แชร์

บทที่ 1255

ผู้เขียน: โมเนโต้
“ไม่เป็นไรเลย ผู้ฝึกยุทธมักจะต้องแยกตัวไปฝึกฝนอย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลาหลายเดือน มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หนิ จริงไหม?”

เซเลน่ายิ้มพลางตอบกลับ “เอาล่ะ ฝึกฝนให้ดีนะที่รัก ฉันจะหยุดรบกวนคุณตั้งแต่ตอนนี้เลย ฮ่า ๆ!”

ไม่นานเซเลน่าก็เดินออกมาจากบ้านพัก จากนั้นเฟนด์ก็พลิกฝ่ามือแล้วหยิบโอสถออกมาสามเม็ด ทั้งสามเม็ดเป็นโอสถระดับกลางขั้นหนึ่งที่ใช้ในการฝึกฝน!

เฟนด์ยิ้มขณะที่มองโอสถสามเม็ดที่อยู่ตรงหน้า โอสถทั้งสามเม็ดนี้จะช่วยให้เขาทะลวงเข้าไปสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางได้ เพราะยังไงซะ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากขั้นกลางไม่มากนัก

จากนั้นเฟนด์ก็เอาโอสถเม็ดหนึ่งเข้าปากแล้วกลืนเข้าไป พลังหนาแน่นและไม่มีที่สิ้นสุดกระจายออกมาจากช่องท้องของเฟนด์ทันที เป็นพลังมหาศาลและในขณะเดียวกันก็รุนแรงมาก

รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟนด์เมื่อเขารู้สึกถึงพลังในตัวของเขา เขาหลับตาลงและเริ่มควบคุมพลังในร่างกาย นำพลังฉีมารวบรวมไว้ในช่องท้องของเขา พลังฉีก่อตัวขึ้นหนุมเวียนในช่องท้องอย่างกับว่ามีพายุทอร์นาโดลูกเล็ก ๆ อยู่ในร่างกายของเขา พลังที่หนุนเวียนเล็ก ๆ ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ความแข็งแกร่งและพลังโดยรวมของเฟน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (33)
goodnovel comment avatar
Kusol Sittikhankaew
จุดจบ........
goodnovel comment avatar
กุ๊กกุ๊ก นักเลงกุ๊กไก่
คนเขียนติดโควิด ตายละสงสัย
goodnovel comment avatar
ปริญญา อุมัด
พลาดละ แม่งเอ๋ย?!?!?!?
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1256

    “ระดับเทพแท้จริงขั้นกลาง?” ไดอาเนียลล่าที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งคู่ เธอตกใจกับสิ่งที่ได้ยินและอุทานออกมาอย่างดีใจ “คุณเก่งมากจริง ๆ! ความเร็วในการฝึกฝนและการดูดซับพลังจากโอสถของคุณเร็วเกินไป! คนอื่น ๆ อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หรือนานกว่านั้นเพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลาง! แต่คุณใช้เวลาเพียงสองวันก็ทำสำเร็จแล้ว!” ในตอนนี้ ภายในใจของไดอาเนียลล่ารู้สึกชื่นชมเฟนด์มากขึ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เธอถึงกับจินตนาการว่า ถ้าเธอมีโอกาสแนะนำเฟนด์ให้พ่อของเธอได้รู้จักในฐานะแฟน พ่อของเธอจะคิดยังไง? “โอ้ ผมก็แค่โชคดีกว่าคนอื่นนิดน้อย!” เฟนด์หัวเราะออกมาและพูดอย่างสุภาพ “สุดยอดไปเลย! มันสุดยอดมากจริง ๆ! ด้วยระดับพลังยุทธและความสามารถในการต่อสู้ในปัจจุบันของคุณ คุณอาจจะคว้าเอามาได้สักอันดับจากการประลองยุทธที่กำลังจะมาถึง! ในที่สุดคุณก็สามารถนำความรุ่งโรจน์มาสู่ตระกูลวู๊ดได้!” ไดอาเนียลล่ามองไปที่เฟนด์ ดวงตาของเธอเป็นประกายแบบที่อธิบายไม่ได้ “แม้ว่าคุณจะไม่ได้อันดับที่หนึ่ง แต่คุณต้องติดอยู่ในสามอันดับแรกแน่นอน!” “สามอันดับแรก?” เฟนด์อึ้งนิดห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1257

    ไดอาเนียลล่าไม่คิดว่าคำพูดดังกล่าวจะออกมาจากปากเซเลน่าอย่างกะทันหัน เธอยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะมองไปที่เฟนด์ “ไม่ต้องห่วง ฉันกับเฟนด์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราจะดูแลกันและกันอย่างแน่นอน! ฉันจะขอให้พี่สาวของฉันเล่นงานเฟนด์น้อย ๆ ในระหว่างการประลอง!” ไดอาเนียลล่าพยักหน้า “พี่สาวของคุณแข็งแกร่งมากไหม?” เฟนด์ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน ตามคำพูดและน้ำเสียงของไดอาเนียลล่า ดูเหมือนพี่สาวของเธอจะเป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่ง และระดับพลังยุทธของเธอก็น่าจะสูง “สำหรับการประลองนี้ ตราบใดที่คุณมาจากตระกูลชาวยุทธและอายุต่ำกว่าสามสิบปี คุณก็มีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันได้ ฉันยังเด็กอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ฉันยังมีระดับพลังยุทธต่ำอยู่” ไดอาเนียลล่ายิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่พี่สาวคนที่สองของฉัน เธออยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นต้น ส่วนพี่สาวคนโตของฉัน เธออยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้ว แม้ว่าเธอจะอยู่ระดับเดียวกับคุณ แต่ในขั้นกลาง เธอก็อยู่ห่างจากระดับเทพแท้จริงขั้นสูงเพียงก้าวเดียว เธออาจจะทะลวงเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงได้ทุกเมื่อ ความสามารถและพลังยุทธของเธออยู่ในระดับสูงสุดของผู้ที่อยู่ในระดับเทพ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1258

    อีกด้านหนึ่ง หัวหน้าตระกูลคาเบลโลกับคนอื่น ๆ ต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องบาง พวกเขาเดินไปเดินมารอบ ๆ ห้องโถง สีหน้าของพวกเขาดูเป็นกังวล ไดอาเนียลล่าออกไปนานมากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อเธอทิ้งจดหมายที่ประกาศว่าเธอจะออกไปค้นหาสมบัติและทรัพยากรในป่า พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะไม่กลับมานานขนาดนี้ ตระกูลคาเบลโลได้ส่งคนจำนวนมากออกไปตามหาในป่าซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะไปล่าขุมทรัพย์กันบ่อย ๆ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของไดอาเนียลล่าเลย เรื่องนี้ทำให้ตระกูลคาเบลโลเป็นกังวลและทรมานใจ “พ่อ ไม่ต้องห่วงไดอาเนียลล่า เธอจะต้องไม่เป็นไร เราไปกันเถอะ!” ที่ลานกว้างของตระกูลคาเบลโล คุณหนูลำดับที่หนึ่งของตระกูลคาเบลโลมองไปที่ อเล็กซานโดร คาเบลโล ซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลคาเบลโลและพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ไดอาเนียลล่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดและมีไหวพริบ เธอจะไม่เป็นอันตราย เธอจะไม่เป็นไร อีกอย่าง ใครจะใจกล้ามาทำให้ตระกูลคาเบลโลในปัจจุบันโกรธเคือง? พวกนั้นไม่กลัวการแก้แค้นของเราเหรอ? ดังนั้น หนูคิดว่าไดอาเนียลล่าแค่ติดเล่นและยังไม่อยากกลับมาในเร็ว ๆ นี้ เธอคงกำลังเดินเล่นอยู่ที่ไหนสักแห่ง!” “พ่อก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ เฮ้อ! เด็

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1259

    แนชรู้สึกผิดเมื่อได้ยินแบบนั้น เฟนด์ได้รับการฝึกฝนมาในโลกนี้มาสักพักแล้ว แต่เหมือนว่าเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับสมบัติไม่มากนักเขายิ้มนิด ๆ และอธิบายให้เฟนด์ฟังด้วยน้ำเนือย ๆ ว่า “อุปกรณ์มีสองประเภทคือ อุปกรณ์ปกติและอุปกรณ์วิญญาณ ระดับของมันก็มีหลายระดับเช่นกันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพลังยุทธที่ส่งเข้าไปและการแปรสภาพหลังจากดูดซับพลังฉี แบ่งเป็น ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และที่ทรงพลังที่สุดคือ อุปกรณ์ระดับสูงสุด!”แนชหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ผู้ฝึกยุทธส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้อาวุธต่อสู้แบบปกติอยู่ มันก็ค่อนข้างดีมากแล้วถ้าคุณมีอุปกรณ์ระดับต่ำ มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะมีอุปกรณ์ระดับกลาง ไม่ต้องพูดถึงอุปกรณ์ระดับสูงและอุปกรณ์ระดับสูงสุดเลย!”เฟนด์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพลิกฝ่ามือหยิบวัตถุที่มีลักษณะคล้ายกระดองเต่าออกมา เขาส่งมันไปทางแนช “พ่อลองดูนี่สิ ผมคิดว่านี่เป็นอุปกรณ์วิญญาณ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ระดับอะไร นี่คืออาวุธป้องกันตัวที่สามารถขยายใหญ่ขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีได้!”ดวงตาของแนชเป็นประกายเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันก็หาได้ยากเหมือนกัน มันอาจช่วยชีวิตลูกได้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1260

    เฟนด์ไม่คิดว่าดาบจะใหญ่ขึ้นเช่นกัน ออร่าที่แตกต่างกันก็แทรกซึมเข้ามาในหัวของเขาหลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก สีหน้าเขาแสดงออกว่าดีใจสุด ๆ“นี่-นี่น่าจะเป็นอุปกณ์ระดับสูงสุด!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งตื่นเต้นมากจนเสียงสั่น มีเพียงตระกูลลึกลับที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะมีสมบัติเช่นนี้ และถึงอย่างนั้นพวกเขาก็คงมีสมบัติที่ครอบครองไว้เพียงชิ้นเดียวเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มันล้ำค่ามาก ไม่มีใครคิดว่าดาบของเฟนด์จะเป็นอุปกรณ์ระดับสูงสุด“นั่นสิ ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอุปกรณ์ระดับสูงสุด ฉันไม่เคยสังเกตเห็นอะไรพิเศษเกี่ยวกับมันเลยตอนที่เฟนด์เอามันออกมาใช้!”แนชก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าดาบของเฟนด์จะเป็นสมบัติที่ล้ำค่าแบบนี้“พ่อ! ผมคิด-ผมคิดว่าเมื่อกี้ผมได้รับข้อความจากดาบ!”เฟนด์รู้สึกตื่นเต้น เขาโบกมือและดาบก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่ามันสามารถให้คนสองหรือสามพันคนยืนบนนั้นได้ด้วยการใช้พลังจิตภายใน ดาบของเฟนด์ก็หดตัวลงอีกครั้ง จนกระทั่งบรรจุคนประมาณพันคนได้“นี่-นี่คืออุปกรณ์ที่บินได้งั้นเหรอ? พระเจ้า คุณสามารถใช้มันเพื่อบินและต่อสู้ได้ สมบั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1261

    ไม่มีใครคิดว่าไดอาเนียลล่าจะพูดขึ้นมาในขณะนั้น หน้าของเธอมีรอยยิ้มอย่างรู้ดีว่า “ฉันคิดว่าพวกคุณคงจะไม่รู้หรอกว่าเฟนด์อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้ว เขาทะลวงผ่านไปได้เมื่อไม่กี่วันก่อน และด้วยกระบี่เล่มนี้ เขาอาจมีพลังยุทธเหมือนกับนักสู้ระดับเทพแท้จริงขั้นสุดยอด!”“ว่าไงนะ? เขา-เขาทะลวงข้ามผ่านไปได้แล้วเหรอ?”แนชตกตะลึง เขาหันหน้าไปมองเฟนด์อย่างตื่นเต้น “เฟนด์ จริงเหรอ? ลูก-ลูกอยู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้วเหรอ?”“โอ้พระเจ้า เขาทะลวงผ่านไปได้เร็วมาก? นายน้อยเฟนด์ คุณช่างเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ! นายน้อยแลนซ์ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ!”ผู้อาวุโสหลายคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา พวกเขาสงสัยว่าพวกเขากำลังฝันอยู่หรือเปล่าเพราะยังไงซะ ความตกใจที่พบว่า เฟนด์มีอาวุธระดับสูงสุดยังไม่สงบลงอย่างสมบูรณ์เลย และตอนนี้พวกเขายังมาบอกว่าเฟนด์ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางได้แล้วมันไม่ง่ายเลยที่คนที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงจะก้าวผ่านเข้าสู่ขั้นที่สูงขึ้น ผู้ฝึกฝนต้องใช้ความสามารถอย่างมาก ที่สำคัญไปกว่านั้น บางคนก็ไม่สามารถทะลวงได้สำเร็จแม้จะพยายามถึงสองสามครั้งแล้วก็ตาม พวกเขาต้องพักสักระยะหนึ่งก่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1262

    “อย่าหัวเราะสิ พวกนั้นอาจจะบังเอิญได้อุปกรณ์ระดับต่ำจากที่ใดที่หนึ่งมา ดังนั้นพวกเขาจึงใช้มัน!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตระกูลนอร์แมนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชันเพราะยังไงซะ กระบี่ของเฟนด์ก็ดูหมองคล้ำและธรรมดา มีเพียงสีดำที่ปกคลุมมันอยู่เท่านั้น มันบินด้วยความเร็วที่สบาย ๆ ไม่เร็วเกินไปและไม่ช้าเกินไปนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีทางบอกระดับของสมบัตินั้นได้สิ่งเดียวที่พวกเขามั่นใจได้ก็คือสมบัติที่บินได้นั้นต้องเป็นอุปกรณ์วิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งอุปกรณ์วิญญาณระดับต่ำบางอย่างก็สามารถบินได้ แต่ก็บินได้ไม่เร็วมากนัก“พวกเขาบังเอิญได้มันมา?”ผู้อาวุโสลำดับที่สองของพวกเขาผงะไปครู่หนึ่ง “ฮ่า แม้จะเป็นสมบัติที่บินได้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเอามันมานะถ้าเป็นสมบัติระดับต่ำ” เขายิ้มพร้อมกับแสดงความเห็นออกมา “พวกเขาต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อของมือสองชิ้นนั้น”นายน้อยจากตระกูลนอร์แมนกลอกตา “ผู้อาวุโสลำดับที่สอง คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง?” เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเขาก็เป็นหนึ่งในแปดตระกูลลึกลับเหมือนกันและเป็นตระกูลชนชั้นหนึ่ง คุณพูดออกมาได้ไงว่าพวกเขาซื้อของมือสอง?”“เฮ้ จริงด้วย ฉันล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1263

    ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วตอนที่เห็นพวกเขาเข้ามาใกล้ ความกังวลบีบรัดหน้าอกของเขา “ใครสนล่ะ เราไม่มีอะไรต้องกลัว อีกอย่าง เราก็ไม่อาจหลบซ่อนพวกเขาได้ตลอด ยังไงเราก็ต้องไปเจอกับพวกเขาที่สถานที่แข่งขันอยู่ดี”แนชยิ้มอย่างเย็นช้าและพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“นั่น...นั่นคือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลจริงด้วย!”หลังจากที่พวกเขาเข้าในระยะใกล้มากขึ้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาตอนที่เขาเห็นกับตาชัด ๆ“ไดอาเนียลล่า ทำไมคุณถึงไปอยู่บนกระบี่บินของตระกูลวู๊ด?”คีธ ลูกชายคนโตของนายท่านนอร์แมนรู้สึกประหลาดใจนิด ๆ “คุณไดอาเนียลล่า คุณถูกตระกูลวู๊ดลักพาตัวมาเหรอ?” เขาถาม “ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้คุณกระพริบตา ตระกูลนอร์แมนจะช่วยคุณเอง!”ลูกชายคนที่สองของนายท่านนอร์แมนก็ก้าวออกมาข้างหน้าเหมือนกัน “พวกสมาชิกตระกูลวู๊ด หญิงสาวคนสวยคนนี้คือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลนะ” เขาตะโกน “ฉันจะฆ่าพวกแกแน่ ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องผมแม้แต่เส้นเดียวของเธอ!”คนอ้วน ๆ ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สามก็พูดขึ้นด้วยท่าทีประชดประชันว่า “ด้วยเกียรติของฉันในฐานะนายน้อยของตระกูลนอร์แมน ฉันสาบานได้เลยว่าพวกแกเผช

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status