“ขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุด!” จากนั้นเควินก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนจากร่างกายของอเล็กซานเดอร์และตกใจจนพูดไม่ออก เขาทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดด้วยความยากลำบาก แต่อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดแล้วสำหรับพลังการต่อสู้ของเฟนด์นั้นเมื่อเทียบกับ อเล็กซานเดอร์ และคนอื่น ๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่ามาก เห็นได้ชัดว่าพลังการต่อสู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่บุคคลในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดจะสามารถทำได้“พลังยุทธที่แท้จริงของเฟนด์ตอนนี้คือขั้นไหน?!” เควินคร่ำครวญออกมา เฟนด์สามารถทำให้พวกเขาประหลาดใจและลบล้างการรับรู้ของพวกเขาได้เสมอ“เขาอยู่ในขั้นที่สี่ของระดับเทพสูงสุดแล้ว” เฮเลน่ายิ้มให้เควินขณะที่เธอบินขึ้นมา “แต่เขาสามารถฆ่าปรมาจารย์ในขั้นที่เจ็ดของระดับเทพสูงสุดได้ สมาชิกของเผ่ากระหายเลือดได้รวมตัวกันเข้ามาในพื้นที่มากมายและถ้าไม่ใช่เพราะเฟนด์เราทุกคนคงตายไปแล้ว!”“เขาฆ่าศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดซึ่งอยู่ในขั้นที่เจ็ดระดับเทพสูงสุด ทั้งที่เขามีพลังยุทธขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุด?” เควินอ้าปากค้างอีกครั้งและตกตะลึงไปชั่วขณะจากนั้นเขาก็ถามว่า “ว่า
"ไม่ต้องห่วงหรอก เขาจะสอนคุณอย่างแน่นอนเพราะคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา” เฮเลน่ายิ้มและพูดต่อ “แต่ตอนนี้เรื่องราวมันผสมปนเปกันไปหมด เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนของเผ่ากระหายเลือดจะมาโจมตีที่นี่ และเขาอาจจะไม่มีเวลามาสอนคุณในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาวางแผนที่จะหาเวลาเพื่อบ่มเพาะโอสถขั้นกลางระดับสามที่เขากำลังฝึกฝนอยู่ เขาอาจจะสามารถพัฒนาพลังยุทธของเขาได้อีกสองถึงสามขั้นด้วยการทำเช่นนั้น!”"ตายจริง! ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุดแล้ว แถมยังสามารถฆ่าผู้ที่อยู่ในขั้นที่เจ็ดระดับเทพสูงสุดได้ ถ้าเขาทะลวงไปอีกสองถึงสามระดับ เขาจะสามารถฆ่าผู้ที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดระดับเก้าได้ถูกไหม? แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะผู้ที่อยู่ในขั้นที่ระดับทะลวงวิญญาณได้ แต่เขาอยู่ไม่ไกลแล้ว!” เควินอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่เฮเลน่าพูด“เฮ้อ… ความหวังทั้งหมดของเราอยู่ที่เฟนด์หากเขาสามารถทะลวงระดับพลังยุทธในขั้นต่อไปได้ เราจะปลอดภัยกว่านี้มาก” เซเลน่าถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า “ไม่ว่ายังไง เราก็มีสมาชิกในระดับเทพสูงสุดน้อยเกินไปจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะมีผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริ
สีหน้าของเฟนด์แข็งกร้าวขึ้นเมื่อคิดเช่นนั้น“เป็นไปได้ยังไง? คนพวกนั้นมากันเร็วมาก! เราควรทำยังไงดีล่ะทีนี้?” ทุกคนมองไปที่เฟนด์อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรเฟนด์คิดใคร่ครวญก่อนที่จะมองไปด้านหลังและชี้ไปที่ยอดเขาลูกหนึ่งขณะที่พูดว่า "เอาอย่างนี้ ภูเขาที่อยู่ตรงนั้นค่อนข้างไกลจากที่นี่ พวกคุณจะไปที่นั่นด้วยกัน หากคุณพบสมาชิกคนอื่น ๆ ระหว่างทาง ให้อธิบายทุกอย่างและให้พวกเขาเร่งฝึกตัวเอง เวลาเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่รู้ว่าผู้คนจากกองทัพทั้งเก้าจะรีบมาหรือไม่ แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เรามีพวกอื่น ๆ คอยกันอยู่แถมพื้นที่ภายนอก เราจำเป็นต้องซื้อเวลาให้มากขึ้นและทำให้ผู้ที่พร้อมจะทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้รีบทะลวงให้ได้โดยเร็วที่สุด!”เควินคิดตามและหยิบโอสถหลายเม็ดออกมาก่อนจะส่งต่อให้สมาชิกที่ในอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงหลายต่อหลายคน “ฉันมีโอสถชั้นเลิศระดับสองอยู่สองสามเม็ด น่าจะพอช่วยให้ทุกคนก้าวไปสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดได้ รับมันไปแบ่งกัน!”เฟนด์เองก็พลิกมือหยิบโอสถออกมาหลายเม็ดเช่นกัน “มียาชั้นเลิศระดับสองหลายเม็ดทีเดียว และยังมีระดับสามอีกสามเม็ดด้วย พ่อเอามันไปแบ่งปันกับคนอื่
เฮเลน่าและคนอื่น ๆ อิจฉาที่เฟนด์และเซเลน่ารักใคร่กันในฐานะสามีภรรยาเฮเลน่าถึงกับเม้มปากด้วยความอิจฉาอย่างสุดซึ้งดาเนียลล่าเดินไปหาเฟนด์และเตือนเขาว่า “ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ คุณก็ต้องระวังตัวตลอดเวลา อย่าหุนหันพลันแล่นและอย่าได้ฝืนตัวเองหากคู่ต่อสู้ของคุณมีพลังยุทธสูง เข้าใจไหม?”"ไม่ต้องห่วง ผมจะจำไว้” เฟนด์ยิ้มอย่างเฉยเมยก่อนที่เขาจะหันไปกอดดาเนียลล่า ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอหน้าแดงและค่อนข้างอาย เห็นได้ชัดว่าเธอลนลานเพียงใด“ฮ่าฮ่า…วิเศษ!” เควินและคนอื่น ๆ หัวเราะเบา ๆ เมื่อได้เห็นภาพนั้นในทางกลับกัน อเล็กซานเดอร์หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง เฟนด์สวมกอดดาเนียลล่าต่อหน้าทุกคน ก็เท่ากับประกาศว่าความสัมพันธ์ของเขานั้นแสนพิเศษนอกจากนี้เขายังรู้ว่าเฮเลน่าและเฟนด์แค่แสร้งทำเป็นคู่รักกัน ในความเป็นจริงเฟนด์มีความสัมพันธ์กับลูกสาวคนสุดท้องของเขาต่างหากเขาค่อนข้างพอใจในตัวเฟนด์ในทางกลับกัน เฮเลน่าค่อนข้างอาย หลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องที่เธอแกล้งทำเป็นแฟนสาวของเฟนด์ แถมตอนนั้นหญิงสาวจากตระกูลคาเบลโลหลายคนก็นึกอิจฉาเธอด้วย"เอาล่ะ ดูแลตัวเองด้วย เราจะรอคุณอยู่ที่ยอดเขาลูกนั้น” ดาเนียลล
“เอาล่ะ ตกลงตามนั้น เราจะทำสงครามกองโจร ทีนี้ มาดูกันว่าคู่ต่อสู้ของเราอยู่ในขั้นไหน หากพวกเขามีพลังยุทธสูงมาก เราจะลอบจัดการพวกเขาแทนที่จะต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้า แต่ถ้าพวกเขามีพลังยุทธต่ำ เราจะจัดการกับพวกเขาอย่างรวดเร็ว” เคนเนธรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขามีความสุขมากเมื่อคิดว่าเฟนด์ให้โอสถขั้นกลางระดับสามแก่เขา และมีความหวังว่าเขาจะเพิ่มระดับพลังยุทธได้สักสามระดับท้ายที่สุด นี่คือโอสถขั้นกลางระดับสาม และมีคนไม่มากนักที่ได้รับมันมา การรั้งอยู่ข้างหลังนั้นเป็นการเคลื่อนไหวที่อันตรายมากสำหรับพวกเขา แต่มันก็เป็นโอกาสเช่นกัน“ฮ่าฮ่า… ผมเชื่อว่าสมาชิกของพวกเขาจะมีพลังยุทธไม่สูงนัก ท้ายที่สุดแล้ว ศิษย์ทั่วไปและศิษย์ภายนอกของพวกเขาก็มีแต่พวกพลังยุทธไม่สูง อีกอย่างเฟนด์เองก็สามารถฆ่าศิษย์ภายในของพวกเขาได้หากพวกนั้นไม่ได้มีพลังยุทธที่สูงมากและมีกันไม่กี่คน” เวสตันหัวเราะเบา ๆ แต่แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวขณะที่เขาพูด “ถึงกระนั้น เราก็ต้องเปิดศึกในสงครามที่เรามั่นใจว่าจะชนะเท่านั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าเราไม่อาจปล่อยให้สมาชิกคนใดหนีไปได้ ถ้าคนของพวกเขาหนีไปได้แล้วไปแจ้งผู้อาวุโสหรือหัวหน้าเ
“แ-่งเอ๊ย! คนพวกนี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงมีปรมาจารย์ในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดหลายคนอยู่ด้วย” สมาชิกที่เหลืออยู่ของเผ่ากระหายเลือดรู้สึกตกใจที่ทุกอย่างกลับตาลปัตร หนึ่งวินาทีที่แล้ว พวกเขาไม่ได้สังเกตพวกที่บุกเข้ามาในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์มากนัก แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีปรมาจารย์ระดับเทพสูงสุดมากมายพุ่งพรวดออกไปในวินาทีถัดจากนั้น มีปรมาจารย์ในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดถึงห้าคน และหนึ่งในนั้นอยู่ในขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุดอีกด้วย สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตะลึงงัน“พวกเขาเป็นสมาชิกของกองทัพทั้งเก้าหรือเปล่า? บ้าไปแล้ว! ต้องใช่แน่ ๆ! กองทัพทั้งเก้าส่งคนของพวกเขามาที่นี่ตั้งแต่ตอนไหน?” ชายที่อยู่ในขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดคนหนึ่งตกใจกลัวจนหันหลังหนีแต่โชคไม่ดีที่อเล็กซานเดอร์พุ่งตัวไปดักทางเขาและชกเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง นั่นทำให้เขาเสียชีวิตในทันที "ตายซะ!"ปัง! ปัง! ปัง!การมาถึงของเฟนด์และคนอื่น ๆ ทำให้การต่อสู้กลับตาลปัตรในทันที และไม่ถึงหนึ่งนาทีต่อมา การต่อสู้ก็จบลงคนที่ยังคงรอดอยู่รู้สึกเหมือนได้รอดพ้นจากหายนะผู้อาวุโสจากตระกูลลึกลับชั้นสองคนหนึ่งนำกลุ่มคนคุกเข่าต่อหน้าเฟนด์และคนอื่น ๆ “นายน้อย
ไม่นานนัก เฟนด์และพรรคพวกก็ไปถึงจุดที่จะได้ยินเสียงผู้คนต่อสู้กัน เบื้องหน้าของพวกเขาเป็นสมาชิกหลายคนของตระกูลวู๊ดและตำหนักเทพยดาที่กำลังต่อสู้กับสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดอยู่แต่ในคราวนี้สมาชิกของเผ่ากระหายเลือดประมาณ 100 คนกลับไม่มีพลังยุทธสูงนัก พวกเขามีเพียงสมาชิกในระดับกึ่งเทพ ระดับเทพแท้จริง และมีผู้อาวุโสเพียงคนเดียวที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดเท่านั้นถึงกระนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าสมาชิกของตระกูลวู๊ดและตำหนักเทพยดาไม่อาจต่อกรกับพวกเขาได้เนื่องจากคู่ต่อสู้ของพวกเขากำลังบดขยี้พวกเขาอยู่"“วิเศษมาก! มีสมาชิกในตระกูลวู๊ดของเราด้วย!” เฟนด์ดีใจที่ได้เห็นอย่างนั้น เขารีบพาพรรคพวกออกไป“ตายจริง นั่นนายน้อยและหัวหน้าตระกูลของเรานี่!” สมาชิกของตระกูลวู๊ดรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าใครมาช่วยพวกเขา พวกเขารู้ว่าเฟนด์เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ พวกเขาอยู่ที่นี่มากว่า 20 วันแล้ว และเฟนด์จะต้องทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดไปแล้วแน่ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!สมาชิกของเผ่ากระหายเลือดสู้กับเฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่ได้เลย เมื่อเฟนด์และคนอื่น ๆ มาถึง อีกฝ่ายก็ถูกสังหารภายในไม่กี่กระบวนท่าชายหนุ่มคนหนึ่งจาก
สมาชิกหญิงคนหนึ่งพึมพำอย่างออกมา “เฮ้อ… ฉันได้แต่สงสัยว่าทุกอย่างจะดีกว่านี้ไหมถ้าเราไปกับ นายน้อยเฟนด์เพราะเราก็เห็นว่าเขามีความสามารถขนาดไหน ถ้าเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดด้วย เขาก็จะสามารถฆ่าสมาชิกในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดได้ด้วยพลังการต่อสู้ของเขาได้อย่างแน่นอน!”สีหน้าของเมโลดี้มืดหม่นลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ภาพของชายคนนั้นปรากฏขึ้นในหัวของเธอ และเธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอสงสัยว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรและเขาทะลวงผ่านไปได้หรือยัง จากความสามารถของเขาแล้ว เมื่อเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุด เขาคงไม่ตายง่าย ๆ“เธอกำลังพูดอะไร? เราคือตำหนักเทพยดาและนายน้อยของตระกูลวู๊ดอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว นอกเหนือจากนั้นเราได้รับทักษะยุทธมาพัฒนาพลังยุทธหลังจากที่เราแยกจากพวกเขามาไม่นาน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเราติดตามตระกูลวู๊ดไป!” เธอตะคอกสมาชิกหญิงอีกคนในขณะที่กำลังขับไล่ศัตรู“เมโลดี้ นำสมาชิกที่มีความสามารถหนีไป ฉันจะถ่วงเวลาให้เธอและสมาชิกคนอื่น ๆ ดูว่าเราจะหาทางหนีได้หรือไม่ เราทั้งคู่จะตายที่นี่ด้วยกันไม่ได้ คุณมีความสามารถมากและเป็นผู้สืบทอดของเรา