตที่ดีหากหมอนั่นประทับใจในตัวนาย แต่นายต้องเข้าใจด้วยว่าเวสลีย์ไม่ใช่คนที่นึกอยากจะประจบประแจงก็จะทำได้ อีกอย่างเขาไม่ใช่ที่พึ่งที่ดีที่สุด เขาทั้งขี้โม้และหยิ่งยโสเพราะเขามีคนหนุนหลัง ถึงนายจะเอาเรื่องนี้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1985

    ผลของการเคลื่อนไหวทางวิญญาณในระดับนี้ไม่ได้มีผลกับเฟนด์มากนัก เขาค่อย ๆ ย่างกรายขึ้นจากพื้นและเดินไปยังทิศทางที่เขาเข้ามา หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกล้อมเอาไว้เขายื่นมือออกไปผลัก และรู้สึกว่าพื้นที่โดยรอบเริ่มหนาแน่นขึ้นอีกครั้ง ร่างของเฟนด์ถูกห่อหุ้มเอาไว้ในทันที หลังจากนั้นเฟนด์ก็ได้กลับมาที่หอเจตสิกภายในไม่กี่อึดใจ เขาเห็นโนเอลซึ่งยืนอยู่หน้าประตูเรียงเนตรกำลังจมไปในความคิดของตัวเอง โนเอลตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเฟนด์และถอยหลังไปหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณ เวลาผ่านพ้นไปราวหนึ่งวันครึ่ง ความประหลาดใจในตอนแรกของโนเอลก็ค่อย ๆ หายไป เขายังคงยืนอยู่หน้าประตูเรียงเนตรเพื่อสังเกตว่าเฟนด์จะออกมาเมื่อไหร่ในตอนแรกเขาคิดว่าเฟนด์จะอยู่ในสภาพที่กระวนกระวายและเหนื่อยล้าหลังจากที่เขาออกมาจากประตูเรียงเนตร แต่เฟนด์กลับดูกระฉับกระเฉงมาก ราวกับว่าเขาได้นอนเต็มอิ่ม มุมปากของโนเอลกระตุกในขณะที่เขาแอบถ่ายถอนใจให้กับความบ้าบิ่นของชายหนุ่มตรงหน้า สีหน้าดูถูกดูแคลนที่เขาเคยมีบนใบหน้าของเขามันมลายหายไปพร้อมกับริมฝีปากที่กระตุก"ในที่สุดนายก็ออกมาสักที! ฉันนึกว่าจะมีอะไรผิดปก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1986

    โนเอลเกือบจะคิดว่าตัวเองหูฝาดไปเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด เพราะเอ่ยถามอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวว่า 'นายว่าไงนะ? นายอยากจะปรับไปถึงระดับไหนนะ?' เฟนด์เกาจมูกโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของโนเอล เขาเคยคิดว่าโนเอลจะยอมรับได้หรือไม่หากออกมาจากค่ายกลได้โดยไม่มีรอยขีดข่วน ถ้าเขาไม่ได้มีเรื่องกับเวสลีย์เสียก่อน เขาอาจจะไม่สนใจเรื่องผลที่จะตามมาก็เป็นได้ เห็นได้ชัดว่าเฟนด์ไม่มีอารมณ์ที่จะมาคิดเรื่องนี้เขาหายใจออกเบา ๆ ก่อนที่จะพูดซ้ำ “ผมบอกว่าผมต้องการปรับความยากขึ้นเป็นระดับสี่ ได้โปรดปรับระดับให้ผมที”ครั้งนี้ โนเอลได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างชัดเจนที่สุด ในขณะเดียวกัน สีหน้าของเขาก็แข็งทื่อในขณะที่เขาอ้าปากกว้าง ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมาจากมุมปากของเขาสั่นเล็กน้อย “นายบ้าไปแล้วหรอ? นี่นายบ้าหรือฉันบ้ากันแน่? นายต้องการความยากระดับสี่เนี่ยนะ? นายเข้าใจความยากของระดับสี่หรือเปล่า? แม้แต่ผู้ดูแลของตำหนักก็ไม่กล้าท้าทายความยากในระดับนี้เลยด้วยซ้ำ หากนายเข้าไปในนั้นคลื่นกระแทกวิญญาณอาจจะทำให้นายกลายเป็นแค่ก้อนเนื้อก็ได้”เฟนด์เลิกคิ้วและพยักหน้าเล็กน้อย “ผมรู้และผมมีแผนของตัวเอง คุณแค่ต้องช่วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1987

    เขาหันหลังกลับและเดินไปที่ประตูเรียงเนตรหลังจากที่เขาพูดจบ ก้าวย่างที่มั่นคงและสีหน้าเฉยเมยของเขาทำให้โนเอลตกตะลึงอีกครั้ง ภาพลักษณ์ของเฟนด์ในสายตาของโนเอลเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาดูราวกับศิลาที่ต้านทานได้ทั้งลมและฝน บางทีคนผู้นี้อาจสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้ แต่เขาก็ได้แต่ส่ายหน้าเมื่อนึกถึงความบ้าคลั่งของคลื่นกระแทกวิญญาณในความยากระดับสี่มันเป็นพื้นที่ที่อัดแน่นและอึดอัดเสียยิ่งกว่าพื้นที่ในความยากระดับสองหลายเท่า ครั้งนี้พื้นที่ยังปิดกั้นเฟนด์ไม่ให้ ก้าวไปข้างหน้าอีกด้วย เขารู้สึกว่าพื้นที่รอบ ๆ ตัวเขาไม่ต่างอะไรกับการถูกกาวสองถังเติมจนเต็ม และมันติดอยู่ที่ทุกสัดส่วนของร่างกายของเขา นั่นทำให้เขาไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้แต่แรงต่อต้านนั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก หลังจากที่เขาออกแรงเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้เป็นสองเท่า เขาก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าได้สามก้าว นี่คือจุดที่เขายืนอยู่ล่าสุด ในขณะนั้น เสียงเอี๊ยดอ๊าดที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของวิญญาณที่แข็งแกร่งพัดเข้ามาพร้อมกับเสียงที่ดังกระหึ่มและมันรุนแรงจนทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าคลื่นกระแทกวิญญาณนี้แข็งแกร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1988

    เฟนด์กัดฟันไม่ยอมแพ้ ในเวลาเดียวกัน เวสลีย์ได้เข้าไปในหอสัตตะฤกษ์และกำลังทักทายศิษย์คนอื่น ๆ เขาเป็นคนดังของที่นั่น แม้ว่าเขาเพิ่งจะยั่วยุศิษย์ภายนอกหน้าใหม่มาไม่ควรที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แต่เวสลีย์กลับไม่สะทกสะท้านกับการกระทำของตัวเองเลย เพราะเขามาทำสิ่งนั้นภายใต้ข้ออ้างที่เรียกว่าความเที่ยงธรรม เขาเอาแต่พร่ำพูดไปทั่วว่าคนไร้ความสามารถอย่างเฟนด์ไม่สมควรที่จะมีห้องส่วนตัว และเขาทำเช่นนั้นเพื่อต้องการทวงความยุติธรรม“ศิษย์พี่แชซ คุณมาที่นี่เพื่อรับงานด้วยเหมือนกันหรอ? คุณเจองานใหม่และน่าสนใจบ้างหรือเปล่า? ผมเพิ่งใช้คะแนนสะสมสามร้อยคะแนนสุดท้ายไป ผมคิดที่จะไปยังหอทักษะศิลปยุทธและทักษะยุทธเพื่อแลกทักษะยุทธขั้นต้นระดับโลหิตหากผมมีคะแนนพอ” เวสลีย์กล่าวแชซหันกลับมา ชำเลืองมองที่เวสลีย์แล้วพูดว่า “เปล่า ฉันไม่ได้มารับงาน ฉันไม่คิดว่าตอนนี้จะมีงานอะไรที่น่าสนใจหรอก เนื่องจากสมาคมต่าง ๆ กำลังเตรียมพร้อมเรื่องศึกสงครามกับเผ่าปฐมหายนะ เขาต้องรอให้สงครามนั้นผ่านไปก่อนถึงจะมีอะไรดี ๆ เข้ามา”เวสลีย์ถอนหายใจเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงหมดหนทาง “ผมจำเป็นต้องหางานดี ๆ ทำจริง ๆ นะ เพราะตอนนี้ผมสิ้นเนื้อป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1989

    ชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมยิ้มและพูดว่า “ศิษย์พี่เวสลีย์ ผมตามหาคุณไปทั่วเลย! เด็กรับใช้บอกว่าคุณไปยังหอทักษะศิลปยุทธและหอทักษะยุทธ ผมเสียเวลาไปถามคนนู้นคนนี้ไปทั่ว กว่าจะเจอคนที่รู้ว่าคุณมายังหอสัตตะฤกษ์แล้ว”เวสลีย์เลิกคิ้วและไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเขาด้วยซ้ำ "ไม่มีปัญหาอะไร? ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ตอนนี้ฉันยุ่งมาก อย่าเอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาโยนใส่หัวฉัน!” เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมไม่ได้สนใจน้ำเสียงของเวสลีย์ ราวกับว่าน้ำเสียงของเขาไม่ได้ลดความปรารถนาที่เขาจะทำให้อีกฝ่ายพอใจเลยแม้แต่น้อย “คนขอให้ผมจับตาดูเฟนด์วู๊ด และตอนนี้ผมก็มาเพื่อที่จะรายงานว่าเขาไปที่หอเจตสิกแล้ว!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เวสลีย์ขยับคอขึ้นลงแก้เมื่อย “นี่นายพูดว่าเฟนด์ไปที่หอเจตสิกงั้นเหรอ? เขาไม่ได้ไปที่หอทักษะศิลปยุทธและหอทักษะยุทธเพื่อแลกทักษะยุทธหรือทักษะศิลปยุทธด้วยคะแนนห้าสิบแต้มอย่างนั้นหรือ? เขาไปทำอะไรในหอเจตสิกล่ะ? เขาวางแผนที่จะบ่มเพาะจิตวิญญาณของตัวเองงั้นเหรอ?”เวสลีย์พบว่านี่เป็นเรื่องน่าขำ และชายผู้มีตาสามเหลี่ยมก็พยักหน้ารับ “เขาไปที่หอเจตสิกไม่ผิดแน่ และจากสิ่งที่ผมได้ยินมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1990

    แต่เฟนด์กลับมุ่งไปยังสถานที่ที่จะทำให้เขาสามารถเพิ่มระดับทักษะของตัวเองได้เร็วขึ้น! มีเพียงศิษย์ที่อยู่ในตำหนักสองกษัตริย์นานพอเท่านั้นถึงจะทำเช่นนั้นได้ เวสลีย์เย้ยหยันและพูดว่า “อืม เพราะอาจจะกำลังแสดงละครอยู่ก็ได้ เขาควรได้รับเกียรติที่เขาจะได้ยืนอยู่ในสนามประลองเดียวกับฉัน…”ในขณะเดียวกัน เฟนด์ก็ใกล้จะถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุด การรวบรวมดาบวิญญาณสามเล่มไม่ง่ายเหมือนกับการเดินเล่นในสวนสาธารณะเลยสักนิด ในแง่หนึ่ง เขาต้องอดทนต่อคลื่นพลังวิญญาณ อีกแง่ เขายังต้องร่ายเคล็ดวิชาผ่าห้วงสุญญะเพื่อรวบรวมดาบวิญญาณทั้งสามเข้าด้วยกัน ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งหนึ่งว่าเหตุใดหอเจตสิกจึงสามารถเร่งการปรับระดับทักษะธาตุวิญญาณได้ ซึ่งเปรียบได้กับการเพิ่มระดับอาวุธหรือทักษะยุทธต่าง ๆ กับการแกะสลักหยกในช่วงเริ่มต้นของการบ่มเพาะ ก็เปรียบเสมือนกับชิ้นหยกดิบที่ยังไม่ได้เจียระไน และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องนั้นเทียบเท่ากับเจียระไนและแกะสลักหยกดิบอย่างต่อเนื่อง คลื่นกระแทกวิญญาณนั้นก็เปรียบเสมือนสิ่วที่ช่วยให้ผู้บ่มเพาะแกะสลักหยกดิบได้เร็วขึ้น แต่กระบวนการนี้อาจค่อนข้างโหดร้าย และอาจทำให้ถึงตายได้ง่าย ๆ หากเกิดข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1991

    อย่างไรก็ตามโนเอลเรียกเขาก่อนที่เขาจะเดินออกจากประตูไป “ฉันได้ยินมาว่านายจะแข่งกับเวสลีย์ในสนามประลองเดิมพันเร็ว ๆ นี้?”เฟนด์เลิกคิ้วและหันกลับไปมองที่โนเอล เขาแน่ใจว่าโนเอลเอ่ยขึ้นเพราะอยากจะถาม เพราะศิษย์เกือบทั้งหมดของที่นี่รู้เรื่องนี้ดี เขารู้ด้วยว่าศิษย์คนอื่น ๆ ถือว่าข่าวนี้เป็นเป็นหัวข้อสนทนาและเรื่องน่าหัวเราะหลังอาหารเย็น ดังนั้นเขาจึงไม่ตอบ แต่รอให้อีกฝ่ายพูดต่อไปโนเอลเม้มริมฝีปากของเขาและพูดว่า “ตอนนี้นายคงขาดคะแนนสะสมอยู่ และดูเหมือนว่านายตั้งใจที่จะมาที่หอเจตสิกอีกครั้ง”เฟนด์พยักหน้า เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว หากเงื่อนไขอนุญาต เขายินดีที่จะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะ คลื่นกระแทกวิญญาณนั่น! เขารู้สึกได้ว่าพลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และแม้ว่าเขาจะไม่เห็นเวสลีย์เป็นคู่แข่ง แต่เขาก็ต้องระมัดระวังเพราะเขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะเขาได้โนเอลกระแอมไอเบา ๆ และดูเหมือนจะเขินอายกับสิ่งที่เขากำลังจะพูดต่อไป แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยืดตัวขึ้นและพูดว่า “นายรู้ไหมว่าศิษย์ภายนอกที่เข้ามาใหม่จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?”ไม่ เฟนด์ไม่รู้ เขาเก็บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1992

    เมื่อเฟนด์กลับมาที่ห้อง เขาก็ส่งบรู๊คไปแลกคะแนนที่หอสัตตะฤกษ์ทันที หน้าที่ของศิษย์นอกสำนักคือการทำธุระให้ศิษย์ทั้งภายนอกและภายใน และบรู๊คก็ถือเป็นผู้ช่ำชองในเรื่องเหล่านี้ เขารีบไปที่หอสัตตะฤกษ์พร้อมกับป้ายหยกประจำตัวของเฟนด์และผลึกวิญญาณ เฟนด์ทำได้เพียงแค่รอจนกว่าเขาจะกลับมาเฟนด์สามารถไปแลกเปลี่ยนด้วยตัวเองได้ แต่เขาไม่ชอบที่ที่มีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้ เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่ศิษย์ภายนอกด้วยกัน และเป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการโต้เถียงกับเวสลีย์ เขารู้ว่าเวสลีย์จะไม่มีวันละทิ้งโอกาสที่จะได้พูดจาเหน็บแนมเขา และเขาก็ไม่อยากเสียเวลาไปกับคนแบบนี้ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาบรู๊คก็กลับมา และคืนป้ายหยกประจำตัวให้เฟนด์ซึ่งมีคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นมาห้าสิบแต้ม เขามองไปที่เฟนด์ด้วยสีหน้าเป็นนัยว่าเขามีเรื่องจะบอกเขา แต่ไม่รู้ว่าควรจะบอกดีไหมเฟนด์เลิกคิ้วขึ้น เขาเชิญบรู๊คเข้าไปในห้องและรินชาให้เขา “มีอะไรจะพูดก็พูดมาสิ คุณประสบปัญหาบางอย่างระหว่างทำธุระให้ผมงั้นเหรอ? หรือมีใครรังแกคุณหรือเปล่า?”บรู๊คส่ายหน้าและรับชาจากเฟนด์ “ผมไม่ได้ถูกใครรังแก ผมอยู่ในตำหนักมาหลายปีแล้ว และแม้ว่าศิษย์ภายในแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status