วอร์เรนกล่าวขณะที่เขากำลังลุกขึ้นยืน แจสมินเองก็ขมวดคิ้วขณะที่เธอเช็คดูห้องเก็บของ สายตาของเธอหยุดลง เมื่อเธอเห็นเห็นธูปสองสามดอกวางอยู่ใกล้มุมห้อง “พวกนั้นต้องเป็นเหตุผลที่ทำไมพวกเราถึงหลับลึกขนาดนี้แน่!” แจสมินกล่าว ขณะที่เธอชี้ไปยังการค้นพบของเธอ “เป็นงั้นเองสินะ! ถึงอย่างนั้นคนเหล่านั้นเป็นใครกัน…? ทำไมพวกเขาถึงไม่บอกพวกเราว่าพวกเขาเป็นใครหลังจากช่วยเหลือพวกเราล่ะ?” เมอาตอบกลับ ก่อนที่ใครก็ตามจะทันได้ตอบกลับ สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มที่กำลังสำรวจสถานที่อยู่แล้ว ก็ตะโกนขึ้นมา “เฮ้ มาตรงนี้สิ ฉันคิดว่าพวกเขาทิ้งบางอย่างไว้ให้เรา!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกจึงมาล้อมรอบกล่องใบหนึ่งที่มีข้อความอยู่บนนั้น ข้อความนั้นเองเขียนไว้ว่า ‘ถึง เมอา’ “เดาว่าพวกเราคงรู้แล้วว่าใครจะเปิดมัน” สมาชิกอีกคนของทีมพูด เมอาเองรู้สึกหวิว ๆ ด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เธอคิดว่าภายในนั้นจะเป็นอะไร และเธอก็เห็นแวบ ๆ ว่าวอร์เรนที่มีสีหน้าที่น่าเกลียดอย่างมากบนใบหน้าของเขา เมื่อสังเกตเห็นว่าเธอกำลังมองมาที่เขา จากนั้นวอร์เรนจึงพูดเป็นนัยด้วยความโกรธในน้ำเสียงของเขา “เอาเลยเปิดดูมันได้แล้ว! ถ้าเธอไม่ฉันจะเ
และบางอย่างที่สำคัญก็คือ เมื่อรู้เป็นอย่างดีว่าตระกูลเฟนเดอร์สันเกือบจะถูกลบหายไปเพราะความสะเพร่าของเขา ไบรสันจึงจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม หลังจากเรื่องต่าง ๆ สงบลงเล็กน้อย ไบรสันก็คิดว่าพวกเขาเกือบจะถูกตระกูลผู้รับใช้กำจัดไปอย่างไร ถ้าเรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นได้ภายใต้กฏของเขา งั้นเขาก็ยอมรับว่าเขาเริ่มแก่และไม่น่าเชื่อถืออีกแล้ว ความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือนั้นก็เป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมว่าในที่สุดก็ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงเสียที มันจึงอธิบายได้ว่าทำไมบรรยากาศของการประชุมของตระกูลเฟนเดอร์สันคราวนี้ถึงแตกต่างไปมาก ทุกคนก็ก้มหน้าลงกัน ขณะที่รอให้ไบรสันพูด การไอเพื่อทำลายความเงียบและให้ได้รับความสนใจของทุกคน ไบรสันกระแอมในลำคอก่อนจะพูดขึ้น “ฉัน…มีข่าวสำคัญมากที่จะประกาศในวันนี้… การประกาศนี้จะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่ฉันจะทำในฐานะที่เป็นหัวหน้าของตระกูลนี้เช่นกัน!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็เงยหน้าของพวกเขาขึ้น ขณะที่พวกเขามองไปที่ชายชรา “ฟังให้ดี สำหรับหัวหน้าคนต่อไปของเฟนเดอร์สันจะเป็นแจสมิน! ฉันแก่มากเกินไปแล้วต
ขณะที่พ่อบ้านไปเตรียมรถให้พร้อม มินดี้เองก็ยืนอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ของตระกูลชุยเลอร์ที่ยังเหลืออยู่แล้ว “ขอโทษนะคะ แต่คุณเห็นใครที่สวมหน้ากากบ้างไหม? เขาสูงประมาณเท่านี้ และเมื่อถอดหน้ากากออกมา เขามีแผลไหม้อย่างรุนแรงรอบ ๆ ดวงตาของเขา…” หญิงสาวคนหนึ่งถามผู้สัญจรไปมา ขณะที่เธอยกมือของเธอขึ้นเหนือหัวของเธอ เพื่อเลียนแบบว่าแซนเดอร์สันสูงแค่ไหน “…ไม่นะ ผมไม่เคยเห็น…?” ผู้ชายที่สับสนงุนงงคนนั้นตอบกลับ “แต่นั่นจะเป็นไปได้ยังไงกัน? เขาบอกพวกเราว่าเขาจะมาตามหาพวกเราแต่เขาก็ไม่มา! เขาไม่ได้อยู่ที่ยอร์คนอร์ท เมาน์เทน! เขาอาจจะไปที่ไหนล่ะ…? ฉันยังพยายามโทรหาสเตลล่าด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้เหมือนกัน! เมื่อฉันไปที่บ้านของเธอ มันก็ดูเหมือนว่าเธอย้ายออกไปแล้ว…เฮ้ คุณคิดว่าใครสามารถบอกได้บ้างว่าแซนเดอร์สันไปที่ไหน…?” มินดี้ถาม คนเดินผ่านคนนั้นเองก็ตกตะลึงที่รู้ว่าเธอยิงคำถามนั้นใส่เขาโดยตรง เมื่อมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นเขาก็ส่ายหัวของเขาก่อนจะวิ่งจากไป ช่างน่าเสียดายที่คนสวยเช่นนี้ฟังดูเหมือนคนวิกลจริตขนาดนี้ “นายหายไปที่ไหนกัน แซนเดอร์สัน…? นาย…นายพูดว่านายจะกลับมา…แล้วนายก็
ขณะที่ได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาลดังแว่วมาจากระยะไกล มินดี้ก็พบว่าตัวเองค่อย ๆ หมดเสียสติไป “…แซน…เดอร์สัน…” ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งก็กำลังนั่งอยู่ในรถไฟด่วนก็จับหน้าอกของเขาไว้แน่นอย่างฉับพลัน ขณะที่เขาตัวสั่นขึ้นมา “เป็นอะไรไป?” หญิงสาวที่นั่งใกล้เขาถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “…ไม่มีอะไร หัวใจของฉันรู้สึกแน่นขึ้นมากะทันหันน่ะ…ตอนนี้ความรู้สึกนั้นหายไปแล้ว ช่างแปลก…” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ บนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็หันไปมองหญิงสาวคนนั้นก่อนจะพูดขึ้นมา “เมื่อเรื่องนี้พูดแล้ว เธอเอานี่ไป เมื่อเธอลงหลักปักฐานที่เมย์เบอร์รี่และได้งานทำที่นั่น พร้อมกับเงินในบัตรนี้ เธอก็จะสามารถใช้ชีวิตง่าย ๆ ไปตลอดชีวิตที่เหลือของเธอได้!” ขณะที่เขากล่าวไปแบบนั้น เขาก็ยื่นบัตรธนาคารให้หญิงสาวคนนั้น “ฉันไม่สามารถรับสิ่งนี้ไว้ เจอรัลด์! ตราบใดที่ฉันจัดการหางานได้ ชีวิตของฉันก็จะค่อนข้างจัดการได้ดีอยู่แล้ว! นาย ในทางกลับกัน นายจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าฉันอย่างแน่นอน!” หญิงสาวคนนั้นตอบกลับ ขณะที่เธอคืนบัตรนั้นให้เจอรัลด์ มันชัดเจนว่าหญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนาโอมิ
ไม่นานก่อนที่พวกเขาจะมาถึงที่สถานีรถไฟเมย์เบอร์รี่ หลังจากแอบใส่บัตรธนาคารไว้ในกระเป๋าเสื้อของเธอแล้ว เจอรัลด์จึงโบกรถแท็กซี่ให้เธอ เขาไม่ได้เป็นกังวลว่าเธอจะไม่สามารถใช้มัน เพราะเธอก็รู้อยู่แล้วว่ารหัสผ่านคืออะไร ตั้งแต่ย้อนกลับไปเมื่อพวกเขายังคงอยู่ในมหาวิทยาลัยกัน รหัสผ่านเองก็เป็นแค่วันเกิดของเขา “นายจะไม่มากับพวกเราเหรอ เจอรัลด์?” นาโอมิถาม ขณะที่เธอลดกระจกรถแท็กซี่ลง “ฉันจะอยู่ด้วยตัวเองตั้งแต่นี้ไป! ลาก่อน นาโอมิ!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการโบกมือให้ขณะรถแท็กซี่เริ่มขับจากไป เธอยื่นหัวของเธอออกมาจากหน้าต่าง จากนั้นนาโอมิก็ตะโกนขึ้นมา “เจอรัลด์ ได้โปรด! ฉันไม่สนว่าพวกเราจะลงเอยด้วยการมีเงินมากมายหรือไม่! มาอยู่ด้วยกันและแต่งงานกันเถอะ! พวกเราจะหางานทำด้วยกันในเมืองเมย์เบอร์รี่ และจากที่นั่นพวกเราจะสามารถเลี้ยงตัวเองได้ดีในอนาคตได้! ฉันมั่นใจ! ถ้าเมย์เบอร์รี่ไม่ใช่ความชอบของนาย งั้น…งั้นก็ไปอยู่ชนบทกัน! พวกเราจะหาบ้านเล็ก ๆ สักหลังสำหรับพวกเราเอง…ตั้งหลักแหล่งกัน จากนั้นก็ใช้ชีวิตที่เหลือของเราอย่างพื้น ๆ และสบายใจ! นายได้ยินพวกนี้บ้างไหม?” “อะไรนะ? ฉันไม่ได้ยินเธอ! ยังไงซะ
ในขณะที่เขามาถึงล็อบบี้ของโรงพยาบาล หญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งบังเอิญวิ่งมาทางเขาก็ดูเหมือนจะเสียการทรงตัว ขณะที่เธอข้อเท้าแพลง! ก่อนที่เธอจะล้มกระแทกพื้น อย่างไรก็ตามในพริบตาเดียว เจอรัลด์ก็จัดการจับเธอไว้ได้ทัน “โอ้มายก๊อด! นั่นช่างเป็นการรอดพ้นอย่างหวุดหวิด! ขอบคุณนะ คนหล่อ!” ผู้หญิงคนนั้นขอบคุณ ขณะที่เธอปัดผมให้เรียบทันที หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากเจอรัลด์ เมื่อมองไปที่เขา อย่างไรก็ตามเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าผู้ชายที่เพิ่งช่วยเธอจากโลกแห่งความเจ็บปวดนั้นรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย แม้เขาดูลึกลับพอแล้วด้วยการสวมหน้ากากและหมวกแก๊ป แต่สายตาของเขาก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลก ๆ ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ ชายหนุ่มเพียงตอบกลับด้วยการพยักหน้าเท่านั้นแทนที่จะพูดอะไรก็ตาม ขณะที่เธอสงสัยว่าเธอเคยพบเขามาก่อนหรือไม่ เจอรัลด์เองก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธอชั่วครู่เล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็รู้ว่าเธอเป็นใคร “…พวกเรา…เคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า?” ผู้หญิงคนนั้นถามด้วยรอยยิ้ม ในการตอบสนอง เจอรัลด์ส่ายหัว “เข้าใจแล้ว… เอิ่ม ไม่ว่าจะยังไง ขอบคุณที่จับฉันไว้ทันนะคะ!” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับพร้อมกับหัว
เมื่อหรี่ตาของเขา ขณะที่เขามองชายหนุ่มคนนั้น ที่ค่อย ๆ เคลื่อนออกไปที่ละน้อย ตั้งแต่จรดเท้า จากนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมา “เฮ้นาย! หยุดอยู่ตรงนั้นก่อน!” เขาการยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ ขอทานหนุ่มคนนั้นหวาดกลัวมากจนเขาเริ่มตัวสั่นด้วยความตกใจกลัวทันที เขามีน้ำตาคลอเบ้าขณะที่เขาลดสายตาลงก่อนจะขอร้อง “ค ครับ…? ได้โปรดเถอะครับ คุณผู้ชาย…คุณช่วยเจียดเงินและอาหารให้ผมบ้างได้ไหม…? ผมขอร้องคุณ…” “…โยเอลเหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบา เมื่อได้ยินชื่อนั้น ขอทานคนนั้นจึงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ขณะที่เขาเงยหน้าของเขาขึ้น ทันทีที่โยเอลมองเข้าไปในดวงตาของเจอรัลด์ ริมฝีปากของเขาก็เริ่มสั่นราวกับจะไม่มีวันพรุ่งนี้ “จ เจอรัลด์?” โยเอลถาม ขณะที่รู้สึกว่าน้ำตาของเขากำลังไหลอาบแก้ม เขาถอดหน้ากากออกด้วยความไม่เชื่อ เจอรัลด์จับไหล่ของโยเอลไว้ทันทีก่อนจะตอบกลับ “ใช่! ใช่ ผมเอง โยเอล!” “น้องชาย! งั้นนายก็ยังคงมีชีวิตอยู่สินะ!” โยเอลกล่าวขณะที่ไม้เท้าของเขาตกลงกับพื้น “ผมเอง…โยเอล…คุณลงเอยเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน…?” เจอรัลด์ถามด้วยความช็อก อย่าลืมว่าโยเอลเคยที่เขาเคยรู้จักนั้นมีเสน่ห์และร่ำรวยมากในตอ
ในทางกลับกัน เกสท์ถูกบอกกล่าวให้ยังคงอยู่ในจังหวัดซอลฟอร์ดด้วยกันกับผู้เชี่ยวชาญเจนคินสัน หลังจากการปฏิบัติการชุยเลอร์ทั้งหมดนั้น ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์ก็เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่เกสท์จะติดตามเขามาจนถึงเมืองเมย์เบอร์รี่ นอกจากนี้ การที่เกสท์กลับบ้านไปอย่างปลอดภัยดี เจอรัลด์รู้ว่าเขาก็มีที่พักพิงที่เชื่อถือได้ในจังหวัดซอลฟอร์ด ซึ่งเขาสามารถล่าถอยไปได้หากสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่คาด เอาตามตรงมันก็เป็นที่พักพิงเดียวที่เขาเหลือ ถ้ามีช่วงเวลาที่ตระกูลเวสลีย์ถูกเปิดเผยขึ้นมา เจอรัลด์รู้ถึงความจริงว่าเขาจะไม่มีที่ไหนให้ขอหลบภัยได้ เมื่อโมลเดลตามกลิ่นเขาเจอ อย่าลืมว่าเขาก็ฆ่าโมลเดลสี่คนในตอนที่อยู่จังหวัดซอลฟอร์ด แม้เขามั่นใจว่าโมลเดลจะไม่ฆ่าเขาอย่างง่ายดายก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตระกูลของพวกเขานั้นมีอำนาจอย่างมาก เจอรัลด์รู้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ควรคิดที่จะจัดการกับโมลเดลด้วยตัวเขาเองด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมตอนนี้เขาถึงพิจารณาอย่างรอบคอบในทุก ๆ การเคลื่อนไหวที่เขากำลังจะทำ หลังจากการจัดเตรียมการเดินทางของโยเอลเพื่อไปจังหวัดซอลฟอร์ด เจอรัลด์จึงมุ่งหน้าไปยังเมาน์เ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ