“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันละทิ้งทุกอย่างตอนที่พวกเรากลับไปยังจังหวัดซอลฟอร์ด ฉันขอแก้ตัวใหม่กับนาย แต่นายตอบกลับอย่างไรล่ะ? อย่างเย่อหยิ่ง วางท่า จนถึงกับทำท่าอวดดี นายเมินฉันไปอย่างสิ้นเชิง นายทำให้ฉันเจ็บปวดมาหลายครั้งมาก แต่นายจำได้ไหมว่าใครคือคนที่ยังคงอยู่เคียงข้างนายเมื่อนายยังคงเป็นคนยากไร้ในมหาวิทยาลัย? ใครคือหญิงสาวคนนั้นที่จับมือนายอย่างดื้อดึงเมื่อนายเดินผ่านวิทยาเขต และถูกทุกคนรอบตัวนายเยาะเย้ยใส่? ใครคือคนเดียวที่ไม่ดูหมิ่นการมีอยู่ของนายในตอนนั้นกัน!?” แปะ!สายตาของซาเวียแดงก่ำด้วยน้ำตาขณะที่เธอพูด “เป็นฉันไง! แต่นายล่ะ? นายปฏิบัติต่อฉันอย่างไรทันทีที่นายได้รับความมั่งคั่งและเกียรติยศ? นายทำให้ฉันต้องอยู่อย่างอนาถเหมือนกับสุนัขตัวหนึ่งที่ต้องอ้อนวอนขออาหารไปทั่ว! แม้แต่ฟาซิลิตี้นังสารเลวที่มักจะดูหมิ่นดูแคลนนายและดูถูกนาย นายก็เลือกที่จะช่วยเหลือเธอเมื่อเธอขอความช่วยเหลือ! แล้วฉันล่ะ? เกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันต้องการความช่วยเหลือ!?” “นายเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันผิดหวัง!” ซาเวียกล่าว“ทุกอย่างสมบูรณ์แบบในตอนนี้ นายออกจากตระกูลคลอฟอร์ดแล้ว ในที่สุดฉันก็ไม่ต้องกลัวที่จะบอกนายเรื่องนี้อีก
เจ็ดวันต่อมาณ ไซต์งานก่อสร้างในเขตปกครองขนาดเล็กทั่วไปในจังหวัดซอลฟอร์ด“ถึงเวลาการจ่ายค่าจ้างแล้ว! นายได้ยี่สิบสามดอลลาร์ เก็บไว้ให้ดีล่ะ!” “นายสิบสี่ดอลลาร์!” หัวหน้าคนงานที่มีน้ำหนักมากเกินไป และมีหน้าท้องที่อ้วนกลมสมบูรณ์กำลังมอบค่าจ้างรายวันให้ชายหญิงสองสามคนที่อยู่ในช่วงวัยห้าสิบปีของพวกเขาในหมู่พวกเขามีชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนคนอื่น ๆ ได้รับยี่สิบสามดอลลาร์เป็นเงินค่าจ้างรายวันของพวกเขาอย่าไรก็ตามเมื่อถึงคิวของชายหนุ่มคนนั้น เขาได้รับเพียงสิบสี่ดอลลาร์เท่านั้นหัวหน้าคนงานถ่มนำ้ลายใส่นิ้วของเขา ขณะที่เขานับเงินสดเพื่อให้มั่นใจว่าจำนวนเงินนั้นถูกต้อง“เดี๋ยวนะ พวกเราตกลงในเรื่องนี้ก่อนที่จะมาที่นี่แล้วไม่ใช่เหรอ? คุณไม่ต้องจ่ายให้ผมยี่สิบสามดอลลาร์ต่อวัน แต่พวกเราจะจ่ายสิบหกดอลลาร์ต่อวันแทนไม่ใช่หรือไง?” ชายหนุ่มคนนั้นถาม“ให้ตาย! นายลืมอาหารที่นายกินไปเมื่อบ่ายนี้แล้วเหรอ!? สองดอลลาร์นั้นถูกหักออกไปเพราะอาหารนายไง!” “แต่มื้อเที่ยงที่พวกเราเพิ่งทานไปก็แค่ขนมปังกรอบสองชิ้นเองนะ และคุณจะหักสองดอลลาร์จากผมเลยเหรอ!?”“แม่งเอ้ย! ฉันเพียงให้งานนาย
เมื่อเจอรัลด์เห็นพนักงานของพวกเขากำลังจ้องมายังทิศทางของพวกเขา เขาก็กลัวว่าตัวตนของเขาจะถูกค้นพบเช่นนั้นเขาจึงต้องการจะจากไป“ทำไมนายจะจากไปล่ะ? อย่าไป! อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีต อย่างน้อยพวกเราก็เป็นคนรู้จักกัน!”ราเคลคว้าคอเสื้อของเจอรัลด์ไว้เป็นไปได้อย่างมากว่า เจอรัลด์กลับกลายมาเป็นคนยากไร้จริง ๆ ครั้งนี้ฮ่าฮ่าฮ่า! ราเคลรู้สึกมีความสุขมาก และโล่งอกที่เห็นเขาอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้“มา! มา! ฉันต้องการให้ทุกคนมาดูเขาให้ดี ๆ! ให้ฉันแนะนำพวกเธอให้รู้จักกับชายหนุ่มคนนี้นะ คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด!” ราเคลกล่าว ขณะที่โบกมือของเธอให้พนักงานทั้งหลายที่ทำงานในแผนกโครงการพวกเขาทั้งหมดเป็นกลุ่มคนที่แต่งตัวเนี๊ยบ โดยพวกเขาทั้งหมดแต่งชุดสูทที่ไม่มีรอบยับกันเลยเห็นได้ชัดว่าพวกเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาปิดปาก ขณะที่พวกเขาหัวเราะคิกคักใส่เจอรัลด์“พระเจ้า! ฉันจะฆ่าตัวตายแน่ถ้าฉันฉันถูกบังคบให้ใช้ชีวิตแบบนี้!”“ถูกต้อง! แต่เขาเชื่อมั่นในตนเองจริง ๆ ไม่ใช่เหรอไง? เมื่อคิดว่าเขาออกมามองหางานด้วยตัวเองน่ะ!” อย่างไรก็ตามในฐานะลำดับชั้นบริหารขั้นสู
เจอรัลด์เคยมาเยี่ยมบ้านของฟินน์เลย์ครั้งหนึ่งในอดีตมันน่าอายที่จะเอ่ยถึงมันแต่ในตอนนั้น เจอรัลด์รู้สึกว่ามันเป็นภาระเล็กน้อยที่มีฟินน์เลยอยู่เคียงข้างเขาเขาต้องการให้ฟินน์เลย์สามารถลงหลักปักฐานอยู่ที่บ้านอย่างไรก็ตามเควต้ารู้สึกว่ามันจะน่าเวทนาสำหรับฟินน์เลย์ที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าฟินน์เลย์ชอบเจอรัลด์แค่ไหน ตามที่สะท้อนให้เห็นว่าเขากระตือรือร้นอย่างไรที่จะติดตามเขาไปทั่วอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้นเขาจึงพาฟินน์เลย์กลับไปอาศัยอยู่ในวิลล่ากับเขาช่างหักมุมอะไรอย่างงี้ คนเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คือฟินน์เลย์เจอรัลด์วิ่งเข้าไปในบ้านเขาเห็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อย ๆ อยู่บนโต๊ะตรงกลางห้อง“ลุงควิก? คุณอยู่ที่นี่หรือเปล่า?” เจอรัลด์ถาม“ใครกัน?”เวลานี้ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องข้าง ๆ โดยถืออาหารจานร้อนอยู่ในมือของเธอเจอรัลด์ผงะไป“ผม…ผมกำลังตามหาลุงควิกอยู่ครับ! ฟินน์เลย์ ควิกน่ะ!” ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่เจอรัลด์ ที่เต็มไปด้วยเหงื่อหลังจากตรากตรำมาตลอดทั้งวัน และท่าทางที่น่ารังเกียจก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอขณะที
ใบหน้าของฟินน์เลย์ดูมีสีสันกว่าตอนที่เควต้าดูแลเขาก่อนหน้านี้เขาถือถุงสมุนไพรถุงหนึ่ง“ผมเพิ่งมาถึงครับ!” เจอรัลด์ตอบกลับ“ทำไมล่ะ หลานชายของฉัน? สิ่งต่าง ๆ ผิดพลาดไปหมด ไม่ใช่หรือไง?” ฟินน์เลย์ถาม ขณะที่เขาหัวเราะเบา ๆ“พูดอีกทีก็ถูก!” เจอรัลด์ตอบกลับ “ตอนนี้ผมไม่มีที่อื่นให้ไป ดังนั้นผมคิดว่าผมจะต้องพึ่งพาคุณแล้วตั้งแต่นี้ไป!” “ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันขอให้มาเรียรอเธอมาสองสามวันแล้วตอนนี้! เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของเธอแล้ว เธอต้องทนทุกข์อย่างมากในสองสามวันที่ผ่านมานี้ มาสิ ไปกันเถอะ มาเรียเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้ว เธอเตรียมมันไว้ให้เธอ! เข้ามาและดื่มสักเล็กน้อยกับปู่ของเธอ!” ฟินน์เลย์กล่าว ขณะที่เขาตบไหล่เจอรัลด์เบา ๆ “เช่นนั้น กลับกลายเป็นว่าตระกูลโมลเดลบังคับให้เธอมาสู่ทางตันแล้วสินะ แล้วตระกูลคลอฟอร์ดเป็นอะไรไปล่ะ? พวกเขามีเงินมากมายไม่ใช่หรือไง? ความใจกล้าของพวกเขาลดน้อยลงเมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลโมลเดลเหรอ?” ผู้ชายสองคนเริ่มพูดคุย ขณะที่ดื่มไวน์และทานอาหารกันฟินน์เลยสูบบุหรี่ ขณะที่เขาพูดคุยด้วยท่าทางเบิกบานใจ“ลุงควิก คุณรู้เกี่ยวกับตระกูลโมลเดลมานานแค่ไหนแล้ว?” ยิ่งเจอ
“ลุงควิก ผมจำเป็นต้องเรียนรู้อะไรครับ?” เจอรัลด์ถาม“เธอต้องเรียนรู้ทุกอย่างที่ฉันรู้ เธอค่อย ๆ ใช้เวลาของเธอ เจอรัลด์ จริง ๆ แล้วร่างกายของเธอก็ไม่แย่เลยนะ สำหรับเจ็ดวันที่ผ่านมา ฉันได้เก็บยาสมุนไพรเฉพาะเพื่อให้เธอได้อาบน้ำ เพื่อที่เธอจะสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งและกำลังกายของเธอได้ นอกเหนือจากนั้น ฉันก็จะฝังเข็มให้เธอเช่นกัน อย่างกังวลไป! ภายใต้การแนะนำของฉัน มันจะไม่นานหรอกก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งได้!” “คุณทำเรื่องนั้นให้ผมมาตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมานี้เหรอครับ?” เจอรัลด์รู้สึกซาบซึ้งใจจริง ๆ เมื่อเขาได้ยินประโยคนี้อย่าลืมว่า ท่าทางของเขาตอนนั้นเมื่อเขาพบกับฟินน์เลย์ครั้งแรกนั้นก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ เมื่อคิดว่าชายชราคนนี้เต็มใจที่จะพยายามอย่างมากมายเพียงเพื่อช่วยเหลือเขาล่ะก็ ผู้ชายคนนี้เป็นกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเขาจริง ๆ ฟินน์เลย์ไม่ใช่ปู่ที่แท้จริงของเขา แต่เจอรัลด์รู้สึกว่าเขาใกล้ชิดกับเขามากกว่า เมื่อเทียบกับปู่ของตัวเขาเองขณะนี้ไม่มีอะไรที่เจอรัลด์ปรารถนาไปมากกว่าการดำเนินชีวิตไปตามความคาดหวังของฟินน์เลย์ดังนั้นเจอรัลด์จึงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นต่
“ลูกชายคนที่สามของคอร์ดใช่ไหม เจ็ตต์?” ดีแลนกำหมัดของเขาแน่น“ครับคุณผู้ชาย เป็นเขา!” “ฮ่าฮ่าฮ่า! สำหรับหกเดือนที่ผ่านมา มีอะไรบ้างไหมที่เขาไม่ต้องการ? ขายงั้นเหรอ? เขาจะหยาบคายไปมากกว่านี้ได้อีกไหม? บอกเขาไปว่าพวกเราจะไม่ขายมัน!” ดีแลนตบโต๊ะอย่างแรงแม้คอร์ดไม่สามารถหาเหตุผลทางการเพื่อหยุดตระกูลโมลเดลจากการช่วยเหลือตระกูลคลอฟอร์ดในการแกะรอยหาสหพันธ์ดวงอาทิตย์ เมื่อหกเดือนก่อน เขาจึงขอให้ลูกชายคนที่สามของเขา เจ็ตต์มาเข้าร่วมทีมของปาร์คเกอร์ ภายใต้ข้องอ้างที่ว่าเขาควรจะได้รับประสบการณ์มากกว่านี้แม้กระนั้นเมื่อการมาถึงของเจ็ตต์ เขาพยายามที่จะยึดเอาทุกอย่างที่เขาต้องการโดยการบีบบังคับ และดีแลนก็อดกลั้นอย่างมากกับเขามาโดยตลอดเวลานี้แต่นี่คือฟางเส้นสุดท้ายแล้ว“แต่นายท่านครับ คอร์ด โมลเดลจับจ้องตระกูลคลอฟอร์ดมานานแล้วในตอนนี้ ถ้าเจ็ตต์ไม่พอใจและพยายามที่ก่อเรื่องให้พวกเรา มันอาจจะจบลงด้วยความหายนะสำหรับเราก็ได้นะครับ!” พ่อบ้านตอบกลับอย่างหมดหนทางเข่นกัน“โอเค ก็ได้! ให้มันกับพวกเขาไป! เขาสามารถเอามันไปได้ถ้าเขาต้องการมัน!” ดีแลนโบกมือของเขาอย่างเหลืออดบางอย่างที่มีมูลค่
“พี่ชาย!” ทันทีทันใดนั้น เด็กสาวคนหนึ่งที่มัดผมหางม้าก็วิ่งออกมาจากครัในขณะที่ยังคงถือผักอยู่เธอเห็นชายหนุ่มคนนั้นเริ่มถูกลูกค้าของพวกเขากลั่นแกล้งเข่นนั้นเธอจึงหยุดสิ่งที่เธอกำลังทำเอาไว้ก่อน ก่อนจะรีบร้อนวิ่งมาช่วยพี่ชายของเธอ“ทำไมคุณถึงตีพี่ชายของฉันล่ะ?” เด็กสาวคนนั้นพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยสายตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยน้ำตา“ทำไมพวกเราตีเขางั้นเหรอ? ฮึ่ม! ดูนี่สิ! เขาทำเสื้อผ้าฉันสกปรก! ร้านอาหารของพวกเธอเป็นบ้าอะไรกัน? เธอจ้างพนักงานเสริฟ์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างเขาเช่นนี้ได้ไง? เขาแส่หาเรื่องเองในตอนนี้! ให้ตายเถอะ! บอกฉันมา ตอนนี้เธอจะทำยังไง? ถ้าเธอไม่ควักเงินมาจ่ายเป็นค่าชดเชยล่ะก็ เตรียมตัวเห็นร้านอาหารของเธอพังยับเยินได้เลย!” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างเย็นชา“อย่าทุบร้านนี้เลยครับ! ได้โปรด! ผมขอร้องคุณ!” เด็กหนุ่มคนนั้นร้องไห้ออกมา ขณะที่เขาหมอบคานอยู่แทบเท้าของพวกเขา“พี่ชาย อย่าทำแบบนั้น!” เด็กสาวคนนั้นกล่าวอย่างวิตกกังวลเด็กสาวคนนั้นดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ เองเธอเป็นเด็กสาวที่ขยันและมีเหตุมีผลนั่นจึงทำให้ทั้งหมดมันง่ายขึ้นที่จะรังแก