ใครสักคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหมดหนทาง"ก็ได้ นายขี้ขลาดน้อยกว่าที่ฉันคิด!”ความยินดีจุดประกายในตัวโจชัว เมื่อเขาเห็นว่าเฟนด์ตกลงรับคำท้าอย่างกล้าหาญ เขาจึงเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม จู่ ๆ เขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มีอาวุธวิญญาณระดับสุดยอดที่อยู่ในความครอบครองของตระกูลวู๊ด ซึ่งมันไม่สำคัญว่ามันจะอยู่ที่เฟนด์หรืออยู่ที่แนช คนรุ่นหลังจะต้องส่งต่อให้คนรุ่นใหม่เพื่อความปลอดภัยของลูกชายอย่างแน่นนอน และเพื่อใช้เพิ่มพลังพิเศษระหว่างการแข่งขันแม้ว่าเฟนด์จะอยู่ในขั้นต้นของระดับเทพแท้จริง แต่เขาก็ยากที่จะจัดการกับอาวุธวิญญาณระดับสุดยอดนั่น“หึ.. นายนี่ชอบดูถูกคนอื่นจริงนะ!”“เฮ้ ทำไมเราไม่สู้กันด้วยหมัดล่ะ? สู้กันโดยไม่ใช้อาวุธวิญญาณ”ไม่มีใครคิดว่าโจชัวจะพูดแบบนั้นหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งคิ้วของเฟนขมวดเข้าหากัน เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี หมอนี่กลัวว่าเขาจะเอาอาวุธระดับสุดยอดออกมาและจัดการเขาจนเละ"ได้สิ!"เฟนด์พยักหน้าและกำหมัดแน่น ตั้งใจรวบรวมพลังฉี“การแข่งขันยังไม่เริ่ม โจชัว แค่ซ้อมต่อสู้ไปสักพักนะ อย่าจัดการเขาจนตาย แค่สอนบทเรียนให้เขาก็พอ!”
นักสู้ทั้งสองคนที่อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงนั้นทรงพลังมาก และมีออร่าของพลังฉีหนาแน่น การระเบิดของพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวราวกับสายฟ้าฟาด มันแผดเสียงอันหนวกหูออกมา ทำเอาหลายคนต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนเพราะความตระหนก ก่อนจ้องมองท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง"ไม่มีทาง ผู้ชายคนนั้นไม่ขยับสักนิด!”แดร์ริลคิดว่าเฟนด์จะถูกลูกชายของตนซัดจนหมอบด้วยหมัดเดียวแท้ ๆ ทว่าเพียงอึดใจเดียวใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดลง ดูเหมือนว่าเฟนด์จะแข็งแกร่งพอ ๆ กับลูกชายของเขาทีเดียว“ผู้ชายคนนั้น!”เฮเลน่าจ้องมองไปที่เฟนด์ เธออ้าปากค้างด้วยความตกใจ“ฉันบอกพี่แล้วไงว่าเขาออมแรงไว้ เพราะไม่อยากแสดงพลังที่แท้จริงของตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมายที่เฝ้าดูเขาอยู่!”ดาเนียลล่ามองพี่สาว แล้วเชิดหน้าขึ้นดีใจที่ตัวเองคิดไม่ผิด ชายใดที่เธอหมายตาไว้ย่อมต้องมีอะไรดีสักอย่าง"ไม่มีทางหรอก ผู้ชายคนนั้นน่ะเหรอจะแข็งแกร่งกว่าโจชัว?”เฮเลน่าผงะไป ไม่น่าแปลกใจที่ดาเนียลล่าชอบเขา ดูเหมือนว่าเขาต่างออกไปจากสิ่งที่ตัวเขาแสดงออกไกลลิบในขณะนั้นเอง ริมฝีปากของเฟนด์โค้งขึ้นอย่างเหยียดหยาม เขาโจมตีอีกครั้ง ก่อนที่พละกำลังอันน่าสะพรึงกลัวของเข
แดร์ริลรู้สึกอับอาย ลูกชายของเขาล้วนเป็นอัจฉริยะ และที่สำคัญพวกเขาเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแปดตระกูลชั้นสูงถึงกระนั้นลูกชายของเขาก็แพ้ให้กับลูกชายนอกสมรสของตระกูลวู๊ด ยิ่งกว่านั้นเขายังมาจากแดนมนุษย์อีกด้วย เพียงข้อเท็จจริงเหล่านี้ก็ทำให้เขาอับอายมากพอแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเฟนด์จะกล้าเหยียดหยามลูกชายของเขาซ้ำอีกแดร์ริลคอยปกป้องครอบครัวมาโดยตลอด เขาบินไปข้างหน้าและยกกำปั้นพุ่งเข้าหาเฟนด์อย่างรวดเร็ววืด!ด้านตระกูลวู๊ด ผู้อาวุโสลำดับแรกก็บินไปข้างหน้า เขาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของเฟนด์ กำปั้นของเขาหยุดแดร์ริลเอาไว้“ก็แค่เด็ก ๆ สู้กันแค่นั้น อย่าบอกนะว่าตระกูลนอร์แมนแพ้แล้วพาล?”ดวงตาของผู้อาวุโสลำดับแรกลุกโชนด้วยโทสะ ทั้งสองถอยหลังไปไม่กี่เมตรหลังจากกำปั้นของทั้งคู่ชนกัน"ไม่มีทาง!"แดร์ริลตกใจจนดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า หากเขาจำไม่ผิด ผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลวู๊ดนั้นอยู่ในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริง แน่นอนว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่ แต่เขาอยู่ในจุดสูงสุดของระดับเทพแท้จริง ผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลวู๊ดคงจะไม่รามือจากเขาไปง่าย ๆ“เขาบรรลุถึงจุดสูงสุดของระด
“ไม่เจอกันนานดีเทียว นายหญิงแลงคาสเตอร์!”แนชลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นเจ้านายของตระกูลแลงคาสเตอร์ เขาทำความเคารพด้วยการยกกำปั้นชนกับฝ่ามือที่เหยียดตรงและยิ้มจาง ๆสมาชิกในตระกูลแลงคาสเตอร์กระโดดลงมาจากพรมเหาะ และนายหญิงแลงคาสเตอร์ก็เก็บพรมไป “นายท่านวู๊ด ไม่เจอกันนานเลย ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลคุณแล้วล่ะ” เธอพูดพร้อมยิ้ม “ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่วางยาคุณจะเป็นคนที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกัน ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น!”ทันใดนั้นเอง หญิงวัยกลางคนมองไปที่เทรนตัน “แถมเลวร้ายกว่านั้น ยังมีคนคิดว่าลูกสาวของเขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด มิหนำซ้ำยังจะอาฆาตแค้นตระกูลคุณอีกต่างหาก” เธอกล่าวเป็นนัย “แหม แหม ช่างไร้ยางอายอะไรอย่างนี้!”“เธอกำลังพูดถึงใครเชลบี้? อย่ามาล้ำเส้นให้มากนัก!”เทรนตันโกรธจัด เขากัดฟันกรอดและกำหมัดแน่น"อะไรกัน? นายอยากเป็นศัตรูกับตระกูลแลงคาสเตอร์หรือยังไง?”คิ้วของเชลบี้ขมวดมุ่น “ฉันไม่ได้เอ่ยชื่อสักหน่อย แต่นายดันกินปูนร้อนท้อง” เธอพูดพร้อมยิ้มเย็นที่ริมฝีปาก “นี่ไม่ได้เท่ากับยอมรับว่าตัวเองเป็นคน ๆ นั้นหรอกเหรอ?”"เธอ…"เทรนตันขบกรามแน่น ตระกูลแลงคาสเตอร์อยู่ในระดับล่า
“นายท่านลาโกริโอ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากค้นหาต่อ แต่เราหากันมาหลายเดือนแล้ว คุณก็รู้ว่าป่าทั้งลึกลับและอันตราย ผมเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของป่านั่นไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สำรวจป่าเกือบทุกตารางนิ้วแล้ว ถ้าเรายังหาพวกเขาไม่พบ พวกเขาก็คงจะตายไปแล้ว!”แนชยิ้มอย่างขมขื่น “ลิลลี่ทำผิดต่อผม แต่แลนซ์ยังเป็นลูกชายของผม อย่างไรผมก็อยากให้เขามีชีวิตอยู่ และแน่นอน ผมต้องการตามหาเขา และไม่ว่าเขาจะเลือกผมหรือลิลลี่ก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้ว ผมจะเคารพการตัดสินใจของเขา!”“หึ.. นายก็แค่เล่นละคร ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะส่งสมาชิกตระกูลวู๊ดเข้าไปในป่าที่ลึกที่สุดเพื่อตามหาเขา!”เทรนตันหัวเราะเบา ๆ สีหน้าหยามเหยียด “หรือว่าสมาชิกในตระกูลวู๊ดกลัวตาย?”“มันไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องกลัวตาย ใคร ๆ ก็รู้ว่าไม่มีใครเคยออกจากป่ามาอย่างมีชีวิต ผมไม่อยากเอาชีวิตสมาชิกในตระกูลคนอื่น ๆ ไปทิ้งแบบนั้น!”“ทำไมคุณไม่เข้าไปตามหาเขาเองเลยล่ะในเมื่อคุณรักหลานชายของคุณมากขนาดนั้น!” แนชตะคอก ใบหูแดงก่ำด้วยความเดือดดาล “ผมจะไม่ห้ามคุณแม้สักนิด!”เฟนด์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วตอนที่เข้าใจสิ่งที่ได้ยินทั้งหมด เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสถานที่ลึกลับแ
"เธอไม่เห็นด้วยเหรอ?"นายใหญ่ตระกูลฮันท์ขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดมาก่อน“ทำไมเธอถึงไม่ยอมล่ะ?”ทำเอาหลายคนอึ้งไปตาม ๆ กัน เห็นได้ชัดว่านายใหญ่ฮันท์เป็นคนจิตใจดี และเขาต้องการงานเฉลิมฉลอง—นั่นคือเหตุผลที่เขาเสนอที่จะจัดงานแต่งงานให้เฟนด์และเฮเลน่า มันคือความภาคภูมิใจที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างนายใหญ่ฮันท์อวยพรให้ถึงกระนั้นคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลกลับไม่เห็นด้วย"น้องพี่!"วีนัสสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอดึงแขนเสื้อของดาเนียลล่าทันที เธอส่งสายตาเป็นนัยให้น้องสาว ทุกอย่างจะพินาศถ้าหญิงสาวบอกทุกคนว่าเฟนด์เป็นแฟนของเธอดาเนียลล่าถูกครอบงำด้วยอารมณ์ในตอนนี้ เธอถึงพูดออกไปโดยไม่คิดเพราะการเตือนสติของวีนัส ในที่สุดเธอก็เข้าใจความรุนแรงของสถานการณ์ เธอกลอกตาแทน “พี่สาวของฉันเพิ่งได้พบกับเขาเพียงสองหรือสามครั้งเท่านั้น และพวกเขาก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ” เธอกล่าว “ฉันไม่คิดว่าการแต่งงานในตอนนี้จะเหมาะนัก”วีนัสถอนหายใจอย่างโล่งอก "จริงที่สุด ไม่เห็นต้องเร่งรีบขนาดนั้น” เธอยิ้มขณะที่เธอเล่นไป “ไม่ช้าก็เร็วเราจะได้รู้ว่าพวกเขาเหมาะสมกันพอที่จะแต่งงานรึไม่ คงวุ่นวายน่าดูหากพวกเขาพบว่า
เมื่อครั้งก่อนที่เฮเลน่าบอกเขาว่าเธอเป็นแฟนของเฟนด์ และเธอไม่ใช่สาวพรหมจรรย์อีกต่อไปแล้ว นายน้อยลำดับสองของตระกูลฮันท์ผู้ที่หลงใหลในตัวเธอนั้นเสียใจมาก ดอกไม้แสนงดงามเช่นเธอถูกคนอื่นทำให้มัวหมองอย่างนั้นหรือ? ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยังนึกโกรธ!"ไม่มีทาง นี่... นี่มันเรื่องใหญ่นะ และคุณ…"หญิงสาวหลายคนจ้องไปที่เฮเลน่า ครั้งแรกของผู้หญิงนั้นมีค่า และไม่มีผู้หญิงคนไหนสมยอมเรื่องนั้นแถมตระกูลคาเบลโลก็ยังเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง และเฮเลน่าเองก็เป็นลูกสาวคนแรกของเจ้านาย ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะ…“ฉันไม่มีปัญหาเรื่องนั้นหรอก ถึงเด็กในท้องจะไม่ใช่ลูกฉัน แต่ถ้าเธอเต็มใจแต่งงานกับฉัน ฉันก็ไม่ถือหรอก!”ผู้ชายหลายคนที่เคยชอบเฮเลน่าต่างก็พูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงที่มีความสามารถอย่างเฮเลน่านั้นหายากสีหน้าของเฮเลน่าบูดบึ้ง เธอกุเรื่องโกหกคำโตนี้ขึ้น ก็เพราะเธอต้องการให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของนายน้อยลำดับสองของตระกูลฮันท์ด้วยการหักอกเขา เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะไร้ยางอายจนถึงกับพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าตระกูลทั้งหลาย เขาทำให้เธออับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีใบหน้าของอเล็กซานเ
การกระทำของเฮเลน่าทำให้ชื่อเสียงของนายท่านฮันท์เสื่อมเสียอย่างเห็นได้ชัด มันทำให้เขารู้สึกเคอะเขินราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะออกจากเวทีไปอย่างไรเฟนด์ขมวดคิ้วมุ่น เขารู้ว่าเรื่องราวของพวกเขาไม่สามารถดำเนินต่อไปเช่นนี้ได้ เรื่องนี้จะทำให้ตระกูลฮันท์ต้องเสียใจอย่างแน่นอนสมาชิกในตระกูลคาเบลโลก็อับจนหมดหนทางเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดพยายามเหลือบมองเฮเลน่าเป็นนัย ๆ แต่เธอเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาหลังจากเงียบไปสองสามวินาที เฟนด์ก็เดินไปจับมือเฮเลน่าอย่างกล้าหาญ ดวงตาของเธอเบิกกว้างเพราะความประหลาดใจเฮเลน่าผงะ เธออดไม่ได้ที่จะดึงมือออกแทนที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เฟนด์กระชับมือของเขาและยิ้มให้เธอเล็กน้อย “เลิกงอแงเถอะเฮเลน่า” เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ถึงคำขอโทษของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์จะดูไม่จริงใจ แต่ที่เขาเลือกที่จะขอโทษมันก็เป็นเรื่องดีนี่นา!”แก้มของเฮเลน่าแดงก่ำ ความตื่นตระหนกครอบงำเธอไว้ ชายผู้นี้กล้าเรียกเธอด้วยชื่อจริงอย่างนั้นเหรอ?เธอฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วและตอบรับเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็พูดกับนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ “ก็ได้ ก็ได้ ฉันไม่ใช่คนใจแคบอะไร