“…อะไรนะ? นายน้อย คุณคลอฟอร์ดวั้นเหรอ?” ตอนนี้ทุกคนสบสายตากันและกันด้วยความประหลาดใจ “ฉันไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าตระกูลคลอฟอร์ดมีนายน้อยด้วย!” “เธอลืมไปแล้วเหรอว่านายน้อยของตระกูลคลอฟอร์ดถูกเลี้ยงดูอยู่ท่ามกลางคนธรรมดาทั่นไป? นั่นจึงทำให้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ใครก็ตามจะได้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเขา! แม้แต่เฟนเดอร์สันก็ไม่รู้เกี่ยวกับเขามากนัก แม้หลังจากการสืบสวนไปมากมายในเรื่องนี้เมื่อตอนนั้น!” “เมื่อคิดว่านายน้อยของคลอฟอร์ดได้กลับไปยังตระกูลของเขาแล้วนั้น! ทำไมเขาถึงจะมาเพื่อมองหาเฟนเดอร์สันด้วยล่ะ? ช่างมีอำนาจและน่าประทับใจเสียจริง! มันคงไม่ไกลเกินจริงที่จะพูดว่าบางทีเขาก็เทียบเคียงได้กับดีแลนในสมัยนั้นนะ!” ขณะที่ผู้คนในกลุ่มคนยังคงพูดคุยในหมู่กันเองต่อไป แจสมินเองก็กำลังหายใจลำบาก ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ในเวลานี้เธอกำลังเผชิญกับอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ในทุกรูปแบบ หลังจากการมาถึงของคุณคลอฟอร์ดได้ประกาศออกมา ก็ไม่มีตระกูลในเครือคนไหนที่กล้าจะก่อเรื่องต่อไป และก็เช่นเดียวกับตัวของตระกูลหลง “ยาเอล…ภูมิหลังของคุณคลอฟอร์ดแห่งนอร์เบย์นั้นเป็นยังไงเหรอ?” ซาเวียถาม ฟังดูค่อนข้า
“ใช่ ต้องเป็นเขาแน่!” ขณะที่ฝูงชนกลืนน้ำลายกันอึกใหญ่ โดยไม่กล้าพูดกันเสียงดังด้วยซ้ำ คนกลุ่มใหม่ก็เดินมาข้างหน้าจนกระทั่งพวกเขามาอยู่ตรงหน้าไบรสัน แต่ละคนในกลุ่มนั้นมีออร่าที่แข็งแกร่งพอ ๆ กัน “นั่นนายเหรอ ฟินน์?” ไบรสันถาม ขณะที่เขายิ้มให้ชายชราคนนั้น “ครับ ท่านเฟนเดอร์สัน มันก็นานแล้วนะครับตั้งแต่ที่พวกเราพบกันครั้งสุดท้าย! ผมเชื่อว่าคุณก็สบายดีตั้งแต่นั้นมา!” ฟินน์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ฉันสบายดี แต่หลายปีที่ผ่านมานี้…ก็ผ่านไปง่าย ๆ แบบนั้น! เมื่อคิดว่าเด็กหนุ่มที่เคยตัวติดแดริลไปทั่วตอนนี้ก็เป็นชายแก่ซะแล้ว…ถ้ามันไม่ใช่เพราะสายตาอันเฉียบแหลมที่ไม่เคยเปลี่ยนไปของนายล่ะก็ ฉันก็คงจะไม่สามารถจำนายได้เลย! มันนานมากมากเกินไปจริง ๆ” ไบรสันกล่าว น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความเศร้า ขณะที่เขารำลึกถึงอดีต ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปวันวาน ไบรสันและแดริลสนิทกันมากจนพวกเขายังถือกันและกันว่าเป็นพี่น้องกันด้วยซ้ำ ชายชราคนนั้นที่ตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้าเขามีชื่อว่าฟินน์ และเขาเคยเป็นลูกน้องของแดริล อย่างไรก็ตาม เวลาก็ไม่เคยรอใครและสิ่งต่าง ๆ ก็แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงในตอนนี้ “นานแล้ว
ฟินน์เองก็เริ่มกวาดมองผ่านฝูงชนในขณะนั้น ตามสิ่งที่คุณซาไทร์พูดมา คุณคลอฟอร์ดได้มาถึงที่นี่แล้วแน่นอน ในตอนนั้นเอง ทุกคนก็แลกเปลี่ยนสายตากัน “บ้าไปแล้ว! ฉันไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าคุณคลอฟอร์ดจะมาที่นี่! ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยล่ะ?” มินดี้กล่าวด้วยโทนเสียงที่ประหลาดใจ มันไม่น่าประหลาดใจที่ทำไมเธอถึงอยากจะเห็นคุณคลอฟอร์ดด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเธอและแจสมินถึงไม่สามารถออกจากบ้านของพวกเธอได้เมื่อพวกเธอยังเป็นเด็กกัน แม้แต่เหล่าคนดังที่ยังคงจับเจอรัลด์ไว้ก็กำลังมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ในขณะที่พวกเธอค่อนข้างมั่นใจว่าจริง ๆ แล้วการได้ทำความรู้จักกับใครบางคนที่มีสถานะสูงเช่นนี้อย่างคุณคลอฟอร์ดนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่โอกาสที่จะได้เห็นว่าแท้จริงแล้วทายาทร่ำรวยที่มีเกียรติอย่างเขานั้นจะดูเป็นยังไงก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดรองลงมา การที่ได้ทำแบบนั้นก็คงจะทำให้การเดินทางทั้งหมดนี้รู้สึกคุ้มค่าขึ้นมาแล้ว เมื่อเฝ้ามองฉากที่เปิดเผยต่อหน้าเขา เจอรัลด์จึงทำได้เพียงส่ายหัวของเขาด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ บนใบหน้าของเขาเท่านั้น เนื่องสิ่งต่าง ๆ กลับกลายมาเป็นแบบนี้แล้ว มั
เสียงตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันดังมาจากผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังฟินน์ จากนั้นเจอรัลด์จึงพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นมา “ผมไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าคุณจะมาที่นี่ ลุงฟินน์…” “นายท่านเพียงเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณ เนื่องจากเขากลัวว่าคุณจะไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ตามลำพัง เขาจึงส่งผมมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณครับ!” ฟินน์ตอบกลับ “อ่า! ฉันแค่มาที่นี่เพราะฉันคิดถึงนายจริง ๆ น้องชาย!” โยเอลกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะนี้ปากของทุกคนถึงกับห้อยค้างกว้าง โดยเฉพาะเหล่าคนดังจากก่อนหน้านี้ “ป เป็นไปไม่ได้…นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!” ซาเวียพึมพำ ขณะที่เธอยังคงส่ายหัวของเธอด้วยความช็อกต่อไป เมื่อคิดว่าระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ฟื้นจากความตกใจของเธอในการได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเจอรัลด์ว่าคือคุณคลอฟอร์ดแห่งเมยเบอร์รี่…การเข้าร่วมตระกูลหลงของเธอทำให้ความเศร้าและความรู้สึกบอบช้ำเริ่มแรกของเธอค่อย ๆ จางหายไป เนื่องจากเธอรู้ว่าอย่างน้อยเธอก็เทียบเท่ากับเจอรัลด์ได้ในเวลานั้น เมื่อรู้แบบนั้นจึงทำให้เธอมีสภาพจิตใจที่มั่นคงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่เธอตระหนักได้ว่าจริง ๆ แล้วเขาคือ คุณคลอฟอร์ด จากนอร
“ทำไม่เราไม่คืนดีกันตอนนี้ล่ะ เจอรัลด์? ฉันยังเต็มใจที่จะเป็นภรรยาลับของนายด้วยซ้ำ!” “ว่าไงนะ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาจ้องซาเวียด้วยความไม่เชื่อ “…อ เอิ่ม…ฉัน…พูดอะไรไปเนี่ย…” เนื่องจากเธอวิตกกังวลมาแค่ไหน ด้วยความตื่นตกใจของเธอ เธอจึงพูดโพล่งสิ่งที่เธอรู้สึกอย่างแท้จริงออกมาโดยไม่ตั้งใจ ตอนนี้มันจึงเกินกว่าน่าอึดอัดและน่ากระอักกระอ่วนสำหรับเธอ “ค แค่เรื่องไร้สาระน่ะ…บ บอกมาสิเจอรัลด์ พวกเรายังคงเป็นเพื่อนกันได้ ใช่ไหม?” “…ถ้าไม่มีอะไรอื่นแล้ว ฉันจะขอตัวก่อนล่ะ” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาหันหลังกลับเพื่อจากไปตลอดกาล ด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขา ความสัมพันธ์ของเขากับซาเวียไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเรื่องในอดีต เพราะเขาไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ให้เธออีกต่อไปแล้ว เขารู้ว่ามันจะดีที่สุดสำหรับเขาที่จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับซาเวียอีกต่อไป ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในรถของเขา เขาได้รับสายโทรเข้า เป็นสายจากมีล่า แม้มีล่าไม่ได้ติดต่อเขามาเกือบจะครึ่งเดือนแล้วตอนนี้ แต่เจอรัลด์ก็ส่งข้อความให้เธอเป็นครั้งคราว “ว่าไง มีล่า?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขายิ้ม “นาย…ทำเรื่องที่นายกำลังทำอยู
“ขอบคุณนะ นาริซซ่า! เธอสามารถมอบพวกมันมาให้ฉันได้!” มีล่าตอบกลับ ขณะที่เธอรับพัสดุมาจากเธอ “และขอบคุณที่ให้โอกาสฉันได้ออกรายการโทรทัศน์! ขอบคุณมาก!” “ไม่เป็นไร พวกเราทุกคนก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าพวกเราควรแกะพัสดุตอนนี้และดูว่าพวกเราได้อะไรมา!” มีล่าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เนื่องจากนาริซซ่าต้องการจะสนิทกับมีล่าอีกครั้ง เธอจึงอยู่ดูพวกเธอแกพัสดุของพวกเธอกัน รวมถึงเธอด้วย ตอนนี้ก็มีสี่คนอยู่ในหอพักของพวกเธอ “…ฮะ? มีพัสดุสำหรับพวกเราแต่ละคน! เป็นไปได้ไหมว่าแฟนของพวกเราทั้งสามคนจะส่งของขวัญมาให้พวกเราในเวลาเดียวกันนี้? ฮ่าฮ่าฮ่า! แม้นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ตาม!” มอลลี่พูดเล่น “การเดาของฉันก็คือ พวกมันมาจากทีมการเดินทางต่างประเทศ ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราทั้งสามคนก็เป็นคณะผู้ติดตามสำหรับทีมการเดินทางนี้นะ!” “ใช่ มันอาจจะมาจากพวกเขา!” จากนั้นพวกเธอทั้งสามคนจึงเริ่มแกะพัสดุของแต่ละคนกัน… “…ฮะ? จี้…งั้นเหรอ? มันดูแปลกเล็กน้อยนะ เธอไม่คิดงั้นเหรอ?” มอลลี่กล่าว ขณะที่เธอถือจี้นั้นไว้ในมือของเธอ สัญลักษณ์คล้ายกับดวงอาทิตย์ถูกสลักลงบนนั้น และจากมุมหนึ่ง มันดู
“ใช่! ฉันไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าจะบังเอิญเจอเธออีกครั้ง!” เจอรัลด์ตอบกลับพร้อมกับพยักหน้า ผู้หญิงที่ว่าก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอลิซ เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะไม่ได้เห็นเธออีกหลังจากเหตุการณ์ในคฤหาสน์ตระกูลเฟนเดอร์สัน เมื่อคิดว่าเขาจะบังเอิญพบเธอเร็วขนาดนี้อีกครั้งแล้ว! เจอรัลด์ยังคงจำสิ่งที่อลิซพูดกับเขาในคืนนั้นได้ และพูดตามตรงเขาก็ยังรู้สึกแย่กับมันอยู่ ถ้าเธอไม่ได้พบเขาล่ะก็ เธอก็คงจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้มากในตอนนี้ ราวกับว่าความทุกข์ของเธอยังไม่เพียงพออยู่แล้ว เธอจะถูกผู้ชายคนนั้นทุบตีอย่างรุนแรงมากกว่านี้แน่นอน ถ้าเขาก้าวมาช้ากว่านี้! เมื่อเห็นสภาพที่เธอเป็นอยู่เจอรัลด์จึงรู้สึกเศร้าใจอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้มีความขุ่นเคืองใด ๆ ต่อเธออีกต่อไปแล้ว “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม “ฉัน…ฉันไม่เป็นไร! ตอนนี้ฉันก็เป็นแค่คนไม่เอาไหน… เจอรัลด์นายอยากจะทุบตีฉันด้วยเหมือนกันหรือเปล่า? ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงไร้ประโยชน์คนหนึ่งที่รักเงิน และเต็มใจที่จะทำอะไรก็ตามเพื่อมัน! ฉันมันเกินกว่าไร้ยางอาย! แค่ปล่อยให้ฉันเป็นแบบนี้เถอะ!” อลิซตอบกลับระหว่างร้อง
เธอกุมท้องของเธอ ขณะที่เธอเช็ดน้ำตา อลิซหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและเริ่มส่งข้อความออกไป ไม่นานหลังจากนั้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องเธอดังขึ้น เมื่อเปิดดูคนที่ยืนอยู่ข้างนอกกลับกลายเป็นผู้ชายคนเดียวกันที่ทุบตีอลิซก่อนหน้านี้! “เสร็จแล้วใช่ไหม คุณ? ในที่นี้ผมคิดว่านายน้อยหนุ่มคนนั้นก็น่าจะช่วยชีวิตและจากไปกับคุณแล้วเสียอีกในตอนนี้!” ผู้ชายคนนั้นกล่าว พร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “นี่เงิน ตอนนี้ก็ไปให้พ้นได้แล้ว! อีกอย่าง แม้ฉันบอกให้นายแสดงละครตบตาให้ดี ๆ แต่นายไม่คิดว่านายหยาบคายมากเกินไปหน่อยเหรอ?” อลิซตอบกลับอย่างฉุนเฉียว “เฮ้ ทั้งหมดเป็นเพราะทักษะการแสดงที่เอาจริงเอาจริงของผม จนนายน้อยคนนั้นลงเอยด้วยการเชื่อมันไง! ฮ่าฮ่า! ผมเห็นได้ว่าเขาหมดสติไปแล้ว…เนื่องจากคุณจะว่างตลอดคืนที่เหลือนี้ ทำไมพวกเราไม่…” “ไสหัวไปซะ!” อลิซตะเบ็งเสียงใส่ ขณะที่เธอจ้องผู้ชายคนนั้นอย่างดูถูกก่อนจะกระแทกปิดประตู เป็นเรื่องจริงที่ก่อนหน้านี้อลิซจัดฉากใส่เจอรัลด์ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม วิธีเดียวที่เธอจะสามารถได้รับความไว้วางใจและความเห็นใจของเขาได้ก็คือ ‘การถูกทำร้าย’ ต่อหน้าเขา แม้มันจะเป็นการเสี่ยงโช