แชร์

บทที่ 1932

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
แนชหันกลับมามองเฟนด์และถามว่า “เราจะเอายังไงกันต่อ? เราจะมุ่งตรงไปที่ตำหนักสองกษัตริย์เลยไหม?”

เฟนด์หัวเราะเบา ๆ และส่ายหน้า “เราเป็นคนหน้าใหม่ที่นี่ และคงเป็นเรื่องตลกถ้าเราเข้าไปในตำหนักสองกษัตริย์โดยที่เราไม่รู้อะไรเลย แม้ว่าเราจะได้ยินข่าวว่าตำหนักสองกษัตริย์เปิดรับศิษย์ใหม่ แต่เรายังไม่รู้ว่าการรับเข้าตำหนักจะมีขึ้นเมื่อใดและมีเงื่อนไขอย่างไรด้วย”

แนชคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเห็นด้วย “ไม่งั้นเราไปถามคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้กันไหม?” เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่จำเป็น แนชจึงกลับเข้าไปที่มัสตาร์ด ซี๊ด

เฟนด์ตัดสินใจแล้วว่าจะไปที่ไหนดี มันค่อนข้างยากสำหรับพวกเขาที่จะถามใครไปเรื่อยเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในโลกนี้ เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่จำเป็น เฟนด์จึงหาโรงแรมระดับกลาง ๆ พักแทน

แต่พนักงานต้อนรับของโรงแรมแจ้งว่าโรงแรมเต็มแล้ว เมื่อเขาเข้าไปในในนั้น เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเล็กน้อยเนื่องจากที่พักหลายแห่งที่เขาเข้าไปเต็มไปด้วยผู้คน

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าโรงแรมของเมืองสองกษัตริย์จะได้รับความนิยมจนเต็มทุกแห่ง! โรงแรมต่าง ๆ เต็มอยู่ตลอดจนกระทั่งเฟนด์มาถึงถนนที่เปลี่ยวมาก ถนนเส้นนี้เป็นตรอกที่แคบมาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1933

    เฟนด์เลิกคิ้ว เป็นเชิงบอกให้พนักงานต้อนรับพูดต่อไป พนักงานต้อนรับเริ่มพูดไม่หยุด “คุณต้องเคยไปที่พักที่อื่นมามากก่อนที่จะมาที่เรา เมื่อเร็ว ๆ นี้โรงเตี๊ยมเกือบเต็มทั้งหมดเพราะตำหนักสองกษัตริย์กำลังรับสมัครศิษย์! ทุกคนได้ยินมาว่าตำหนักสองกษัตริย์ขาดศิษย์ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าร่วมการทดสอบเข้าเมืองเมืองสองกษัตริย์! เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนมาที่นี่มากกว่าหมื่นคน!”จากสิ่งที่พนักงานต้อนรับพูด ในที่สุดเฟนด์ก็เข้าใจว่าทำไมทุกโรงแรมถึงเต็มไปด้วยผู้คน ปรากฎว่า ไม่ใช่เพราะโรงแรมในเมืองสองกษัตริย์กิจการเฟื่องฟู แต่เป็นเพราะตำหนักสองกษัตริย์กำลังรับสมัครศิษย์ และสิ่งนี้ได้ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มุ่งหน้ามายังเมืองนี้เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากต้องการเป็นศิษย์ของตำหนักสองกษัตริย์ ระบบการรับสมัครของตำหนักจึงเข้มงวดขึ้นโดยธรรมชาติแม้ว่าเขาจะได้ยินจากคนอื่นว่าตำหนักสองกษัตริย์ได้ผ่อนปรนเงื่อนไขเพราะพวกเขาต้องรีบเพิ่มจำนวนศิษย์ แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายพนักงานต้อนรับพูดต่อไปเมื่อเฟนด์จมอยู่ในความคิดของตัวเอง “ถึงอย่างนั้นก็มีไม่กี่คนที่สามารถเข้าไปเป็นศิษย์ของตำหนักสองกษัตริย์ได้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1934

    “นั่นดูจะเป็นการพูดเกินไปสักหน่อย การรับสมัครมีเงื่อนไขของตัวเองเช่นกัน และพลังยุทธของศิษย์ใหม่ไม่อาจสูงกว่าขั้นต้นของระดับแรกกำเนิดได้ เนื่องจากนี่เป็นระดับที่ดีที่สุดในฝึกยุทธของคน เมื่อคน ๆ หนึ่งบรรลุถึงขั้นกลางของระดับแรกกำเนิดไปแล้ว การให้ความสำคัญกับการดูแลใครสักคนในระดับนั้นจะน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับคนในขั้นต้น!”เฟนด์ตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้ เขาเข้าใจแล้วว่ายิ่งคน ๆ หนึ่งมีพลังยุทธสูงได้โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ ตำหนักจะยิ่งให้ความสำคัญกับบุคคลเช่นนั้นต่ำลงดังนั้นตำหนักทั่วไปจึงเลือกศิษย์ที่ยังไม่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่เฟนด์ไม่เข้าใจคือความแตกต่างอย่างมากระหว่างขั้นต้นและขั้นกลางของระดับแรกกำเนิด จากสิ่งที่พนักงานต้อนรับอธิบาย ความแตกต่างนั้นกว้างมากและเฟนด์ก็ยังไม่เข้าใจสิ่งนี้อาจเป็นเพราะเขามีความเข้าใจต่อโลกนี้อย่างตื้นเขินจนไม่สามารถจะทำความเข้าใจกับมันได้ ยังไงก็ตามเฟนด์ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มอีกเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานต้อนรับสงสัยในตัวเขา หลังจากที่เขาได้รับข่าวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เฟนด์ก็หันหลังกลับและเดินขึ้นในห้องพัก เขาเข้าไปในมัสตาร์ด ซี๊ดทันทีที่กลับถึงห้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1935

    ผู้ชายอีกคนส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “นายยังเด็กเกินไป ทำไมนายไม่คิดให้รอบคอบ นายรู้แนวคิดของสำนักระดับสามหรือไม่? ในรัฐเวสต์ เซอร์ซีที่เราอาศัยอยู่ มีสำนักระดับสามเพียงไม่กี่แห่งในที่ดินแดนที่ใหญ่โตเช่นนี้! นายรู้ไหมว่ามีกี่คนในรัฐเวสต์ เซอร์ซี? มีคนเป็นล้าน ๆ คน! ในบรรดาผู้คนนับล้านเหล่านี้จะมีสักกี่คนที่สามารถเข้าร่วมกับตำหนักสองกษัตริย์ได้”ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีไม่ยอมฟังคำอธิบายของคนผู้นั้น “ฉันไม่สนหรอก ฉันมั่นใจว่าฉันจะเข้าไปในตำหนักสองกษัตริย์ได้อย่างแน่นอน และฉันอาจจะกลายเป็นศิษย์ภายนอกของตำหนักก็ได้ แม้ว่าฉันจะอยู่ในขั้นสูงของระดับติดตัว แต่ฉันยังเด็กอยู่ สักวันหนึ่ง ฉันมั่นใจว่าฉันจะพัฒนาขึ้นไปได้อีกมาก!”คนผู้นั้นกลอกตาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด เขาดูเหมือนไม่อยากจะโต้เถียงกับชายหนุ่มคนนี้ต่อไป ดังนั้นเขาจึงหันหน้าไปมองทางอื่นเฟนด์ยืนอยู่ข้างพวกเขาในความเงียบ เขาได้รับข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับตำหนักสองกษัตริย์หลังจากฟังการสนทนาระหว่างสองคนนี้ทั่วทั้งรัฐเวสต์ เซอร์ซีมีสำนักระดับสามเพียงห้าสำนักเท่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ารัฐเวสต์ เซอร์ซีใหญ่แค่ไหน แต่จากการสนทนาระหว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1936

    งานเลี้ยงน้ำชาคืออะไร? เป็นอีกคำหนึ่งที่เฟนด์ไม่เคยได้ยินมาก่อน ยังไงก็ตามเมื่อคาดเดาจากความหมายทีละตัวอักษรแล้ว ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นการชุมนุมเพื่อแลกเปลี่ยนทักษะยุทธ ปรากฎว่าสองคนนี้ได้แสดงความสามารถพิเศษในระหว่างงานเลี้ยงน้ำชา ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รู้จักชื่อของพวกเขาและชื่นชมพวกเขาจากก้นบึ้งของหัวใจทั้งสองยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนดูราวกับนกกระเรียนพี่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงเป็ด ผู้คนที่อยู่รายล้อมพวกเขาแหวกทางให้คนเหล่านี้อย่างกระตือรือร้น แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมอร์ตัน เขาจ้องมองเจอรัลด์ด้วยหางตา เจอรัลด์ดูเหมือนจะมีกล้ามเนื้อมากกว่าเมื่อเทียบกับมอร์ตัน และกล้ามเนื้อที่ปูดโปนออกมาบนแขนของเขาก็ดูเหมือนจะมีพลังมหาศาล ดังนั้นมอร์ตันจึงคิดเสมอว่าเจอรัลด์เป็นพวกกล้ามใหญ่แต่ไร้สมองบทสนทนารอบตัวเริ่มเข้าหูพวกเขา เจอรัลด์ไม่สนใจว่าคนเหล่านี้จะพูดอะไร แต่มอร์ตันกลับมีสีหน้าเย้ยหยันอย่างเต็มที่เพราะเขารู้สึกว่าเขามีความสามารถและแข็งแกร่งกว่าเจอรัลด์มากในการต่อสู้ครั้งก่อนพวกเขาเสมอกัน แถมเขายังอายุน้อยกว่าเจอรัลด์มาก หากพวกเขาสองคนอายุเท่ากัน เจอร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1937

    บุคคลนั้นมองเฟนด์ด้วยความประหลาดใจหลังจากได้ยินคำถามของเขา เขาตวัดสายตามองเฟนด์ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงหยาบคาย “นี่นายไม่รู้เหรอ? ทั้ง ๆ ที่นายอยากเป็นศิษย์ของตำหนักสองกษัตริย์แต่นายกลับไม่รู้เรื่องนี้ ไม่รู้จักโลภเอาซะเลย!”มีคำใบ้ที่ชัดเจนในประโยคนี้และเฟนด์เลือกที่จะเพิกเฉยต่อเขา จากนั้นเขาก็เริ่มอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เฟนด์ฟัง “ต่อให้จะได้อันดับที่หนึ่งในการประเมิน แต่พวกเขาก็จะไม่ได้รับรางวัลเป็นโอสถซานหยวนอยู่ดี นั่นคือโอสถวิญญาณชั้นยอดอันดับหนึ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการ! แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อโอสถดังกล่าวด้วยผลึกวิญญาณระดับต่ำจำนวนสองพันชิ้น สำหรับผู้ได้รับชัยชนะเป็นคนแรกจะได้รับเพียง 2 รางวัลนั่นคือ คะแนนสมทบห้าสิบคะแนน และที่พักส่วนตัวเท่านั้น”“แม้ว่าที่นี่จะเป็นตำหนักสองกษัตริย์ที่มีชื่อเสียงในรัฐเวสต์ เซอร์ซี แต่ที่นี่ก็มีที่พักไม่เพียงพอเนื่องจากพวกเขามีศิษย์มากเกินไป พวกหน้าใหม่ของตำหนักจะต้องอยู่ร่วมห้องเดียวกับคนอื่น ๆ อีกหลายคน แต่หากได้ที่หนึ่งก็จะสามารถอยู่ในห้องพักส่วนตัวได้ การอยู่คนเดียวลำพังจะช่วยลดปัญหาได้มาก แต่การจะได้โอสถซานหยวนนั้นยิ่งยากเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1938

    เซฟและแอมโบรสต่างก็รู้ว่านั่นเป็นคำชมที่สูงพอ ๆ กับที่พวกเขาจะได้รับ สิ่งนี้กระตุ้นให้พวกเขาทำหน้าที่ผู้จัดงานอย่างจริงจัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซฟได้รับหน้าที่ให้รับผิดชอบในการประกาศกฎและคอยจัดการทุกอย่างให้อยู่ภายใต้การควบคุม แต่คราวนี้ เขาได้รับความช่วยเหลือจากแอมโบรสเพิ่มเข้ามาด้วยเซฟขอให้ใครสักคนนำเก้าอี้มาให้ผู้อาวุโสลี กลุ่มคนเข้าแถวตรงกลางประตูและเริ่มอธิบายกฎให้ฝูงชนด้านล่างฟัง กฎเหล่านั้นเหมือนกับข้อความที่เฟนด์ วู๊ดได้ยินจากคนอื่น ๆเซฟอ่านกฎต่อไป และแม้ว่าผู้คนจะรู้กฎของการประลองอยู่แก่ใจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้แสดงอาการกระวนกระวายกับความเชื่องช้าที่น่าหงุดหงิดของเขา ท้ายที่สุด ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือผู้ดูแลของตำหนักสองกษัตริย์ เขาสามารถโยนพวกเขาออกไปได้อย่างง่ายดายด้วยหมัดเดียว แม้แต่มอร์ตันและเจอรัลด์จอมอวดดีก็ยังฟังอยู่เงียบ ๆ ซึ่งนั่นทำให้เซฟพอใจเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาอ่านกฎจบ เขาก็หยุดก่อนที่จะพูดต่อด้วยเสียงที่ดังกว่า “ฉันรู้ว่าพวกคุณทุกคนรู้กฎกันดี แต่สิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปคือกฎใหม่ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสมาคม ดังนั้นจงฟังให้ดี โดยปกติแล้ว ผู้ชนะอันดับที่หนึ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1939

    “ตัวอย่างเช่น หนึ่งในสองคนที่แข็งแรงกว่าอาจจุดไฟดวงที่สามให้สว่างขึ้นได้เป็นเวลาหกวินาที ในขณะที่คนที่อ่อนแอกว่าจะทำได้เพียงสี่วินาที ตอนนี้พวกคุณเข้าใจหรือยัง?” ฝูงชนเข้าใจคำอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ในทันที ออบซิเดียนมีความสามารถในการวัดพลังงาน! หลังจากรู้ถึงความสามารถของมัน เฟนด์ วู๊ดก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับออบซิเดียนมากขึ้น เขาสงสัยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสามารถในการวัดพลังงานได้อย่างแม่นยำถึงระดับนั้นได้ยังไงเซฟไม่ได้ประกาศการเริ่มต้นการทดสอบทันที แต่จงใจให้เวลาผู้เข้าร่วมในการหารือกันเอง ความสนใจของฝูงชนทั้งหมดมุ่งเน้นไปที่ชายที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนในหมู่พวกเขาโดยธรรมชาติแล้ว มอร์ตันเลือกช่วงเวลานี้เพื่อกำจัดอัตตาของเขา เขาชำเลืองมองเจอรัลด์และพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยะโส “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสร้างมาตรฐานนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ฝูงชนได้รู้ว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อเทียบกับนาย”เจอรัลด์ตะคอกเสียงดัง โดยมองว่ามอร์ตันเป็นเพียงตัวตลก เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองมอร์ตันขณะที่เขาพูดว่า “นี่นายรู้ตัวไหมว่าตั้งแต่มาเหยียบที่นี่ นายยกตนข่มคนอื่นมากี่ครั้งแล้ว? คนสติดีที่ไหนจะทำแบบนั้น? ถ้านายแข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1940

    ในที่สุดเซฟก็ประกาศเริ่มต้นการทดสอบ “เราจะเริ่มการทดสอบทันที กรุณาต่อแถว ทุกคนคอยดูไว้ให้ดี ถ้ามีใครแทรกคิวคนอื่น คน ๆ นั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทันที!”การสนทนาของพวกเขาหยุดลง เฟนด์อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมเซฟถึงจงใจให้เวลาพวกเขาพูดคุยกัน สมาคมจะได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งนี้? ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ชายหนุ่มที่สวมเสื้อสีเขียวก็เริ่มเดินเข้าไปหาออบซิเดียน ถือเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้เลือกตำแหน่งเป็นคนแรกในเมื่อเขามาถึงเร็วที่สุดในหมู่ฝูงชนคนอื่น ๆ กลัวเขาและลังเลที่จะเป็นคนแรกเพราะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับเขาได้ ท้ายที่สุดแล้ว ชายหนุ่มก็อยู่ในขั้นต้นของระดับแรกกำเนิดแล้ว ก่อนที่ชายหนุ่มจะหาตำแหน่งตรงหน้าหินออบซิเดียน แอมโบรสก็พูดกับเขาว่า "คุณจะผ่านการทดสอบก็ต่อเมื่อไฟทั้งสามสว่างขึ้นทั้งหมด หากผ่านการทดสอบแล้วโปรดยืนข้างหลังฉัน”ชายหนุ่มพยักหน้าและสูดหายใจลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ จากนั้น เขาประสานมือเข้าด้วยกันแบบฝ่ามือต่อฝ่ามือ ก่อนที่แสงสีเขียวเริ่มหมุนวนรอบมือของเขาขณะที่เถาวัลย์ที่มีแสงสีเขียวนีออนปรากฏขึ้นจากมือเถาวัลย์ดังกล่าวดูเหนือจริงและเต็มไปด้วยพลังงานลึกลับ ชายหนุ่มยื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status