แชร์

บทที่ 1210

ผู้เขียน: โมเนโต้
“แน่นอน คุณเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้ ดังนั้นฉันจะหาทางตอบแทนคุณแน่นอน!”

ความอบอุ่นแพร่กระจายในอกของไดอาเนียลล่า เธอคิดบางอย่างขึ้นได้จึงรีบพูดต่อว่า “แต่คุณก็อย่าคิดไปไกลเกินนะ ฉันไม่ตอบแทนคุณด้วยร่างกายของตัวเองแน่ ฮึ่ม ใครก็ตามที่อยากจะได้ตัวฉันพวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าคู่ควรไหม เข้าใจ?”

“คุณเป็นคนที่ไว้ใจได้จริง ๆ ใช่ไหม?”

เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ก็จริงอยู่ที่เธอไม่ได้ดูแย่ และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ออกมาจากตัวเธอนั้นก็น่าดึงดูดใจมาก แต่เฟนด์มั่นใจในความยับยั้งชั่งใจของตัวเอง

“ฮึ่ม ฉันรู้ว่าพวกผู้ชายชอบคิดอย่างหนึ่งแต่ก็พูดอีกอย่างหนึ่ง คุณกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่แน่ อะไรบางอย่างเกี่ยวกับสาวสวยอย่างฉันที่อยู่บนหลังของคุณตอนนี้!

“ฉันบอกคุณแล้ว มันเป็นสิทธิพิเศษของคุณเลยนะที่ได้แบกฉัน ผู้ชายหลายคนอยากทำแบบนี้ แต่ก็ไม่มีโอกาส!”

ไดอาเนียลล่ายังภูมิใจในตัวเองเหมือนเคย ราวกับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงสูงส่งที่อยู่บนฟ้า

“คุณกำลังบอกว่ามันเป็นสิทธิพิเศษของผมที่ได้แบกคนหนัก ๆ อย่างคุณเหรอ? เฮ้ ผมคงจะมีความสุขมากกว่าถ้าไม่ต้องแบกอะไรหนัก ๆ อย่างนี้!”

เฟนด์ยิ้มออกมา ผู้หญิงคนนี้อวดดีเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1211

    ถ้ามีโอสถระดับสามกับโอสถระดับสี่ แสดงว่าหญ้าวิญญาณระดับสามกับหญ้าวิญญาณระดับสี่ก็อาจจะมีอยู่จริง ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วหญ้าวิญญาณพวกนั้นอยู่ที่ไหนกัน? หญ้าวิญญาณและโอสถแบบนั้นอาจทำให้ผู้ที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงหลอมรวมพลังได้ นั่นหมายความว่าตำนานเรื่องระดับเทพสูงสุดอาจเป็นจริงก็ได้“ใช่แล้ว พ่อของฉันบอกว่าโอสถระดับสามกับโอสถระดับสี่มีอยู่จริง ซึ่งหมายความว่าระดับเทพสูงสุดก็อาจจะมีอยู่จริง”ดูเหมือนว่าไดอาเนียลล่าจะไม่ได้ตั้งกำแพงไว้มากนัก เธอพูดกับเฟนด์อย่างสบาย ๆ ว่า “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมตำราเล่มนั้นถึงเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง เขาจะใช้ทุก ๆ เวลาว่างของเขาเพื่อศึกษามัน พยายามวิเคราะห์ความลับของมัน และบางครั้งเขาก็ออกไปตามหาสมบัติล้ำค่าเพื่อดูว่าเขาจะตามหาหญ้าวิญญาณระดับสามอย่างที่ได้อธิบายไว้ในตำราเล่มนั้นเจอหรือเปล่า!”“เขาตามหามันสำเร็จไหม?”ดวงตาของเฟนด์เป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาจึงถามเธอกลับไปไดอาเนียลล่ายิ้มอย่างขมขื่น “ไม่เลย เขายังตามหามันไม่ได้เลยหลังจากที่ผ่านมาหลายปี ฉันจึงไม่คิดว่าหญ้าวิญญาณระดับสามกับหญ้าวิญญาณระดับสี่จะมีอยู่จริง เขาไม่พบร่องรอยใ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1212

    “ตระกูลคาเบลโลช่างแข็งแกร่งจริง ๆ!”เฟนด์ยิ้มหวานและพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจแต่เขาก็แอบพูดไม่ออก เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งรักตำราเล่มนี้มากกว่าลูกของเขาอีก หากมีวิธีที่สามารถก้าวข้ามไปสู่ระดับเทพสูงสุดได้อยู่ในตำรา คงไม่มีทางที่เฟนด์จะยืมตำราเล่มนี้มาได้สักเสี้ยววินาทีแน่ ขนาดลูกสาวคนที่สามของตระกูลคาเบลโลเขายังไม่ให้เธอแอบดู งั้นคนไม่ต้องพูดถึงเขาที่เป็นคนนอกเลยงั้นทางเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือหาวิธีเอาตำรามาจากเขาให้ได้แม้ว่าเฟนด์จะอยู่แค่ระดับเทพแท้จริงขั้นต้น แต่เขาคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะฆ่าใครสักคนที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลาง เขาอาจจะจ้างใครสักคนที่อยู่ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงมาทำจัดการให้เขาแต่ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตระกูลคาเบลโลอยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นสุดยอด แม้แต่ในหมู่นักสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา เขาก็ยังโดดเด่นมาก จากการพิจารณาทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ที่จะขโมยตำราจากเขามาตรง ๆเว้นเสียแต่ว่าเฟนด์จะแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโส เมื่อนั้นเขาถึงจะมีโอกาส“แน่นอน ตระกูลคาเบลโลอาจจะเป็นหนึ่งในสามของตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาแปดตระกูลลึกลับ แต่ตระกูลที

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1213

    ไดอาเนียลล่าตอบกลับทันทีโดยไม่ต้องคิด “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเพราะคุณและความบริสุทธิ์ของฉันถูกใครบางคนทำให้แปดเปื้อน สำหรับฉันมันคงเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ แม้ว่าคุณจะฆ่าคนคนนั้นก็ตาม อีกอย่าง ในตระกูลสาขาของคุณไม่ใครสักคนเลยที่คู่ควรกับฉัน ฮึ่ม! ยังไงก็ตาม ในช่วงสองสามวันนี้ฉันจะตามติดอยู่ข้าง ๆ คุณ ตอนนี้ฉันเชื่อใจแค่คุณเท่านั้น แล้วเมื่อพลังฉีของฉันฟื้นคืนกลับมาฉันก็จะจากไป!”“ก็ได้ มันไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับผมอยู่แล้ว!”เฟนด์พาเธอมาด้วยและสั่งให้เมสันจัดห้องให้ไดอาเนียลล่าพักในที่ที่เดียวกับบ้านที่เขาพักอยู่ในช่วงบ่าย เมสันกับคนอื่น ๆ ก็จัดระเบียบสมบัติที่ยึดได้จากการรบชนะ รวมทั้งเอาหญ้าวิญญาณมาวางไว้ตรงหน้าของเฟนด์เพื่อเขาเลือกสิ่งของที่ชอบหลังจากที่เฟนด์ศึกษาสิ่งของพวกนั้นสักพัก เขาก็เลือกสมุนไพรเพียงไม่กี่อย่างที่เหมาะกับการทำโอสถฉี“ที่นี่มีหญ้าวิญญาณจำนวนมาก ทำไมนายน้อยไม่เอาไปเพิ่มล่ะ?”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของพวกเขาโพล่งออกมาหลังจากที่เห็นว่าเฟนด์เลือกของไปเพียงไม่กี่ชิ้น“ไม่เป็นไร ฉันมีมากพอแล้ว!”เฟนด์ยิ้มออกมา “เมสันจะย้ายไปอยู่ตระกูลหลัก คุณได้เลือกหัวหน้าตระกูลค

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1214

    “อยากสู้กับพี่เหรอ?” ดอว์สัน วู๊ด ตาเบิกตากว้างและรู้สึกไม่พอใจ “ไนกินี่ วู๊ด ในความคิดของเธอ พี่เก่งสู้เอมอส วู๊ดไม่ได้เหรอ เธอกำลังดูถูกพี่อยู่เหรอ?”ไนกินี่ยิ้มอย่างอึดอัดออกมาทันที “เปล่านะ พี่ดอว์สัน ทั้งพี่และพี่เอมอสต่างก็มีความสามารถในการต่อสู้ที่คล้ายคลึงกันและพลังการต่อสู้ของพวกพี่ก็ใกล้เคียงกันด้วย บอกตามตรงเลยนะ ถ้าให้ฉันต้องเลือกสักคน ฉันก็จะไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะเลือกใครดี ดังนั้นฉันจึงเลือกพี่!”ดอว์สันจ้องไปที่ไนกินี่ “สาวน้อย พี่มั่นใจว่าเธอคิดว่าพี่เก่งไม่เท่าเอมอส และคิดว่าพี่อ่อนแอกว่าใช่ไหม?”ดอว์สันเดินตรงไปยังพื้นที่ที่ว่างอยู่เล็กน้อยและเลิกคิ้วจ้องไนกินี่อย่างโมโห “น้องไนกินี่ ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ก็จะไม่ลังเลแล้วนะ เพราะยังไงซะ สำหรับพี่ โอกาสที่จะได้เข้าสู่ตระกูลวู๊ดนั้นก็สำคัญมาก มันเป็นชะตากรรมของพ่อแม่ที่ส่งต่อมาถึงพี่!”“ใครเหรอที่ทำให้พี่ลังเล? มันคงไม่มีความหมายสำหรับฉันถ้าหากชนะการประลองโดยที่พี่ยังลังเลอยู่หรอก!” ไม่นานไนกินี่ก็ก้าวมาตรงหน้าดอว์สัน เธอกำมือเป็นหมัด ฉีเริ่มกระจายรอบหมัดของเธอ“ก็ได้ งั้นวันนี้เรามาสู้กันอย่างจริงจังเถอะ!” ดอว์สันรู้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1215

    ข้าง ๆ พวกเขา แม่ของไนกินี่ทนดูพวกเขาต่ออีกไม่ไหว เธอจึงขอร้องสามีของเธอ“ไม่เป็นไรหรอก ลูกมีนิสัยที่ไม่ยอมแพ้มาตลอด ผมจะไม่เกลี้ยกล่อมเธอเรื่องนี้!” แม้ว่าเขาจะทุกข์ทรมานใจมาก แต่พ่อของไนกินี่ก็ยังคงกำหมัดแน่นและพูดออกมาอย่างหนักแน่น“เฮ้อ!” แม่ของไนกินี่ถอนหายใจปัง!หลังจากนั้นไม่นาน ไนกินี่ก็กระเด็นถอยหลังออกไปอีกครั้งแล้วล้มลงบนพื้น เธอกระอัดเลือดออกมาอีกครั้ง สีหน้าของเธอก็ซีดมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับเมื่อกี้“ไนกินี่ ยอมแพ้ซะ เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่หรอก!” ดอว์สันก็รู้สคกสงสารเด็กสาวคนนี้ขณะที่เขามองไนกินี่เพราะยังไงซะ พวกเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อค้นหาทรัพยากรเสริมทักษะการต่อสู้ ในป่าที่อันตราย เด็ก ๆ ในตระกูลสาขาจะดูแลกันซึ่งกันเสมอ พวกเขาเติบโตมาด้วยกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแต่ทว่าในวันนี้พวกเขาก็ต้องต่อสู้เพื่ออนาคตของตนเอง“ฉันยังไม่แพ้! ฉันไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก!” ไนกินี่กัดฟันแน่นและลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เธอกำหมัดและวิ่งออกไปอีกครั้งอย่างไรก็ตาม ความเร็วของเธอก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดอว์สันจึงหลบหมัดของเธอได้อย่างง่ายดาย แล้วเขาก็พลิกมือและตบลงบนหลังขอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1216

    ดวงตาของไนกินี่แดงก่ำด้วยความดีใจจนเธอเกือบจะร้องไห้“ขอบคุณ… ขอบคุณค่ะ นายน้อยเฟนด์!” ไนกินี่พูดพึมพำออกมาเสียงสั่นเมสันที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาก็พูดขึ้นว่า “นายน้อยเฟนด์ ผมรู้ว่าคุณใจดี แต่เรื่องนี้ค่อนข้างจะไม่สะดวกหรือเปล่า? พวกเราจากตระกูลสาขากำลังเจอกับปัญหาขาดแคลนสมาชิก และตระกูลสาขาอื่น ๆ ที่ได้โควต้าแค่เพียงสองคนก็คงจะไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเราได้โควต้าสามคน”พ่อของไนกินี่ก็ขมวดคิ้วและพูดต่ออย่างเคร่งขรึมว่า “จริงด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้น ตระกูลสาขาอื่น ๆ อาจจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม นายน้อยเฟนด์ ผมเกรงว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคุณนะ แม้ว่าต่อหน้าพวกเขาจะไม่พูดอะไร แต่พวกอัจฉริยะของตระกูลสาขาก็อาจจะพูดอะไรบางอย่างลับหลังพวกเรา”ไนกินี่ที่ตอนแรกร่าเริงอยู่ก็กัดริมฝีปากอันยั่วยวนของเธอขณะที่ได้ยินความเห็นของเมสันกับความเห็นของพ่อของเธอ เธอจึงพูดขึ้นว่า “นายน้อยเฟนด์ ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณ แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว มันดูจะไม่สะดวกสำหรับคุณ ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าฉันไม่ไป แต่ฉันจะพยายามทำให้ได้เมื่อมีโอกาสแบบนี้อีกในอนาคต”เฟนด์รู้สึกประทับใจเมื่อได้ยินแบบนั้นและตอบกลับด้ว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1217

    ลิลลี่น้ำหนักลดลงไปเกือบห้ากิโลกรัมภายในเวลาไม่กี่วันลิลลี่หายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เธอมองไปยังทางเข้าบ้านของตระกูลลาโกริโอก่อนที่จะเข้าไปข้างในพร้อมกับชายชราไม่นานหลังจากนั้น เด็กหนุ่มหลายคนที่เฝ้าอยู่บนภูเขาก็เห็นลิลลี่ “คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว!”หลังจากที่พวกเขาเห็นก็มีคนวิ่งไปแจ้งคนอื่น ๆ ให้ทราบทันทีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูใหญ่ ทำไมคุณกลับมาคนเดียวล่ะ?”ไม่นานนักหญิงสาวก็สังเกตเห็นว่าลิลลี่มีบางอย่างผิดปกติไป ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นผู้หญิงที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและร่าเริงทุกครั้งที่เธอกลับมา แต่ลิลลี่คนปัจจุบันดูเหมือนว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงและท้อแท้สุด ๆเด็กสาวขมวดคิ้วและถามอย่างระมัดระวัง “คุณหนูใหญ่ เกิด...เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? ทำไมคุณถึงดูอ่อนล้าจัง?”ผู้อาวุโสที่อยู่ข้าง ๆ ถอนหายใจออกมา “ซูซาน หยุดถามได้แล้ว เรื่องทุกอย่างมันยากที่จะอธิบายได้ในเวลาไม่กี่วินาที”ทั้งคู่เดินไปข้างหน้าและไม่นานพวกเขาก็มาถึงลานกว้างขนาดใหญ่ตรงไหล่เขาในตอนนั้นเอง นายท่านลาโกริโอ พร้อมด้วยนายใหญ่ลาโกริโอและผู้อาวุโสจำนวนมาก ก็รีบออกมาต้อนรับพวกเขาเนื่องจากลิลลี่ไม่ได้กลั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1218

    ผู้อาวุโสที่มีนามสกุลลาโกริโอซึ่งพาลิลลี่กลับมาอธิบายว่า “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ แลนซ์เขายังไม่กลับมา และเนื่องจากไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลย สมาชิกในตระกูลวู๊ดจึงออกตามหาเขา”ผู้อาวุโสหยุดก่อนจะพูดต่อว่า “แต่พวกเขาก็ยังค้นหาไม่เจอเลย จึงเป็นเรื่องปกติที่สมาชิกในตระกูลวู๊ดจะคิดว่านายน้อยแลนซ์ตายแล้ว และบังเอิญ หัวหน้าตระกูลวู๊ด แนช วู๊ด อยากเจอ โจแอน อนุภรรยาของเขาจากโลกภายนอก กับเฟนด์ ลูกนอกสมรสของเขา คุณหนูใหญ่ไม่พอใจจึงแอบวางยาพิษแนช แนชไม่ได้ป่วยเป็นโรคประหลาด เขาถูกวางยาพิษที่ค่อนข้างแปลก..”ผู้อาวุโสค่อย ๆ เล่าเรื่องทุกอย่างให้คนในตระกูลลาโกริโอฟังตั้งแต่ต้นจนจบด้วยสีหน้าเย็นชานายใหญ่ลาโกริโอรู้สึกโมโหมากเมื่อได้ฟังเรื่องทุกอย่างและชี้ไปที่ลิลลี่อย่างโกรธจัด “ลิลลี่ หลาน...หลานทำอะไรลงไป? ไม่แปลกใจเลยที่แนชจะทำลายพลังยุทธของหลานและขับไล่หลานออกจากตระกูลวู๊ด ผู้อาวุโสลำดับที่สามก็อายุมากแล้วนะ และหลานยังไม่สนใจฐานะของหลานที่เป็นนายหญิงใหญ่อีก หลานวางยาพิษแนชและยังมีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสลำดับที่สามด้วย?! หลานทำให้ปู่อับอายมาก!”นายใหญ่ลาโกริโอกระวนกระวายใจมากขณะที่เขาพูด โก

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status