วันต่อมาก็มาถึงมันเป็นวันของการนัดบอด ซึ่งจัดเจรียมโดยคุณลุงวินเทอร์แม้ว่าเจอรัลด์ไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรกับผลที่ออกมา เขาก็ยังคงใช้ความพยายามในการเตรียมตัวบางอย่างเพราะเขาได้ให้คำมั่นสัญญากับคุณลุงวินเทอร์ไว้ เขาจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่โดมิโน่แต่เช้าตรู่แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งและดื่มโค้กอยู่คนเดียว มีปีกไก่และเฟรนซ์ฟรายส์อยู่บนโต๊ะ ในขณะนั้น เธอกำลังนั่งแกว่งเท้าและดูเหมือนว่าเธอกำลังรอใครบางคนอยู่‘อาจเป็นเธอหรือเปล่า?’เจอรัลด์คิดกับตัวเองจากนั้นหญิงสาวคนนั้นก็วางของทอดลง เธอกำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ ในขณะที่พิมพ์ในโทรศัพท์และขณะนั้นเอง เจอรัลด์ก็ได้รับข้อเสนอเหมือนกัน เป็นข้อความจากมิเชล“นายอยู่ที่นี่หรือยัง?” อีกครั้ง เจอรัลด์คิดกับตัวเอง: ‘อย่างที่คาดไว้ เป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ในความประทับใจแรก เธอก็ค่อนข้างน่ารักดีดังนั้นเจอรัลด์จึงมุ่งไปข้างหน้า และเลื่อนเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเธอ“นาย…กำลังทำอะไร?” หญิงสาวคนนั้นตกใจอย่างเห็นได้ชัดเธอมองไปที่เจอรัลด์ด้วยความงุนงง“เธอมาที่นี่เพื่อนัดบอดใช่ไหม?” เจอรัลด์ถามเธอ“นัดบอดอะไร?
เจอรัลด์ตระหนักขึ้นมาได้ หลักจากนั้นครู่หนึ่งว่าจุดประสงค์ของเธอในการมาพบกันนั้นไม่ใช่เพื่อการนัดบอดนอกจากนี้ เจอรัลด์เองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเข้าร่วมการนัดบอดนี้เหมือนกันดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแหย่เธอเล่น เมื่อคิดว่าเขาอาจจะสามารถทำให้มันจบ ๆ ไปซะแค่นั้น“นายกำลังเสแสร้งทำเป็นอะไรอยู่ที่นี่กัน? ถ้านายมีบ้านที่นั่นจริง ๆ ทำไมนายไม่ไปอยู่ที่นั่นล่ะ?” ซาบริน่าพูดเยาะเย้ย“ฉันเป็นเจ้าของบ้านที่นั่นจริง ๆ ก็แค่ว่าฉันไม่มีเวลาพอที่จะไปอยู่ นอกจากนี้ มันก็อยู่บนยอดภูเขา ฉันยังไม่ชินกับมันถ้าฉันจะอยู่ที่นั่นคนเดียว นั่นคือสถานที่สำหรับภรรยาในอนาคตของฉันกับฉัน!”เจอรัลด์ยิ้มและตอบกลับ“โอ้ ให้ตาย! มันอยู่บนยอดภูเขา นายรักษาป่าไม้ให้ใครอยู่หรือเปล่าเนี่ย? พวกเขาซื้อบ้านหลังเล็กให้นายที่นั่นใช่ไหม?” ซาบริน่าหัวเราะเย้ยหยันเบา ๆ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก“งั้นนายเป็นเจ้าของรถไหม? ให้ฉันบอกนายนะถ้าฉันไปทำงานที่เมย์เบอร์รี่ ฉันจะไม่นั่งรถไหน ๆ ที่มีราคาน้อยกว่า 45,000 ดอลลาร์แน่” เธอกล่าวต่อไปอย่างหยิ่งผยอง“ฉันมีรถคันหนึ่งเหมือนกัน แต่ฉันจอดมันไว้ที่เชิงเขา”“ตรงเชิงเขา นั่นคือรถป
“มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่พวกเราตัดสินใจมาที่นี่เพื่อทานอาหารเหมือนกัน บรี นี่ใครกันเหรอ?”ทันทีทันใดนั้น หนึ่งในพวกเขาก็มองไปที่เจอรัลด์และถามขึ้นมา“โอ้! เขาเป็นเพื่อนของฉัน ไม่ต้องกังวล ถ้าเธอยุ่งอยู่ ก็เชิญเลยไปทานอาหารของเธอก่อนสิ!” เมื่อได้ยินว่าพวกเขาเรียกเธอด้วยชื่อจริงของเธอ เธอจึงเริ่มประหม่าขึ้นมามากเกินไปพวกเขาไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นจากมัธยมต้นของเธอ นอกจากนั้น พวกเขาก็กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันในปัจจุบันนี้อีกด้วย มันเกินกว่าความคาดหมายที่เธอจะบังเอิญได้พบกับพวกเขาในวันนี้ เพราะเธอก็ค่อนข้างกลัวว่าสถานการณ์แบบนั้นอาจจะเกิดขึ้น“ไม่เอาน่า อย่าเป็นแบบนี้เลย บรีรีบแนะนำเขาให้พวกเราสิ นี่คือเพื่อนแบบไหนกัน? นอกจากนี้ เขาก็สั่งอาหารอร่อย ๆ มากมายขนาดนี้ให้เธอ พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร!”พวกเขาร้องขอกันอย่างตื่นเต้น“บรีเหรอ? เธอชื่อมิเชลไม่ใช่หรือไง?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนงุนงง“มิเชลเหรอ? นั่นคือพี่สาวของบรี เอ๋? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? เดี๋ยวนะ นายไม่รู้จักซาบริน่าเหรอ? ถ้าอย่างนั้นนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” พวกเขาถาม ดูประหลาด
ขณะที่พวกเขากำลังเยาะเย้ยเจอรัลด์กันอยู่ ทันใดนั้นพวกเขาก็หยุดพูดกัน จากนั้นพวกเขาก็มองออกไปด้านนอกด้วยความตกใจรอมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าสองคันจอดอยู่ที่ร้านอาหาร มีผู้ชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนที่ลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาทานอาหารในร้านโดมิโน่เหมือนกัน“บ้าจริง! ซาบริน่า ดูสิ! นั่นคือยัยตัวแสบ ลิลี่!”“แม่ง! เมื่อพวกเราเรียนในโรงเรียนมัธยมต้น ยัยนั่นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเธอหนิ และช่างน่าบังเอิญอะไรอย่างงั้นที่เธอทั้งคู่ยังได้เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันหลังจากนั้นอีกด้วย เธอยังทุบตียัยนั่นเมื่อสักพักมานี้อีกด้วยซ้ำ เธอจะทำยังไงถ้ายัยนั่นมาเห็นเธอในภายหลังล่ะ?”“โอ้ ให้ตาย ไอ้คนสูง ๆ นั่นคือแฟนของเธอ และเขาเป็นนักเลง เขาค่อนข้างมีอิทธิพลแถว ๆ นี้นะ บรี เร็วเข้าไปซ่อนตัวจากเธอซะ!”สภาพหยิ่งยโสของพวกเขาเปลี่ยนเป็นกระวนกระวายใจขึ้นมาทันทีซาบริน่าพูดเยาะเย้ย “ทำไมฉันต้องไปซ่อนจากเธอด้วยล่ะ? ฉันไม่ต้องกลัวเธอ ฉันไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำอะไรฉันนะ!” ในขณะนั้น ซาบริน่าไม่มีเวลาที่จะสนใจเกี่ยวกับเจอรัลด์อีกต่อไป เธอเอามือกอดอกไว้ อย่างเย่อหยิ่ง และถลึงตามองไปที่ลิลี่ ที่เพิ่งจ
“พี่ชายของฉันคือเยล ล็อควูด และเขาเคยเรียน ม.1 มาก่อน มีอะไรล่ะ? นายกลัวใช่ไหม? ฮ่า ถ้านายกลัว ก็เร็วเข้าและไสหัวไปให้พ้น ไม่อย่างงั้นละก็พวกแกทุกคนซวยแน่เมื่อเขากลับมา!”แฟลงคลินยืดคอของเขาและตอบกลับ น้ำเสียงของเขาดังก้องอย่างมีอำนาจเหนือ“อืม ไปตายซะ!”สายตาของเจอรัลด์กลายเป็นแดงก่ำ จากนั้นเขาก็ยกเท้าของเขาขึ้นมา และถีบอย่างแรงตรงช่องท้องของแฟลงคลิน เขาล้มลงบนพื้นทันทีกับการโจมตีนั้น ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดแม้เจอรัลด์อาจจะดูเหมือนอ่อนแอในภาพนอก แต่จริง ๆ แล้วเขาก็ค่อนข้างแข็งแรง เมื่อก่อนเขาเคยเป็นนักต่อสู้ที่ค่อนข้างเก่ง ตอนที่เขาต่อสู้กับคนอื่น ๆ ด้วยกันกับเซโน่เซโน่ชอบมีเรื่องมากกว่าเขา และเจอรัลด์ก็เพียงต่อสู้แค่ครั้งเดียวเพื่อเห็นแก่เซโน่โดยทั่วไปแล้ว ทั้งแขนและขาของเขาก็ค่อนข้างแข็งแรงจริง ๆ เมื่อเขาได้ยินว่าพี่ชายของแฟลงคลินคือเยล เขาก็กลายเป็นเดือดดาลขึ้นมาทันทีนอกจากนี้ เจอรัลด์ก็ไม่กลัวอะไรแล้วตอนนี้จากนั้นเขาก็หยิบเครื่องมือขึ้นมา จู่โจมไปที่อีกสองคน และทุบตีพวกเขาทั้งสามคนผอมกันมาก และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะถูกเจอรัลด์ทุบตีจนเละซาบริน่าถึงก
“วันนี้ฉันเข้าใจนายไปจริง ๆ ฉันตรวจสอบนายก่อนที่จะมาที่นี่ในวันนี้ ดูเหมือนว่านายจะถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอตอนที่นายอยู่มัธยมต้น นอกจากนั้น เมื่อฉันพบนายครั้งแรก ฉันรู้สึกราวกับว่านายเป็นคนประเภทที่จริงใจแต่แค่โง่เขลาและโดนหลอกง่าย รู้ไหม?”“แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันเลย ระดับความแข็งแกร่งของนายเมื่อนายถูกกระตุ้นน่ะ พวกเขาสามคนไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้โต้กลับเลยด้วยซ้ำ นายไม่แม้แต่จะรู้ว่านายดุร้ายมากแค่ไหนด้วยซ้ำเมื่อครู่นี้ นายแมนมากเลย!”ซาบริน่าใช้ขาของเธอสะกิดเจอรัลด์อย่างระมัดระวังมันเป็นเรื่องจริง ซาบริน่าเห็นเจอรัลด์ในมุมที่แตกต่างไปในตอนนั้น เธอยังรู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อยเหมือนกันอีกด้วยซ้ำโดยทั่วไปแล้ว สาว ๆ ชอบผู้ชายแข็งแรงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเหล่านั้นที่แสดงให้เห็นว่าปกป้องผู้หญิงของพวกเขาได้เจอรัลด์มีอารมณ์แบบนั้นอย่างแท้จริง“ไม่หรอก เธอไม่รู้อะไร ปกติฉันไม่ได้เป็นแบบนี้” เจอรัลด์กล่าว และส่วยหัว“ฉันรู้น่า ฉันก็เห็นเป็นงั้นเหมือนกัน!”ซาบริน่าเม้มริมฝีปากของเธอเล็กน้อย“พอได้แล้ว ถ้าเธอโอเค เธอก็สามารถกลับบ้านเองได้ ฉันยังคงต้องกลับไปที่นั่นอยู่”เจอรัลด์หันหลังก
“มีอะไรเหรอ?” เจอรัลด์ถามเธอ รู้สึกอึ้งไปควีนนี่พูด “พรุ่งนี้นายว่างไหม?”“ทำไมล่ะ? ฉันอาจจะต้องไปซื้อวัตถุดิบบางอย่างพรุ่งนี้”วันมะรืนนี้เป็นวันเกิดของเขา คุณป้าวินเทอร์จะเป็นคนทำอาหาร เช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยให้เธอไปที่นั่นด้วยตัวเองและใช้เงินของเธอซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ เองได้ เขาจึงอยากจะทำให้มั่นใจได้ว่าเขาซื้อเครื่องปรุงต่าง ๆ ด้วยตัวเองควีนนี่ยิ้มเยาะ“นายทานอาหารที่คุณปู่และคุณย่าของฉันทานมาสองสามวันที่ผ่านมานี้ ทำไมจู่ ๆ ถึงจะไปซื้อวัตถุดิบขึ้นมาบ้างล่ะ? เออจริงสิ วันเกิดของนายคือวันมะรืนนี้ ใช่ไหม? เช่นนั้นยังไงซะ การซื้อวัตถุดิบก็ไม่ควรเป็นเรื่องยุ่งยากอะไรขนาดนั้น ตอนนี้ ฉันมีเรื่องดี ๆ บางอย่างรอนายอยู่ แค่วางเรื่องอื่นทั้งหมดนี้ไว้ก่อนเถอะ” “ว้าว จริง ๆ แล้วเธอมีเรื่องดี ๆ รอฉันอยู่ด้วยเหรอ?” เจอรัลด์หัวเราะเบา ๆ อย่างขมขื่นและเหน็บแนมแม้ว่าเขาเติบโตมากับควีนนี่ แต่เธอก็มักจะไม่เป็นมิตรกับเจอรัลด์อยู่เสมอตั้งแต่ที่พวกเขาเป็นเด็ก แม้จนกระทั่งตอนนี้ที่พวกเขาโตกันแล้ว พี่น้องของเธอก็ยังกลั่นแกล้งเขาอยู่เสมอเจอรัลด์ไม่พอใจพวกเขาอย่างมากเมื่อเขายังเป็นเด็ก แต่เมื่อเ
ดังนั้น เขาจึงลดกระจกรถลงเพราะเขาอยากจะรับอากาศบริสุทธิ์บ้างด้วยความประหลาดใจ กระจกรถถูกม้วนขึ้นอีกครั้งทันทีที่เขาม้วนมันลงจากนั้นเขาก็หันไปมองมันและตระหนักได้ว่าเป็นควีนนี่ที่กดม้วนกระจกขึ้น‘แม่งเอ้ย! ย้ยบ้านั่น!’เจอรัลด์สบถด่าเบา ๆ เขาพยายามลดกระจกรถลงเล็กน้อย แต่ควีนนี่ก็ม้วนมันขึ้นไปอีกครั้งทันที“เธอกำลังทำอะไรอยู่?”เจอรัลด์ถามอย่างโมโห รู้สึกขับข้องใจ“ฮึ่ม! ฉันกำลังจะถามนาย ฉันลดกระจกรถด้านหน้าลงแล้ว ทำไมนายต้องเปิดพวกมันทั้งหมดด้วยล่ะ? ถ้าเกิดว่ามีฝุ่นเข้ามาในรถล่ะ? นายเคยนั่งในรถมาก่อนป่ะเนี่ย?”ควีนนี่พูดเยาะเย้ยกลับ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูกตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา“โอเคก็ได้ โยลันดา ฉันจะไปรับเธอเดี๋ยวนี้แหละ รอฉันละกัน ใช่ ฉันบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อคืนแล้วไม่ใช่หรือไง? ฉันมีใครบางคนมากับฉันด้วย ภายหลัง พวกเราจะให้เขาช่วยเหลือพวกเราถือกระเป๋าของพวกเราเมื่อพวกเราปีนเขากันในภายหลัง เธอสามารถมุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดของเธอไปที่การพยายามให้ได้ความรักจากจาวิสก็พอ เธอลืมเพื่อนของเธอไปโดยสิ้นเชิงเมื่อเป็นเรื่องของคนที่เธอชอบ!”“แน่นอน! พวก