Share

บทที่ 142

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“คุณปู่ให้คุณมาเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้"

เซเลน่าขมวดคิ้วสงสัยว่าเธอกำลังได้ยินผิดหรือเปล่า

"แน่นอน" ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อตัวฉันเอง ฉันทําเพื่อพวกเทย์เลอร์ ฉันมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของปู่ เพื่อมาเซ็นสัญญากับเธอ!

ใบหน้าของอีวานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และบอกกับเซเลน่าว่า "แน่นอน ฉันเป็นคนค่อนข้างขี้เกรงใจ เพื่อให้เธอมีอนาคตที่ดีในตระกูลเดรค ฉันจะไม่ทำให้เธอลำบากเกี่ยวกับการแบ่งปันผลกำไรในเรื่องนี้!”

“เป็นไปไม่ได้!”

หน้าของเซเลน่าหม่นลง "นายจะต้องโกหกฉันแน่ ๆ" คุณปู่บอกว่า ตอนที่ฉันเริ่มทํางานที่นี่ เขาจะไม่บังคับฉันให้ทํางานร่วมกับพวกเทย์เลอร์ ถ้าพวกเดรครู้ พวกก็จะหมดความไว้วางใจจากฉัน"

ยังไงซะ เซเลน่าก็รู้จักอีวานเป็นอย่างดี เป็นไปได้ว่าเขาจะโกหกเพื่อแสวงหากําไรให้ตัวเอง

"อ่า… ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ให้ฉันโทรหาปู่เดี๋ยวนี้ก็ได้" ฉันไม่มีความจําเป็นต้องที่จะต้องโกหกเธอในเรื่องเหล่านี้"

อีวานยิ้มและเล่าต่อไปว่า "เธอน่าจะรู้ว่า นายใหญ่หวังจะให้ครอบครัวเทย์เลอร์ได้หนึ่งในครอบครัวชนชั้นสูงขั้นที่สองมานานแล้ว เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เป็นครอบครัวขุนนางชั้นแนวหน้า เธอคิดว่าเขาจะพลาดโอกาสครั้งนี้หรือเปล่า
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 143

    รอยยิ้มอีวานเต็มไปด้วยความเยือกเย็น "เซเลน่าน่า เธอไร้เดียงสาจริง ๆ ถ้าเขาไม่สามารถหาเงินนั้นมาได้ เขาควรจะก้มหัวให้ฉัน และถูกไล่ออกจากครอบครัวเทย์เลอร์ ถึงตอนนั้น เขาจะไม่ใช่สามีของเธอ หรือเกี่ยวข้องกับเราอีกต่อไป ฉันจะหาคนมาตรเขาซะ และฉันจะทําทุกอย่าง อย่างที่ฉันอยากจะทำ"อีวานชะงักก่อนที่พูดต่อไปว่า "ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนไหว เธอจะต้องรู้สึกผิดเขาอย่างแน่นอน ฉันมีคําแนะนํา ถ้าเธอยอมตกลงเซ็นสัญญากับฉัน ฉันจะยกเลิกเงินค่าชดเชยสิบล้านนั่น และฉันสามารถให้เงินกับเธอยี่สิบล้าน แล้วฉันยังจะช่วยเฟนด์จ่ายสิบล้านเป็นของขวัญวันหมั้นให้ด้วย อีกสิบล้านบาทที่เหลือให้เขาไปซื้อของขวัญให้นายใหญ่ ให้ครอบครัวเทย์เลอร์ยอมรับเขา"ข้อเสนอที่อีวานยื่นให้นั้นน่าสนใจมาก เกือบจะทำให้เซเลน่าถูกชักจูงได้สำเร็จแต่ท้ายที่สุด เธอส่ายหัว "ไม่มีทาง ฉันเซ็นสัญญากับนายไม่ได้ ในฐานะสมาชิกแผนกจัดซื้อของเดรค กรุ๊ป ถ้าคุณทันย่ารู้เรื่องการติดสินบนในครั้งนี้ เธอจะต้องผิดหวังแน่ ๆ ฉันไม่สามารถทําให้เธอรู้สึกผิดหวังที่เลือกไว้ใจฉันกับเฟนด์!” "ฮะ ลูกพี่ลูกน้อง นี่เธอโง่รึเปล่า? ทําไมเธอยังจะมาทำตัวสูงส่งในตอนนี้? เธอต้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 144

    มุมปากของเซเลน่าสั่นไปตามหน้าของเธอ "อีวาน ฉันควรจะพูดกับนายให้ชัดเจน นายไม่เข้าใจเหรอว่านั่นไม่ใช่เรื่องของเวลา? มันเกี่ยวกับหลักการ เราควรคํานึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวของตระกูลเทย์เลอร์ไม่ใช่หรือเราควรจะรีบร้อน?"“นี่เธอ ที่นายใหญ่กล้าที่จะนําเสนอเพราะเขามั่นใจในคุณภาพของวัสดุก่อสร้างของตระกูลเทย์เลอร์! เธอก็เป็นหนึ่งในเทย์เลอร์ ย่อมรู้ดีคุณภาพของวัสดุก่อสร้างของเรา! เรารักษาชื่อเสียงของเราให้มาตรฐานอยู่เสมอ ยังไงเธอก็ต้องทํางานกับบริษัท การทํางานกับเรานั้นไม่แตกต่างกัน นอกจากนี้เธอควรมีความเชื่อมั่นครอบครัวของเธอเอง!” อีวานยิ้มและความแสดงความจริงใจที่ชัดเจนของเขาเซเลน่ารู้สึกลังเลเพราะสิ่งที่อีวานพูดเป็นความจริง ถ้าเธอสามารถดูแลเรื่องซุบซิบนินทาของเดรค กรุ๊ป ลับหลังเธอได้ เธอเชื่อถือคุณภาพวัสดุของเทย์เลอร์ กรุ๊ปเซเลน่า เห็นด้วยแล้ว 200,000 นี้เป็นเพียงน้ำใจแทนการขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ และอีก 20 ล้านที่เหลือที่กำลังจะตามมา ฉันจะยกโทษให้เฟนด์ เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยให้ฉัน เก็บ 10 ล้านนั้นเอาไว้ แล้วยังเหลืออีก 10 ล้าน ให้เฟนด์เตรียมของขวัญไว้สำหรับนายใหญ่ มันจะดูดีต่อเธอทั้งสองคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 145

    ซอนย่าและเฟลิเซียเริ่มจับกลุ่มนินทาทันที หลังจากที่อีวานเข้าไปในห้องทำงานของเซเลน่า"ซอนย่า คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใครกัน? เขาดูหยิ่งมาก มาถึงก็เดินตรงเข้าไปในออฟฟิศทันที แล้วยังพกบอดี้การ์ดมาด้วย!” เฟลิเซียมองไปที่ห้องทำงานก่อนที่จะถามซอนย่าซอนย่ายิ้มอย่างเย็นชา “จะเป็นใครได้ เขาเป็นนายน้อยจากตระกูลเทย์เลอร์ อีวาน เทย์เลอร์! เขาเป็นหนึ่งในเพลย์บอย ซึ่งตอนนี้เขาได้บริหารเทย์เลอร์ กรุ๊ป แล้วยังมีข่าวว่าเขาได้โกงเงินของบริษัทอีกด้วย!”"จริงเหรอ?"เฟลิเซียขมวดคิ้ว "แล้วทำไมเขาถึงมาที่นี่? ฉันรู้มาว่าอีวานไม่ถูกกับเซเลน่า เพราะเขาต่อต้านเธอตั้งแต่เธอถูกไล่ให้ออกจากตระกูลเทย์เลอร์!”"ฉันคิดว่าฉันรู้แล้ว! อีวานมาที่นี่สองวันหลังจากเซเลน่า เป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้เซเลน่าเซ็นสัญญาและมอบโปรเจคใหญ่นี้ให้กับครอบครัวเทเลอร์!" ดวงตาของเฟลิเซียตาสว่างขึ้นแล้วพูดต่อว่า "ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงจะวิเศษมาก! ไม่ได้หมายความว่าเธอใช้อํานาจของเธอในฐานะผู้จัดการเหรอ? ถ้าฉันรายงานเรื่องนี้กับผู้จัดการและคุณทันย่า ผู้หญิงคนนี้จะทําได้ดีแน่ เธอต้องออกจากงานและจากไป!""ฉันคิดว่าฉันรู้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 146

    “คุยกับคุณ?" อีวานขมวดคิ้วและจ้องมองมองผู้หญิงตรงหน้าเขาหญิงสาวคนดังกล่าวอายุประมาณ 20 ปี สวมชุดทํางานและกระโปรงแบบมืออาชีพ เธอสวมแว่นตา ทำให้เธอดูฉลาดและมีความสามารถอีวานจ้องมองอย่างละเอียดแล้วพบว่าเธอค่อนข้างสวย"ใช่ ฉันเป็นหัวหน้างานที่นี่ และฉันก็พอมีอำนาจพอสมควร!”ซอนย่ายิ้มและพูดต่อไปว่า "ที่นี่มีคนอยู่เยอะ ทำไมไม่คุยในห้องทำงานฉันล่ะ”“แน่นอน! อีวานรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอต้องมีเรื่องสำคัญที่ต้องการจะคุยกับเขา เธอถึงได้ยืนกรานให้เขาเข้ามาคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสาวสวยคนนี้แอบมองเขาอยู่หรือเปล่า? ถ้ามันเป็นอย่างนั้น มันคงจะดี! พวกเขาเข้าไปในห้องทำงานของซอนย่าอย่างรวดเร็ว และล็อคประตูไว้"บอกฉันสิ ว่าเธอต้องการอะไรจากฉัน" อีวานยิ้มและนั่งลงบนโซฟาข้างๆ"นายน้อยเทย์เลอร์ ถ้าฉันเดาไม่ผิด คุณต้องการเข้าร่วมโครงการที่เมืองใต้นั่น ใช่ไหมคะ? ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีหลายคนที่รู้ว่าบริษัทของเราได้ซื้อที่ดินพื้นนั้น!”ซอนย่ายิ้มและรินน้ําให้กับอีวาน"ฮ่า พวกเราทุกคนเป็นคนฉลาด จะได้ไม่ต้องอ้อมค้อมพูดจาวกไปวนมา ตระกูลเทย์เลอร์ ทํางานด้านก่อสร้างมาโดยตลอด และเรามีช

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 147

    ซอนย่าหยุดเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า "นายน้อยเทย์เลอร์ ฉันจะบอกอะไรกับคุณบางอย่าง ที่ผ่านมาคนที่รับผิดชอบจากบริษัทวัสดุก่อสร้าง จะไม่หารือเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงกับผู้จัดการ พวกเขาจะหาฉันแทน ซึ่งเป็นหัวหน้างาน และพูดคุยกับฉันก่อน!""กับคุณเหรอ? คุณสามารถตัดสินใจในฐานะหัวหน้างานและสามารถเซ็นสัญญาให้เราได้?"ดวงตาของอีวานประกายขึ้นมาทันที และพูดอย่างตื่นเต้น "คุณนีล ผมจะตอบแทนคุณในอนาคตอย่างแน่นอน ถ้าคุณสามารถทำให้ผมได้เซ็นสัญญา! ผมสามารถให้คุณได้อย่างน้อย ยี่สิบถึงสามสิบล้าน!”ห๊ะ!ซอนย่าอ้าปากค้างทันทีที่เธอได้ยินสิ่งนี้ เธอแน่ใจว่าเธอต้องได้รับเงิน แต่หัวหน้างานไม่เคยมีอํานาจในการตัดสินใจเช่นนี้ คําตัดสินสุดท้ายคือผู้จัดการเสมอ ดังนั้นเธอจึงได้รับของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ใบชามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาในฐานะหัวหน้างาน ตําแหน่งของเธอขัดขวางไม่ให้เธอมีสิทธิ์ที่จะได้รับของขวัญราคาแพงนี่คือเหตุผลที่ซอนย่าอยากที่จะเป็นผู้จัดการเธอคิดว่าเธอสามารถเป็นผู้จัดการได้ จนเมื่อเซเลน่าปรากฏตัว เธอโกรธมากจนแทบกระอักเลือด"มันมากไปเหรอ?!"เธอพยายามอย่างหนักเพื่อสงบสติอารมณ์ มันจะดีถ้าเธอเป็นผ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 148

    ซอนย่าขมวดคิ้วตอบว่า "แบบนี้ไง ฉันจะจัดการซัพพลายเออร์ที่แข่งขันมากกว่าบริษัทของคุณ ฉันจะหลอกพวกเขา ให้เอาข้อเสนอนั้นมา แต่สุดท้ายฉันก็จะยื่นข้อเสนอให้กับตระกูลเทย์เลอร์ และคู่แข่งตัวน้อย ๆ คนอื่น ๆ เท่านั้น ในกรณีนี้เธอจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเลือกคุณถูกไหม?"อีวานตาสว่างเป็นประกาย เขาลุกขึ้นและพูดอย่างตื่นเต้นว่า "แน่นอน ความคิดของคุณช่างดีจริง ๆ! วิธีนี้ เซเลน่า จะได้ไม่กลัวว่าคนอื่นจะนินทาลับหลังเธอ และด้วยความช่วยเหลือจากเธอ เซเลน่าจะไม่ถูกกดดันจากภาระหนักใด ๆ!""ใช่ เป็นไงยังไงบ้าง? ฉันบอกแล้วว่าฉันช่วยได้" ซอนย่ายิ้มนิด ๆ แล้วพูด"เอ้านี่ เงินสดสองแสน!"อีวาน ยิ้มแก้มปริ แล้วมอบเงินจํานวน 200,00 ที่เขาเตรียมไว้ให้เซลีน่า เขาวางไว้บนโต๊ะ "เงินเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความมีน้ำใจ ถึงพวกคุณจะไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจสุดท้าย และไม่สามารถเซ็นสัญญาได้ แต่ถ้าเราประสบความสําเร็จในเรื่องนี้แล้ว ผมก็ยังจะจ่ายเงินสิบล้านให้กับคุณเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ!""สิบล้าน" ซอนย่าดีใจสุด ๆเธอลุกขึ้น "ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ นายน้อยเทย์เลอร์" ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันจะพยายามอย่างสุดควา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 149

    "ไม่มีผู้แข่งขันคนไหนอยากได้โครงการนี้เลยหรือ?" นายใหญ่เริ่มรู้สึกกังวลอย่างเห็นได้ชัดอีวานตอบว่า "คุณปู่ อย่ากังวลเลย ซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ จะเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ เราจะได้ทำสัญญากันแน่นอน!"…ในขณะที่เจมส์และครอบครัวกําลังคุยกันในห้องนั่งเล่นของตึกของครอบครัวเดรคตอนที่พวกเขากำลังนั่งคุยกัน พ่อบ้านของเดรคก็เดินเข้ามา "นายใหญ่เกิดเรื่องใหญ่เมื่อคืนนี้ครับ!""มีเรื่องอะไรใหญ่โต? เกิดอะไรขึ้น? อาณาเขตกลางมีผู้มีอิทธิพลมากมาย ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องปกติ!" เจมส์ยิ้มอย่างเฉยชาและคิดว่าเป็นเรื่องปกติ"คนสองร้อยคนของพรรคมังกรตายในตึกร้างเมื่อคืนนี้!” พ่อบ้านพูดแล้วก็เดินไปพร้อมกัน"อะไรกัน? มีคนตายเยอะขนาดนี้เลยเหรอ" ทันย่า เดรค ลูกสาวคนที่สองของครอบครัวเดรค ตกใจสุดขีด เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะตายเพราะอํานาจที่พวกเขาไม่ควรทําผิดแต่ถึงอย่างนั้นปกติจะมีผู้เสียชีวิตเพียงสิบกว่าคน หากมีผู้เสียชีวิตเป็น 100 คน นั่นถือว่าเป็นข่าวใหญ่ครั้งนี้มีคนตายจำนวนมาก และยังเป็นคนของพรรคมังกรจะว่าไปแล้ว ตระกูลนี้แข็งแกร่ง ผู้คนไม่กล้าที่จะล่วงเกินพวกเขา“แถลงการณ์อย่างเป็นทางการคื

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 150

    “เขาต้องเก่งแน่!" ทิโมธียิ้มแล้วมองเฟนด์ก่อนจะพูดว่า "ฉันอยากรู้ว่าใครจะชนะ ถ้าเราได้บอดี้การ์ดมูลค่า 20 ล้านสู้กับพระเอกคนนี้"เห็นได้ชัดเลยว่าทิโมธี ยังไม่ยอมรับเฟนด์ และคิดว่าพ่อของเขาประเมินความสามารถของเฟนด์สูงไปเขามีความคาดหวังกับเฟนด์ คิดว่าเขาต้องพิเศษกว่านี้ แต่หลังจากที่ได้เจอเขา เขาคิดว่าเฟนด์เป็นแค่คนธรรมดา เขามักจะคิดเสมอว่า ทําไมจึงไม่ใช้สมบัติของตระกูลมาเอาใจเทพเจ้าแห่งสงคราม แทนที่จะเป็นเฟนด์ พ่อของเขาเดินผิดทางอย่างเห็นได้ชัด"ใช่ คิดว่าจะชนะได้หรือไม่? ฉันอยากรู้เพราะคุณชนะฮาร์วีย์ได้!” ทันย่าสนใจขึ้นมาทันที เธอมองเฟนด์อย่างข้องใจก่อนที่จะถามเฟนด์รู้สึกขบขัน เมื่อพวกเขาขอให้เขาต่อสู้กับตัวเอง "ผมจําเป็นต้องพบเขาเพื่อตอบคุณ เจอกันผมจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเขาแน่นอน!" เฟนด์คิดแล้วก็ตอบอย่างจริงจัง"ฮ่า คุณพูดอย่างนั้น ถ้าเจอชายคนนี้ อย่าปฏิเสธนะ ยังไงผมก็อยากจะรู้ความสามารถที่แท้จริงของคุณจากการต่อสู้ของคุณกับเขา!" ทิโมธีพูดด้วยรอยยิ้มโทรศัพท์ของเฟนด์ก็ดังขึ้นเขาขมวดคิ้วทันทีที่เห็น "ศิษย์หญิง" ขึ้นมาเป็นสายเรียกเข้าเฟนด์พูดไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าทําไมล

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status