แชร์

บทที่ 139

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2021-04-09 16:00:29
เบ็นถามหลังจากรู้ว่ามีอะไรผิดปกติ

ซีนายิ้มอย่างหดหู่ แล้วทําหน้าขมวดคิ้วว่า “เมื่อวานฉันวิพากษ์วิจารณ์ต่อว่าพี่เขยของคุณ ฉันเป็นห่วงครอบครัวคุณ ฉันพูดเพราะฉันกลัวว่าเขาจะทําให้พวกเดรคโกรธ ฉันกลัวว่าเขาจะเก็บความแค้นนี้ไว้ในใจและสร้างปัญหาให้ฉันในอนาคต!"

“เขาจะทําเหรอ? เขาดูเหมือนไม่ใช่คนแบบนั้น อีกอย่างเขายังติดหนี้ครอบครัวเราเยอะขนาดนี้ จะกล้ามาชี้หน้าคุณได้ยังไง"

"มันมากกว่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันเป็นการเข้าใจผิด เรากลัวว่าเขาจะสร้างปัญหาให้กับครอบครัวเทย์เลอร์ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ!" เบ็นพูดอย่างมั่นใจ

“ฉันกลัวว่าเขาจะโกรธ และที่เขาสัญญาว่าจะให้รถกับคุณก็จะหายไปตามลมด้วย!" ซีน่าแสดงความคิดของเธอให้เขาฟัง

"เฮ้ ไม่มีอะไรหรอก!" ฟีโอน่าพูดทันทีว่า "ไม่ต้องกังวล ถ้าเขาไม่ซื้อรถให้ลูก แม่จะเอาเงินที่เขาให้แม่ค่าสินสอดทองหมั้น 20 ล้าน ไปซื้อให้ลูกเอง เงินหนึ่งล้านสำหรับคันนึง มันก็คงเหมือนเค้กชิ้นหนึ่ง!”

“ว้าว เยี่ยมมาก! ขอบคุณค่ะแม่!" ซีน่ายิ้มกว้าง เธอกระโดดโลดเต้น ด้วยความตื่นเต้นทันที

"ตราบใดที่ลูกชายของฉันมีความสุข"

ฟีโอน่ามองใบหน้าสวยของซีน่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 140

    ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เขามีพลังมากถึงขนาดที่เขาจะฆ่าสการ์ได้!" ชายตัวอ้วนทําหน้าบึ้งตึง ดูเคร่งขรึม “มีคนจำนวนมากอยู่ที่นั่น อาจจะทำให้เขาต้องเหนื่อย ฉันรู้ดีความสามารถสการ์นั้นเก่งแค่ไหน! เขามีกลอุบายพิเศษ เก่งเกินกว่าจะหนีใครได้!"ชายอีกคนก็ดูเคร่งขรึมเหมือนกัน "ประเด็นตอนนี้คือ ขณะนี้สถานที่ถูกปิดตายและศพกำลังถูกจัดการ เราจึงไม่สามารถตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ เมื่อเราไม่สามารถตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!"เขาหยุดสักพักก่อนที่จะพูดต่อ “เป็นไปได้ไหมที่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียว?”“เราไม่รู้เรื่องนี้!” เจ้านายฮาร์วีย์นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แล้วทําสีหน้าหม่นหมอง "ฉันยังไม่รู้เลยว่าคนนั้นเป็นใคร ที่ฉันรู้ทั้งหมดก็คือ เนทและคนอื่น ๆ ยกพวกกันออกไปจัดการกับทหารผ่านศึกที่ทำร้ายเขา เนทบอกว่าคน ๆ นั้น แข็งแกร่งมาก และขอให้ฉันพาคนมาเพิ่ม เขาต้องการกำลังมากกว่าสองร้อยคน ดังนั้นฉันเลยขอให้สการ์ช่วยพาคนของเขาไปด้วย ฉันไม่รู้เลยว่า…”“ถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้ชายคนนั้นคงไม่ได้มีโอกาสที่จะเตรียมตัว มีโอกาสมากที่เขาจะอยู่คนเดียว ถ้าเป็นการแสดงคนเดียวคน ๆ นี้ต้องแข็งแกร่งมากแน่ ๆ!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-09
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 141

    อีวานมองไปรอบ ๆ เขาพูดไปเดินไปหลังจากนั้นไม่นั้น เขาก็เห็นห้องทำงานของผู้จัดการ“คุณ... นายน้อยเทย์เลอร์ ขอฉันแจ้งกับผู้จัดการของฉันก่อนนะคะ!” ซอนย่าเข้าใจและบอกกับเขา"ไม่จําเป็นหรอก ผมเจอแล้ว นี่ไม่ใช่ห้องทํางานผู้จัดการเหรอ? สาวสวย คุณจัดการเรื่องของตัวเองก็พอ ๆ นะ ผมจะเข้าไปเอง!"อีวานยิ้มและหันมาสั่งบอดี้การ์ดของเขาว่า "รอฉันที่ประตู!"พอพูดจบ เขาก็ผลักประตูเข้าไปแล้วปิดประตู และล็อคประตูทันที"ทําไมไม่เคาะประตูล่ะ" เซเลน่ากําลังยุ่งอยู่กับงาน ในขณะที่ก้มหัวถาม เธอแปลกใจเมื่อเงยหน้าขึ้น "อีวาน เทเลอร์ ทําไมนายมาอยู่ที่นี่?"เซเลน่าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเป็นพอเศษกับอีวาน หลายปีก่อน เมื่อคุณปู่ไล่ครอบครัวของเธอออกจากตระกูลเทย์เลอร์ เขาโกรธและกังวลกับชื่อเสียงของตระกูลเทย์เลอร์เซเลน่าไม่ได้โทษปู่ของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายใหญ่ได้บอกเธอลับหลังว่า เมื่อเธอตัดสินใจทำแท้งลูกแล้ว เธอก็สามารถกลับไปอยู่บ้านเทย์เลอร์ได้ทันทีแต่มันเป็นเพราะเธอดื้อดึงและตั้งใจที่จะมีลูก ถึงยังไงมันก็เป็นชีวิตของลูกเธอเอง เด็กนั่นบริสุทธิ์!นายใหญ่ไล่ครอบครัวของเธอออกจากบ้านเทย์เลอร์แล้ว แต่ยังไม่จบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-09
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 142

    “คุณปู่ให้คุณมาเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้"เซเลน่าขมวดคิ้วสงสัยว่าเธอกำลังได้ยินผิดหรือเปล่า"แน่นอน" ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อตัวฉันเอง ฉันทําเพื่อพวกเทย์เลอร์ ฉันมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของปู่ เพื่อมาเซ็นสัญญากับเธอ!ใบหน้าของอีวานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และบอกกับเซเลน่าว่า "แน่นอน ฉันเป็นคนค่อนข้างขี้เกรงใจ เพื่อให้เธอมีอนาคตที่ดีในตระกูลเดรค ฉันจะไม่ทำให้เธอลำบากเกี่ยวกับการแบ่งปันผลกำไรในเรื่องนี้!”“เป็นไปไม่ได้!”หน้าของเซเลน่าหม่นลง "นายจะต้องโกหกฉันแน่ ๆ" คุณปู่บอกว่า ตอนที่ฉันเริ่มทํางานที่นี่ เขาจะไม่บังคับฉันให้ทํางานร่วมกับพวกเทย์เลอร์ ถ้าพวกเดรครู้ พวกก็จะหมดความไว้วางใจจากฉัน"ยังไงซะ เซเลน่าก็รู้จักอีวานเป็นอย่างดี เป็นไปได้ว่าเขาจะโกหกเพื่อแสวงหากําไรให้ตัวเอง"อ่า… ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ให้ฉันโทรหาปู่เดี๋ยวนี้ก็ได้" ฉันไม่มีความจําเป็นต้องที่จะต้องโกหกเธอในเรื่องเหล่านี้"อีวานยิ้มและเล่าต่อไปว่า "เธอน่าจะรู้ว่า นายใหญ่หวังจะให้ครอบครัวเทย์เลอร์ได้หนึ่งในครอบครัวชนชั้นสูงขั้นที่สองมานานแล้ว เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เป็นครอบครัวขุนนางชั้นแนวหน้า เธอคิดว่าเขาจะพลาดโอกาสครั้งนี้หรือเปล่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-10
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 143

    รอยยิ้มอีวานเต็มไปด้วยความเยือกเย็น "เซเลน่าน่า เธอไร้เดียงสาจริง ๆ ถ้าเขาไม่สามารถหาเงินนั้นมาได้ เขาควรจะก้มหัวให้ฉัน และถูกไล่ออกจากครอบครัวเทย์เลอร์ ถึงตอนนั้น เขาจะไม่ใช่สามีของเธอ หรือเกี่ยวข้องกับเราอีกต่อไป ฉันจะหาคนมาตรเขาซะ และฉันจะทําทุกอย่าง อย่างที่ฉันอยากจะทำ"อีวานชะงักก่อนที่พูดต่อไปว่า "ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนไหว เธอจะต้องรู้สึกผิดเขาอย่างแน่นอน ฉันมีคําแนะนํา ถ้าเธอยอมตกลงเซ็นสัญญากับฉัน ฉันจะยกเลิกเงินค่าชดเชยสิบล้านนั่น และฉันสามารถให้เงินกับเธอยี่สิบล้าน แล้วฉันยังจะช่วยเฟนด์จ่ายสิบล้านเป็นของขวัญวันหมั้นให้ด้วย อีกสิบล้านบาทที่เหลือให้เขาไปซื้อของขวัญให้นายใหญ่ ให้ครอบครัวเทย์เลอร์ยอมรับเขา"ข้อเสนอที่อีวานยื่นให้นั้นน่าสนใจมาก เกือบจะทำให้เซเลน่าถูกชักจูงได้สำเร็จแต่ท้ายที่สุด เธอส่ายหัว "ไม่มีทาง ฉันเซ็นสัญญากับนายไม่ได้ ในฐานะสมาชิกแผนกจัดซื้อของเดรค กรุ๊ป ถ้าคุณทันย่ารู้เรื่องการติดสินบนในครั้งนี้ เธอจะต้องผิดหวังแน่ ๆ ฉันไม่สามารถทําให้เธอรู้สึกผิดหวังที่เลือกไว้ใจฉันกับเฟนด์!” "ฮะ ลูกพี่ลูกน้อง นี่เธอโง่รึเปล่า? ทําไมเธอยังจะมาทำตัวสูงส่งในตอนนี้? เธอต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-10
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 144

    มุมปากของเซเลน่าสั่นไปตามหน้าของเธอ "อีวาน ฉันควรจะพูดกับนายให้ชัดเจน นายไม่เข้าใจเหรอว่านั่นไม่ใช่เรื่องของเวลา? มันเกี่ยวกับหลักการ เราควรคํานึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวของตระกูลเทย์เลอร์ไม่ใช่หรือเราควรจะรีบร้อน?"“นี่เธอ ที่นายใหญ่กล้าที่จะนําเสนอเพราะเขามั่นใจในคุณภาพของวัสดุก่อสร้างของตระกูลเทย์เลอร์! เธอก็เป็นหนึ่งในเทย์เลอร์ ย่อมรู้ดีคุณภาพของวัสดุก่อสร้างของเรา! เรารักษาชื่อเสียงของเราให้มาตรฐานอยู่เสมอ ยังไงเธอก็ต้องทํางานกับบริษัท การทํางานกับเรานั้นไม่แตกต่างกัน นอกจากนี้เธอควรมีความเชื่อมั่นครอบครัวของเธอเอง!” อีวานยิ้มและความแสดงความจริงใจที่ชัดเจนของเขาเซเลน่ารู้สึกลังเลเพราะสิ่งที่อีวานพูดเป็นความจริง ถ้าเธอสามารถดูแลเรื่องซุบซิบนินทาของเดรค กรุ๊ป ลับหลังเธอได้ เธอเชื่อถือคุณภาพวัสดุของเทย์เลอร์ กรุ๊ปเซเลน่า เห็นด้วยแล้ว 200,000 นี้เป็นเพียงน้ำใจแทนการขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ และอีก 20 ล้านที่เหลือที่กำลังจะตามมา ฉันจะยกโทษให้เฟนด์ เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยให้ฉัน เก็บ 10 ล้านนั้นเอาไว้ แล้วยังเหลืออีก 10 ล้าน ให้เฟนด์เตรียมของขวัญไว้สำหรับนายใหญ่ มันจะดูดีต่อเธอทั้งสองคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-10
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 145

    ซอนย่าและเฟลิเซียเริ่มจับกลุ่มนินทาทันที หลังจากที่อีวานเข้าไปในห้องทำงานของเซเลน่า"ซอนย่า คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใครกัน? เขาดูหยิ่งมาก มาถึงก็เดินตรงเข้าไปในออฟฟิศทันที แล้วยังพกบอดี้การ์ดมาด้วย!” เฟลิเซียมองไปที่ห้องทำงานก่อนที่จะถามซอนย่าซอนย่ายิ้มอย่างเย็นชา “จะเป็นใครได้ เขาเป็นนายน้อยจากตระกูลเทย์เลอร์ อีวาน เทย์เลอร์! เขาเป็นหนึ่งในเพลย์บอย ซึ่งตอนนี้เขาได้บริหารเทย์เลอร์ กรุ๊ป แล้วยังมีข่าวว่าเขาได้โกงเงินของบริษัทอีกด้วย!”"จริงเหรอ?"เฟลิเซียขมวดคิ้ว "แล้วทำไมเขาถึงมาที่นี่? ฉันรู้มาว่าอีวานไม่ถูกกับเซเลน่า เพราะเขาต่อต้านเธอตั้งแต่เธอถูกไล่ให้ออกจากตระกูลเทย์เลอร์!”"ฉันคิดว่าฉันรู้แล้ว! อีวานมาที่นี่สองวันหลังจากเซเลน่า เป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้เซเลน่าเซ็นสัญญาและมอบโปรเจคใหญ่นี้ให้กับครอบครัวเทเลอร์!" ดวงตาของเฟลิเซียตาสว่างขึ้นแล้วพูดต่อว่า "ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงจะวิเศษมาก! ไม่ได้หมายความว่าเธอใช้อํานาจของเธอในฐานะผู้จัดการเหรอ? ถ้าฉันรายงานเรื่องนี้กับผู้จัดการและคุณทันย่า ผู้หญิงคนนี้จะทําได้ดีแน่ เธอต้องออกจากงานและจากไป!""ฉันคิดว่าฉันรู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-11
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 146

    “คุยกับคุณ?" อีวานขมวดคิ้วและจ้องมองมองผู้หญิงตรงหน้าเขาหญิงสาวคนดังกล่าวอายุประมาณ 20 ปี สวมชุดทํางานและกระโปรงแบบมืออาชีพ เธอสวมแว่นตา ทำให้เธอดูฉลาดและมีความสามารถอีวานจ้องมองอย่างละเอียดแล้วพบว่าเธอค่อนข้างสวย"ใช่ ฉันเป็นหัวหน้างานที่นี่ และฉันก็พอมีอำนาจพอสมควร!”ซอนย่ายิ้มและพูดต่อไปว่า "ที่นี่มีคนอยู่เยอะ ทำไมไม่คุยในห้องทำงานฉันล่ะ”“แน่นอน! อีวานรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอต้องมีเรื่องสำคัญที่ต้องการจะคุยกับเขา เธอถึงได้ยืนกรานให้เขาเข้ามาคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสาวสวยคนนี้แอบมองเขาอยู่หรือเปล่า? ถ้ามันเป็นอย่างนั้น มันคงจะดี! พวกเขาเข้าไปในห้องทำงานของซอนย่าอย่างรวดเร็ว และล็อคประตูไว้"บอกฉันสิ ว่าเธอต้องการอะไรจากฉัน" อีวานยิ้มและนั่งลงบนโซฟาข้างๆ"นายน้อยเทย์เลอร์ ถ้าฉันเดาไม่ผิด คุณต้องการเข้าร่วมโครงการที่เมืองใต้นั่น ใช่ไหมคะ? ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีหลายคนที่รู้ว่าบริษัทของเราได้ซื้อที่ดินพื้นนั้น!”ซอนย่ายิ้มและรินน้ําให้กับอีวาน"ฮ่า พวกเราทุกคนเป็นคนฉลาด จะได้ไม่ต้องอ้อมค้อมพูดจาวกไปวนมา ตระกูลเทย์เลอร์ ทํางานด้านก่อสร้างมาโดยตลอด และเรามีช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-11
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 147

    ซอนย่าหยุดเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า "นายน้อยเทย์เลอร์ ฉันจะบอกอะไรกับคุณบางอย่าง ที่ผ่านมาคนที่รับผิดชอบจากบริษัทวัสดุก่อสร้าง จะไม่หารือเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงกับผู้จัดการ พวกเขาจะหาฉันแทน ซึ่งเป็นหัวหน้างาน และพูดคุยกับฉันก่อน!""กับคุณเหรอ? คุณสามารถตัดสินใจในฐานะหัวหน้างานและสามารถเซ็นสัญญาให้เราได้?"ดวงตาของอีวานประกายขึ้นมาทันที และพูดอย่างตื่นเต้น "คุณนีล ผมจะตอบแทนคุณในอนาคตอย่างแน่นอน ถ้าคุณสามารถทำให้ผมได้เซ็นสัญญา! ผมสามารถให้คุณได้อย่างน้อย ยี่สิบถึงสามสิบล้าน!”ห๊ะ!ซอนย่าอ้าปากค้างทันทีที่เธอได้ยินสิ่งนี้ เธอแน่ใจว่าเธอต้องได้รับเงิน แต่หัวหน้างานไม่เคยมีอํานาจในการตัดสินใจเช่นนี้ คําตัดสินสุดท้ายคือผู้จัดการเสมอ ดังนั้นเธอจึงได้รับของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ใบชามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาในฐานะหัวหน้างาน ตําแหน่งของเธอขัดขวางไม่ให้เธอมีสิทธิ์ที่จะได้รับของขวัญราคาแพงนี่คือเหตุผลที่ซอนย่าอยากที่จะเป็นผู้จัดการเธอคิดว่าเธอสามารถเป็นผู้จัดการได้ จนเมื่อเซเลน่าปรากฏตัว เธอโกรธมากจนแทบกระอักเลือด"มันมากไปเหรอ?!"เธอพยายามอย่างหนักเพื่อสงบสติอารมณ์ มันจะดีถ้าเธอเป็นผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-04-11

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status