“ฉันต้องการล้างแค้นให้ลูกชายค่ะผู้อาวุโสลำดับที่แปด นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันหวังว่าคุณจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ โปรดอย่าบอกใครว่าฉันมาที่วิหารแห่งทวยเทพและราชา และมาตามหาชนเผ่าโบราณทั้งสี่ได้อย่างไร?!”ลิลลี่มองไปที่ผู้อาวุโสลำดับที่แปด ก่อนจะกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เรื่องนี้ฉันจะบอกให้พ่อทราบเมื่อเรากลับไป!”"ก็ได้ แต่ฉันแค่คิดว่าพวกเขาอาจไม่เห็นคุณว่าไปที่นั่นด้วยซ้ำ!”ผู้อาวุโสลำดับที่แปดฉายรอยยิ้มอันขมขื่น เขายังคงนำทางพรมเหาะไปยังวิหารแห่งทวยเทพและราชาสมาชิกในตระกูลวู๊ดกำลังฝึกฝนอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน โยเซฟ อดัม และคนอื่น ๆ ต่างก็หวังว่าพวกเขาจะสามารถเข้าสู่ขั้นเริ่มต้นของระดับเทพแท้จริงได้ภายในหนึ่งเดือนท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้รับข่าวลือเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดเช่นกัน พวกเขาต้องการบรรลุไปถึงขั้นนั้นด้วยแนชมีความสุขเมื่อเห็นว่าผู้ติดตามของเฟนด์ตั้งใจฝึกฝนตนเองอย่างหนักเพียงใดเมื่อเฟนด์ว่าง เขาจะพาพวกผู้หญิงไปซื้อของในเมืองหรือสอนไคลี่เกี่ยวกับการบ่มเพาะพลัง เขายังช่วยชำระล้างร่างกายของเธอเพื่อที่เธอจะได้เป็นผู้ฝึกยุทธและเริ่มฝึกฝนได้ทว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ไคลี่นั้นย
ลิลลี่โกรธมากก่อนหน้านี้เธอเป็นคุณหนูผู้มีชื่อเสียงของตระกูลลาโกริโอที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด และพ่อแม่ก็คอยประคบประหงมเธอราวกับไข่ในหินมาตั้งแต่ยังเล็กหลังจากที่เธอแต่งงาน เธอก็เป็นภรรยาของนายน้อยลำดับที่หนึ่งของตระกูลวู๊ด และหลังจากที่ตระกูลวู๊ดขึ้นมาเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง ตำแหน่งของเธอก็สูงขึ้นไปอีก ผู้คนมากมายมาดักรอเธอและแสดงความชื่นชมเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันที่ถูกผู้คนในระดับกึ่งเทพไล่ตะเพิดอย่างง่ายดายเช่นนี้ นั่นทำให้เธออับอายอย่างมาก"นาย…"ลิลลี่โกรธจัดจนกัดฟันแน่น เส้นเลือดของเธอปูดโปน“คุณหนูใหญ่ เราควรไปได้แล้ว!”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอ ผู้อาวุโสลำดับที่แปดกลัวว่าลิลลี่จะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของเธอได้ มันคงจะแย่แน่ถ้าเธอทำให้สมาชิกของวิหารแห่งทวยเทพและราชาต้องขุ่นเคืองเขามีระดับพลังยุทธสูง และผู้คุมเหล่านี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับเขาแต่นักสู้ที่อยู่ข้างในจะต้องเข้ามาผสมโรงอย่างแน่นอน พวกเขาคงจะรีบมาโดยด้วยและมันคงจะแย่มากพวกทหารยามมีกองกำลังเสริมอยู่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่หลักของพวกเขา มีลูกศิษย์อยู่ในวิหารหลังนี้มากกว่าหนึ่
ชายคนนั้นหัวเราะก่อนจะตกลงทำตามข้อตกลง“โปรดแจ้งหัวหน้าผู้พิทักษ์ว่าฉันต้องการพบเจ้าวิหารของคุณ” ลิลลี่พูดทันที “เพราะเรามีข้อมูลเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุด!”“ระดับเทพสูงสุด!”พวกลูกศิษย์ตกใจมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น ปกติพวกเขาแค่เคยได้ยินตำนานเรื่องนี้ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมายังไม่มีใครเคยพบเบาะแสใด ๆ เกี่ยวกับมันเลยพวกเขาไม่คิดว่าลิลลี่จะพูดถึงมัน“คาร์ลอสฉันคิดว่านายควรพาพวกเขาไปพบผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง หลังจากได้ฟังเรื่องที่พวกเขาพูด ฉันมั่นใจว่าผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งจะพาพวกเขาไปพบเจ้าวิหาร แม้แต่หัวหน้าผู้พิทักษ์ถ้าเขารู้เรื่องนี้ เขาก็คงจะพาพวกเขาไปพบผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง!”ชายคนนั้นขมวดคิ้วอย่างจริงจังทันที เขาบอกชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีเขียว"ก็ได้ งั้นพวกคุณสองคนตามฉันมา!”ศิษย์ผู้ชายที่ชื่อคาร์ลอสพยักหน้าและโบกมือให้ลิลลี่กับผู้อาวุโสคนลำดับที่แปดทั้งสองสบตากันด้วยความดีใจและตามเขาเข้าไปหลังจากที่ทั้งสามเหาะออกไปได้ระยะหนึ่ง ลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งก็ถามชายคนก่อนหน้านี้ว่า “ศิษย์พี่ดาร์เรน ในตอนนี้ยังไม่เคยมีใครพบเบาะแสใด ๆ เกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดได
เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น ศิษย์คนนี้ก็ตกใจเช่นกัน เขาบอกลิลลี่ทันทีว่า “คุณกำลังพูดอะไร? นี่คือผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งที่พวกเราเคารพและนับถือ เป็นเกียรติของคุณแล้วที่ได้พบเขา อีกอย่าง แม้แต่สมาชิกของตระกูลชนชั้นหนึ่งก็ไม่อาจพบเขาได้ง่าย ๆ คุณเป็นเพียงลูกสาวของตระกูลชนชั้นสอง มันดีมากแค่ไหนแล้วที่เราให้คุณเข้ามา แต่คุณยังไม่พอใจอีกเหรอ?”ลิลลี่กลัวจนเหงื่อเย็นไหลลงมาที่หน้าผาก ในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสลำดับหนึ่งก็ลุกขึ้นยืน ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวที่เขาแผ่ออกมาทำให้เธอซึ่งมีระดับเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธไม่สามารถยืนได้ จนเธอต้องทรุดตัวลงคุกเข่า และแม้แต่ผู้อาวุโสลำดับที่แปดที่อยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มหน้าซีด เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลเช่นกัน“ฉัน ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง ฉันหมายความว่า แม้ว่าฉันปรึกษาคุณแล้วก็ตาม คุณก็ยังต้องไปหาเจ้าวิหารเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่วิหารจะจินตนาการได้!”ลิลลี่กัดฟันแน่น สีหน้าของเธอซีดลงทันที “เพราะฉันมีเบาะแสที่จะนำไปสู่ระดับสูงสุด!” เธอรีบพูด“ระดับเทพสูงสุด?”เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่
“ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง สองคนนี้เป็นใคร?”เจ้าวิหารของวิหารแห่งทวยเทพและราชาก็เป็นชายชราที่มีผมขาวเช่นกัน เขาดูแก่มาก ถ้าเขาไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดได้ เขาคงได้แต่รอความตาย เช่นเดียวกับปรมาจารย์ที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างไรก็ตาม รองเจ้าวิหารดูอ่อนกว่าวัยมาก เขาน่าจะอายุประมาณสี่สิบหรือห้าสิบปี เขาดูมีชีวิตชีวาผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งยกแขนขึ้นกำมือแสดงความเคารพ “ท่านเจ้าวิหาร นี่คือลูกสาวคนโตของตระกูลลาโกริโอซึ่งเป็นตระกูลชั้นสองและนี่คือผู้อาวุโสลำดับที่แปดของพวกเขา พวกเขามาพร้อมกับข่าวสำคัญมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันต้องพาพวกเขามาพบคุณต่อหน้า!”"จริงเหรอ? งั้นลองบอกมาสิ! พักหลังนี้ค่อนข้างน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน ใครจะรู้ว่าข่าวของพวกเขาน่าสนใจแค่ไหน!”เจ้าวิหารเหลือบมองลิลลี่แล้วพูดอย่างช้า ๆทุกคนคิดว่าครั้งนี้ลิลลี่จะทำทุกอย่างพังแต่เธอก็ยกแขนขึ้นกำมือแสดงความเคารพและพูดว่า “สวัสดี ท่านเจ้าวิหาร ข่าวนี้สำคัญสุด ๆ และฉันกลัวว่าตระกูลชนชั้นหนึ่งจะโกรธถ้าพวกเขารู้ว่าฉันเปิดเผยเรื่องนี้ แน่นอนฉันบอกคุณ แต่…”เจ้าวิหารรู้เกี่ยวกับจิตใต้สำนึกของมนุษย์ เขาเข้าใจทันทีว่าลิลลี่ต้
“นี่มันเยี่ยมไปเลย แผนของคุณยอดเยี่ยมมาก คุณหนูใหญ่ ฉันคิดด้วยซ้ำวว่าเราอาจจะต้องเดือดร้อนแน่ถ้าคุณบอกข่าวนี้กับพวกเขา ไม่คิดเลยว่าเราจะได้รับรางวัลมากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้ เราก็ไม่ได้มาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์!”หลังจากที่พวกเขาออกจากวิหารแห่วงทวยเทพและราชาแล้ว ผู้อาวุโสลำดับที่แปดยังคงกังวลใจอยู่ เขากลัวว่าพวกเขาจะถูกฆ่าหากทำให้เผ่าโบราณไม่พอใจ ตอนนั้นพวกเขาคงจะต้องเดือดร้อนจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งสองคนยังแอบมาที่นี่กันเอง ถ้าพวกเขาตาย นายท่านก็คงไม่รู้ว่าพวกเขาตายได้ยังไงลิลลี่ยิ้มอย่างร่าเริง “ลองคิดดูสิ ตอนนี้ตระกูลลาโกริโอเป็นเพียงตระกูลชนชั้นสอง” เธอพูด “ก่อนอื่นเราอ่อนแอกว่าตระกูลวู๊ดมาก และหลังจากการแข่งขัน เราประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ซึ่งมีอัจฉริยะจำนวนมากเสียชีวิต มันยากที่เราจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ใครจะไปรู้ว่าเราต้องรอจนกว่าจะถึงเวลานั้นอีกนานแค่ไหน?”ลิลลี่หยุดพักก่อนที่จะพูดต่อว่า “นั่นคือเหตุผลที่แม้ว่าเราจะไม่บอกสี่เผ่าโบราณเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรมากนักจากการไปสถานที่อันตรายทั้งเจ็ด ทำไมเราไม่แอบเผยแพร่ข้อมูลนี้ไปล่ะ? ด้วยวิ
“ฮ่า ตกลง!"ชายวัยกลางคนหัวเราะและลงไปแจ้งผู้อาวุโสคนอื่น ๆลิลลี่มัวแต่คิดเรื่องที่จะได้รับรางวัล แต่เธอไม่รู้เลยว่าคนของวิหารทวยเทพและราชากำลังคุยกันถึงวิธีการส่งคนไปยังสถานที่อันตรายทั้งเจ็ด เพราะยังไงซะ คนพวกนี้คงจะไม่รีบเร่งไปยังสถานที่เจ็ดอันตรายตามเวลาที่ตระกูลชนชั้นหนึ่งทั้งแปดกำหนดไว้หลังจากที่พวกเขามาถึงตำหนักเทพยดาแล้ว ลิลลี่กับผู้อาวุโสลำดับที่แปดก็สามารถไปพบเจ้าตำหนักได้โดยไม่มีปัญหาและได้รับรางวัลอย่างที่พวกเขาต้องการเจ้าตำหนักของตำหนักเทพยดาใจกว้างกว่าเจ้าวิหารของวิหารทวยเทพและราชากว่าเล็กน้อย พวกเขาให้โอสถมากกว่าสิบเม็ดไม่นานพวกเขาก็ออกจากตำหนักเทพยดา"ไม่ ไม่ เราไม่อาจเรียกร้องรางวัลพวกนี้ได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะได้รับมากมายขนาดนี้ แต่นอกจากจะสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเราได้อย่างรวดเร็วแล้ว ตระกูลลาโกริโอก็ยังยากที่จะตามตระกูลวู๊ดได้ทัน!”ระหว่างทางไปตำหนักนภา จู่ ๆ ลิลลี่ก็คิดอะไรบางอย่างได้จึงขมวดคิ้วออกมา“คุณหนูใหญ่ ทรัพยากรเหล่านี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน แม้เราจะตามตระกูลวู๊ดไม่ทัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้ หากเราเรียกร้องมากกว่านี้ พวกเขาอาจจะไม่เต็มใจต่อรองกั
“หากพวกเขาขอให้กำจัดสามคนนี้ พวกเขาก็อาจจะเห็นด้วย!”ผู้อาวุโสลำดับที่แปดพยักหน้าหลังจากใช้ความคิดบางอย่าง “เพราะยังไงซะ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการสูญเสียใด ๆ ถ้าพวกเขาต้องการต่อสู้กับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลวู๊ด เมื่อมีข่าวว่าหนึ่งในสี่เผ่าโบราณจะโจมตีตระกูลลึกลับออกไป มันคงเป็นปัญหาแน่!”ลิลลี่รู้ดีว่าสี่เผ่าโบราณและตระกูลลึกลับยังคงจะรักษาความสงบต่อกันไว้โดยที่ไม่ได้พูดออกมา พวกเขาจะไม่เข้ามาก้าวก่ายซึ่งกันและกันอีกอย่าง สี่เผ่าโบราณยังได้ให้คำสัญญาว่าพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลลึกลับเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของพวกเขานอกจากนี้ ยังมีความขัดแย้งหรือความไม่ลงรอยกันเป็นครั้งคราวระหว่างพวกเขากับตระกูลลึกลับ เช่น ตระกูลชนชั้นหนึ่งทั้งแปด แต่ความเป็นไปได้ของสงครามที่เกิดขึ้นจริงนั้นต่ำมากพวกเขามีเรื่องไม่ลงรอยกัน แต่เมื่อเผ่าโบราณโจมตีตระกูลลึกลับ ตระกูลลึกลับอื่น ๆ คงจะรวมตัวกันเพื่อต่อต้านเผ่าโบราณอย่างแน่นอน จนกระทั่งนำไปสู่การทำสงครามกับพวกเขานี่เป็นเพราะตระกูลลึกลับรู้ดีว่าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นครั้งหนึ่ง มันก็อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีกหากพวกเข