"เธอไม่เห็นด้วยเหรอ?"นายใหญ่ตระกูลฮันท์ขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดมาก่อน“ทำไมเธอถึงไม่ยอมล่ะ?”ทำเอาหลายคนอึ้งไปตาม ๆ กัน เห็นได้ชัดว่านายใหญ่ฮันท์เป็นคนจิตใจดี และเขาต้องการงานเฉลิมฉลอง—นั่นคือเหตุผลที่เขาเสนอที่จะจัดงานแต่งงานให้เฟนด์และเฮเลน่า มันคือความภาคภูมิใจที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างนายใหญ่ฮันท์อวยพรให้ถึงกระนั้นคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลกลับไม่เห็นด้วย"น้องพี่!"วีนัสสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอดึงแขนเสื้อของดาเนียลล่าทันที เธอส่งสายตาเป็นนัยให้น้องสาว ทุกอย่างจะพินาศถ้าหญิงสาวบอกทุกคนว่าเฟนด์เป็นแฟนของเธอดาเนียลล่าถูกครอบงำด้วยอารมณ์ในตอนนี้ เธอถึงพูดออกไปโดยไม่คิดเพราะการเตือนสติของวีนัส ในที่สุดเธอก็เข้าใจความรุนแรงของสถานการณ์ เธอกลอกตาแทน “พี่สาวของฉันเพิ่งได้พบกับเขาเพียงสองหรือสามครั้งเท่านั้น และพวกเขาก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ” เธอกล่าว “ฉันไม่คิดว่าการแต่งงานในตอนนี้จะเหมาะนัก”วีนัสถอนหายใจอย่างโล่งอก "จริงที่สุด ไม่เห็นต้องเร่งรีบขนาดนั้น” เธอยิ้มขณะที่เธอเล่นไป “ไม่ช้าก็เร็วเราจะได้รู้ว่าพวกเขาเหมาะสมกันพอที่จะแต่งงานรึไม่ คงวุ่นวายน่าดูหากพวกเขาพบว่า
เมื่อครั้งก่อนที่เฮเลน่าบอกเขาว่าเธอเป็นแฟนของเฟนด์ และเธอไม่ใช่สาวพรหมจรรย์อีกต่อไปแล้ว นายน้อยลำดับสองของตระกูลฮันท์ผู้ที่หลงใหลในตัวเธอนั้นเสียใจมาก ดอกไม้แสนงดงามเช่นเธอถูกคนอื่นทำให้มัวหมองอย่างนั้นหรือ? ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยังนึกโกรธ!"ไม่มีทาง นี่... นี่มันเรื่องใหญ่นะ และคุณ…"หญิงสาวหลายคนจ้องไปที่เฮเลน่า ครั้งแรกของผู้หญิงนั้นมีค่า และไม่มีผู้หญิงคนไหนสมยอมเรื่องนั้นแถมตระกูลคาเบลโลก็ยังเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง และเฮเลน่าเองก็เป็นลูกสาวคนแรกของเจ้านาย ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะ…“ฉันไม่มีปัญหาเรื่องนั้นหรอก ถึงเด็กในท้องจะไม่ใช่ลูกฉัน แต่ถ้าเธอเต็มใจแต่งงานกับฉัน ฉันก็ไม่ถือหรอก!”ผู้ชายหลายคนที่เคยชอบเฮเลน่าต่างก็พูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงที่มีความสามารถอย่างเฮเลน่านั้นหายากสีหน้าของเฮเลน่าบูดบึ้ง เธอกุเรื่องโกหกคำโตนี้ขึ้น ก็เพราะเธอต้องการให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของนายน้อยลำดับสองของตระกูลฮันท์ด้วยการหักอกเขา เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะไร้ยางอายจนถึงกับพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าตระกูลทั้งหลาย เขาทำให้เธออับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีใบหน้าของอเล็กซานเ
การกระทำของเฮเลน่าทำให้ชื่อเสียงของนายท่านฮันท์เสื่อมเสียอย่างเห็นได้ชัด มันทำให้เขารู้สึกเคอะเขินราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะออกจากเวทีไปอย่างไรเฟนด์ขมวดคิ้วมุ่น เขารู้ว่าเรื่องราวของพวกเขาไม่สามารถดำเนินต่อไปเช่นนี้ได้ เรื่องนี้จะทำให้ตระกูลฮันท์ต้องเสียใจอย่างแน่นอนสมาชิกในตระกูลคาเบลโลก็อับจนหมดหนทางเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดพยายามเหลือบมองเฮเลน่าเป็นนัย ๆ แต่เธอเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาหลังจากเงียบไปสองสามวินาที เฟนด์ก็เดินไปจับมือเฮเลน่าอย่างกล้าหาญ ดวงตาของเธอเบิกกว้างเพราะความประหลาดใจเฮเลน่าผงะ เธออดไม่ได้ที่จะดึงมือออกแทนที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เฟนด์กระชับมือของเขาและยิ้มให้เธอเล็กน้อย “เลิกงอแงเถอะเฮเลน่า” เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ถึงคำขอโทษของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์จะดูไม่จริงใจ แต่ที่เขาเลือกที่จะขอโทษมันก็เป็นเรื่องดีนี่นา!”แก้มของเฮเลน่าแดงก่ำ ความตื่นตระหนกครอบงำเธอไว้ ชายผู้นี้กล้าเรียกเธอด้วยชื่อจริงอย่างนั้นเหรอ?เธอฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วและตอบรับเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็พูดกับนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ “ก็ได้ ก็ได้ ฉันไม่ใช่คนใจแคบอะไร
"เอาล่ะ ทุกคนมาที่นี่กันครบแล้ว ฉันจะเริ่มอธิบายกฎการแข่งขันล่ะนะ!”เควนตินนายท่านแห่งตระกูลฮันท์ กวาดสายตามองดูเหล่าผู้คนก่อนเหาะขึ้นไป เสียงของเขาดังก้องไปทั่วอาณาบริเวณทุกคนมองเขาเมื่อได้ยินเช่นนั้น นอกจากผู้ที่ถูกเลือกจากตระกูลฮันท์แล้วไม่มีใครรู้เกี่ยวกับกฎการแข่งขันในปีนี้ ก้วยสายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเควนติน เขากล่าวต่อว่า "กฎนั้นง่ายมาก ผมคิดว่าทุกท่านคงเคยเห็นป่าแถวนี้ ที่มีสัตว์ประหลาดและหญ้าวิญญาณมากมายอยู่ในนั้น และโดยปกติแล้วตระกูลฮันท์จะคอยคุ้มกันรอบ ๆ ป่านี้เอาไว้ แถมมีคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ บนยอดเขาโกเบและทั่วทั้งผืนป่า เราได้วางแผ่นป้ายไม้สีดำไว้ทั้งหมด 10,000 แผ่น ภารกิจของพวกคุณคือรวบรวมแผ่นป้ายไม้เหล่านั้นมาให้ได้ และใครก็ตามที่เก็บรวบรวมแผ่นไม้ได้มากที่สุดในตอนท้ายจะเป็นผู้ชนะแต่ละประเภท ซึ่งคุณมีเวลาหนึ่งเดือนการแข่งขัน!”จนถึงตอนนี้เควนตินหยุดพูดไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะรวบรวมป้ายเอาไว้ และตระกูลที่มีป้ายมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน รางวัลจะมอบให้ตามนั้น!”นายท่านซีเมเนส อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้
แนชอึ้งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาสูดหายใจเฮือกใหญ่ “ลูกกำลังหมายความว่าตระกูลฮันท์ตระหนักว่าตระกูลอื่น ๆ นั้นรู้ตัวว่าพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและต้องการใช้โอกาสนี้กำจัดอัจฉริยะรุ่นเยาว์เพื่อไม่ให้ตำแหน่งของพวกพ้องตัวสั่นคลอนงั้นหรอ? ถ้าทายาทของแต่ละตระกูลหายไป ตระกูลฮันท์จะยิ่งแข็งแกร่งอย่างนั้นใช่ไหม?”เฟนด์ผงกศีรษะ “ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะฉวยโอกาสฆ่าอัจฉริยะบางคนที่พวกเขาไม่ลงรอยด้วย” เขาพึมพำ “เหมือนกับกับตระกูลที่เป็นปฏิปักษณ์กับพวกเขา!”แนชขมวดคิ้วมุ่น “ตระกูลลาโกริโอ เมื่อก่อนก็เคยเป็นพันธมิตรของเรา แต่ตอนนี้พวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นศัตรูไปแล้ว ตระกูลนอร์แมน,นายน้อยฮันท์และผู้คนมากมายที่อิจฉาคู่ของลูกกับคุณหนูคาเบลโลจะออกตามหาลูก หรือแม้แต่ตระกูลคาเบลโลเองก็อาจพยายามฆ่าลูกด้วยเหมือนกัน ครั้งนี้เราตกที่นั่งลำบากเข้าแล้วล่ะ!”“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาตัวเอง ถอยไม่ทันแล้ว!”เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น “แต่ผมจะไม่ถูกฆ่าง่าย ๆ หรอก และใครก็ตามที่อยากฆ่าสมาชิกตระกูลวู๊ดจะต้องชดใช้ให้กับความคิดโง่ ๆ นั่น!”สายตาของแนชพุ่งไปที่ตระกูลแลงคาสเตอร์ “ตระกูล
ในขณะนี้แดร์ริลก็ยืนขึ้นและหัวเราะเบา ๆ “ตระกูลนอร์แมนก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน นายใหญ่เทย์เลอร์” เขากล่าวต่อ “ผู้ชายทุกคนจะเข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นมันก็ยุติธรรมดีไม่ใช่รึ? แล้วพวกคุณกลัวอะไรกัน?”"เอาล่ะ ถ้าไม่มีใครทักท้วงอะไรอีก ก็เป็นอันยุติเรื่องลงตรงนี้”เควนตินยกแขนขึ้นและเรียกร้องให้ทุกคนเงียบ “แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกเขาจะไม่ได้จับกลุ่มกันหรอก เราได้ซ่อมแซมวงแหวนอัญเชิญที่ภูเขาโกเบซึ่งเป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษแล้ว เมื่อผู้เข้าแข่งขันเข้าไปในพื้นที่แล้ว วงแหวนอัญเชิญจะส่งพวกเขาให้กระจัดกระจายไปยังที่ต่าง ๆ มันยุติธรรมสำหรับทุกคนนั่นแหละ!”“วงแหวนอัญเชิญนั่นได้รับการแก้ไขแล้วงั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านฮันท์ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับมัน แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะอุสาหะได้ขนาดนี้ เขาอาจจะเป็นคนเดียวในโลกที่รู้วิธีสร้างและแก้ไขวงแหวนอัญเชิญ!”สีหน้าของนายท่านจอร์จเหยเกด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคิดว่าวงแหวนอัญเชิญที่เก่าและทรุดโทรมที่เชิงเขาโกเบจะได้รับการแก้ไขโดยเควนตินบางทีสมาชิกตระกูลฮันต์เลือกที่จะจัดการแข่งขันที่นี่เพื่อแสดงทักษะการใช้วงแหวนอัญเชิญของเควนติน
แนชอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นหลังจากคิดเรื่องนี้ เขายกมือขึ้นทำความเคารพแบบกำปั้นชนฝ่ามือไปทางเควนติน “ผมขอถามนายท่านฮันต์ แผ่นไม้สีต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างไรหรือครับ? ทำไมต้องมีสีที่แตกต่างกันถึงสามสีด้วย”เควนตินหัวเราะ “แน่นอนว่าสีมีความสำคัญ แผ่นไม้สีดำเป็นพื้นฐานที่สุด ในขณะที่แผ่นไม้สีขาวมีค่าเท่ากับแผ่นไม้สีดำสิบแผ่น และสำหรับแผ่นไม้สีแดงจำนวนของพวกมันมีไม่มาก แต่หนึ่งแผ่นมีค่าเท่ากับแผ่นสีดำหนึ่งร้อยแผ่นทีเดียว ดังนั้นหากคุณโชคดีพอที่จะพบแผ่นไม้สีแดง ก็เท่ากับว่าคุณจะได้รับแผ่นป้ายสีดำถึงหนึ่งร้อยแผ่น!”เควนตินหยุดพูดไปหนึ่งอึดใจ ก่อนที่จะพูดต่อ "ผมจำเป็นต้องบอกทุกอย่างแก่คุณ - ในเมื่อพวกคุณรู้แล้วว่ายิ่งเข้าไปได้ลึก ก็จะยิ่งมีแผ่นไม้มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นแผ่นไม้สีขาวและสีแดงก็กระจัดกระจายไปตามความลึกเช่นกัน ในการแข่งขันครั้งนี้นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว คุณต้องมีโชคด้วย!”“อัญเชิญวงแหวนกันเถอะ!”หลังจากที่เควนตินอธิบายกฎทั้งหมดแล้ว เขาก็มองไปที่ประตูจากก้อนหินสูงทั้งสองก้อนใกล้ ๆ แล้วตะโกนขึ้นในชั่วพริบตา ผู้อาวุโสสองคนจากตระกูลฮันท์ก็เหาะไปที่ประตูหินนั้น พวกเขาแต่ละคนหยิบศิลาวิ
เควนตินหยุดชั่วคราวก่อนที่จะพูดต่อ “แต่เนื่องจากวิธีการอัญเชิญนี้ทรงพลังมาก ผมจึงพูดได้อย่างเต็มปากว่ามีวิธีที่จะทะลวงสู่ระดับมหาเทพอยู่ และนั่นไม่ใช่แค่ตำนาน!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งตระกูลคาเบลโลซึ่งปกติเป็นคนพูดน้อยรู้สึกตื่นเต้น เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและประกาศให้ทุกคนรู้ “สิ่งที่นายท่านฮันท์พูดนั้นถูกต้อง ฉันยังกล้าพูดได้ว่าเทคนิคศิลปะการต่อสู้ระดับสุดยอดและระดับมหาเทพนั้นมีอยู่จริง แต่เรายังไม่พบวิธีที่จะทำให้บรรลุผลสำเร็จ!”"โอ้จริงเหรอ? คุณมีหลักฐานอะไรบ้างไหม ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งตระกูลคาเบลโล”เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ นักสู้หลายคนที่อยู่จุดสูงสุดของระดับเทพแท้จริงรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาไม่สามารถก้าวข้ามระดับเทพแท้จริงไปได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างน่าเบื่อไปวัน ๆ เหมือนคนทั่วไปสำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุระดับได้ หลังจากได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับอาณาจักรเทพขั้นสูงสุด พวกเขาหวังที่จะก้าวข้ามมันและมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองร้อยปีในฐานะสิ่งมีชีวิตอันสูงส่งนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้คนที่อยู่จุดสูงสุดหรือระดับสูงของระดับเทพแท้จริงทุกคนรู้สึกตื