แชร์

บทที่ 1762

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งไม่ลังเลใจนานนัก ในไม่ช้า เขาก็รวบรวมผู้อาวุโสคนอื่น ๆ และหัวหน้าเผ่า

หัวหน้าเผ่ากระหายเลือดและผู้อาวุโสมีสีหน้างงงวย บางคนง่วนอยู่กับการฝึกซ้อมในขณะที่บางคนกำลังเตรียมตัวจะเข้านอน พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งถึงเรียกให้พวกเขามารวมตัวกันในมืดค่ำเช่นนี้

“ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง เกิดอะไรขึ้น? นี่มันดึกแล้ว และทุกคนก็เตรียมตัวที่จะพักผ่อน คุณมาปลุกเราทำไม?” หัวหน้าเผ่ามองไปที่ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและถามอย่างงงงวย

เขาเข้าใจดีว่าผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งเป็นคนระมัดระวังอยู่เสมอ การที่จู่ ๆ เขาเรียกรวมพลดึกดื่นเช่นนี้ คงต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ ตามธรรมดาวิสัยของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง!

ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะอธิบายกับพวกเขา “นายท่าน ผมคงไม่เรียกทุกคนให้มารวมกันที่นี่ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ประเด็นในครั้งนี้น่าตกใจจริง ๆ ผมแน่ใจว่าทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของดินแดนรกร้างกันมาบ้างใช่ไหม?”

ผู้อาวุโสลำดับที่สองพูดโดยตรงด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน! ประมาณหกเดือนก่อน มีคนจากดินแดนรกร้างเข้ามาในพื้นที่นี้ด้วยไม่ใช่หรือ? เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1763

    ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งพยักหน้า “ไม่เพียงแต่พวกเขาเข้ามากันมากมายเท่านั้น แต่พวกเขายังเข้ามาในพื้นที่นี้มานานกว่า 20 วันแล้วด้วย บางคนได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดไปแล้ว ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาเข้ามาในพื้นที่นี้มากเกินไป สิ่งที่ศิษย์ของเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขาก็คือนอกเหนือจากกองกำลังชั้นนำจากแผ่นดินใหญ่แล้ว กองกำลังจากดินแดนทะเลเองก็เข้ามาที่นี่ด้วย พวกเขามีกันทั้งหมดอย่างน้อย 400,000 ถึง 500,000 คนเชียวนะ!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งชะงักไป ก่อนที่จะพูดต่อ “พวกเขายังพบศพของคนเหล่านั้นระหว่างเดินทางกลับ คนของเราบางคนที่อยู่ในขั้นที่สองระดับเทพสูงสุดก็ตายลงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าสมาชิกของเราต่อสู้กับอีกฝ่ายครั้งใหญ่!”"อะไรนะ?!" หัวหน้าเผ่ากระหายเลือดตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ “หากสมาชิกในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดถูกสังหาร ก็หมายความว่าคนของเราถูกอีกฝ่ายล้อมและโจมตี เป็นธรรมดาที่คนของเราที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงหรือกึ่งเทพจะต้องตาย และเป็นเรื่องปกติที่สมาชิกในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดจะต้องตายเช่นกัน แต่มันค่อนข้างผิดปกติที่แม้แต่สมาชิกในขั้นที่สองระดับเทพสูง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1764

    หลังจากการฝึกฝนอยู่หนึ่งคืน พลังยุทธของเฟนด์ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ระดับพลังยุทธขั้นที่สี่ในระดับเทพสูงสุดของเขาเสถียรมากขึ้นเช่นกันเช้าวันรุ่งขึ้น เฟนด์และคนอื่น ๆ ได้พบกับสมาชิกจากวิหารแห่งทวยเทพและราชาจำนวนมาก หลังจากที่พวกเขาออกจากที่พักได้ไม่นาน อีกฝ่ายก็ดีใจที่ได้พบกับแฮร์รี่และคนอื่น ๆ เช่นกัน พวกเขาบอกเฟนด์และคนอื่น ๆ เกี่ยวกับการต่อสู้กับสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดเฟนด์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะพูดกับแนชและคนอื่น ๆ “พ่อ ภายในสองสามวันนี้เราต้องตามหาสมาชิกของตระกูลวู๊ด ตระกูลคาเบลโลและสมาชิกจากวิหารแห่งทวยเทพและราชาให้เร็วที่สุด เราจำเป็นต้องรวบรวมพันธมิตรเราอย่างเร่งด่วน เราไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะไม่เพียงแต่พวกเขาจะถูกสัตว์อสูรฆ่าหรือถูกสมาชิกของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ตามล่าเท่านั้น แต่พวกเขายังอาจถูกสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดที่เข้ามาในป่าแห่งนี้ฆ่าเอาอีกด้วย เราอาจถูกคนเหล่านี้ตีจนแตกพ่าย!”แนชก็พยักหน้าเช่นกัน “ลูกพูดถูก เราจะมีปัญหาแน่หากเผ่ากระหายเลือดส่งสมาชิกในขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุดหรือคนมีพลังยุทธที่สูงกว่ามาที่นี่ เพราะพวกเขาจะสามารถฆ่าคนของเราได้มากมาย! เราอาจจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1765

    อเล็กซานเดอร์พูดขณะผงกศีรษะ เขามั่นใจในความภักดีของสมาชิกตระกูลคาเบลโลไม่น้อยเฟนด์บินขึ้นไปมองตามเสียง เขาชี้ไปทางขวาแล้วจึงพูด "ไปกันเถอะ แถวนั้นมีเสียงการต่อสู้แถวนั้นอยู่บ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่า!” ไม่นานพวกเขาก็บินตรงไปยังบริเวณนั้นในไม่ช้า พวกเขาก็ได้เห็นว่าเควินกำลังนำสมาชิกตระกูลคาเบลโลราว 1,000 คนต่อสู้กับสมาชิกตระกูลลาโกริโอและสมาชิกของตำหนักนภาจำนวน 2,000 คนอยู่เควินและผู้อาวุโสตระกูลคาเบลโลอีกสองคนได้ก้าวเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดได้แล้วในขณะนี้ แต่อีกฝ่ายมีสมาชิกในขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดถึงสี่คน และพวกเขายังมีความได้เปรียบในแง่ของจำนวนคนอีก สิ่งนี้ทำให้เควินและคนอื่น ๆ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตั้งรับลูกเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกอีกฝ่ายกดเอาไว้ในการต่อสู้ครั้งนี้“โธ่เว๊ย! สมาชิกของตระกูลลาโกริโอกับสมาชิกตำหนักนภาพวกนั้นร้ายกาจจริง ๆ พวกนี้ชอบหาเรื่องตระกูลคาเบลโลของเราไม่ยอมเลิกรา!” เควินเริ่มต่อว่าในขณะที่เขากำลังต่อสู้เพราะไม่พอใจอย่างยิ่งกับสถานการณ์นี้“ฮ่าฮ่า… ต้องโทษที่สมาชิกของตระกูลคาเบลโลดันไปช่วยเหลือตระกูลวู๊ดไม่หยุดต่างหาก! เพราะพวกคุณเป็นพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1766

    “คุณเป็นตาเฒ่าที่ดื้อรั้นอะไรอย่างนี้! ในเมื่อคุณอยากตายขนาดนั้น อย่าโทษที่เราฆ่าคุณแล้วกัน!” ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ตรงข้ามหมดความอดทน การโจมตีของเขารุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก และเขาจะลงมือในทันที“ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง ดูสิ! ตรงนั้น!" ชายหนุ่มจากตระกูลคาเบลโลตะโกนบอกทิศ เขาอุทานต่อว่า “คนเหล่านั้นดูเหมือนสมาชิกของตระกูลคาเบลโลเลยล่ะ และดูเหมือนว่าจะมีสมาชิกในตระกูลวู๊ดอยู่ที่นั่นด้วย ขอบคุณพระเจ้าที่มีพวกเขามีกันมากมายและยังเป็นกลุ่มหลักเสียด้วย! ในที่สุดเราก็ได้พบกับกองกำลังหลักของเราแล้ว!”ดวงตาของสมาชิกตระกูลคาเบลโลคนอื่น ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง พวกเขาคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่พวกเขาก็ได้เห็นความหวังในการชนะศึกครั้งนี้“นั่นสมาชิกในตระกูลของเรากับคนอื่น ๆ จริง ๆ ด้วย!” ดวงตาของเควินแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น “นายท่านเราอยู่นี่! รีบมาช่วยเราเร็วเข้า!”ในขณะเดียวกัน คู่ต่อสู้ของพวกเขากลับหน้าซีดลงเมื่อรู้ว่านั่นคือเฟนด์จริง ๆ แถมยังมีคนอยู่กับเขาราว 10,000 ถึง 20,000 คนอีก"หนีเร็ว!"“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันมีกันเยอะขนาดนี้!”สมาชิกของตระกูลลาโกริโอและตำหนักนภารู้สึกหวาดกลัวเข้ากระดูกดำ ความได้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1767

    “ขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุด!” จากนั้นเควินก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนจากร่างกายของอเล็กซานเดอร์และตกใจจนพูดไม่ออก เขาทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดด้วยความยากลำบาก แต่อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดแล้วสำหรับพลังการต่อสู้ของเฟนด์นั้นเมื่อเทียบกับ อเล็กซานเดอร์ และคนอื่น ๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่ามาก เห็นได้ชัดว่าพลังการต่อสู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่บุคคลในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดจะสามารถทำได้“พลังยุทธที่แท้จริงของเฟนด์ตอนนี้คือขั้นไหน?!” เควินคร่ำครวญออกมา เฟนด์สามารถทำให้พวกเขาประหลาดใจและลบล้างการรับรู้ของพวกเขาได้เสมอ“เขาอยู่ในขั้นที่สี่ของระดับเทพสูงสุดแล้ว” เฮเลน่ายิ้มให้เควินขณะที่เธอบินขึ้นมา “แต่เขาสามารถฆ่าปรมาจารย์ในขั้นที่เจ็ดของระดับเทพสูงสุดได้ สมาชิกของเผ่ากระหายเลือดได้รวมตัวกันเข้ามาในพื้นที่มากมายและถ้าไม่ใช่เพราะเฟนด์เราทุกคนคงตายไปแล้ว!”“เขาฆ่าศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดซึ่งอยู่ในขั้นที่เจ็ดระดับเทพสูงสุด ทั้งที่เขามีพลังยุทธขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุด?” เควินอ้าปากค้างอีกครั้งและตกตะลึงไปชั่วขณะจากนั้นเขาก็ถามว่า “ว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1768

    "ไม่ต้องห่วงหรอก เขาจะสอนคุณอย่างแน่นอนเพราะคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา” เฮเลน่ายิ้มและพูดต่อ “แต่ตอนนี้เรื่องราวมันผสมปนเปกันไปหมด เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนของเผ่ากระหายเลือดจะมาโจมตีที่นี่ และเขาอาจจะไม่มีเวลามาสอนคุณในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาวางแผนที่จะหาเวลาเพื่อบ่มเพาะโอสถขั้นกลางระดับสามที่เขากำลังฝึกฝนอยู่ เขาอาจจะสามารถพัฒนาพลังยุทธของเขาได้อีกสองถึงสามขั้นด้วยการทำเช่นนั้น!”"ตายจริง! ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่สี่ระดับเทพสูงสุดแล้ว แถมยังสามารถฆ่าผู้ที่อยู่ในขั้นที่เจ็ดระดับเทพสูงสุดได้ ถ้าเขาทะลวงไปอีกสองถึงสามระดับ เขาจะสามารถฆ่าผู้ที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดระดับเก้าได้ถูกไหม? แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะผู้ที่อยู่ในขั้นที่ระดับทะลวงวิญญาณได้ แต่เขาอยู่ไม่ไกลแล้ว!” เควินอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่เฮเลน่าพูด“เฮ้อ… ความหวังทั้งหมดของเราอยู่ที่เฟนด์หากเขาสามารถทะลวงระดับพลังยุทธในขั้นต่อไปได้ เราจะปลอดภัยกว่านี้มาก” เซเลน่าถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า “ไม่ว่ายังไง เราก็มีสมาชิกในระดับเทพสูงสุดน้อยเกินไปจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะมีผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1769

    สีหน้าของเฟนด์แข็งกร้าวขึ้นเมื่อคิดเช่นนั้น“เป็นไปได้ยังไง? คนพวกนั้นมากันเร็วมาก! เราควรทำยังไงดีล่ะทีนี้?” ทุกคนมองไปที่เฟนด์อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรเฟนด์คิดใคร่ครวญก่อนที่จะมองไปด้านหลังและชี้ไปที่ยอดเขาลูกหนึ่งขณะที่พูดว่า "เอาอย่างนี้ ภูเขาที่อยู่ตรงนั้นค่อนข้างไกลจากที่นี่ พวกคุณจะไปที่นั่นด้วยกัน หากคุณพบสมาชิกคนอื่น ๆ ระหว่างทาง ให้อธิบายทุกอย่างและให้พวกเขาเร่งฝึกตัวเอง เวลาเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่รู้ว่าผู้คนจากกองทัพทั้งเก้าจะรีบมาหรือไม่ แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เรามีพวกอื่น ๆ คอยกันอยู่แถมพื้นที่ภายนอก เราจำเป็นต้องซื้อเวลาให้มากขึ้นและทำให้ผู้ที่พร้อมจะทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้รีบทะลวงให้ได้โดยเร็วที่สุด!”เควินคิดตามและหยิบโอสถหลายเม็ดออกมาก่อนจะส่งต่อให้สมาชิกที่ในอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงหลายต่อหลายคน “ฉันมีโอสถชั้นเลิศระดับสองอยู่สองสามเม็ด น่าจะพอช่วยให้ทุกคนก้าวไปสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดได้ รับมันไปแบ่งกัน!”เฟนด์เองก็พลิกมือหยิบโอสถออกมาหลายเม็ดเช่นกัน “มียาชั้นเลิศระดับสองหลายเม็ดทีเดียว และยังมีระดับสามอีกสามเม็ดด้วย พ่อเอามันไปแบ่งปันกับคนอื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1770

    เฮเลน่าและคนอื่น ๆ อิจฉาที่เฟนด์และเซเลน่ารักใคร่กันในฐานะสามีภรรยาเฮเลน่าถึงกับเม้มปากด้วยความอิจฉาอย่างสุดซึ้งดาเนียลล่าเดินไปหาเฟนด์และเตือนเขาว่า “ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ คุณก็ต้องระวังตัวตลอดเวลา อย่าหุนหันพลันแล่นและอย่าได้ฝืนตัวเองหากคู่ต่อสู้ของคุณมีพลังยุทธสูง เข้าใจไหม?”"ไม่ต้องห่วง ผมจะจำไว้” เฟนด์ยิ้มอย่างเฉยเมยก่อนที่เขาจะหันไปกอดดาเนียลล่า ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอหน้าแดงและค่อนข้างอาย เห็นได้ชัดว่าเธอลนลานเพียงใด“ฮ่าฮ่า…วิเศษ!” เควินและคนอื่น ๆ หัวเราะเบา ๆ เมื่อได้เห็นภาพนั้นในทางกลับกัน อเล็กซานเดอร์หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง เฟนด์สวมกอดดาเนียลล่าต่อหน้าทุกคน ก็เท่ากับประกาศว่าความสัมพันธ์ของเขานั้นแสนพิเศษนอกจากนี้เขายังรู้ว่าเฮเลน่าและเฟนด์แค่แสร้งทำเป็นคู่รักกัน ในความเป็นจริงเฟนด์มีความสัมพันธ์กับลูกสาวคนสุดท้องของเขาต่างหากเขาค่อนข้างพอใจในตัวเฟนด์ในทางกลับกัน เฮเลน่าค่อนข้างอาย หลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องที่เธอแกล้งทำเป็นแฟนสาวของเฟนด์ แถมตอนนั้นหญิงสาวจากตระกูลคาเบลโลหลายคนก็นึกอิจฉาเธอด้วย"เอาล่ะ ดูแลตัวเองด้วย เราจะรอคุณอยู่ที่ยอดเขาลูกนั้น” ดาเนียลล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status