Share

บทที่ 121

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เซเลน่าก้าวเดินไปข้างหน้าสองก้าว และอธิบายสถานการณ์ให้คุณไมเออร์ฟัง

“เธอพูดถูก คุณไมเออร์ คนพวกนี้จงใจเสียงดัง คุณต้องทําอะไรสักอย่าง!"

พนักงานจัดซื้อบางคนเสนอเหตุผลและแสดงความเห็นชอบ

"คุณไมเออร์ ฉันแค่มาดื่มกับลูกค้าเท่านั้น ทํางานพาร์ทไทม์วันละสามร้อยเหรียญ ตอนที่คุณรับสมัครงาน คุณบอกว่านี่เป็นงานที่ทํางานพาร์ทไทม์วันละสามร้อยเหรียญ! ฉันไม่ได้อยากขายร่างกายของฉัน!"

ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้เหมือนแบนชีที่กําลังจะตาย เธอร้องไห้คร่ำครวญ "ขะ-แต่พวกเขา..."

คุณไมเออร์ทําบางสิ่งที่เหลือเชื่อ เขาตบเธออย่างแรงก่อนที่เธอจะพูดจบไป… "อย่างกับท่อนไม้!"

“คุณหมายความว่ายังไง คุณไมเออร์?" เซเลน่าโกรธเกรี้ยว ความโกรธปะทุขึ้นในหัวใจเธอ

คุณไมเออร์หัวเราะ "เรื่องอะไรขึ้นกับพวกคุณ? มันเป็นกิจการภายในของบริษัทเรา!" คุณไมเออร์แย้งว่า "อีกอย่างเธอควรจะรู้อยู่แล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเธอมาทํางานที่นี่" นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นลูกค้าประจําของเราด้วย! มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้จ่ายเงินให้กับเธอ เงินกี่พันที่เธอจะได้รับ ถ้าเธอนอนกับพวกเขาแค่วันสองวันล่ะ?"

คุณไมเออร์หัวเราะอย่างเยือกเย็นและโอหัง จ้องเซเลน่าด
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 122

    “ฉัน-ฉันหวังว่าคุณจะ... แต่คนที่หนุนหลังพวกเขาอยู่มีอำนาจมากไม่ใช่หรือ? เราจะทํายังไงดีเมื่อ..." เซเลน่ากัดริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มยั่วยวนของเธอ คิ้วของเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย“หึ หึ ที่รัก คุณแค่อนุญาตให้ผมจัดการก็พอ ถ้าพวกเขากล้าพูดผิดกับผม มันก็เหมือนมีเรื่องกับพวกเดรคใช่ไหม?" เฟนด์หัวเราะและกระซิบบอกหูของเซเลน่าเซเลน่าฟังเขา ตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาพูดถูก! ตอนนี้เขาเป็นบอดี้การ์ดชั้นยอด ที่ครอบครัวเดรคจ้างมา นอกจากนี้คุณทันย่ายังให้ค่าจ้างเขาสูงมาก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเดรค สามารถช่วยพวกเขาได้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว!“เป็นคู่รักกันอย่างนั้นเหรอ?”นายไมเออร์เห็นพวกเขากระซิบกันอย่างรักใคร่ ก็หัวเราะเยาะพวกเขาอย่างเย็นชา"ไอ้เด็กเหลือขอ ยังอยากสู้ใช่ไหม?" เราเกี่ยวข้องกับตระกูลคลาร์ก ตระกูลคลาร์กคือ ตระกูลที่ทรงอิทธิพลอันดับ สองของเมืองนี้ แกจำคำพูดโง่ ๆ ของแกตอนนี้ได้หรือยัง? ถ้าแกกล้าเริ่มมัน”นายไมเออร์ถูกตบเข้าที่หน้าอย่างแรง ก่อนที่นายไมเออร์จะได้ตัดสินโทษเพี๊ยะ!ไมเออร์พ่นเลือดออกมาเต็มปาก ฟันสองหลุดออกมาจากปากของเขา“ไอ้ลูกหมา! แกกล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 123

    เมื่อแดนชําเลืองมองไปทางที่ไมเออร์ชี้ ใบหน้าของเขากระตุกอย่างรุนแรงราวกับเส้นเลือดในสมองของเขากำลังจะแตกราวกับแดนสำนึกได้ว่าคราวนี้น้องเขยที่น่ารักของเขาได้ยั่วยุคนที่ไม่ควรจะไปยุ่งด้วยเลย!เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาโล่งใจเมื่อรู้ว่านายน้อยคลาร์กพาจอมพลที่มีความสามารถไปกําจัดเฟนด์ แต่นายน้อยคลาร์ก็กลับมาด้วยใบหน้าดูซีดเซียวจนน่าเกลียด เขาตะโกนว่า เดนนิส ฮาวเวิร์ด เป็นจอมพลที่ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น และในตอนแรกจอมพลเดนนิสก็พูดอย่างมั่นใจเกินไปว่า เขาจะส่งเฟนด์ไปที่หลุมฝังศพ แต่ทั้งคู่ได้หลบไปอยู่ในห้อง และได้พูดคุยกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ในที่สุดจอมพลก็โน้มน้าวนายน้อยคลาร์กไม่ให้ระรานเฟนด์ ถ้าตระกูลคลาร์กทําให้เฟนด์โกรธ พวกเขาคงจะต้องถอนรากถอนโคนตัวเองแดนตกใจกับข่าวนี้อีกครั้งเขารู้ว่าเฟนด์แข็งแกร่ง แต่เขาไม่ได้คิดว่าแม้แต่จอมพลก็จะไม่กล้าสัมผัสเส้นผมของเขาแม้แต่เส้นเดียว เป็นไปได้มากที่ เฟนด์ วู๊ด จะเป็นราชาแห่งสงคราม"สวัสดี แดน โลกช่างแคบจริง ๆ”เฟนด์หัวเราะเยาะและพูดต่อว่า "คุณจะทํายังไงต่อไป?"“เราจะทํายังไงดี? เราจะส่งแกไปหายมทูต ไอ้โง่! แกยังไม่ได้เจอพี่ชายฉันเลย เขามีชื่อเส

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 124

    "อ๊ากกกก!"เสียงกรีดร้องตีโพยตีพายทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องนั่นทำให้เลือดภายในตัวของทุกคนหนาวสั่น คนส่วนใหญ่กลัวถึงขั้นต้องหลับตาลง"ที่รัก ไปกันเถอะ!"เฟนด์คว้ากระเป๋าแล้วพาดไว้บนบ่า เขามองไปที่พนักงานพาร์ทไทม์แล้วพูดว่า "ยังจะอยากอยู่ที่นี่ไหม? ไปเดี๋ยวนี้!”ผู้หญิงคนนี้ตกใจกับฉากตรงหน้า จนเฟนด์เรียกสติเธอกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง เธอรีบตามเฟนด์และคนอื่น ๆ ออกจาก KTV อย่างรวดเร็ว“เลิกทํางานในสถานที่แบบนี้ได้แล้ว!” เซเลน่าตําหนิเธอ "ทําไมเธอถึงคิดจะทํางานที่นี่ตั้งแต่แรก? เธอทํางานอะไร?" เธอถามหล่อน หน้าผากของเธอเหี่ยวย่นในขณะที่เธอถามผู้หญิงคนนั้นมองเฟนด์กับเซเลน่า แล้วหล่อนก็คุกเข่าต่อหน้าพวกเขา "ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้!" ฉันชื่อ เจสสิก้า แฟร์ ฉันทำงานที่สํานักงานประกันสังคม แต่ฉันต้องทํางานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินและจ่ายค่าผ่าตัดของพ่อ เนื่องจากพ่อของฉันป่วยอย่างมาก เราจำนองบ้านของเราไปแล้ว แต่เราก็ยังขาดเงินอยู่ ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากทํางานที่นี่เพื่อหาเงินเพิ่ม"น้ำตาพวยพุ่งออกมาเมื่อเธอคิดถึงสถานการณ์ของพ่อของเธอ เธอบอกว่า "ประกาศรับสมัครงานของพวกเขาแสดงใ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 125

    เซเลน่าหมดคำพูดออก เฟนด์ทำเหมือนกับเงินไม่มีค่าอะไรเลย ราวกับว่าธนบัตรกองนั้นเป็นกระดาษทิชชู่ม้วนหนึ่งสําหรับเขา เขาใจกว้างกับผู้หญิงคนนั้นมาก"แล้วผมควรจะให้เงินเธอเท่าไหร่? ผมควรไปเอามันคืนไหม?"อย่างไรก็ตาม เฟนด์ได้เปลี่ยนใจหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว "ช่างมันเถอะ ผมไม่มีเหตุผลที่จะเก็บน้ําที่เทออกจากขวดแล้วกลับมา!"เซเลน่ายังคงนิ่งเงียบ ได้แต่ยิ้มให้เขาอย่างดูขมขื่น "ไม่เป็นไร" สามีฉันมีรายได้ 20 ล้านต่อเดือน! หลังจากคุณทํางานให้กับตระกูลเดรคได้สองเดือนเราจะรวย และในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้า เราก็จะเป็นมหาเศรษฐี"“ที่รัก ในตอนนี้เรายังไม่ขาดแคลนเงิน แต่ว่า...“คุยโม้ไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตอนนี้กระเป๋าคุณใกล้จะว่างแล้ว" เซเลน่าเดาะลิ้นเธอเบา ๆ "คุณต้องเรียนรู้ที่จะบริหารการเงินของคุณให้ดีขึ้น เข้าใจไหม?" ถ้าไม่ได้ทําเพื่อลดความเย่อหยิ่งของซอนย่า ฉันคงไม่ใช้เงินเยอะขนาดนั้นเพื่อไปดินเนอร์"“ไม่ ไม่ ไม่! เธอต้องเริ่มเตรียมตัวเป็นผู้หญิงที่รวยนะ ที่รัก" เฟนด์แย้ง "แล้วผมยังฝันว่าจะมีงานแต่งงานอีกครั้ง ไว้พาคุณไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปข้างนอกในอนาคต!" “คุณแน่ใจเหรอ? ฉันไม่คิดว่าเป็นควา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 126

    ที่ทางเข้าของ KTV เนทชายที่มีรอยสักมังกร เขาเดินไปข้างหน้าพร้อมกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขา“ให้ตายเถอะ ฉันไม่เคยโกรธแบบนี้มาก่อน ฉันจะไม่เดินออกจากที่นี่จนกว่าฉันจะพอใจ!"เนทกำฟันแน่น การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความบ้าคลั่ง ความโกรธภายในใจเขายังคงเผาไหม้และร้อนแรง"เจ้านาย บางทีเราน่าจะลืมเรื่องนี้ไป" ลูกน้องคนหนึ่งพูดติดอ่างหลังพิจารณาเรื่องนี้แล้ว "คุณไม่ได้ยินที่แดนพูดหรือ?" แม้แต่นายน้อยคลาร์กก็ยังไม่กล้าทําให้ชายคนนั้นโกรธ!"“แดนเป็นนักสู้ที่ดีที่สุดในตระกูลคลาร์ก คุณก็รู้ใช่ไหม? แต่ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น เขาโค้งคํานับทันที่ที่เขารู้ว่าคน ๆ นั้นคือ เฟนด์ วู๊ด เขายังตัดมือน้องเขยโดยไม่ลังเล!"เนทรู้สึกลังเลเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้นอย่างไรก็ตามรอยยิ้มสว่างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว ทำไมเราต้องกลัว? เราไม่จําเป็นต้องกลัวเพียงเพราะเขาทำให้เรากลัว ชนขั้นสูงอะไร? พวกเขาแค่หาชื่อเสียงให้ตัวเอง เขาจะเทียบกับเทพเจ้ามังกรอย่างเราได้ยังไง?""เจ้านายพูดถูก" อีกคนแอบพูดแทรกด้วยน้ําเสียงที่ร้ายกาจ "เราไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้หลุดมือไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทําไมพวก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 127

    เซเลน่าดูเหมือนในที่สุดก็นึกอะไรออกแล้ว เธอตบไหล่เฟนด์จากด้านหลัง "เดี๋ยวก่อน! หยุด!"เฟนด์ดึงรถคันเร่งรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปด้านข้างทันที "มีอะไรเกิดขึ้น?""แดน เจมสัน เป็นนักสู้ฝีมือดี แต่เขาไม่ได้ยังไม่ได้ยกหมัดใส่คุณด้วยซ้ำ เขากลับเอ่ยขอโทษคุณทันที"“เขาบอกกับคุณไมเออร์ว่าคุณเป็นผู้ชายที่แม้แต่นายน้อยคลาร์กยังไม่กล้าที่จะแตะต้องไม่ได้ ทําไม? คุณเป็นใครกันแน่?"สีหน้าเซเลน่าบูดบึ้ง คิ้วของเธอขมวดขึ้นด้วยความสงสัยเฟนด์หัวเราะหลังจากได้ยินประโยคนี้ "ผมเป็นสัตวแพทย์ เพราะเหตุนี้ แดนเคยสู้กับผมครั้งนึง แม้จะไม่ใช่การต่อสู้จรองจัง เราเคยแข่งมวยปล้ำกัน เราเดิมพันนิ้วของตัวเองและต้องตัดนิ้วตัวเอง เพราะเขารู้ว่ากําลังของตัวเองไม่สามารถเทียบกับผมได้ ผมต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนจริง อย่างไรก็ตาม นี่คือเหตุผลที่นายน้อยคลาร์กกลัวผม..."เฟนด์หยุดพูดสักพักหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า "ลองคิดดูสิ แม้แต่นักมวยที่ดีที่สุดของคลาร์ก ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม แล้วนายน้อยคลาร์กจะไม่กลัวผมหรอกเหรอ? มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? เขาไมากลัวว่าผมจะฆ่าเขาอย่างนั้นเหรอ? ในเมื่อผมมีความสามารถขนาดนี้!”“งัดข้อ?”เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 128

    "ใช่ ไอ้สวะนั่นเจ๋งมาก เราไม่ใช่คู่แข่งของเขา เพราะคนใกล้ตัวเราน้อยเกินไป!"เนทบ่นทันทีว่า "นายท่านฮาวเวิร์ด ไอ้บ้านั่นแทบจะถ่มน้ำลายใส่ชื่อคุณออกมาหมดแล้ว เราบอกเขาว่าเราเป็นคนของคุณ แต่เขาบอกเราว่า คุณมันก็แค่คนไร้ค่า!"“ไอ้สารเลว! เขากล้าดูถูกนายท่านฮาวเวิร์ด"นี่อาจเป็นครั้งแรกที่นายท่านฮาวเวิร์ดถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง เขาโมโหและเกือบจนกระอักเลือดออกมาเขาพิชิตบัลลังก์ที่เขานั่งมาในวันนี้ด้วยกําปั้น ตระกูลเทพเจ้ามังกรถือว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่โดดเด่นที่สุดในเมือง ถึงพวกเขาไม่ได้อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่ก็ไม่มีใครกล้ายั่วโมโหพวกเขาองค์กรใต้ดินเหล่านี้มักไม่ก้าวก่ายกิจการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชนชั้นสูงด้วย พวกเขาไม่ต้องการเริ่มการต่อสู้ที่ไม่จําเป็นนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงอดพูดไม่ได้ หลังจากพูดจบ "เจ้าสารเลวนั่นเป็นพวกชนชั้นสูงอย่างนั้นหรือ?"“ไม่ ไม่ต้องกังวล ไอ้บ้านี่เป็นแค่ทหารราบ พูดอีกนัยหนึ่งคือ เขาเป็นคนหุนหันพลันแล่นและหลงตัวเอง เป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน เอาตัวเองเข้าไปยุ่งในที่ที่เขาไม่ได้รับเชิญ”"เมื่อเร็ว ๆ นี้ทหารราบเข้ามากันหลายคน" เนทกล่าวเสริม "ตอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 129

    เบ็นคิ้วขมวด "นี่มันดึกมากแล้ว แต่เฟนด์ยังไม่กลับมาเป็นไปได้ไหมว่าเขาจะถูกลักพาตัวเลยไม่สามารถกลับมาบ้านได้ เงิน 300,000 คงไม่พอที่จะชดเชยตระกูลเดรค มันไม่สำคัญว่าเขาทำร้ายบอดี้การ์ด แต่เพราะคนเหล่านั้นเป็นคนของตระกูลเดรค!”"ไม่...ไม่มีทาง"โจแอนได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น เธอเดินไปเดินมาอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ทําอะไรไม่ได้ทั้งเฟนด์และเซเลน่าก็ยังไม่กลับมาทั้ง ๆ ที่เวลามันดึกมากแล้ว มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาจริง ๆ เหรอ?“พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเดรค ไม่ใช่บอดี้การ์ดทั่วไป ถ้าพวกเขาเป็นแค่ยามเฝ้าหน้าประตู 300,000 ก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าพวกเขาเป็นคนของตระกูลเดรคก็ไม่มีอะไรแน่นอน…”“ฉันแค่กังวลว่าเซเลน่าจะไม่ได้กลับมาด้วย เซเลน่าถูกจับตัวไปด้วยเหรอ? ถ้าพวกเขาเรียกร้องเงินค่าไถ่จากเรา เราจะทําอย่างไร?"แอนดรูว์สูบบุหรี่ข้าง ๆ ใจเขาเริ่มใจสั่น เขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกสาว"เรียกค่าไถ่เหรอ? ถ้าพวกเขาการเรียกค่าไถ่ เราก็แค่ช่วยลูกสาวเรา ไอ้โง่นั่นทําอะไรไม่ได้หรอก นอกจากสร้างปัญหา แท้จริงฉันจะไม่ชดใช้ความผิดของเขาด้วยเงินของฉัน"ฟีโอน่าพูดด้วยความโมโห"ฟีโอน่า ได้โป

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status