“หากพวกเขาขอให้กำจัดสามคนนี้ พวกเขาก็อาจจะเห็นด้วย!”ผู้อาวุโสลำดับที่แปดพยักหน้าหลังจากใช้ความคิดบางอย่าง “เพราะยังไงซะ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการสูญเสียใด ๆ ถ้าพวกเขาต้องการต่อสู้กับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลวู๊ด เมื่อมีข่าวว่าหนึ่งในสี่เผ่าโบราณจะโจมตีตระกูลลึกลับออกไป มันคงเป็นปัญหาแน่!”ลิลลี่รู้ดีว่าสี่เผ่าโบราณและตระกูลลึกลับยังคงจะรักษาความสงบต่อกันไว้โดยที่ไม่ได้พูดออกมา พวกเขาจะไม่เข้ามาก้าวก่ายซึ่งกันและกันอีกอย่าง สี่เผ่าโบราณยังได้ให้คำสัญญาว่าพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลลึกลับเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของพวกเขานอกจากนี้ ยังมีความขัดแย้งหรือความไม่ลงรอยกันเป็นครั้งคราวระหว่างพวกเขากับตระกูลลึกลับ เช่น ตระกูลชนชั้นหนึ่งทั้งแปด แต่ความเป็นไปได้ของสงครามที่เกิดขึ้นจริงนั้นต่ำมากพวกเขามีเรื่องไม่ลงรอยกัน แต่เมื่อเผ่าโบราณโจมตีตระกูลลึกลับ ตระกูลลึกลับอื่น ๆ คงจะรวมตัวกันเพื่อต่อต้านเผ่าโบราณอย่างแน่นอน จนกระทั่งนำไปสู่การทำสงครามกับพวกเขานี่เป็นเพราะตระกูลลึกลับรู้ดีว่าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นครั้งหนึ่ง มันก็อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีกหากพวกเข
“แน่ใจเหรอศิษย์พี่? อย่างน้อยเราก็ควรไปแจ้งผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งก่อนไม่ได้เหรอ? ศิษย์พี่ยังไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าคนพวกนี้เป็นใคร แล้วศิษย์พี่จะพาพวกเขาไปพบเจ้าตำหนัก?”ลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งขมวดคิ้วเมื่อเห็นแบบนั้นและพูดเตือนศิษย์ชายคนนั้นแล้วศิษย์ชายคนนั้นก็นึกขึ้นได้และถามว่า “จริงสิ พวกคุณเป็นใคร? ฉันรับแต่ของจากพวกคุณโดยไม่รู้ชื่อไม่ได้!”ลิลลี่แนะนำตัวและผู้อาวุโสลำดับที่แปดให้พวกเเขารู้จัก “เรามาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญจริง ๆ” เธอพูด “เรามีข่าวเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุด ไม่ต้องห่วง ฉันมั่นใจว่าเจ้าตำหนักของคุณจะมาพบเราแน่นอนเมื่อเขารู้ว่าเรามาที่นี่เพื่อบอกข่าวนี้”ผู้อาวุโสลำดับที่แปดก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “มันเป็นเรื่องจริง เขาจะมาเจอเราแน่นอน ลองคิดดูสิ เจ้าตำหนักของคุณอยู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริง และตอนนี้เขาก็อายุมากแล้ว ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เขาอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว เขาอาจจะแข็งแกร่งและเร็วกว่าพวกเราที่เหลือ แต่ถึงอย่างนั้นเขาคงทำได้เพียงรอความตายถ้าเขาไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับเทพสูงสุด สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือการทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดเพื่อยืดอายุของเขา…”“ก็ได้ ก็ได้
“ฮ่า ฉันไม่มีทางเลือกหนิ ท่านเจ้าตำหนักคอลลินส์ ้เพราะยังไงซะ ฉันก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับฉันที่จะประหม่า!”ลิลลี่ยิ้มอย่างขมขื่น “อีกอย่าง ฉันเชื่อว่าคนที่ทรงพลังและมีเมตตาอย่างคุณคงจะไม่ยุ่งกับคนตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเรา ใช่ไหม?”“ฮ่าฮ่า แน่นอน แน่นอน!”เจ้าตำหนักคอลลินส์พิจารณาลิลลี่อีกครั้ง หัวใจของเขารู้สึกเป็นทุกข์ ผู้หญิงคนนี้ยังดูดีอยู่เลย เธอดูเหมือนอายุแค่สามสิบ เธอมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม และเธอยังเป็นแบบที่เขาชอบเขานั่งลงและถามอย่างช้า ๆ ว่า “เอาล่ะ บอกมาสิ คุณนำข่าวอะไรมาบอกฉัน?”“เจ้าตำหนักคอลลินส์ ฉันมาที่นี่เพื่อบอกบางอย่างคุณเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุด!”ลิลลี่พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงดวงตาของ โจเอล คอลลินส์ เป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาที่เพิ่งนั่งลงก็รีบลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น “ข่าวเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุด?”แต่เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากของเขาจึงโค้งเป็นรอยยิ้มเย็นชา “อย่างไรก็ตาม ทำไมคุณถึงมาบอกข่าวนี้กับคนของตำหนักนภาอย่างเรา? เฮ้ ฉันไม่คิดว่าคุณจะใจกว้างขนาดนั้นหรอกนะ!”“เจ้าตำหนักคอลลินส์ คุณเข้าใจได้รวดเร็วมาก
ในที่สุดลิลลี่ก็เผยความคิดของเธอออกมา ‘ฉันรู้ว่ามันอาจจะยากสำหรับคุณ แต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันจำเป็นต้องแก้แค้น ฉันต้องแก้แค้นให้ได้!'"เดี๋ยวนะ!"โจเอลรู้สึกงงเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน “ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านายท่านของตระกูลวู๊ดคือ แนช วู๊ด ใช่ไหม?” เขาก็พูดต่อว่า “ผู้หญิงของเขาชื่อลิลลี่ไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมคุณถึงอยากฆ่าเขาล่ะ?”“ฮึ่ม คนทรยศคนนั้น เขาพบผู้หญิงอีกคนจากแดนมนุษย์ ไม่ต้องสนใจหรอกว่ามันน่าอายแค่ไหน เขายังต้อนรับเธอและลูกชายนอกสมรสคนหนึ่งที่เขาเคยมีด้วยกันกลับเข้ามาในบ้าน และไม่คิดเลยว่านอกจากเขาจะต้อนรับพวกเขากลับมาแล้ว เขายังมอบตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลให้ลูกชายนอกสมรสคนนั้นด้วย แน่นอน ฉันก็ต้องโกรธสิ!”เมื่อลิลลี่นึกถึงเรื่องนี้ ความโกรธก็ปะทุขึ้นมาในตัวเธออีกครั้ง “ตระกูลวู๊ดแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ” เธอพูด “ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของพวกเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้แล้ว สำหรับไอ้นอกคอกไร้ค่าอย่างเฟนด์ เขาก็มีพรสวรรค์และพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง และฉันได้ยินมาว่าเขามีอาวุธวิญญาณที่ทรงพลัง ซึ่งอาจเป็นอาวุธระดับสุดยอด ในระหว่างการแข่งขัน ตระกูลลา
“เอาอย่างนี้ดีไหม? ฉันเข้าใจว่านี่จะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ เจ้าตำหนักคอลลินส์ ฉันก็ไม่ได้อยากให้คุณมีปัญหา เพราะยังไงซะ ถ้ากำจัดตระกูลวู๊ดทั้งหมดผลกระทบคงร้ายแรงมาก งั้นลองดูว่าแบบนี้คุณจะเห็นด้วยไหม อีกไม่นานตระกูลวู๊ดจะเข้าไปยังสถานที่อันตรายทั้งเจ็ด เราก็ติดต่อกันแล้วฉันจะบอกคุณว่าพวกเขาเข้าไปในสถานที่อันตรายเขตไหน!”“หลังจากที่คุณเข้าไปในสถานที่อันตรายเขตนั้นแล้วพบแนช เฟนด์ และเคนเนธซึ่งผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของพวกเขา ช่วยฉันฆ่าพวกเขาทั้งสามคน มันคงไม่ยากเกินไปใช่ไหม? พื้นที่นั้นมีความโกลาหลอยู่ตลอด ดังนั้นคงไม่ถูกพบเห็นได้ง่าย ๆ หรอก มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าคุณแค่ฆ่าสามคนนี้!”ลิลลี่แกล้งทำเป็นครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดความในใจออกมาว่า “และตราบเท่าที่พวกเขาทั้งสามคนตาย ตระกูลลาโกริโอจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนหากเราโจมตีตระกูลวู๊ด การต่อสู้ระหว่างตระกูลลึกลับคงไม่กระทบอะไรกับคุณใช่ไหม?“ฟังดูมีเหตุผล!”โจเอลพยักหน้า จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสลำดับที่แปดของตระกูลลาโกริโอ “อย่างไรก็ตาม ฉันยังต้องการหารือเรื่องนี้เพิ่มกับคุณหนูใหญ่ของคุณ” เขาบอกกับผู้อาวุโสลำดับที่แปด “ฉ
“เกรงว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ!”เธอไม่คิดว่าโจเอลจะพูดออกมาว่า “ฉันตั้งใจจะแต่งงานกับคุณและแต่งตั้งให้คุณเป็นภรรยาคนที่เก้าของฉัน แน่นอนคุณต้องอยู่กับฉันไปอีกสักพัก!”“ภรรยาคนที่เก้า?”เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น มุมปากของลิลลี่ก็กระตุกเล็กน้อย เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะต้องการให้เธอเป็นภรรยาคนที่เก้าของเขาเธอไม่สนใจที่จะแต่งงานกับชายชราคนนี้ มันไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเลย ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป นอกจากนี้ คงจะมีคนมากมายนินทาเธอลับหลังหากเธอแต่งงานกับเขาเพราะยังไงเสีย เธอก็ไม่เคยรู้จักโจเอลมาก่อน ถ้าเธอแต่งงานกับเขากะทันหันอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอสนใจเพียงแค่ตำแหน่งของเขาอย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าเธออยากฆ่าเฟนด์และแนชเพื่อแก้แค้นอย่างไร และคิดว่าหากเธอกลายเป็นภรรยาคนที่เก้า เธอก็จะสามารถสั่งให้นักสู้หลายคนจากตำหนักนภาออกค้นหาลูกชายของเธอได้ เธอจึงรีบตัดสินใจทันที"ก็ได้ ฉันยอมรับข้อเสนอของคุณ!”ลิลลี่พยักหน้า “แต่ในเมื่อฉันกำลังจะเป็นภรรยาคนที่เก้าของคุณ ฉันหวังว่าคุณจะประกาศข่าวนี้ให้ทุกคนทราบและเชิญบุคคลที่มีอำนาจมาร่วมงานแต่งของเรา คุณคิดว่าไง?”“ฮ่าฮ่า แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะไปเยี
ผู้อาวุโสลำดับที่แปดของตระกูลลาโกริโอรอคอยอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดลิลลี่ก็ออกมา"เกิดอะไรขึ้น? ฉันเดาว่าเขาเห็นด้วยกับข้อเสนอ? แต่ทำไมเขาถึงขอให้คุณอยู่ต่อลาะ? มีเรื่องอะไรสำคัญมากที่เขาจะต้องคุยกับคุณคนเดียว”เมื่อเขาเห็นลิลลี่กลับออกมา ผู้อาวุโสลำดับที่แปดก็รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกสับสนลิลลี่อารมณ์ไม่ดี เธอยังคงรู้สึกขยะแขยงหลังจากถูกชายชราคนนั้นลวนลามเธอมองไปที่ผู้อาวุโสลำดับที่แปด “ออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ” เธอพูด “เดี๋ยวฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง!”"ก็ได่!"ผู้อาวุโสลำดับที่แปดขมวดคิ้ว เขาบอกได้ว่าตอนนี้ลิลลี่กำลังอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ากดดันเธอต่ออีก เขาหยิบพรมบินออกมา ทั้งสองกระโดดขึ้นไปบนนั้นและบินออกไปไกลหลังจากที่พวกเขาบินมาสักพัก ในที่สุดผู้อาวุโสลำดับที่แปดก็ถามขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ เรายังต้องไปที่ตำหนักอินทรีทะยานหรือเปล่า?”ลิลลี่ไม่ได้ตั้งใจจะไปที่นั่น แต่เธอก็ครุ่นคิดและพูดว่า “ไปกันเถอะ จนถึงตอนนี้เราประสบความสำเร็จมาแล้ว อีกอย่าง เราไม่ควรละทิ้งโอกาสที่จะได้รับหญ้าวิญญาณ ในเมื่ออีกสามตำหนักรู้เรื่องนี้แล้ว ก็น่าจะไม่เป็น
“นายท่าน คุณหนูใหญ่หายไปสองสามวันแล้ว ทำไมเธอยังไม่กลับมาอีก? เธอไปไหน?”ณ ตระกูลลาโกริโอ พ่อบ้านอดไม่ได้ที่จะถามเทรนตัน“ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน มันก็เป็นเรื่องดีตราบใดที่เธอยังมีความสุข ฉันหวังว่าเธอจะอารมณ์ดีขึ้นเมื่อเธอกลับมาคราวนี้!”เทรนตันยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันหวังว่าช่วงนี้ทุกคนจะฝึกฝนกันอย่างหนักนะ?” เขาพูดกับพ่อบ้าน “เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนจะไปประชุมที่บ้านของตระกูลคาเบลโล แต่ถึงเราไม่ได้ประชุม เราก็จะมุ่งหน้าไปสู่สถานที่อันตรายทั้งเจ็ดอยู่ดี นั่นเป็นเหตุว่าหากเราเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ เราก็ควรทำ เพราะยังไงซะ สถานที่พวกนั้นก็เป็นที่ที่อันตราย สัตว์อสูรบางตัวอาจแข็งแกร่งพอ ๆ กับนักสู้ขั้นสุดท้ายของระดับเทพที่แท้จริงหรือแม้กระทั่งขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริง!”เทรนตันหยุดไปชั่วขณะก่อนจะพูดต่อว่า “เพราะยังไงซะ แม้แต่ฉันก็อาจไม่รอดถ้าฉันเข้าไป!”"ไม่ต้องห่วง ทุกคนกำลังฝึกซ้อมอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม คนที่เข้าไปอย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับกึ่งเทพ ไม่งั้นพวกเขาคงจะตาย!”ฮิลตัน ลาโกริโอ พ่อบ้านของตระกูลพยักหน้าและพูดออกมาในตอนนั้นเอง ทั้งสองก็สังเกตเห็นว่าพรมบินค่อย ๆ มุ่งหน้ามาทางพว