โจเอลและพรรคพวกรออยู่ที่ภูเขาไกล ๆ เป็นเวลานาน เมื่อเขาเห็นเฟนด์และคนอื่น ๆ บินเข้าไปในป่าความตื่นเต้นก็เด่นหราบนใบหน้าของโจเอล “ดี นั่นดีมาก พวกเขากำลังรวมตัวกันอยู่ที่นั่นจริง ๆ!”“ฮ่า ฮ่า… มันจริง แหมก็เราฆ่าคนของพวกเขาไปสองคนแถมยังมีตัวประกันอยู่กับเราหลายคน พวกเขาต้องไม่กล้าโกหกเราอยู่แล้ว!” ลิลลี่ยิ้มอย่างเย็นชาขณะที่เธอจ้องมองไปที่ป่าเบื้องหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เธอพึมพำเสียงเบา “แม่อยู่ที่นี่แล้วแลนซ์ แม่มาที่ป่าแห่งนี้ บอกแม่มาสิว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ ลูกยังอยู่ในป่านี้ใช่ไหม? ลูกคงหลงทางและหาทางออกไม่ได้ล่ะสิ? ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!”เมื่อสังเกตเห็นอารมณ์ขุ่นมัวของลิลลี่ โจเอลบ่นอย่างหมดความอดทน “หยุดถ่ายถอนใจได้แล้ว ลูกชายคนโตของคุณคงตายไปนานแล้ว ผมรู้จักพ่อหนุ่มคนนั้น และเขามีพรสวรรค์มากทีเดียว ถ้าเฟนด์ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาและลูกชายของคุณก็คงไม่ได้มาที่ขุมนรกแบบนี้ ลูกชายของคุณคงจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูล!”“จำทางที่พวกเขาบินไป แล้วเราจะตามพวกเขาไปห่าง ๆ เมื่อถึงตอนนั้นให้พวกคุณส่วนใหญ่บินอยู่ใต้ต้นไม้ ส่วนเราสองคนจะบินสูงกว่าเพื่อแอบดูทิศทางที่พวกเขาบินไป พอถึงบริเวณท
แมทธิวขมวดคิ้วและดูตระหนก เขาไม่อยากให้ใครเห็นเพราะมันรังแต่จะทำให้เขาเดือดร้อน“เป็นไปไม่ได้! เฟนด์และคนอื่น ๆ จะไม่ไปไหนหากไม่มีทุกคนอยู่ด้วย พวกเขาทั้งหมดได้ทำสัญญากันไว้แล้ว ดูจากเครื่องแต่งกายของพวกเขาแล้ว คนเหล่านั้นน่าจะเป็นคนจากตำหนักนภา!”ผู้อาวุโสโมสลีย์มองออกไปไกลและโล่งใจขึ้น เมื่อสายตาจับจ้องมาที่เขา “เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้ไปสืบข่าวบางอย่างมา และได้รู้ว่าตำหนักนภานี้เป็นศัตรูของตระกูลวู๊ด เราไปหาพวกเขากันเถอะ! ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแอบติดตามคนอื่น ๆ ไปเช่นกัน และพวกเขาอาจมีตัวประกันจากตระกูลเล็ก ๆหลายคนเหมือนพวกเรา!”แมทธิวและคนอื่น ๆ ผ่อนคลายเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสโมสลีย์พูดแมทธิวก็เริ่มยิ้มเช่นกัน “ศัตรูของศัตรู คือมิตร ฮ่า ๆ…! เราไปทำความรู้จักกับพวกเขากันเถอะ!”"พวกเขากำลังมา! พวกเขากำลังมา! พวกเขากำลังมาหาเราแล้ว ทุกคนระวังตัวด้วย!” โจเอลอยู่ในภาวะตระหนกอย่างหนัก ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ผืนดินว่างเปล่านอกป่าไอเมฆาอย่างรวดเร็ว สมาชิกของตำหนักนภามองไปข้างหน้าอย่างตระหนกเช่นกัน“พวกคุณเป็นใคร?” โจเอลถามแมทธิวและคนอื่น ๆ เสียงดังหลัง จากที่พวกเขาหยุดห่างออกไประยะหนึ่ง
เฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่รู้เลยว่าในขณะนี้มีกองกำลังขนาดใหญ่สองกลุ่มกำลังแอบสะกดรอยตามพวกเขาเข้าไปในป่าหลังจากที่คนกลุ่มนั้นบินเข้ามาประมาณสองชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงบริเวณที่หมอกสีชมพูปรากฏขึ้น เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณนี้เฟนด์พบว่าพลังฉีของเขาเริ่มแปรปรวน เนื่องจากเขาไม่อาจควบคุมพลังฉีได้ง่ายเหมือนอย่างเคยเฟนด์และคนอื่น ๆ ควบคุมดาบบินของพวกเขาให้หยุดในทันที ก่อนที่พวกเขาจะลงไปในผืนป่า“หมอกสีชมพูจาง ๆ พวกนี้ดูแปลกชอบกล แต่ก็สวยทีเดียว พวกมันไม่น่าจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ใช่ไหม?” เซเลน่าพูดอย่างอยากรู้อยากเห็นขณะที่เธอมองไปที่หมอกตรงหน้า“ไม่ต้องกังวล พี่เซเลน่า หมอกที่อยู่ตรงหน้าเราไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เลย!” ดาเนียลล่าตอบขณะที่เธอเดินไป “แน่นอน ที่นี่หมอกยังไม่หนามาก แต่เมื่อเราเดินลึกลงไป มันก็จะหนาขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเราอาจจะหลงทางหรือหาทางออกไม่เจอ!”เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังมาจากป่าด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง ฟังจากเสียงคำรามอู้อี้แล้ว ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรเหล่านี้จะมีทักษะยุทธค่อนข้างสูง!แต่พวกมีกันจำนวนมากเกิน และปรมาจารย์ระดับแนวหน้าของโลกก็อยู่กับพวกเขา เหล่าสัตว์อสูรดังกล่าว
“ในที่สุดเราก็มาถึงตีนเขา โอ้… จากระยะทาง เรายังต้องเดินไปอีกเจ็ดถึงแปดวัน กว่าจะถึงถึงจุดที่ถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ ยังอีกไกลมากทีเดียว!” เควินหัวเสียเมื่อเขามองไปที่ภูเขาลูกใหญ่เบื้องหน้าและระยะทางบนแผนที่“มันค่อนข้างไกลจริง ๆ ที่สำคัญแรงโน้มถ่วงของที่นี่ก็ค่อนข้างต่างกับข้างนอกและจะเดินเร็วเกินไปก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเราจะเหนื่อยเกินไป ยิ่งเดินต่อไปเช่นนี้ก็จะยิ่งเหนื่อยล้า ความเร็วในการเดินของเราอาจลดลงตามไปด้วย เราไม่สามารถประเมินระยะเวลาได้จากความเร็วในปัจจุบันของเรา ดังนั้นผมคิดว่าเราอาจต้องเดินอีกราวสิบวันก่อนกว่าจะถึงที่หมาย” เฟนด์ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน อย่างไรเสียการเลื่อนไปอีกหนึ่งวันก็หมายความว่าเฟอร์นันโดเองก็จะมีเวลาน้อยลงหนึ่งวัน ซึ่งนั่นทำให้เขาท้อใจมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้าวไปทีละก้าวหลังจากพักครึ่งวัน เฟนด์และคนอื่น ๆ ก็เดินทางต่อจนกระทั่งเดินผ่านภูเขาลูกใหญ่นั้นไปได้ ขณะที่พวกเขาเข้าไปในป่าลึกขึ้น หมอกที่กระจายตัวอยู่ด้านหลังพวกเขาก็ค่อย ๆ กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ราวกับว่าไม่มีใครเคยผ่านเส้นทางด้านหลังมาก่อน“เร็วเข้า เร็วเข้า! ในครึ่
ฮึ่ม!เมื่อวางลูกบอลหินลูกแรกลงในรูนั้นม่านป้องกันสีฟ้าก็สั่นจนสังเกตได้ และสีของหน้าจอก็เข้มมาหขึ้น“มีบางอย่างเกิดขึ้น! มีดูได้ผลจริง ๆ! ฮ่า ฮ่า… เยี่ยมมาก! พวกปรมาจารย์ที่เข้าไปในม่านป้องกันสีฟ้านี้จะต้องมีสิ่งที่ดีกว่าข้างนอกนี้แน่ มิฉะนั้นพวกเขาคงพากันออกมาแล้ว” หนึ่งในนั้นหัวเราะอย่างร่าเริงขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในไม่ช้า ลูกบอลหินลูกที่สองก็ถูกวางลงในช่องต่อไป ตามด้วยลูกบอลหินลูกที่สามและสี่ จนในที่สุด ลูกบอลหินทั้งเจ็ดลูกก็ถูกวางลงในหลุม“ปฏิกิริยารุนแรงมาก ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราจะถูกเด้งออกไปหรอกใช่ไหม?” ใครอีกคนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น“ทำไมเราไม่ลองดูล่ะ?” ผู้อาวุโสกัดฟันขณะบินขึ้นและพุ่งไปยังม่านป้องกันสีฟ้าตรงหน้าคราวนี้ม่านป้องกันสีฟ้าปลอดโปร่ง ชายชราพุ่งตัวหายไปด้านใน"เขาหายไปแล้ว!" หลายคนมองหน้ากันแล้วกลืนน้ำลาย“ผมสงสัยจริงว่าโลกข้างในเป็นยังไง!” บางคนเริ่มกังวลเล็กน้อย“อยู่ที่นี่แล้วและมากลัวอะไรอีก?! บ้าเอ๊ย! นี่เป็นโอกาสเดียวที่เราจะได้ทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดและกลายเป็นปรมาจารย์ในระดับทะลวงวิญญาณ!” ชายชราอีกคนจากตระกูลซีเมเนสกัดฟันขณะที่เ
“ฮ่า ฮ่า! เอาล่ะ มีถ้ำอยู่ด้วย พวกมันเข้าไปกันหมดแล้ว!” โจเอลหัวเราะเสียงดังด้วยความยินดีทว่าความสุขของเขากลับลดลง ทันทีที่เขาเหลือบไปมองลิลลี่ซึ่งอยู่ข้างๆ เขา “นายหญิงลำดับที่เก้า คุณเป็นอะไร? คุณไม่ดีใจที่เราพบทางเข้าหรือ? ทำไมดูอมทุกข์นัก?”ลิลลี่ถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “ฉันเฝ้าสังเกตตลอดการเดินทาง แต่ดูเหมือนจะไม่มีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับลูกชายของฉันเลย เฮ้อ… ลูกชายของฉันกับคนอื่น ๆ คงตายกันหมดแล้วแน่ ๆ… เฮ้อ!”โจเอลพูดไม่ออก ก่อนจะพูดว่า “ผมแน่ใจว่าเขาคงตายไปนานแล้ว คุณเองก็ควรหยุดคิดเรื่องนี้เถอะ หลังจากเข้าสู่ป่าไอเมฆาเขาจะรอดได้อย่างไร?”ลิลลี่ถอนหายใจกับตัวเองอีกครั้ง เธอเหลือบไปเห็นดาบที่ยื่นออกมาจากหน้าผาโดยบังเอิญ แม้ว่าครึ่งหนึ่งของดาบจะฝังอยู่ในก้อนหิน แต่ก็ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งของดาบโผล่ให้เห็น และมันดูคุ้นตาเธอเหลือเกิน“ที่รัก เร็วเข้า! รีบหน่อย! คุณเห็นดาบเล่มนั้นไหม? เอามันลงมาให้ฉันที!” ลิลลี่พรั่งพรูออกมาหลังจากที่เธอตรวจดูมัน“ทำไมคุณถึงอยากให้ผมเอาดาบที่อยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนก็ไม่รู้มาล่ะ?” โจเอลดูไม่เต็มใจนัก แต่เขาก็บินขึ้นไปหยิบดาบลงมา ก่อนจะส่งต่อให้ลิลลี่ “
โฮก!เฟนด์ได้ยินเสียงคำรามอันน่ากลัวของสัตว์อสูรจากระยะไกล เสียงเหล่านั้นฟังดูอึกทึกมาก และเสียงคำรามอันน่าเกรงขามนั้นทำให้เฟนด์คิดว่าสัตว์อสูรในบริเวณนี้แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรที่อยู่ข้างนอกมากทันใดนั้นเอง…ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เฟนด์ได้ยินเสียงของการต่อสู้บนยอดเขาซึ่งไม่ไกลจากที่ที่ตัวเองอยู่'เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาเริ่มต่อสู้กันตั้งแต่เหยียบเข้ามาที่นี่เลยงั้นเหรอ? ดูเหมือนเราห่างกับพวกนั้นไม่มากแม้ว่าทุกคนที่เข้ามาจะถูกแยกกันก็ตาม ฉันควรจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น' เฟนด์คิดในขณะที่เขาบินไปยังแหล่งที่มาของเสียงอึกทึกเหล่านั้นเนื่องจากในบริเวณนี้มีพลังฉีหนาแน่น เฟนด์จึงบินด้วยดาบบินได้อย่างรวดเร็วและตรงไปที่ยอดเขาดังกล่าวทันทีแน่นอนว่า เฟนด์ไม่ได้บินบนท้องฟ้าสูงเกินไป เพราะเขากลัวว่าสัตว์อสูรจะมองเห็น ดังนั้นเขาจึงบินอย่างรวดเร็วเหนือพื้นดินเพียงแค่หนึ่งถึงสองเมตรเท่านั้นในไม่ช้า เฟนด์ก็มาถึงบนยอดเขาซึ่งดูเหมือนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น“แ*งเอ๊ย! คนพวกนี้เข้ามาได้ยังไง?” ชายร่างกำยำศีรษะล้านที่มีคิ้วตรงและดูจู้จี้มีขนาดตัวใหญ่มหึมา เขาถือกระบองขนาดใหญ่ไว้ในมือ โดยไม่สวมเสื้อผ้าท่อนบน และ
ชายร่างกำยำหัวเราะเสียงดังก่อนจะไล่ตามเมโลดี้ไปอย่างรวดเร็ว'เร็วเกินไปแล้ว!' เฟนด์สะดุ้งเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา ความเร็วของชายร่างกำยำนั้นเหนือกว่าปรมาจารย์ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงทั่วไปแน่นอนว่าชายคนนั้นไล่ตามเมโลดี้ทันในพริบตาและใช้ค้อนของเขาทุบไปด้านหน้า “คนสวย ในเมื่อคุณไม่ยอมอธิบายตัวเอง เช่นนั้นผมก็ต้องจัดการคุณ!”เมโลดี้รู้ว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะเร็วกว่าเธอถึงสองเท่าและจะไล่ตามเธอได้เร็วขนาดนี้ เธอหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่มองไปยังค้อนที่หล่นลงมา เธออัดพลังฉีใส่ดาบในมือก่อนที่จะยกมันขึ้นเหนือหัวเพื่อป้องกันตัวเองทว่า...ปัง!ชายคนนั้นมีพลังมากเกินไป เมโลดี้ล้มลงไปกับพื้นพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น เธออาเจียนเป็นเลือดและนั่นทำให้ผ้าคลุมของเธอเปื้อน หลุมลึกปรากฏขึ้นบนพื้น เมโลดี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจลุกขึ้นยืนได้ชายร่างผอมรีบบินไปขวางชายร่างกำยำเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น “เจ้าโง่ อย่าฆ่าเธอนะ! ไร้สาระจริง ๆ! ถึงนายจะไม่อยากนอนกับเธอ แต่ฉันอยาก! ฮ่า ๆ! ให้ฉันนอนกับสาวน้อยคนนี้แล้วคุณก็ไปดูรอบ ๆ ว่ามีใครอื่นอีกไหม!”"คุณ...! สักวันคุณจะตา