“พ่อหนุ่ม บ้านของคุณอยู่ในเมืองนี้เหรอเปล่า?”คนขับเป็นชายวัยกลางคน เขาถามอย่างอบอุ่นและยิ้มออกมาเจอรัลด์พยักหน้า“ยินดีด้วย ไอ้หนูเมืองของคุณกำลังจะได้รับการพัฒนาที่ค่อนข้างสำคัญ และจะไม่มีที่ดินผืนนี้เหลือทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล! พวกเขาไม่เพียงแต่ให้ค่าที่อยู่อาศัย แต่ยังรวมถึงค่าธรรมเนียมการรื้อถอน และโอกาสในการทำงานอีกมากมายด้วย! คุณดูเหมือนนักศึกษาวิทยาลัย ดังนั้นเมื่อคุณกลับบ้าน คุณควรใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์!”“ใช่ มันจะดีมากครับ!”ขณะที่พวกเขาคุยกันระหว่างทาง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงบ้านเกิดของเจอรัลด์แต่บ้านของเจอรัลด์อยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ใจกลางเมือง เป็นหมู่บ้านในเมืองมีหลายครอบครัวในหมู่บ้านที่ทำโรงสี พวกเขาทำธุรกิจต่าง ๆ เช่น การโม่แป้ง และอื่นๆย้อนกลับไป ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับหมู่บ้านคือ กลิ่นหอมอันน่าอัศจรรย์ของแป้งที่เพิ่งบดในอากาศแต่การเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่ากลิ่นหอมของแป้งที่เจอรัลด์พลาดไปนั้น ตอนนี้ลดฮวบลงมาก"โอ้ว นักศึกษาวิทยาลัยกลับมาแล้ว!"“ทำไมไม่พาแฟนกลับมาด้วย”“เจอรัลด์ คุณหางานทำหรือยัง? ฉันแน่ใจว่านักศึกษามหาวิทยาลัยที
“หมายความว่าอย่างไรคุณพ่อ? คุณหมายถึงอะไรที่มันเป็นของพวกเขา? ฉันเตือนพ่อแล้ว ฉันได้ปรึกษากับทนายความแล้ว และหากเรานำเรื่องนี้ขึ้นศาล สัญญาที่พ่อลงนามจะไม่ถูกนับรวม! ใบรับรองอสังหาริมทรัพย์เป็นของเราอยู่แล้ว!” แซนดริลล่าพูดอย่างบ้าคลั่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะทะเลาะกันเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้วเจอรัลด์คิดกับตัวเองก่อนหน้านี้ เขาโทรหาคุณลุงวินเทอร์ เขารู้สึกว่าคุณลุงวินเทอร์อารมณ์ไม่ดีปรากฏว่าพวกเขาทะเลาะกันแม้ว่าบ้านจัดสรรจะเป็นของคลอฟอร์ด ทำไมเจอรัลด์ต้องต่อสู้กับพวกเขาเพื่อมัน?“นอกจากนี้ เจอรัลด์ไม่ได้ถูกล็อตเตอรี่เหรอ? ทำไมเขาถึงยังสนใจบ้านหลังนี้อยู่เล่า! และฉันไม่รู้ว่าฉันทำกุญแจบ้านหายที่ไหน!” แซนดริลลาพูดต่อ“ฮึ่ม!” คุณลุงวินเทอร์คำรามขณะหยิบก้อนหินก้อนใหญ่ขึ้นจากพื้น“ขอโทษนะ พ่อคิดว่า พ่อกำลังทำอะไรอยู่?” แซนดริลลาถาม ขณะที่เธอก้าวถอยหลังด้วยความกระวนกระวายใจจากนั้นคุณลุงวินเทอร์ก็บุกไปที่ประตู และทุบล็อกด้วยก้อนหิน และเขาก็ดึงล็อกใหม่ออกจากกระเป๋าของเขา“เจอรัลด์ ล็อกอันนี้ พวกเขาทั้งสามไม่กล้าที่จะผลัดกันเปลี่ยนที่ล็อกบ้านของเธอ วุ่นวายแค่นี้พอ เข้าไปข้างในและทำค
พวกเขาจ้องมองที่เจอรัลด์อย่างเอาเป็นเอาตายเจอรัลด์เคยทำให้พวกเขาอับอายโดยไม่ได้ตั้งใจที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้จากเหตุการณ์นั้น คำพูดใด ๆ ที่ออกจากปากของเขาในขณะนั้นดูเหมือนจะทำให้โกรธเคือง“เอาล่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว นานแล้วที่เจอรัลด์ไม่ได้กลับมา เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ”พี่ชายคนโตชี้นิ้วให้ทุกคนไปที่โต๊ะอาหาร หลังจากได้ยินสิ่งที่เจอรัลด์พูดเมื่อพี่ชายคนโตยืนกราน ครอบครัวจึงได้ไปนั่งที่โต๊ะอาหารค่ำเกี่ยวกับเรื่องบ้านและเห็นสีหน้าโกรธของพ่อ เขากลัวว่าพ่อจะป่วยอีกครั้งจากความโมโห และความตึงเครียดดังนั้นในขณะนี้จึงไม่มีใครแตะต้องหัวข้อนี้“เจอรัลด์ นายฝึกงานเสร็จแล้วเหรอ? ได้งานแล้วเหรอ?” พี่ชายสามถาม“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่หางานทำนะ ปัจจุบันหางานยาก และถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายสามของเราทำงานบางอย่าง แม้แต่ฟรานซิสก็คงไม่หางานทำ แต่ดูเขาตอนนี้สิ เขาทำงานในสำนักงานของบริษัทประกัน ไม่ดีเหรอ?” พี่สะใภ้สามโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ“งานของควีนนี่ดีกว่า! แม้ว่างานของเธอจะค่อนข้างลำบาก แต่ก็มีศักยภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับการพัฒนาในอนาคต! ฟรานซิสยังเด็กสำหรับอายุของเขา ได้อยู่สบายแบบนี้ไม่
“หืม? มันคืออะไร ลุงวินเทอร์?”ลุงวินเทอร์ดึงแขนเสื้อของเจอรัลด์แล้วนั่งลง“แน่นอน มันเป็นเรื่องที่ดี! ตอนที่เธอโทรมาก่อนหน้านี้ ฉันบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะบอกเธอต่อหน้า มันโง่ที่สุดที่จะพูดเรื่องนี้กับลูกชายของฉัน”“โอ้ พูดมาเถอะครับ ลุงวินเทอร์!”“ฉันเคยทำงานในเหมืองและเป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนี้ หลังจากหลายปีที่ย้ายไปรอบ ๆ เมื่อฉันไปที่เมืองเมื่อนานมาแล้ว ฉันบังเอิญไปเจอกับเขา เราคุยกันสักพักนึง แบบว่าเพื่อจะตามเขาทัน เขาบอกฉันว่าหลานสาวเขาอายุใกล้เคียงกับเธอ และฟรานซิส!"!”“เธอเรียนจบเร็วกว่าหนึ่งปี และตอนนี้ครอบครัวของเธอดูกังวลที่จะหาแฟนให้เธอ ครอบครัวของเธอมีฐานะร่ำรวยและมั่งคั่ง ดังนั้นจึงไม่มีเกณฑ์ใดที่จำเป็น ฉันแค่คิดจะแนะนำเธอให้รู้จัก เพราะครอบครัวนี้มีลูกสาวสองคน และเธอเป็นคนโต!” คุณลุงวินเทอร์อธิบายอย่างตื่นเต้นเจอรัลด์เห็นสิ่งที่คุณลุงวินเทอร์คิดในใจ เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์มีปัญหาในการหางาน คุณลุงวินเทอร์จึงต้องการช่วยจับคู่เจอรัลด์เขาทำทั้งหมดนี้เพื่อเจอรัลด์ และความตั้งใจของเขาบริสุทธิ์และซื่อสัตย์มันเหมือนกับครั้งสุดท้ายกับเซโน่
จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็วางสายเจอรัลด์รู้สึกผิดเล็กน้อย เขารู้สึกผิดต่อมีล่าแต่หลังจากพิจารณาซ้ำแล้ว เขารู้ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องจริง พวกเขาแค่จะไปพบกันและกันชั่วครู่หนึ่ง และนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรในทางกลับกัน ภายในห้องมิเชลวางสายโทรศัพท์และเริ่มลบเครื่องสำอางของเธอน้องสาวของเธอ ซาบริน่าแอบฟังบทสนทนาของพวกเธอในขณะที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงจากนั้นเธอก็หัวเราะเบา ๆ ขึ้นมา “พี่สาว งั้นพี่จะไปพบกันพรุ่งนี้สินะ เออจริงสิ เขาชื่ออะไรเหรอ? พี่รู้จักเขาไหม?”“เขาชื่อเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เขาเรียนเคยเรียนอยู่มัธยมต้นมาก่อน อืมม…แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าชื่อของเขาคุ้นมากแปลก ๆ จัง? ดูเหมือนว่าฉันเคยได้ยินมันที่ไหนสักที่มาก่อนเลย” มิเชลกล่าวขณะที่เธอยังคงลบเครื่องสำอางต่อไปทั้งสองสาวพี่น้องค่อนข้างมีเสน่ห์ในตัวเองกันซาบริน่าพูดเสียดสีและหัวเราะขึ้นมา “แหม่ พี่จะโง่ได้กว่านี้อีกแค่ไหนเนี่ย? พี่สาว เขาอายุน้อยกว่าพี่ปีหนึ่ง และเขาเคยเรียนมัธยมต้นพี่ก็แค่ให้คนไปสอบถามเกี่ยวกับเขาจากรุ่นน้องของพี่ในโรงเรียนดูสิ จากนั้นพี่ก็จะรู้จักเขามากกว่านี้ ใช่ไหม?” “เธอพุดถูก งั้นฉันจะไปไล่ถามเกี่ยวกับเข
วันต่อมาก็มาถึงมันเป็นวันของการนัดบอด ซึ่งจัดเจรียมโดยคุณลุงวินเทอร์แม้ว่าเจอรัลด์ไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรกับผลที่ออกมา เขาก็ยังคงใช้ความพยายามในการเตรียมตัวบางอย่างเพราะเขาได้ให้คำมั่นสัญญากับคุณลุงวินเทอร์ไว้ เขาจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่โดมิโน่แต่เช้าตรู่แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งและดื่มโค้กอยู่คนเดียว มีปีกไก่และเฟรนซ์ฟรายส์อยู่บนโต๊ะ ในขณะนั้น เธอกำลังนั่งแกว่งเท้าและดูเหมือนว่าเธอกำลังรอใครบางคนอยู่‘อาจเป็นเธอหรือเปล่า?’เจอรัลด์คิดกับตัวเองจากนั้นหญิงสาวคนนั้นก็วางของทอดลง เธอกำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ ในขณะที่พิมพ์ในโทรศัพท์และขณะนั้นเอง เจอรัลด์ก็ได้รับข้อเสนอเหมือนกัน เป็นข้อความจากมิเชล“นายอยู่ที่นี่หรือยัง?” อีกครั้ง เจอรัลด์คิดกับตัวเอง: ‘อย่างที่คาดไว้ เป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ในความประทับใจแรก เธอก็ค่อนข้างน่ารักดีดังนั้นเจอรัลด์จึงมุ่งไปข้างหน้า และเลื่อนเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเธอ“นาย…กำลังทำอะไร?” หญิงสาวคนนั้นตกใจอย่างเห็นได้ชัดเธอมองไปที่เจอรัลด์ด้วยความงุนงง“เธอมาที่นี่เพื่อนัดบอดใช่ไหม?” เจอรัลด์ถามเธอ“นัดบอดอะไร?
เจอรัลด์ตระหนักขึ้นมาได้ หลักจากนั้นครู่หนึ่งว่าจุดประสงค์ของเธอในการมาพบกันนั้นไม่ใช่เพื่อการนัดบอดนอกจากนี้ เจอรัลด์เองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเข้าร่วมการนัดบอดนี้เหมือนกันดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแหย่เธอเล่น เมื่อคิดว่าเขาอาจจะสามารถทำให้มันจบ ๆ ไปซะแค่นั้น“นายกำลังเสแสร้งทำเป็นอะไรอยู่ที่นี่กัน? ถ้านายมีบ้านที่นั่นจริง ๆ ทำไมนายไม่ไปอยู่ที่นั่นล่ะ?” ซาบริน่าพูดเยาะเย้ย“ฉันเป็นเจ้าของบ้านที่นั่นจริง ๆ ก็แค่ว่าฉันไม่มีเวลาพอที่จะไปอยู่ นอกจากนี้ มันก็อยู่บนยอดภูเขา ฉันยังไม่ชินกับมันถ้าฉันจะอยู่ที่นั่นคนเดียว นั่นคือสถานที่สำหรับภรรยาในอนาคตของฉันกับฉัน!”เจอรัลด์ยิ้มและตอบกลับ“โอ้ ให้ตาย! มันอยู่บนยอดภูเขา นายรักษาป่าไม้ให้ใครอยู่หรือเปล่าเนี่ย? พวกเขาซื้อบ้านหลังเล็กให้นายที่นั่นใช่ไหม?” ซาบริน่าหัวเราะเย้ยหยันเบา ๆ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก“งั้นนายเป็นเจ้าของรถไหม? ให้ฉันบอกนายนะถ้าฉันไปทำงานที่เมย์เบอร์รี่ ฉันจะไม่นั่งรถไหน ๆ ที่มีราคาน้อยกว่า 45,000 ดอลลาร์แน่” เธอกล่าวต่อไปอย่างหยิ่งผยอง“ฉันมีรถคันหนึ่งเหมือนกัน แต่ฉันจอดมันไว้ที่เชิงเขา”“ตรงเชิงเขา นั่นคือรถป
“มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่พวกเราตัดสินใจมาที่นี่เพื่อทานอาหารเหมือนกัน บรี นี่ใครกันเหรอ?”ทันทีทันใดนั้น หนึ่งในพวกเขาก็มองไปที่เจอรัลด์และถามขึ้นมา“โอ้! เขาเป็นเพื่อนของฉัน ไม่ต้องกังวล ถ้าเธอยุ่งอยู่ ก็เชิญเลยไปทานอาหารของเธอก่อนสิ!” เมื่อได้ยินว่าพวกเขาเรียกเธอด้วยชื่อจริงของเธอ เธอจึงเริ่มประหม่าขึ้นมามากเกินไปพวกเขาไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นจากมัธยมต้นของเธอ นอกจากนั้น พวกเขาก็กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันในปัจจุบันนี้อีกด้วย มันเกินกว่าความคาดหมายที่เธอจะบังเอิญได้พบกับพวกเขาในวันนี้ เพราะเธอก็ค่อนข้างกลัวว่าสถานการณ์แบบนั้นอาจจะเกิดขึ้น“ไม่เอาน่า อย่าเป็นแบบนี้เลย บรีรีบแนะนำเขาให้พวกเราสิ นี่คือเพื่อนแบบไหนกัน? นอกจากนี้ เขาก็สั่งอาหารอร่อย ๆ มากมายขนาดนี้ให้เธอ พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร!”พวกเขาร้องขอกันอย่างตื่นเต้น“บรีเหรอ? เธอชื่อมิเชลไม่ใช่หรือไง?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนงุนงง“มิเชลเหรอ? นั่นคือพี่สาวของบรี เอ๋? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? เดี๋ยวนะ นายไม่รู้จักซาบริน่าเหรอ? ถ้าอย่างนั้นนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” พวกเขาถาม ดูประหลาด
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ